บทที่ 60 มีลูกชายไม่ได้
“โอ้โห” คุณนายลู่เบ้ปาก แล้วมองคุณนายจ้าวกับลูกชายด้วยสายตาเย้ยหยัน “นี่ใครมากันเนี่ย?”
“คุณย่า” เมื่อสบสายตากับคุณนายลู่ ท่าทางของจ้าวเจี้ยนเซ่อก็อ่อนลงทันที ฝืนยิ้มเจื่อนๆ “ผมมารับหยวนหยวนกลับบ้านครับ”
“รับฉันกลับบ้าน?” ลู่ซือหยวนแค่นหัวเราะเสียงเย็น “ไม่ใช่รับพวกเราสองแม่ลูกกลับไปซ้อมให้จมดินอีกหรอกเหรอ?”
“มันเป็แค่เื่เข้าใจผิด” จ้าวเจี้ยนเซ่อแก้ตัว “นิสัยฉันเธอก็รู้ดี เมื่อวานดื่มไปเยอะ ฟังอะไรไม่เข้าหูมาบ้าง มันก็เลยหงุดหงิด อย่าโกรธฉันเลยนะ”
“เหอะๆ โกรธเหรอ? ฉันไม่กล้าหรอก กลัวจะโดนตีตาย” ลู่ซือหยวนตอบโต้ด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“ลู่ซือหยวน” จ้าวเจี้ยนเซ่ออัดอั้นตันใจมาั้แ่โดนลู่จิ่งเหนียนเล่นงาน พอมาเจอท่าทีของลู่ซือหยวนอีกก็ยิ่งฉุนเฉียว “กลับไปกับฉัน!”
“อะไรกัน?” คุณนายลู่เห็นท่าไม่ดีก็ยิ่งเดือดพล่าน “คิดจะลงไม้ลงมือกับหลานสาวฉันต่อหน้าต่อตาฉันหรือไง?”
“คุณย่า ผมบอกแล้วไงว่ามันเป็เื่เข้าใจผิด” จ้าวเจี้ยนเซ่อจนปัญญาจะอธิบาย
“รอยแผลบนหน้าบนตัวฉันนี่ไม่ใช่ฝีมือนายหรือไง?” ลู่ซือหยวนเองก็ใช่ย่อย ขึ้นเสียงดังลั่น “แล้วก็เจาตี้ของฉัน หล่อนเพิ่งจะสามขวบกว่าๆ พวกนายทำไมใจร้ายใจดำขนาดนั้น เอาเข็มมาแทงตัวลูกฉัน!”
“ลู่ซือหยวน เื่ที่ตีเธอฉันบอกไปแล้วว่ามันเป็เื่เข้าใจผิด ฉันแค่ดื่มหนักไปหน่อย ฉันขอโทษก็แล้วกัน” จ้าวเจี้ยนเซ่อหน้าดำคร่ำเครียด “แต่เธออย่ามาใส่ร้ายป้ายสีกันแถวนี้ เข็มแทบอะไรกัน? เธอคิดว่านี่มันยุคสังคมเก่าเหรอ”
ถ้าเื่นี้แพร่งพรายออกไป ตระกูลจ้าวของเขาคงไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว ไม่ใช่แค่ในประชาคมจิ่วชวี แม้แต่ในอำเภอโจวสุ่ยก็คงจะเน่าเหม็นไปหมด
“เื่นี้ต้องไปถามแม่ของนายกับเมียน้องชายนายแล้วล่ะ” ลู่ซือหยวนสวนกลับ
ถึงเธอจะหัวสมองไม่ค่อยดี แต่ก็รู้ดีว่าถ้าวันนี้เธอยอมกลับไปกับจ้าวเจี้ยนเซ่อ นอกจากจะทำให้คนในตระกูลลู่เสียใจแล้ว ชีวิตของเธอกับเจาตี้ในตระกูลจ้าวจะเป็ยังไงต่อไปก็ไม่ต้องพูดถึง คงจะยิ่งกว่าหมูในเล้าหลังบ้านเสียอีก
“ฉันบอกแล้วไงว่ามันต้องเป็เื่เข้าใจผิดแน่ๆ” จ้าวเจี้ยนเซ่อย้ำ
ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้อยู่ในบ้านตระกูลลู่ ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลลู่มีหน้ามีตาในตัวอำเภอ เขาจะยอมทนรับอารมณ์ของคนในบ้านนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้เหรอ?
