บทที่ 3 : การหลบหนีระทึกขวัญ และถ้ำปริศนาใต้หุบเหว
โฮกกกกกก!
เสียงคำรามกึกก้องปานฟ้าผ่าทำเอาพื้นดินสั่นะเื เ้าหมาป่าั์สีดำทมิฬย่อขาหลังลง เกร็งกล้ามเนื้อทุกมัดเตรียมกระโจนเข้าใส่เหยื่ออันโอชะตรงหน้า น้ำลายเหนียวหนืดหยดติ๋งๆ ลงบนพื้นหญ้า ส่งกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้งจนน่าสะอิดสะเอียน
แป้งหอมตัวแข็งทื่อ ขาที่เคยรับน้ำหนักแปดสิบห้ากิโลกรัมอย่างมั่นคง ตอนนี้กลับอ่อนยวบยาบเหมือนดินน้ำมันตากแดด สมองสั่งการให้วิ่ง แต่ร่างกายกลับไม่ยอมขยับ
"แป้ง! หมอบลง!"
เสียงะโของต้นกล้าดังแทรกผ่านความหวาดกลัว พร้อมกับแรงกระชากที่ข้อมืออย่างแรง
วินาทีที่เ้าอสูรร้ายดีดตัวพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วปานจรวด ร่างของแป้งหอมก็ถูกต้นกล้าดึงจนล้มกลิ้งลงไปกับพื้นดิน
ตูม!
เสียงร่างมหึมาของหมาป่าพุ่งข้ามหัวพวกเขาไปกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ด้านหลังอย่างจัง เศษเปลือกไม้กระเด็นว่อน ฝุ่นตลบฟุ้งไปทั่ว
"วิ่ง! เร็วเข้า!"
ต้นกล้าไม่รอให้มันตั้งหลักได้ เขาฉุดแขนแป้งหอมให้ลุกขึ้น ทั้งที่ตัวเองมองเห็นเพียงภาพมัวๆ เหมือนคนเอาถุงพลาสติกมาคลุมหัว แต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดทำให้เขารู้ว่าต้องหนีไปให้ไกลที่สุด
"ทางนี้! ไปทางนี้!" แป้งหอมได้สติกลับมา เธอรีบทำหน้าที่เป็ 'ดวงตา' ให้กับเขา กระชากมือต้นกล้าให้วิ่งฝ่าดงไม้รกทึบไปทางทิศตรงข้าม
เสียงฝีเท้าหนักๆ ของเ้าอสูรร้ายดังไล่หลังมาติดๆ พร้อมเสียงขู่คำรามที่ฟังดูเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิม ดูเหมือนการที่เหยื่อตัวจ้อยหลบการโจมตีได้ จะทำให้มันโกรธจนเืขึ้นหน้า
"แฮ่ก... แฮ่ก..."
แป้งหอมหอบหายใจจนตัวโยน ปอดแสบร้อนราวกับมีไฟลุกไหม้ ทุกก้าวที่วิ่งลงน้ำหนักกระแทกกระทั้นจนข้อเข่าแทบะเิ ไขมันทั่วร่างกระเพื่อมไหวเป็อุปสรรคต่อการเคลื่อนที่อย่างมหาศาล
‘ไม่ไหว... ฉันวิ่งไม่ไหวแล้ว’
แต่เมื่อหันไปมองต้นกล้า ที่วิ่งสะดุดรากไม้หัวทิ่มหัวตำแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเธอ... แรงฮึดเฮือกสุดท้ายก็ผุดขึ้นมา
เธอจะมาตายตรงนี้ไม่ได้! จะมาเป็ตัวถ่วงให้ผู้ชายที่ชอบตายไปด้วยไม่ได้เด็ดขาด!
"กล้า! ระวังข้างหน้าเป็ทางลาด!" แป้งหะโกนบอกเมื่อเห็นภูมิประเทศเปลี่ยนไป
แต่ทว่า... มันไม่ใช่แค่ทางลาด
เมื่อวิ่งทะลุพุ่มไม้หนาทึบออกมา สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าคือหน้าผาชันดิ่ง!
