การเจรจาระหว่างเฟิ่งหยางกับเมิ่งหลิงเป็ผลสำเร็จ นับจากนี้ก็จะไม่มีคนมาก่อความวุ่นวายที่ร้านหัวใจสตรีอีกต่อไป
ขณะที่อาการาเ็ของโม่เสี่ยวเม่ยเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดี ร้านค้าก็มอบหมายให้ชิงอีกับลวี่สุ่ยช่วยกันดูแล ส่วนถังชิงหรูก็เป็เ้าของร้านแต่เพียงในนาม แต่ถึงจะเป็เช่นนั้น ทุกครั้งที่ถังชิงหรูอยู่ที่ร้าน เหล่าฮูหยินผู้สูงศักดิ์ได้ข่าวก็จะมาอุดหนุนอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง หนึ่งเพราะพวกนางอยากสอบถามเกี่ยวกับเทียบโอสถของหมอเทวดา สองถังชิงหรูรู้วิธีการเสริมความงามมากมาย พวกนางกลับไปทดลองปรากฏว่าได้ผลจริง นับั้แ่นั้นเป็ต้นมา พวกนางจึงไม่ได้แค่มาซื้อของ แต่มาเก็บเกี่ยวความรู้เหล่านี้
ถังชิงหรูเห็นมีคนมากมายมาสอบถามเกี่ยวกับการดูผิวหน้า นางจึงทำแผ่นมาส์กขึ้นมาขายพร้อมกันเสียเลย ร้านหัวใจสตรีเพิ่มสินค้าตัวใหม่เข้ามาเป็แผ่นบำรุงผิวหน้า น้ำหอม ผงชาด และเครื่องสำอางประทินผิว ไม่ว่าจะเป็สินค้าชนิดใดขอเพียงแค่ออกมาจากมือของถังชิงหรูก็จะขายหมดเกลี้ยงในชั่วพริบตา ถังชิงหรูจึงกลายเป็ต้นไม้เขย่าเงินของเฟิ่งหยางอย่างแท้จริง และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนอยู่ในสายตาของเมิ่งหลิง ความสนใจที่มีต่อนางก็เพิ่มเป็ทวีคูณ
"แม่นาง..."คนผู้หนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก ทักทายถังชิงหรูด้วยใบหน้าอาบรอยยิ้ม "ได้ยินว่าวันนี้แม่นางอยู่ที่ร้าน ข้าออกจากงานเลี้ยงก็ตรงดิ่งมาที่นี่อย่างเร่งด่วน แม้แต่อาภรณ์ยังมิได้ผลัดเปลี่ยนเลย โชคดีมาทันเวลา แม่นางยังไม่ไปเสียก่อน"
สตรีออกเรือนแล้วคนหนึ่งคำนับให้ถังชิงหรู
พอถังชิงหรูเห็นคนผู้นี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ล้ำลึกขึ้นหลายส่วน นางวางสมุดบัญชีในมือหันมากล่าวว่า "ที่แท้ก็จางฮูหยินนี่เอง"
"แม่นาง..." จางฮูหยินจูงมือถังชิงหรูมาที่มุมห้องด้วยท่าทางลึกลับ ก่อนกระซิบข้างหูว่า "ข้าลองเทียบยาที่ท่านบอก ได้ผลจริงๆ ด้วย ตอนนี้ข้าตั้งครรภ์แล้ว"
"จริงหรือ" ถังชิงหรูมองจางฮูหยินด้วยความรู้สึกยินดีกับอีกฝ่าย แต่มิได้แสดงท่าทีประหลาดใจหรือตื่นตระหนกแต่อย่างใด
จางฮูหยินเห็นท่าทีสงบเสงี่ยมของนาง ก็มั่นใจการคาดเดาของตนเองว่าสตรีผู้นี้จะต้องเป็คนสนิทของหมอเทวดาเป็แน่ ถึงได้ตำรับยามามากมายขนาดนั้น
