“ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะดังประสาน น้องหกถอนหายใจ เฮ้อ เรียนรู้เื่ใหม่ได้อีกเื่แล้ว ต่อไปเวลาจะพูดคำพูดน่าฟัง จะต้องไม่พูดให้มันมากมายจนเกินไป ไม่เช่นนั้นจะทำให้ตัวเองถูกบีบกลับมาตายได้!!
เนื่องจากยังเหลือเวลาอีกสิบวันจะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ดังนั้นการจะเข้าไปทำความเข้าใจกับตลาดก็ต้องอาศัยจังหวะนี้ วันนั้นหลังจากทำขนมไหว้พระจันทร์เสร็จไปแล้ว เช้าตรู่วันต่อมา เฉินเนี้ยนหรานกับเฉินจื่อิและลูกชายอย่างต้าหลางก็ถือตัวอย่างเดินพากันเดินทางเข้าไปในอำเภอ
จะไปในอำเภอจะต้องนั่งเรือ ไม่ก็นั่งรถม้า
เพื่อร่นระยะทาง ครั้งนี้ทั้งสามคนถึงจะรู้สึกว่าค่าเดินทางช่างแพงเหลือเกิน แต่ก็ไม่เขียมกับค่าใช้จ่ายเพียงเท่านี้
“เฮ้อ รถม้าเอ๋ยรถม้า ในตอนนี้สิ่งที่เร็วที่สุดก็คือรถม้า จริงด้วย หากการเจรจาธุรกิจของพวกเราครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ก็มีปัญหาเื่การส่งสินค้าแล้ว!”
นั่งอยู่ระหว่างการเดินทาง เฉินเนี้ยนหรานถึงคิดได้ว่าสมัยนี้ไม่มีพวกบริการขนส่งสินค้าอะไรพวกนี้นี่
จะส่งสินค้าทำอย่างไรดี?
“เื่นี้เ้าไม่ต้องกังวล ขอแค่เจรจาธุรกิจได้สำเร็จ พวกเราสามารถขอให้คนขี่ม้ามาส่งของให้ได้ หลายปีมานี้ข้าทำธุรกิจอยู่ด้านนอก ก็พอจะเข้าใจเื่ม้าเร็วส่งของอยู่บ้าง พวกเขามีคนรับเจรจาธุรกิจโดยเฉพาะ หลังจากเจรจาเสร็จแล้ว ค่อยเอาสินค้าส่งไปที่ต่างๆ อย่าหาว่าอะไรเลยนะ ถึงแม้ธุรกิจนี้จะเป็คนมีอิทธิพลจากหลากหลายพื้นที่มาทำธุรกิจ แต่ความน่าเชื่อถือก็พอใช้ได้ เวลาในการขนส่งสินค้า ปกติแล้วก็สามารถคาดการณ์เวลาที่สินค้าจะส่งถึงได้ อีกทั้งหากเกิดความเสียหาย ก็จะมีเงินค่าชดเชยให้ และแน่นอนว่าหาก้าเงินชดเชยค่าประกันเพิ่มเติม ก็จะต้องเสียเงินเพิ่มเป็เงินค่าประกันล่วงหน้า”
เฉินเนี้ยนหรานตะลึงค้างไป วิธีการส่งเช่นนี้ เหมือนกับบริการรับส่งของในยุคปัจจุบันเลยไม่ใช่หรือ ใครบอกคนโบราณไม่ฉลาดกัน? ดูนี่สิ คนโบราณที่นี่ฉลาดมากเลยทีเดียว เขาไม่มีรถ แต่ก็มีม้าเร็ว จากคำพูดของท่านลุงแล้วฟังออกได้ไม่ยาก คนที่ดูแลรถม้านี้พวกนี้ก็ไม่ใช่คนที่มีสถานะที่มือสะอาดบริสุทธิ์มากเท่าไร
บางทีไม่แน่อาจจะยังมีมาเฟียแบบที่คนในยุคปัจจุบันเรียก ซึ่งในยุคสมัยนี้ แน่นอนว่าพวกมาเฟียเองก็จะมีชื่อเรียกกันเป็กลุ่ม
มีพวกเขามาคุ้มการส่งสินค้า แล้วออกการรับประกัน…แล้วเลือกรูปแบบการรับประกันจากความสำคัญของสินค้าของตนเอง คนที่เปิดกิจการส่งสินค้านี้ หากอยู่ในยุคปัจจุบัน จะต้องเป็ผู้ริเริ่มบริษัทขนส่งสินค้าแน่นอน
“ม้าเร็วนี่สามารถแก้ไขเื่ยุ่งยากให้คนมากมายจริงๆ ท่านลุง การขนส่งแบบนี้มีทั่วแคว้นเลยหรือไม่?”
