เมื่อได้ยินหลินเสวี่ยหรงพูดขึ้นเช่นนี้ หลินชิงเวยพลันรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ
หลินชิงเวยเห็นภาพข้างหน้าเลือนรางเป็พักๆ สายตาของนางพร่ามัวอย่างยิ่งหนักศีรษะอย่างรุนแรง แม้กระทั่งหน้าตาของหลินเสวี่ยหรงนางก็มองเห็นไม่ชัดเจน
ยามนี้หลินชิงเวยจึงรู้ตัวว่าตนเองหลงกลของเด็กสาวคนนี้เสียแล้ว
เป็ไปไม่ได้ ก่อนหน้าที่นางจะเดินเข้ามาหลินชิงเวยไม่ได้กินหรือดื่มสิ่งของอะไรเป็ไปไม่ได้ที่นางจะมีโอกาสวางยาตน
แต่นี่มันไม่ถูกต้องจริงๆ...
หรืออาจเป็่เวลาก่อนหน้าที่นางจะมาถึง...
ก่อนหน้าที่หลินเสวี่ยหรงจะมาถึงนางกำนัลได้นำใบชาใหม่ของปีนี้มาให้นางดื่มไปสองคำ ต่อมาหลินเสวี่ยหรงก็ปรากฏกายขึ้น
ยามนี้เป็เวลาพลบค่ำ โคมไฟภายในวังค่อยๆ ถูกจุดให้สว่างขึ้นที่จริงหลินชิงเวยใช้ชีวิตอยู่ในตำหนักในอย่างเงียบสงบเฉกเช่นนางสนมคนอื่นๆ กระทั่งนางกำนัลที่ทำหน้าที่ปรนนิบัติรับใช้ก็มีเพียงไม่กี่คนเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าฮ่องเต้ไม่มีทางเสด็จมายังตำหนักในแห่งนี้ประโยชน์ของพวกนางมีเพียงประการเดียว---เสริมความเป็สิริมงคล
หลินชิงเวยรู้สึกว่าตนเองกำลังจะนั่งไม่อยู่แล้ว ได้แต่พยายามฝืนประคองร่างกายของตนความรู้สึกชาน้อยๆ เริ่มลุกลามไปทั่วร่างกาย จากนั้นค่อยๆ อ่อนแรงลง
นางช้อนตาขึ้นมองเงาร่างอันพร่าเลือนของหลินเสวี่ยหรงที่อยู่เบื้องหน้าตนน้ำเสียงของนางแตกต่างจากสภาพร่างกายของนาง ในทางกลับกันกลับเปี่ยมไปด้วยสติและความสุขุม“เ้าทำอะไรกับข้า?”
หลินเสวี่ยหรงค่อยๆ ย่อกายลงนั่งยองๆ เบื้องหน้าหลินชิงเวยมองดูสีหน้าของนางที่เปลี่ยนเป็สีแดงอย่างช้าๆ ใช้ปลายนิ้วบีบคางของนางเอาไว้พร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์เป็ที่สุด“เ้าคิดว่าเ้าเข้าวังมาแล้วจะปลอดภัยตลอดชีวิตแล้วหรือไร?เ้าคิดว่าต่อไปเ้าจะมีชื่อเสียงลาภยศตลอดชีวิตหรือ? จะเป็เช่นนั้นได้อย่างไรกันรอให้ข้าแต่งให้เซี่ยนอ๋องเสียก่อน ข้าไม่ปรารถนาที่จะต้องคารวะเ้าทุกครั้งที่เข้าวังคนเช่นเ้าหรือจะคู่ควร?! หลินชิงเวย ข้าจะให้เ้ามีชีวิตอยู่ในวังหลวงแห่งนี้อย่างไม่อาจเงยหน้าอ้าปากได้!” พูดแล้วก็ออกแรงเพิ่มขึ้นอีกสองส่วนสะบัดคางของหลินชิงเวยออกไป