"หยุด! หยุดก๊อนนน!" แป้งหอมเบรกตัวโก่ง ส้นรองเท้านักเรียนครูดไปกับพื้นดินจนฝุ่นตลบ เธอหยุดห่างจากขอบเหวเพียงไม่กี่คืบ
ต้นกล้าที่มองไม่เห็น ชนแผ่นหลังของเธอเข้าอย่างจังจนเกือบเสียหลักร่วงลงไป ดีที่แป้งหอมคว้าคอเสื้อเขาไว้ได้ทัน
"ทางตัน..." แป้งหอมหน้าซีดเผือด มองลงไปเบื้องล่างเห็นเพียงยอดไม้และหมอกควันสีขาวโพลน "ข้างหน้าเป็เหว... เราหนีไม่ได้แล้ว"
แกรก... แกรก...
เสียงกรงเล็บตะกุยดินดังมาจากด้านหลัง ทั้งคู่ค่อยๆ หันกลับไปมอง
เ้าหมาป่าั์เดินย่างสามขุมออกมาจากพุ่มไม้ ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมองพวกเขาราวกับจะเยาะเย้ย มันรู้ว่าเหยื่อจนตรอกแล้ว
"เอาไงดีแป้ง..." ต้นกล้าถามเสียงเครียด เหงื่อกาฬไหลพรากเต็มใบหน้า มือของเขายังคงจับมือเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
แป้งหอมมองซ้ายมองขวา ทางรอดเป็ศูนย์
ถ้าสู้... ก็ตายแหงแก๋
ถ้าะโ... ก็อาจจะตาย (แต่ศพสวยกว่าโดนกิน)
"กล้า... นายเชื่อใจฉันไหม?" แป้งหอมถามเสียงสั่น
"ถามบ้าอะไรตอนนี้! เชื่อสิ!"
"งั้น... ขอโทษนะ!"
"ห๊ะ!?"
ยังไม่ทันที่ต้นกล้าจะเข้าใจความหมาย แป้งหอมก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่บ้าบิ่นที่สุด เธอรวบตัวต้นกล้าเข้ามากอดไว้แน่น แล้วทิ้งตัวกลิ้งลงไปทางเนินลาดชันด้านข้างหน้าผา!
"ว้ากกกกกกก!"
"กรี๊ดดดดดด!"
เสียงร้องโหยหวนของทั้งคู่ดังก้องป่า ร่างของสองหนุ่มสาวกลิ้งหลุนๆ ลงไปตามทางลาดชันราวกับลูกขนุนตกจากต้น กิ่งไม้ใบหญ้าบาดิัจนแสบซ่าน หินก้อนเล็กก้อนน้อยกระแทกตามร่างกายสร้างความระบมไปทั่วสรรพางค์กาย
เ้าหมาป่าั์ชะโงกหน้ามองตามลงไป มันคำรามฮึดฮัดด้วยความขัดใจ แต่ทางลาดนั้นชันและเต็มไปด้วยหนามระกำ มันจึงลังเลที่จะตามลงไป ก่อนจะสะบัดหน้าเดินกลับเข้าป่าไปหาเหยื่อรายอื่นที่เคี้ยวง่ายกว่า
...
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน อาจจะหนึ่งนาที หรือหนึ่งชั่วโมง
แป้งหอมรู้สึกตัวตื่นขึ้นเมื่อความเ็ปแล่นริ้วขึ้นมาที่ข้อเท้า
เธอนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นหญ้านุ่มๆ ที่เปียกชื้น รอบตัวเงียบสงัด มีเพียงเสียงน้ำไหลเอื่อยๆ
"โอ๊ย... ระบมไปหมดเลย..."
เธอค่อยๆ ยันกายลุกขึ้น สภาพตอนนี้ดูไม่จืดเลยสักนิด ชุดนักเรียนขาดวิ่นเป็ริ้วๆ ผมเผ้าพันกันยุ่งเหยิงมีใบไม้แห้งติดเต็มหัว
แต่เื่ของตัวเองเอาไว้ก่อน...
"กล้า! ต้นกล้า!"
เธอรีบมองหาเพื่อนร่วมชะตากรรม และพบเขานอนหงายอยู่ไม่ไกล แว่นตา (ที่แตกอยู่แล้ว) หายไปไหนแล้วไม่รู้ ใบหน้าหล่อเหลามีรอยขีดข่วนเต็มไปหมด และที่น่าใคือมีเืไหลซึมออกมาจากศีรษะ
"กล้า! ตื่นสิ! อย่าตายนะ!" แป้งหอมรีบคลานเข้าไปหา เขย่าตัวเขาอย่างแรงด้วยความตื่นตระหนก น้ำตาพรั่งพรูออกมา "ฮือออ ถ้านายตายฉันจะอยู่ยังไง ตื่นขึ้นมาสิไอ้บ้า!"