“ไม่ใช่หรอก มันเพิ่งจะมีมาเมื่อไม่กี่ปีก่อนนี้เอง ได้ยินมาว่าเพิ่งจะเริ่มขนส่งตอนสมัยของพวกเรานี่แหละ เรียกว่ากลุ่มม้าเร็วอะไรสักอย่าง ต่อมามีคนเห็นว่าธุรกิจขนส่งนี่ไม่เลวเลย จึงมีหลายที่เปิดขึ้นตามมา แต่ว่า ธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือที่ดีที่สุด ก็ต้องเป็ม้าเร็วของต้าตางเจียผู้ชาญฉลาดนี่ล่ะ”
“ต้าตางเจีย? ชื่อนี้ ข้าฟังแล้วรู้สึกคุ้นมากเลยทีเดียว!” เฉินเนี้ยนหรานขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างจริงจัง นางเคยได้ยินชื่อนี้จริงๆ เพียงแต่คิดไม่ออก
ต้าหลางที่อยู่ด้านข้าง ได้ยินคำว่า ‘ต้าตางเจีย’ ก็ตื่นเต้นขึ้นมา
“ต้าตางเจีย แม่หนูหราน เ้าคงได้ยินจากที่ข้าพูดเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าต้าตางเจียเปิดร้านเสื้อผ้าใหม่อีกร้านน่ะ หากพูดถึงต้าตางเจียแล้ว ข้านับถือพวกเขามากเลยนะ ประมาณเมื่อสี่ปีก่อนนี่แหละที่ปรากฏร้านอาหารหนึ่งที่ใช้ชื่อว่าต้าตางเจีย ขายแค่ของกินง่ายๆ แต่ก็เป็ของหวานที่อร่อยมาก พวกเขาค่อยๆ พัฒนาเติบโต หลังจากธุรกิจมั่นคงขึ้นมาแล้ว ต้าตางเจียก็เปิดโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ขึ้น แล้วยังมีร้านขายเสื้อผ้า รวมถึงร้านขายข้าว จนกระทั่งถึงธุรกิจม้าเร็ว…ตอนนี้ข้าสงสัยแล้วว่า ต้าตางเจียนี่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตทั้งหมดของพวกเราเลยหรือ ไม่ว่าอะไรล้วนเปิดมาหมดแล้ว เ้าดูสิ สัญลักษณ์ที่มีรูปร่างเช่นใบไม้นั่น จะต้องเป็ร้านของต้าตางเจียเป็แน่….”
ในตอนนั้นเอง ที่รถม้าวิ่งผ่านร้านที่มีสัญลักษณ์รูปใบไม้โค้ง ทั้งตัวก็ตกลงไปในความตื่นตะลึง
ใบไม้นั่น นาง…เหมือนจะเคยเห็นมาก่อน หากจำไม่ผิด…ข้างขาของคนคนนั้น…
เฉินเนี้ยนหรานสูดลมหายใจเข้า ไม่กล้าที่จะคิดต่อ ทั้งหมดมันไม่สมเหตุสมผลเกินไปแล้ว บางที มันอาจจะแค่ความบังเอิญเท่านั้น โจวอ้าวเสวียนจะเก่งกาจขนาดนั้นได้อย่างไร ตอนนั้นเขาอายุเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น บุรุษที่อายุไม่กี่สิบปีจะไปเริ่มสร้างร้านั้แ่เมื่อสี่ปีก่อนได้อย่างไร
เขาเป็แค่คนคนหนึ่ง คนธรรมดา เป็บุรุษแสนธรรมดาที่เพิ่งเปลี่ยนมาเป็บุรุษเต็มตัวได้ไม่นานมานี่เท่านั้นเอง!