“เข้าใจผิด?” ลู่ซือหยวนหัวเราะเยาะ “งั้นฉันเอาเข็มมาแทงแม่นายกับบ้านเ้ารองสักหลายสิบเข็ม แล้วบอกว่ามันเป็เื่เข้าใจผิดบ้างดีไหม?”
“ทำไมเธอถึงได้ดื้อด้านขนาดนี้?” จ้าวเจี้ยนเซ่อตวาด “ก็ใช่ แม่ฉันอาจจะดีกับน้องสะใภ้มากกว่าหน่อย แต่ก็เป็เพราะเธอไม่เอาไหนเองไม่ใช่หรือไง?”
“เธอมีลูกชายไม่ได้ จะโทษแม่ฉันได้ยังไง?”
“ฉันมีลูกไม่ได้ ฉันก็เลยสมควรต้องไปเป็วัวเป็ม้าให้ตระกูลจ้าวของนายงั้นเหรอ?” ลู่ซือหยวนร้องไห้สะอึกสะอื้น “ปรนนิบัติพัดวีให้คนทั้งบ้านไม่พอ ไม่เว้นแม้แต่ซักกางเกงในของน้องสะใภ้นาย พอซักไม่สะอาดก็โดนด่าว่าเป็ผู้หญิงี้เี”
“พวกนายกินหรูอยู่สบายกันบนโต๊ะอาหาร ปล่อยให้พวกเราสองแม่ลูกกินแต่ข้าวหยาบๆ แกงจืดๆ นี่มันสมควรงั้นเหรอ?”
“ก็ใช่ หล่อนเป็เด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง แต่หล่อนก็เรียกนายว่าพ่อมาตั้งหลายปีแล้ว เงินที่นายหามาได้ หล่อนจะเอามาใช้บ้างมันผิดตรงไหน? ลูกหิวหาอะไรกิน ขนมปังข้าวโพดแข็งๆ ยังโดนแม่นายตีเอา” ลู่ซือหยวนพูดไปร้องไห้ไป
สีหน้าของจ้าวเจี้ยนเซ่อซีดเผือดสลับดำคล้ำ
อับอายขายขี้หน้าอย่างที่สุด คุณแม่พูดถูกต้อง ลู่ซือหยวนคิดว่าน้องชายกลับมาแล้ว มีคนหนุนหลังก็เลยเริ่มสำแดงฤทธิ์
เขาอัดอั้นตันใจอยากจะขัดจังหวะลู่ซือหยวนหลายครั้ง แต่ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนเพราะลู่จิ่งซานยืนค้ำหัวอยู่ข้างๆ
เขาไม่เคยคิดเลยว่าลู่ซือหยวนที่ดูอ่อนหวานจะกล้าหักหน้าเขาต่อหน้าคนทั้งตระกูลลู่แบบนี้
ก็แค่พลั้งมือตีไปหน่อย เขาขอโทษไปแล้วยังจะเอาอะไรอีก ทำไมต้องมาเซ้าซี้ไม่เลิกราต่อหน้าคนทั้งบ้านด้วย?
“ถ้าเธอมีลูกชายได้” จ้าวเจี้ยนเซ่อพูด “แม่ฉันคงไม่ทำกับเธอแบบนี้หรอก”
จะไปโทษใครได้? ใครใช้ให้เป็แม่ไก่ที่ออกไข่ไม่ได้กันล่ะ?
“ถ้างั้น” สวี่จือจือยืนมองไอ้ผู้ชายเฮงซวยนี่ “ในฐานะที่เป็คนที่มีลูกไม่ได้ คุณก็สมควรลงไปอยู่ในนรกขุมที่สิบแปดใช่ไหม?”
“เธอพูดจาเหลวไหลอะไร?” จ้าวเจี้ยนเซ่อโวยวาย “เื่ลูกมันเกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันท้องไม่ได้นี่”
คนไม่มีการศึกษานี่มันน่ากลัวจริงๆ
“ถ้ามันเป็เื่ของผู้หญิงฝ่ายเดียว” สวี่จือจือเย้ยหยัน “แล้วจะมีการแต่งงานไปทำไม?”
จะมีผู้ชายไว้ทำไม? ผู้หญิงไม่ต้องแต่งงานก็มีลูกได้แล้วอย่างนั้นเหรอ?