"อะ... อูย..." ต้นกล้าครางเบาๆ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความเ็ป "เบาๆ หน่อย... เขย่าจนสมองไหลรวมกันหมดแล้วเนี่ย"
"กล้า! นายฟื้นแล้ว!" แป้งหอมโผเข้ากอดเขาเต็มแรงด้วยความดีใจ จนต้นกล้าจุกแอ้ก
"โอ๊ย... แป้ง... เราเจ็บ... แล้วก็หนักด้วย"
"อุ๊ย! ขอโทษ!" แป้งหอมรีบผละออก หน้าแดงแปร๊ด "ก็นายเล่นนิ่งไปแบบนั้น ฉันก็นึกว่า..."
"ยังไม่ตายง่ายๆ หรอกน่า..." ต้นกล้าพยายามลุกขึ้นนั่ง มือคลำหัวตัวเองแล้วนิ่วหน้า "เืไหลเหรอ?"
"อื้อ... หัวแตกนิดหน่อย แผลถลอกเต็มตัวเลย" แป้งหอมสำรวจร่างกายเขาด้วยความเป็ห่วง "ฉันพาเรากลิ้งลงมา... ขอโทษนะที่ทำให้นายเจ็บตัว"
"อย่าโทษตัวเองเลย ถ้าเธอไม่ทำแบบนั้น ป่านนี้เราคงไปอยู่ในท้องไอ้หมานั่นแล้ว" ต้นกล้ายิ้มบางๆ แม้ดวงตาจะเหม่อลอยเพราะมองไม่เห็น แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้ใจของแป้งหอมอบอุ่นอย่างประหลาด
"ว่าแต่... ที่นี่ที่ไหน?" ต้นกล้าถาม
แป้งหอมกวาดสายตามองไปรอบๆ
พวกเขาตกลงมาในหุบเหวลึกที่รายล้อมไปด้วยหน้าผาสูงชัน แต่ที่แปลกคือ บรรยากาศข้างล่างนี้กลับดูร่มรื่นและเงียบสงบอย่างน่าประหลาด
หมอกจางๆ ลอยปกคลุมเหนือพื้นดิน ต้นไม้ใบหญ้าดูเขียวชอุ่มและเรืองแสงสลัวๆ
และสิ่งที่ดึงดูดสายตาที่สุด คือปากถ้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงหน้า
ปากถ้ำนั้นมีหินงอกหินย้อยระยิบระยับราวกับเพชร และมีไอเย็นะเืแผ่ออกมา
"มีถ้ำอยู่ข้างหน้า..." แป้งหอมบอก "ดู... ขลังๆ ยังไงชอบกล แต่ฉันว่าเราเข้าไปหลบข้างในก่อนดีกว่า ข้างนอกเริ่มมืดแล้ว เดี๋ยวตัวอะไรโผล่มาอีก"
"อืม... นำไปเลย"
แป้งหอมประคองต้นกล้าให้ลุกขึ้น ทั้งคู่เดินโขยกเขยกพยุงกันและกันตรงไปยังปากถ้ำนั้น
ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ความรู้สึกสดชื่นอย่างประหลาดก็ยิ่งชัดเจนขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนดอกไม้ป่าผสมกลิ่นฝนโชยมาแตะจมูก ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าได้เป็อย่างดี
เมื่อก้าวพ้นปากถ้ำเข้าไป ภายในกลับสว่างไสวด้วยแสงจากตะไคร่น้ำเรืองแสงที่เกาะตามผนัง
และตรงใจกลางถ้ำ มีบ่อน้ำขนาดใหญ่...
น้ำในบ่อใสกิ๊งราวกับกระจก แต่ทว่าเป็สีเขียวมรกตที่ดูงดงามและลึกลับ ผิวน้ำนิ่งสนิทไม่มีระลอกคลื่นแม้แต่น้อย ไอลอยกรุ่นอยู่เหนือผิวน้ำ
"น้ำ..." แป้งหอมเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ความกระหายน้ำจู่โจมเข้ามาทันที "กล้า! มีบ่อน้ำด้วย! น้ำใสมากเลย!"
