สวีเทากลับบ้าน พบว่าทั้งบ้านว่างเปล่า ไม่มีผู้ใดอยู่เลยสักคน
เขาแปลกใจเล็กน้อย ออกไปเดินหา พบว่าทุกคนอยู่ที่บ้านหลินจึงขยับเข้าไปฟัง…
ฟังจบก็ดีใจ
กำลังสัปหงกก็มีคนยื่นหมอนให้โดยแท้
เขากำลังกังวลว่าจะจัดการหลินหวั่นชิวอย่างไร เื่นี้ก็โผล่มาพอดี
สวีเทาไม่เชื่อว่าหลินหวั่นชิวเป็ชู้กับโจวเอ้อร์เหนิง ไม่คิดว่าโจวเอ้อร์เหนิงกล้านอนกับสตรีของเจียงหงหย่วนเช่นกัน
หลินหวั่นชิวคงถูกวางแผนปองร้าย
แต่ไม่ว่าคนที่ปองร้ายจะเป็ผู้ใด นางก็ไม่มีทางล้างมลทินให้ตัวเองสำเร็จ
สาเหตุไม่ใช่อื่นใด เป็เพราะคนที่ก้าวออกมาพูดคือคนบ้านจ้าวนั่นเอง ไม่มีผู้ใดในหมู่บ้านไม่รู้ว่าบ้านจ้าวสนิทกับบ้านเจียง การที่พวกนางก้าวออกมาวิจารณ์หลินหวั่นชิว เื่นี้จึงกลายเป็ความจริงไปแล้วครึ่งหนึ่ง
สวีเทาไม่คิดจะเข้าไปยุ่งด้วย
เขาจะเป็นกขมิ้น รอให้ทุกอย่างจบลงแล้วค่อยมาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์
สวีเทาเดินเอามือไขว้หลังกลับบ้าน เปิดสุราที่สวีไคซานซื้อ หยิบถั่วลิสงมาแกะเปลือกพร้อมกับฮัมเพลง
หลินหวั่นชิว แม่สาวน้อย…ข้าจะรอดูเ้าขอความเมตตาใต้ร่างข้า!
สวีเทาดื่มสุราฝันหวาน น้ำมูกแทบไหลออกมา
ฝั่งบ้านหลิน
อาจเพราะภาพจำที่เจียงหงหย่วนยัดมูลสัตว์ใส่ปากคนก่อนหน้านี้ตราตรึงใจเกินไป รอบนี้เสี่ยวจางซื่อกับจ้าวหงฮวาก้าวออกมากล่าวโทษหลินหวั่นชิวและมีคนยิ้มเยาะมากมายก็จริง แต่ไม่มีผู้ใดกล้าพูดซี้ซั้วต่อหน้าเจียงหงหย่วน
หรือควรจะพูดว่า พวกนางกำลังรอ
รอให้เจียงหงหย่วนตบหลินหวั่นชิวต่อหน้าทุกคน ขอแค่เจียงหงหย่วนละทิ้งหลินหวั่นชิว พวกนางก็พร้อมเข้าไปซ้ำเติม
อันที่จริงตอนนี้เจียงหงหย่วนก็คันมือเช่นกัน เขาให้คนเตรียมมูลลาไว้แล้ว ห่อกระดาษเรียบร้อยและบรรจุลงในกล่อง
เด็กรับใช้คนหนึ่งกำลังสะพายกล่องใบนั้น พวกเขาเพิ่งซื้อเด็กรับใช้คนนี้มาไม่นาน ซื้อกลับมาจากหัวเมือง
เจียงหงหย่วนอยากลงมือั้แ่วินาทีที่จ้าวหงฮวากับเสี่ยวจางซื่อเอ่ยปากแล้ว น่าเสียดายที่ภรรยาตัวน้อยห้ามไว้
ชายฉกรรจ์อัดอั้นมาก หน้าดำทะมึน
คนนอกมองว่าเขาคงชิงชังหลินหวั่นชิว ไม่แน่ว่าอีกประเดี๋ยวเขาคงฟาดนางตายต่อหน้าธารกำนัล
“หลักฐาน…ข้านี่แหละหลักฐาน วันนั้นข้าเห็นเองกับตา!” เสี่ยวจางซื่อตบหน้าอก
“ครอบครัวข้าเห็นกันหมด ท่านแม่เป็คนให้เถียนเซิงกับสุ่ยเซิงอัดสั่งสอนโจวเอ้อร์เหนิงเอง! แล้วก็ บนเอวโจวเอ้อร์เหนิงมีรอยแผลเป็ขนาดเท่ากำปั้น”
เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ตัวเองพูดเป็ความจริง เสี่ยวซื่อนึกย้อนถึงเหตุการณ์วันนั้นแล้วพูดออกมา