จางฮูหยินท่านนี้คือนายหญิงใหญ่สกุลจางที่รับฉินเหยาเข้าจวนไป ปีนี้นางอายุสามสิบแปดแล้ว หากเป็หญิงในยุคปัจจุบันคือช่วยวัยที่งดงามสะพรั่งที่สุด แต่ในยุคโบราณเช่นนี้ ถือว่าเป็่วัยที่ร่วงโรย ฮูหยินที่ไม่ได้รับความโปรดปรานต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างเปล่าเปลี่ยว คืนวันสุดแสนจะทรมาน หากมีบุตรสักคน ยังพอประทังความเหงาไปได้ แต่นางมดลูกเย็น ไม่เหมาะแก่การตั้งครรภ์ ยามยังอายุน้อยเคยตั้งครรภ์คราหนึ่ง แต่รักษาไว้ไม่ได้ ั้แ่นั้นมาก็ไม่เคยมีข่าวดีอีกเลย
จางฮูหยินตั้งใจว่าจะให้อนุตั้งครรภ์ หลังจากนั้นนางค่อยหาวิธีอุ้มมาเลี้ยง แต่ไม่ว่านางจะทุ่มเทแค่ไหน ท้องของอนุเ่าั้ก็ยังเงียบฉี่ไม่มีวี่แวว สกุลจางจึงไร้ทายาทมาโดยตลอด
นับั้แ่ฉินเหยาเข้ามาในจวน ก็ได้รับความโปรดปรานจากนายท่านจางเป็พิเศษ ฉินเหยาผู้นี้แตกต่างจากอนุคนอื่นๆ นางเติบโตในชนบท ไร้สัมมาคารวะ จางฮูหยินรู้สึกว่าสตรีเช่นนี้มิควรปล่อยให้กำเนิดบุตร จึงกรอกน้ำแกงห้ามบุตรให้นางกิน ไม่ให้แม้กระทั่งโอกาสตั้งครรภ์ ทว่าผลลัพธ์ก็คือนายท่านจางกลับไปติดพันหญิงคณิกาอีกคน ทำให้จางฮูหยินโกรธจนแทบหน้ามืด
แต่ไรมาจางฮูหยินก็หาใช่แม่พระอันใด คอยหาเื่ทะเลาะเบาะแว้งกับนายท่านจางอยู่เสมอ เหล่าอนุภรรยาในจวนต่างถูกนางลงโทษอย่างรุนแรง
ครั้งก่อนจางฮูหยินไปก่อกวนที่ร้านหัวใจสตรี หลังจากกลับไปไม่นานก็ถูกนายท่านจางดุด่าเป็การใหญ่ ต่อมาถึงบอกว่าเฟิ่งหยางเป็ลูกค้าคนสำคัญของสกุลจาง จางฮูหยินไปก่อเื่ครานี้ ทำให้ลูกค้าห้ารายรวมถึงเฟิ่งหยางยกเลิกการซื้อขาย ทำให้สกุลจางต้องเสียหายไปถึงหมื่นตำลึง จางฮูหยินถึงได้รู้ว่าร้านหัวใจสตรีมีอำนาจหนุนหลังที่แข็งแกร่งยิ่ง จำต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวมมาขอขมาถึงที่
ถังชิงหรูคิดจะใช้ประโยชน์จากจางฮูหยินเล่นงานฉินเหยา ย่อมไม่ทำให้นางลำบากใจ แต่ไรมาสตรีในเรือนหลังนี้ล้วนมีชะตาที่น่าเศร้า ไยตนเองต้องไปถือสาหาความกับพวกนางด้วยเล่า
การจัดการกับสตรีเ่าั้ไม่ยาก หากมีเทียบยาไหนสามารถช่วยให้มีรูปโฉมงดงาม หรือตั้งครรภ์ง่ายขึ้น ไหนเลยพวกนางจะไม่มาติดเบ็ด หลังจากนั้นก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ จางฮูหยินจึงคบค้าสมาคมกับถังชิงหรูเป็อย่างดี
ยิ่งจางฮูหยินตั้งครรภ์ ฉินเหยาก็อย่านึกฝันจะได้พลิกกายกลับคืนมา แต่ในความเป็จริง ถึงแม้ว่าจางฮูหยินจะไม่ได้ตั้งครรภ์ ฉินเหยาก็หมดสิทธิ์จะเงยหน้าอ้าปากได้อยู่แล้ว
"จริงสิ! ข้าไม่นึกว่าจะตั้งครรภ์เร็วขนาดนี้" จางฮูหยินลูบหน้าท้อง แววตาเปี่ยมไปด้วยความรักความเมตตา