"ระวังด้วยนะแป้ง... น้ำในป่าแบบนี้อาจมีพิษ" ต้นกล้าเตือนด้วยความรอบคอบ
แป้งหอมพาเขาไปนั่งพักที่ขอบบ่อ เธอกวักน้ำขึ้นมาดม "ไม่มีกลิ่นเหม็นนะ... หอมเหมือนน้ำใบเตยเลยอะ"
ด้วยความหิวกระหายจนตาลาย บวกกับสัญชาตญาณบางอย่างที่ร้องบอกว่า 'ดื่มสิ' แป้งหอมจึงตัดสินใจใช้นิ้วแตะน้ำขึ้นมาแตะลิ้น
"อื้ม! หวาน! อร่อยมาก!" ดวงตาเธอเบิกกว้าง "กล้า ลองกินดูสิ มันสดชื่นมากเลยนะ!"
ต้นกล้าลังเลเล็กน้อย แต่ความคอแห้งผากก็ทำให้เขายอมแพ้ แป้งหอมใช้มือกอบน้ำมาจ่อที่ปากเขา
ทันทีที่น้ำทิพย์ััลิ้น ความรู้สึกเย็นซ่านและหอมหวานก็แผ่ซ่านไปทั่วปาก ไหลลงสู่ลำคอและกระจายไปทั่วร่างกายราวกับกระแสไฟฟ้า
"สดชื่นจริงๆ ด้วย..." ต้นกล้าพึมพำ
ทั้งคู่ก้มลงดื่มน้ำจากบ่อมรกตนั้นอย่างหิวกระหาย ดื่มแล้วดื่มเล่าราวกับคนอดน้ำมาแรมปี โดยหารู้ไม่ว่า... น้ำในบ่อนั้นไม่ใช่แค่น้ำดับกระหายธรรมดา
แต่มันคือ 'วารีชำระไขกระดูก' ในตำนานพันปี!
"อึก... พอแล้ว... อิ่ม..." แป้งหอมทิ้งตัวลงนอนแผ่หราบนพื้นหินข้างบ่อ "รอดตายแล้วเรา..."
แต่ทว่า... ความสุขสงบอยู่ได้เพียงไม่กี่วินาที
"โอ๊ย!" ต้นกล้าร้องเสียงหลง มือกุมท้องแน่น
"เจ็บ! โอ๊ย... ทำไมมันร้อนแบบนี้!"
แป้งหอมเองก็สะดุ้งเฮือก ความรู้สึกเย็นสดชื่นเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็ความร้อนรุ่มราวกับมีใครเอาน้ำกรดมากรอกใส่ปาก
ความร้อนวิ่งพล่านไปตามเส้นเื กล้ามเนื้อทุกมัดบิดเกร็ง กระดูกทุกชิ้นปวดร้าวราวกับกำลังถูกทุบให้แตกละเอียด
"กล้า! เกิดอะไรขึ้น... โอ๊ยยยย!" แป้งหอมดิ้นพราดๆ อยู่บนพื้น เหงื่อสีดำเมี่ยมที่มีกลิ่นเหม็นเน่าเริ่มซึมออกมาจากรูขุมขน
"ยาพิษ... แน่ๆ..." ต้นกล้ากัดฟันกรอด หน้าแดงก่ำ เส้นเืปูดโปน "แป้ง... ทนไว้นะ..."
ความเ็ปทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนสติของทั้งคู่เริ่มเลือนราง
แป้งหอมรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะะเิ ไขมันใต้ิัร้อนวูบวาบเหมือนถูกไฟเผา
ส่วนต้นกล้ารู้สึกเหมือนดวงตากำลังถูกคว้านออกมาด้วยเหล็กเผาไฟ
ทั้งสองเอื้อมมือไขว่คว้าหากันในความทรมาน จนปลายนิ้วัักันและเกี่ยวกระหวัดไว้แน่น
ก่อนที่สติสัมปชัญญะสุดท้ายจะดับวูบลง พร้อมกับร่างกายที่เริ่มเปล่งแสงสีขาวนวลออกมาห่อหุ้มร่างของทั้งคู่เอาไว้... คล้ายดักแด้ที่กำลังรอวันถือกำเนิดใหม่!