“โจวเอ้อร์เหนิงอยู่ที่ใด? ให้เขาถลกเสื้อให้ทุกคนดู” สวีไคซานลากเสียงยาว
“ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน เกรงว่าจะไม่เหมาะกระมังเ้าคะ” จางซื่อกล่าวอย่างลำบากใจ “หวั่นชิวของพวกเราไม่ใช่คนเช่นนั้น ต้องมีกระไรเข้าใจผิดเป็แน่”
เสี่ยวจางซื่อะโออกมา “เข้าใจผิดกระไร? ไม่ได้เข้าใจผิด วันนี้เรียกบ้านหลินของพวกเ้ามาเพื่อให้อธิบาย! เหตุใดเล่า ไม่กล้าให้ดูหรือ นั่นหมายความว่าพวกเ้ามีเื่ปกปิด”
“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น วันนั้นสามีซย่าจื้อคงดื่มหนักจนไปเมาอยู่ที่กระท่อมท้ายหมู่บ้าน เผลอถอดเสื้อผ้าโดยไม่รู้ตัว… อีกอย่าง พวกเราก็ไม่เห็นสักหน่อยว่าในกระท่อมมีสตรี บุรุษสามารถทำเองด้วยมือมิใช่หรือ ใช่ว่าต้องเป็หวั่นชิวร่วมประเวณีกับสามีซย่าจื้อเสมอไป”
จางซื่อเหมือนช่วยพูดให้หลินหวั่นชิว ทว่าทุกคำกลับชี้มาที่หลินหวั่นชิว นางยิ่งพูดเช่นนี้ ชาวบ้านก็ยิ่งรู้สึกว่าคนที่เป็ชู้กับโจวเอ้อร์เหนิงคือหลินหวั่นชิว
สวีไคซานเริ่มรำคาญ “โจวเอ้อร์เหนิง เ้าไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้”
โจวเอ้อร์เหนิงใตัวสั่น เดินหดคอออกมา
มีชายฉกรรจ์ที่ใจร้อนกระชากเขามาถกเสื้อขึ้น
ทุกคนมองไป โอ้… เอวเขามีแผลเป็ขนาดเท่ากำปั้นจริงด้วย
หมายความว่าเสี่ยวจางซื่อไม่ได้โกหก!
นางเห็นโจวเอ้อร์เหนิงอยู่กับสตรีชู้จริงๆ!
ตอนนี้สายตาที่ทุกคนมองหลินหวั่นชิวดูถูกเหยียดหยามยิ่งกว่าเดิม
จ้าวหงฮวาคอยสังเกตสีหน้าชาวบ้าน รู้ว่าความผิดกระทงนี้กลายเป็จริงแน่แล้ว เพราะต้องบอกก่อนว่าชื่อเสียงไม่จำเป็ต้องมีวัตถุมายืนยันก็ป่นปี้ได้
เสียงของคนจำนวนมากสามารถทำให้ผิดกลายเป็ถูก ถูกกลายเป็ผิด ฆ่าคนได้ด้วยคำพูด
ไม่มีหลักฐานแล้วอย่างไร?
ขอแค่ชาวบ้านเชื่อเป็พอ
ตอนนี้โจวเอ้อร์เหนิงยังไม่เอ่ยปากพูด ไว้เขาเอ่ยปากเมื่อไร ต่อให้หลินหวั่นชิวมีร้อยปากย่อมแก้ตัวไม่ทัน
“หงฮวา…ข้าเข้าใจเ้าผิดไป” นายน้อยเจ็ดตระกูลกู่ยิ้มให้จ้าวหงฮวา “แต่ท่านพ่อท่านแม่ข้า… คงต้องให้หัวหน้าหมู่บ้านช่วยเขียนยืนยันเป็ลายลักษณ์อักษร ยืนยันว่าเ้าถูกใส่ร้าย เช่นนี้ข้าจึงจะโน้มน้าวให้พวกท่านกลับมาจัดงานแต่งงานได้”
จ้าวหงฮวาได้ยินดังนั้นก็ประหนึ่งฉีดเืไก่[1] รีบหันไปหาสวีไคซาน “ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ตอนนี้เื่ราวก็ประจักษ์แล้ว รบกวนท่านช่วยเขียนหนังสือยืนยันความบริสุทธิ์ให้ข้าทีเ้าค่ะ นายน้อยเจ็ดจะได้นำกลับตระกูลกู่”
สำหรับนายน้อยจากตระกูลร่ำรวย สวีไคซานชื่นชอบอยู่แล้ว ต้องประจบ!