ยามพบกันครั้งแรก แววตาของสตรีผู้นี้เต็มไปด้วยความคับแค้น แม้ว่านางจะมีใจผูกมิตรกับถังชิงหรู ถ้อยวาจาค่อนข้างนุ่มนวลอ่อนโยน แต่ความขุ่นข้องหมองใจยังกำจายอยู่รอบตัวนาง ทว่ายามนี้กลิ่นอายความคับแค้นเ่าั้สลายไปหมดแล้ว สีหน้าสดใสแลดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก
"ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย" ถ้อยคำประโยคนี้กล่าวออกมาด้วยใจจริง
นางไม่ชอบสตรีคนนี้ แต่ให้ความสำคัญกับชีวิตใหม่ที่กำลังจะถือกำเนิด
"ที่น่ากลัวที่สุดคือนังหญิงแพศยานั่นถึงกับกล้าใช้ลูกไม้กับบุตรของข้า" จางฮูหยินสีหน้าเปลี่ยน ขยำผ้าเช็ดหน้าในมืออย่างแรง "แม่นางพอมีวิธีที่จะทำให้หญิงชั้นต่ำคนนั้นไปจากนายท่านหรือไม่ ไม่รู้ว่านางใช้เสน่ห์เล่ห์กลใด ตอนนี้นายท่านถึงห่างจากนางไม่ได้แม้แต่น้อย"
"ท่านบอกว่านางเป็แค่หญิงชาวบ้าน ไม่มีความรู้ หามีสิ่งใดน่ากลัวมิใช่หรือ" ถังชิงหรูทราบว่าจางฮูหยินหมายถึงฉินเหยา
เมื่อก่อนนางประเมินฉินเหยาต่ำเกินไป ครานี้ได้ฟังเกี่ยวกับเพทุบายบางอย่างของฉินเหยาจากปากของจางฮูหยิน แม้แต่นางยังอดชมว่าปราดเปรื่องไม่ได้ ฉินเหยาผู้นี้ไม่ธรรมดาอย่างที่ตนเองจินตนาการไว้
"ใช่สิ ข้าดูแคลนศัตรูเกินไป" จางฮูหยินกล่าวด้วยความรู้สึกจนใจ "นายท่านปกป้องอย่างยิ่งกว่าอะไรดี แม้แต่ข้าที่ตั้งครรภ์แล้วก็เห่ออยู่เพียงไม่กี่วัน ครานี้สตรีผู้นั้นคิดจะลงมือกับครรภ์ของข้า ข้าไปทวงถามความเป็ธรรมจากนายท่าน ไม่นึกว่าเขาจะปกป้องนังหญิงแพศยา ข้ารู้สึกเศร้าใจยิ่ง บุรุษคนหนึ่งโปรดอนุทอดทิ้งภรรยา ต่อให้ข้าคลอดบุตรชายออกมาก็คงไม่มีความสำคัญ หากอนุผู้นั้นคลอดบุตรชายได้ ไม่แน่ว่าคงได้ขึ้นมาขี่บนศีรษะข้า ข้าจะไม่ยอมให้เื่พรรค์นั้นเกิดขึ้นเป็อันขาด แม่นาง ท่านจะช่วยข้าใช่หรือไม่ ท่านช่วยข้าคิดหาวิธีด้วยเถิด"
ถังชิงหรูครุ่นคิด ก่อนเอ่ยว่า "มีทางให้ท่านเลือกสองทาง ทางแรกใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจของนายท่านจางด้วยการหาอนุคนใหม่ที่สวยกว่า แต่ครานี้ท่านต้องคัดเลือกด้วยตนเอง หาที่ทั้งสวยและบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ควบคุมง่าย แต่วิธีนี้ หัวใจของสามีท่านก็ยังไม่อยู่ที่ท่านอยู่ดี ส่วนข้างกายท่านก็จะมีคนมาเพิ่มอีกหนึ่งคน ทางที่สอง ก็คือปรับปรุงตนเอง ท่านต้องคิดหาวิธีมัดใจสามีให้กลับมาหาท่าน ทำให้เขาสนใจท่านและบุตรในครรภ์อีกครั้ง หากใช้วิธีนี้ จะไม่มีผู้ใดมาสั่นคลอนสถานะของท่านได้ทั้งสิ้น"
"ข้าอยากใช้วิธีที่สอง แต่เ้าก็เห็น สตรีที่ร่วงโรยอย่างข้าจะไปสู้กับอนุภรรยาที่ทั้งเยาว์วัยและรูปโฉมพริ้มเพราเ่าั้ได้อย่างไร" จางฮูหยินส่ายหน้าอย่างขมขื่น "ข้ายอมรับชะตาแล้ว"