ดังนั้นทั้งหมดนี่... นางไม่เชื่อ ไม่มีทางยอมรับว่าคนคนนั้นเก่งกาจขนาดนี้แน่นอน
เพียงแต่... นางกลับรู้สึกผิดอยู่นิดหน่อย ด้วยความรู้สึกว่าบุรุษคนนั้นบางทีอาจจะเก่งกาจขนาดนี้ก็เป็ได้
“แม่หนูหราน…?” เฉินจื่อิเห็นเฉินเนี้ยนหรานตะลึงค้างไม่ได้สนใจตน จึงร้องเรียกออกมา
“หา? ท่านลุง มีอะไรหรือเ้าคะ?” พอดึงสติกลับมาได้แล้ว เฉินเนี้ยนหรานก็ส่งยิ้มกระอักกระอ่วนไปให้เฉินจื่อิ
“ไม่มีเื่อะไรพิเศษหรอก ข้าอยากจะถามความเห็นเ้าน่ะ ว่าทำไมต้าตางเจียถึงได้เปิดร้านค้าที่ไม่ได้เจาจะจงเอาไว้หาเงินง่ายๆ ตามลูกค้าข้างทาง ไม่ได้โดดเด่นอย่างเช่นร้านน้ำชาที่พวกเราเห็นเมื่อครู่”
เฉินเนี้ยนหรานตั้งใจคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้พูดการคาดเดาของตัวเองออกมา
“ข้าคิดว่า ธุรกิจใหญ่ธุรกิจหนึ่ง อาจไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อเอาไว้หาเงิน จริงอยู่ที่มีบางครั้งก็ต้องเปิดร้านที่ถือว่าเป็การคืนกำไรให้แก่ลูกค้า จึงจำเป็ต้องเปิดร้านประเภทนี้ขึ้นมา ทว่าจากร้านข้างทางที่พวกเราเพิ่งจะเห็นเมื่อครู่ จากขนาดธุรกิจของต้าตางเจียในตอนนี้ ไม่จำเป็ต้องเปิดร้านน้ำชาเล็กๆ ข้างทางเช่นนี้เลย”
“แต่มันก็ยังมีอยู่... แถมยังเปิดได้น่าสนใจมาก ข้าคิดว่านี่ก็เพียงพอที่จะแสดงออกมาแล้วว่าของเ้าของต้าตางเจียมีสายตากว้างไกล มีความรู้ที่ชาญฉลาด”
นางกล่าวต่อว่า “เขาเปิดร้านเช่นนี้ออกมา ไม่ใช่เพื่อหาเงิน แต่…เป็เหมือนกันฐานทัพลับของตน มีบางครั้ง การดำเนินการทางธุรกิจเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มา อาจจะ้าข้อมูลที่เผยแพร่มาจากร้านน้ำชาที่อยู่ข้างถนน แถมในยุคสมัยที่ข้อมูลและการเดินทางยังไม่ค่อยชัดเจนนัก จึงต้องอาศัยวิธีใช้สายตาคอยจ้องมองเพื่อรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ถึงจะสามารถที่ทำให้ธุรกิจพัฒนาไปได้ไกล”
นางกล่าวสรุปสุดท้ายว่า “ร้านน้ำชาข้างถนนเช่นนี้ ความจริงแล้วความสามารถที่สำคัญที่สุดก็คือการสอบถามข้อมูล รวบรวมรายงานเกี่ยวกับข่าวสารที่มีมูลค่า พูดกันแบบเฉพาะเจาะจงก็คือ สถานที่นี่ก็คือสายตาที่คอยลอบมองของพวกเขา!”