จ้าวเจี้ยนเซ่อถึงกับสะอึก
“ฉัน...ฉันต้องไม่มีปัญหาแน่นอน” เขาหน้าแดงก่ำ
“มีปัญหาหรือไม่มี ไม่ใช่แค่ปากพูด” สวี่จือจือแทงใจดำ
“ซือหยวน” จ้าวเจี้ยนเซ่อกลั้นหายใจไปหลายที พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ะเิออกมา “ฉันรู้ว่าเธอลำบากที่บ้าน แต่บ้านไหนๆ ในหมู่บ้านเราเขาก็อยู่กันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ คุณแม่ก็ทำไปเพื่อพวกเราทั้งนั้น ห่วงว่าพวกเราจะไม่มีลูกกัน ในฐานะที่เป็สะใภ้ เธอจะใจกว้างหน่อยไม่ได้เหรอ?”
ใจกว้าง?
ใจกว้างในความหมายของเขาก็คือให้เธอย่อมก้มหน้าเป็วัวเป็ม้าในตระกูลจ้าวต่อไปงั้นเหรอ?
เสียใจด้วย ลู่ซือหยวนคนนี้ไม่ยอม!
“จะให้ฉันใจกว้างยังไง?” ลู่ซือหยวนหัวเราะเยาะ “เงินเดือนยี่สิบหยวนที่นายได้จากประชาคม เดือนหนึ่งให้นายจ่ายให้ฉันแค่หยวนเดียว ที่เหลือสิบห้าหยวนให้แม่นาย อีกสี่หยวนที่เหลือให้น้องชาย สามหยวนเอาไปเลี้ยงเด็กบ้านอื่น”
“ก็แม่ฉันกลัวว่าพวกเราจะไม่มีลูกจริงๆ เลยหวังว่าหลานชายจะช่วยดูแลพวกเราตอนแก่ไม่ใช่เหรอ?”
ดูซิ คนในครอบครัวเขาคิดเผื่อเธอขนาดไหน กลัวว่าเธอจะไม่มีลูก เื่ดูแลยามแก่เฒ่ายังคิดไว้ให้หมดแล้ว แต่เธอกลับไม่รับน้ำใจ ยังมาอาละวาดอยู่ตรงนี้
แค่สองสามหยวนทำเป็เื่ใหญ่ไปได้ ถ้าเธอมีลูกชายได้ จะมีเื่พวกนี้ไหม?
ลู่ซือหยวนหัวเราะออกมาด้วยความโมโห
“นายจะเอาเงินของนายไปทำอะไร มันก็ไม่เกี่ยวกับฉันอีกต่อไป” เธอพูด “แต่ชีวิตแบบนี้ฉันไม่เอาแล้ว ฉันจะไม่เอาเงินที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองไปเลี้ยงลูกคนอื่น”
“นายมาก็ดีแล้ว” เธอขัดจังหวะจ้าวเจี้ยนเซ่อที่กำลังจะพูดต่อ “ถือโอกาสที่ฟ้ายังไม่มืดไปที่ประชาคมกันเลย ไปหย่ากันซะ”
“ไหนๆ นายก็บอกว่าฉันมีลูกชายไม่ได้ไม่ใช่เหรอ? หย่ากันแล้วนายก็จะได้รีบไปหาผู้หญิงคนอื่นมามีลูกชายให้สมใจ เื่ห่วยๆ ในตระกูลจ้าวของพวกนายหลังจากนี้ไป มันจะไม่เกี่ยวข้องกับลู่ซือหยวนคนนี้อีกต่อไปแล้ว”
“อ้อ ใช่แล้ว เด็กคนนี้วันนี้พวกนายยังกล้าทิ้งได้เลย คงจะไม่เอาแล้วเหมือนกัน งั้นก็ตามฉันไปด้วยพอดีเลย”
“ลู่ซือหยวน!” จ้าวเจี้ยนเซ่อมองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา “เธอว่าอะไรนะ?”
หย่า เื่นี้เขาก็เคยคิด เพราะมีลูกไม่ได้ ญาติๆ ในบ้านของเขา คนในหมู่บ้าพูดปากต่อปาก ทั้งลับหลังและต่อหน้า ก็หัวเราะเยาะเขาไม่น้อย
เื่น่าอดสูพวกนี้ เขาต้องกล้ำกลืนฝืนทนเพราะเห็นแก่ตระกูลลู่ แต่การที่ลู่ซือหยวนพูดออกมา จ้าวเจี้ยนเซ่อก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
ทำไมผู้หญิงที่มีลูกไม่ได้ถึงกล้ามาขอหย่ากับเขา!
จ้าวเจี้ยนเซ่อถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ในขณะเดียวกันก็โกรธเคืองขึ้นมา
.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้