"ฮูหยินกล่าวเช่นนี้ไม่ถูกต้อง อายุเช่นท่านย่อมจะมีมนต์เสน่ห์ในแบบฉบับของคนใน่วัยนี้ มิเช่นนั้นจะมีถ้อยคำกล่าวว่า 'ขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ด' ได้อย่างไร สตรีที่เป็ผู้ใหญ่สิ เสน่ห์ยิ่งแพรวพราว ข้ามีวิธีทำให้เขาห่างจากท่านไม่ได้ เพียงแค่... " ถังชิงหรูกระซิบข้างหูจางฮูหยิน
ถังชิงหรูแนะแนวทางสำหรับมัดใจสามีให้จางฮูหยินมากมาย นางฟังไปผงกศีรษะไป แววตาทอประกายเจิดจรัสเปี่ยมไปด้วยความหวัง
สตรีแต่ละคนล้วนมีอาวุธลับที่์ประทานให้ชิ้นหนึ่ง นั่นก็คือร่างกายของตนเอง บางคนใช้สิ่งนี้นำพาหายนะมาสู่แว่นแคว้น บางคนใช้สิ่งนี้มา่ชิงหัวใจของบุรุษ พวกนางเป็เพียงหญิงสามัญทั่วไป ล่มแคว้นอย่าไปนึกฝัน แค่คิดยังไม่กล้า ส่วน่ชิงหัวใจของสามี นั่นคือศึกที่ลูกผู้หญิงทุกคนควรจะทำ เพื่อบุตรในครรภ์ นางจะถอยหลังมิได้เป็อันขาด
"ข้าคิดไม่ผิดที่มาหาแม่นาง ไม่รู้ว่าสมองของท่านคิดวิธีการดีๆ เช่นนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงรอบรู้ไปเสียทุกเื่" จางฮูหยินถอนใจเอ่ยว่า "หากข้า่ชิงความรักของสามีกลับคืนมาได้ ข้าจะต้องขอบคุณแม่นางเป็อย่างดีแน่นอน"
"ฮูหยินเกรงใจไปแล้ว วันนี้ท่านจะซื้ออะไรสักหน่อยหรือไม่" ถังชิงหรูทอยิ้ม
อยู่คุยเป็เพื่อนมานานขนาดนี้ จะไม่ซื้ออะไรเลยได้อย่างไร เวลาของนางเป็เงินเป็ทองอยู่นะ
จางฮูหยินกำลังอารมณ์ดี แน่นอนว่าย่อมไม่ตระหนี่ ประกอบกับร้านของถังชิงหรูมีแต่ของดีๆ และมีประโยชน์ต่อนางทั้งสิ้น นางใช้มาหมดแล้ว
สตรีคนไหนไม่ชอบซื้อของ อารมณ์ดีก็ซื้อ อารมณ์ไม่ดีก็ยังซื้อ การซื้อของแทบจะเป็ช่องทางหลักในการระบายอารมณ์ของพวกนาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสตรีโบราณที่ไม่ค่อยมีสิ่งใดให้รื่นเริงบันเทิงใจเท่าไรนัก
"นี่เป็น้ำหอมที่เพิ่งออกมาใหม่ กลิ่นของมันให้ความรู้สึกผ่อนคลาย" จางฮูหยินดูสินค้าใหม่ในตู้ทั้งหมด "เอาน้ำหอมมาสิบขวด ข้าจะไว้มอบเป็ของขวัญ อาภรณ์ชั้นในเ่าั้ก็เอาสิบชุด แล้วก็สิ่งนี้... ทั้งนุ่ม ทั้งใหญ่ ลูบแล้วให้ััที่นุ่มสบายยิ่ง นี่คือสิ่งใด"
"ตุ๊กตาผ้า ตอนนี้ท่านกำลังตั้งครรภ์บางครั้งอาจรู้สึกอึดอัด หากท่านรู้สึกไม่สบายตัวก็สามารถเอามากอดหรือนั่งพิงได้
"น่าสนุกจัง เด็กๆ คงจะชอบกระมัง บุตรสาวสองคนของพี่ชายข้าต้องชอบแน่ๆ งั้นเอามาให้ข้าสามตัวเถอะ" จางฮูหยินโบกมือทีเดียว สินค้าในร้านก็น้อยลงไปกว่าครึ่ง
"ฮูหยินค่อยๆ เดินนะเ้าคะ โอกาสหน้าแวะมาใหม่" ชิงอีไปส่งจางฮูหยินที่ประตู พลางโบกไม้โบกมือกล่าววาจาอย่างอบอุ่น