หลินเสวี่ยหรงพูดอีก “เวลานี้เ้าคงรู้สึกทรมานมากกระมัง ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงร่างกายร้อนรุ่มดังเปลวไฟ เ้ายังมองไม่เห็นใบหน้าของตนเอง เชอะ หน้าของเ้าแดงก่ำแววตาเต็มไปด้วยความยั่วยวน ท่าทางร่านร้อนยิ่งกว่าหญิงคณิกา”เสียงหัวเราะของนางที่ดังขึ้นภายในเรือนแห่งนี้ช่างบาดหูอย่างที่สุด ทางหนึ่งกลับใช้มือลูบคลำไปตามใบหน้าของหลินชิงเวยอย่างรังเกียจ“นับแต่แต่งเข้าวังมายังไม่มีใครได้แตะต้องเ้ากระมัง เ้าวางใจเถิดเพราะนี่เป็โอสถวสันต์ที่มีฤทธิ์รุนแรงที่สุดในตลาดมืดต่อให้เป็สตรีสะอาดบริสุทธิ์เมื่อตกอยู่ภายใต้การควบคุมของโอสถวสันต์นี้ก็แปรเปลี่ยนเป็หญิงมากตัณหาได้และนี่ถึงกับเป็เ้า! อีกประเดี๋ยวจะมีคนเข้ามา รับรองว่าเ้าจะรู้สึกหวามไหวไปถึงกระดูกและิญญาไม่ต่างกับขึ้นไปเยือนแดนเซียนเลยทีเดียว!เ้าจะต้องขอบคุณข้าเป็แน่”
ลมหายใจของหลินชิงเวยยิ่งหอบกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ หลินเสวี่ยหรงกลับยิ่งกระทำตามอำเภอใจโดยไร้ซึ่งความกริ่งเกรงนางหัวเราะเย้ยหยันด้วยความสาสมใจแสดงความรังเกียจที่นางมีต่อหลินชิงเวยโดยมิปิดบัง “เ้าว่าเ้าโง่เขลาหรือไม่ข้าได้ซื้อตัวนางกำนัลข้างกายเ้าให้นำน้ำชามาให้เ้าั้แ่ก่อนเข้าวังมาแล้วเ้าไม่ระแวงสงสัยแม้แต่น้อย เช่นนี้จะโทษใครได้เล่า? แต่เ้าวางใจได้ข้าไม่มีทางปล่อยให้เ้าตายไปอย่างง่ายดายเช่นนี้แน่ ข้าจะทำให้เ้าอยู่มิสู้ตายฮ่าๆๆ ให้เ้าเสื่อมเสียชื่อเสียง ตัวคนพ่ายแพ้ ชื่อเสียงและเกียรติยศถูกทำลายป่นปี้เมื่อเอ่ยถึงคุณหนูใหญ่แห่งจวนอัครมหาเสนาบดีแล้วให้ผู้คนข้างนอกรู้สึกรังเกียจเ้าเช่นเดียวกับที่ข้ารังเกียจมีเพียงยามเอ่ยถึงข้าเท่านั้นที่พวกเขาจะกล่าวชื่นชมไม่หยุดปาก!”
ในแววตาของนางเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมและริษยาปานคลุ้มคลั่ง นางยื่นปลายนิ้วขาวราวต้นหอมมาผลักหัวไหล่ของหลินชิงเวยเบาๆเดิมทีหลินชิงเวยเองคิดจะยกมือขึ้นไปจับข้อมือของหลินเสวี่ยหรง ทว่านางกลับไม่มีเรี่ยวแรงแม้เพียงครึ่งส่วนราวกับว่ามือของนางคว้าได้เพียงสำลีก้อนหนึ่ง หลินเสวี่ยหรงคว้าข้อมือของนางได้อย่างง่ายดายพร้อมกับตวัดฝ่ามือลงบนใบหน้าของนางหนึ่งฉาด“คนต่ำช้า! คนเช่นเ้าแตะต้องข้าได้หรือ!”