ลูกชายเขาเป็มือปราบอยู่ในตำบล ้าเส้นสายเช่นกัน
“วางใจเถิด พี่สะใภ้เ้าพิสูจน์แล้วว่าเื่ที่พูดเป็ความจริง ข้าจะเขียนหลักฐานเป็ลายลักษณ์อักษรให้ประเดี๋ยวนี้” สวีไคซานให้หลินฟาไฉไปหยิบกระดาษและพู่กัน บ้านพวกเขามีคนเรียนหนังสือ ไม่ขาดแคลนของพวกนี้
“หลักฐานเป็ลายลักษณ์อักษร?” เจียงหงหย่วนพูดเสียงสูง “หลักฐานกระไร?”
จ้าวหงฮวาคิดในใจว่าตอนนี้เจียงหงหย่วนคงเกลียดหลินหวั่นชิวมากเป็แน่ ตอบเขาไปว่า “ก็หลักฐานลายลักษณ์อักษรว่าหลินหวั่นชิวใส่ร้ายข้า คนที่ร่วมประเวณีกับโจวเอ้อร์เหนิงวันนั้นคือนางอย่างไรเล่า”
เสี่ยวจางซื่อพูดตาม “เื่นี้ต้องระบุให้ชัดเจน! อีกเื่ หมู่บ้านเราเก็บคนเช่นนี้ไว้ไม่ได้นะเ้าคะหัวหน้าหมู่บ้าน! อย่าให้นางทำชื่อเสียงหมู่บ้านเราฉาวโฉ่เด็ดขาด มิเช่นนั้นวันหน้าผู้ใดจะอยากแต่งงานกับสตรีจากหมู่บ้านเรา?”
จะจัดการก็ต้องเอาให้เด็ดขาด อย่าให้มีโอกาสพลิกตัวกลับมาอีก
สวีไคซานพยักหน้า เขามองเจียงหงหย่วนแล้วมองคนบ้านหลิน นึกถึงเื่ที่ลูกชายกำชับ “เื่นี้เป็ที่ประจักษ์แล้ว โจวเอ้อร์เหนิงกับหลินหวั่นชิวมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกัน นับจากวันนี้ ไล่พวกเขาออกจากหมู่บ้านเค่าซาน!”
ไล่ออกจากหมู่บ้านเค่าซาน?
ชาวบ้านพากันฮือฮา “ไล่ออกจากหมู่บ้านหรือ… อันที่จริงควรจับถ่วงน้ำด้วยซ้ำ!”
“นั้นน่ะสิ เก็บคนเช่นนี้ไว้ ไม่รู้วันหน้าผู้อื่นจะมองสตรีหมู่บ้านเราว่าเยี่ยงไร ควรจับถ่วงน้ำ!”
ก่อนหน้านี้หลายคนไม่กล้าพูดเพราะกลัวเจียงหงหย่วน แต่ตอนนี้คำพูดของเสี่ยวจางซื่อได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็ความจริง ต่อให้เจียงหงหย่วนจะโง่เพียงใดก็ไม่น่าปกป้องหลินหวั่นชิวอีก ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงอดใจก้าวออกมาด่าไม่ได้
สวีไคซานยกมือควบคุมสถานการณ์ เขาแสร้งทำเป็พูดว่า “ฆ่าคนทันทีที่เปิดปีใหม่จะไม่เป็มงคล ข้าอยากให้ปีนี้หมู่บ้านเราเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องถึงขั้นจับถ่วงน้ำ แค่ไล่พวกเขาออกจากหมู่บ้านไปให้ไกลเป็พอ”
หลินหวั่นชิวยิ้มเยาะ “หัวหน้าหมู่บ้านช่างเมตตา”
สวีไคซานเหยียดหยาม “เ้าไม่ต้องขอบคุณข้า ต่อจากนี้ดูแลตัวเองให้ดีเถิด”
หลินหวั่นชิวพูดต่อ “หัวหน้าหมู่บ้านหมายความว่า…นับจากวันนี้ โจวเอ้อร์เหนิงและสตรีที่มีความสัมพันธ์กับเขาต้องถูกขับออกจากหมู่บ้านใช่หรือไม่?”
สวีไคซานรำคาญเล็กน้อย “ถูกต้อง”
หลินหวั่นชิวมองไปทางชาวบ้านทุกคน “พวกเ้าเองก็หมายความเช่นนี้?”
“แน่นอน!”
“ไม่ให้ขับออกจากหมู่บ้านแล้วจะเก็บไว้ทำกระไร? เก็บไว้ให้คนนอกหมู่บ้านนินทาหรือ?”
เชิงอรรถ
[1] ฉีดเืไก่(打鸡血) วิธีรักษาที่เป็ที่นิยมใน่ปี 1960 เชื่อว่าการฉีดเืไก่เข้าร่างจะทำให้ร่างกายแข็งแรงเหมือนยาวิเศษรักษาสารพัดโรค ปัจจุบันคำนี้เป็คำแสลง หมายถึงคนที่มีอาการตื่นเต้น คึก ลิงโลด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้