ถังชิงหรูมองท่าทางของชิงอี ก็ยิ้มกล่าวอย่างระอาใจ "ชิงอี หากเ้าสวมชุดขันที แล้วทำท่าทางอย่างนี้ ข้าคงเชื่อเลยว่าเ้าเป็ขันทีน้อย"
"แม่นางยังมาหัวเราะข้าอีก ฮูหยินจางผู้นั้นเป็ลูกค้ารายใหญ่ของพวกเรา ข้าย่อมต้องดีกับนางมากหน่อย" ชิงอีเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเบิกบาน พลางมองสมุดบัญชีในมือของถังชิงหรู "เมื่อครู่นางซื้อของไปเท่าไรหรือ ข้าเห็นสาวใช้กับหมัวมัวที่อยู่ข้างกายนางเ่าั้ แต่ละคนท่าทางน่าเวทนา เคราะห์ดีที่ข้าไม่เจอเ้านายเยี่ยงนั้น หาไม่แล้วข้าคงต้องเหนื่อยตายแน่ๆ "
"เ้านึกว่าตนเองจะดีไปกว่ากันสักเท่าไร ตอนนี้เ้ายังไม่ทำงานพลาด มิเช่นนั้น นายของเ้าก็ไม่เอาเ้าไว้เหมือนกันแหละ" ถังชิงหรูจิ้มหน้าผากของชิงอี "เ้าน่ะมักเลินเล่อ ลวี่สุ่ยยังรู้จักทำงานอย่างระมัดระวัง ไม่พูดมาก เมื่อไรเ้าถึงจะหนักแน่นได้เหมือนลวี่สุ่ยบ้าง ข้าจะได้ไม่ต้องมาเฝ้าทุกวี่ทุกวัน"
ทุกครั้งที่ลวี่สุ่ยเฝ้าร้าน ถังชิงหรูแทบจะวางมือจากงานได้ทั้งหมด หากอารมณ์ดีหน่อย ก็จะอยู่ดูร้านสักครู่ แต่ถ้าอารมณ์ไม่ดีก็จะออกไปเดินเล่นข้างนอก ไม่ให้ตนเองต้องเหนื่อยเกินไป
"แม่นาง อนุภรรยาที่นางกล่าวถึงเคยมีความแค้นกับท่านมาก่อนหรือ ข้าเห็นหลายครั้งแล้วที่ท่านชักนำให้จางฮูหยินจัดการกับนาง" ชิงอีถาม
"นี่ก็เป็อีกอย่างที่เ้าต่างกับลวี่สุ่ย หากเป็ลวี่สุ่ยได้ยินเื่เหล่านี้ นางจะแกล้งทำไม่รู้ไม่เห็น และไม่ทำในสิ่งที่เกินความจำเป็" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเรียบ "สตรีผู้นั้นเคยผลักข้าตกน้ำจนเกือบตาย เ้าว่าข้าควรจะจัดการกับนางหรือไม่เล่า ที่น่าโมโหที่สุดคือนางไม่เคยสำนึกกลับตัวกลับใจ"
"สตรีคนนั้นช่างน่ารังเกียจนัก มิน่าเล่าท่านถึงต้องคิดบัญชีเก่ากับนาง" ชิงอีพูดทวงความเป็ธรรมให้ถังชิงหรูด้วยความขุ่นเคือง
"ข้าจะออกไปเก็บหนี้ เ้าอยู่เฝ้าร้านเถอะ" ถังชิงหรูหยิบสมุดบัญชีขึ้นมาพลางเอ่ยวาจา
"ร้านเรามีคนติดหนี้ด้วยหรือเ้าคะ ไฉนข้าไม่รู้เลยเล่า" ชิงอีมองสมุดบัญชีในมือถังชิงหรู ก่อนรีบเอามาพลิกดู "ข้านึกออกแล้ว นี่เป็เงินที่คุณหนูหวังติดค้างไว้ วันนั้นนางบอกว่ามิได้พกเงินมา วันรุ่งขึ้นจะส่งมาให้"
"ข้าจะไปดูเอง กำลังเบื่อๆ อยู่พอดี ออกไปเดินข้างนอกดีกว่า" ถังชิงหรูกล่าว "เ้านั่งเฝ้าอีกครู่หนึ่งค่อยปิดร้าน ถึงอย่างไรทุกคนต่างรู้รูปแบบการทำงานของพวกเราอยู่แล้ว"
ร้านหัวใจสตรีขายดีเป็เทน้ำเทท่า เวลาเปิดดำเนินการในแต่ละวันจึงไม่แน่นอน หากวันไหนสินค้าขายหมดตู้ ก็ไม่จำเป็ต้องเปิดร้านทั้งวัน