เฉินจื่อิตะลึงไป เขามองเฉินเนี้ยนหรานอย่างประหลาดใจเงียบๆ อยู่นาน กลับเป็ต้าหลางที่หลังจากได้ยินการวิเคราะห์จากนาง ถึงได้เข้าใจขึ้นมาทันที “อ๋อ ที่แท้ก็ยังมีความสามารถเช่นนี้อยู่ด้วย ข้าคิดไว้อยู่แล้ว ร้านน้ำชาเล็กๆ แต่ดันเป็ของต้าตางเจีย เื่นี้เข้าใจยากอยู่นิดหน่อยจึงคิดอยู่นานเชียว ที่แท้ต้าตางเจียเปิดธุรกิจมากมายขนาดนี้จะมีร้านเล็กขนาดนี้ไว้ทำไม ความจริงแล้วก็คือคอยให้เป็หูเป็ตาทางอ้อมนี่เอง”
เฉินเนี้ยนหรานพยักหน้า อดทนจะชื่นชมต้าหลางไม่ได้
“ใช่ ต้าหลางเ้าสามารถวิเคราะห์ได้เช่นนี้ก็ถือว่าพัฒนาไปอีกขั้นแล้ว คนที่ทำธุรกิจน่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือข้อมูล ตอนนี้ข้อมูลของพวกเรายังไม่ไวพอ ดังนั้นต่อไปจงจำไว้ว่าการควบคุมข้อมูลใหม่เอาไว้ในมือหนึ่งได้ ย่อมหมายความว่าเ้าได้ควบคุมข้อมูลความร่ำรวยขุมใหม่เอาไว้ในมือแล้ว”
นางกล่าวเสริมว่า “ข้าอดนับถือไม่ได้ว่าคนที่อยู่เบื่องหลังต้าตางเจีย จะต้องเป็คนที่มีสายตากว้างไกลมากเลยทีเดียว การคิดวิเคราะห์เองก็รอบคอบมาก สามารถพัฒนาธุรกิจมาได้ขนาดนี้ ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะปูความมั่นคงในทุกย่างก้าวของตัวเอง ผู้ที่ทำการค้าเช่นนี้ ข้าเชื่อว่าเขาสามารถเดินไปได้อีกไกลมาก”
“หากข้าคาดการณ์ไม่ผิด ให้เวลาพัฒนาไปอีกไม่กี่ปี ธุรกิจของเขาจะต้องพัฒนาไปจนถึงเมืองหลวงได้เป็แน่ อาจจะขยายไปทั้งแคว้นหรือบางที...ไปในที่ที่ไกลกว่านี้ก็เป็ได้... แน่นอน จะต้องดูว่าเ้าของต้าตางเจียคนนี้จะมีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ กล้าพอหรือไม่”
พอพูดประโยคนี้จบ เฉินจื่อิกับต้าหลางก็อ้าปากค้าง ล้วนไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้สักคำ
พวกเขาเป็เพียงแค่พ่อค้าขายของร้านเล็กๆ จะไปคิดได้รอบคอบเช่นนี้ได้อย่างไร
หลังจากเฉินจื่อินิ่งไปได้ครู่หนึ่ง ถึงได้ถอนหายใจออกมา มองเฉินเนี้ยนหรานอย่างรู้สึกเสียดาย “แม่หนูหราน ข้าอดที่จะพูดไม่ได้ว่าน่าเสียดาย...ที่เ้าเป็สตรี หากเ้าเป็บุรุษ ข้าเชื่อว่าจากความชาญฉลาดของเ้า แล้วก็ความพลิกแพลงของเ้า ในโลกธุรกิจนี้คงสามารถอยู่ได้ราวกับปลาได้น้ำเหมือนกับต้าตางเจีย”
เฉินเนี้ยนหรานส่ายหน้า ไม่ได้เห็นด้วยกับคำพูดของเฉินจื่อิ
“ไม่หรอกเ้าค่ะ ท่านลุง ท่านพูดผิดแล้ว จะทำธุรกิจแทรกแซงไปในทุกๆ แขนงเช่นต้าตางเจีย ธุรกิจนี้ไม่ใช่ข้าที่เป็ประชาชนคนตัวเล็กๆ จะสามารถทำได้”
“การทำธุรกิจน่ะ ไม่ได้อาศัยแค่สมองอันชาญฉลาดอย่างเดียว ยังจะต้องมีสายตาที่สามารถมองเื่ราวอย่างแข็งแกร่งพวกนี้ด้วย”
“ท่านลุง ท่านเองก็ไม่ได้แย่นะเ้าคะ แต่ท่านกลับเฝ้าพัฒนาร้านค้าเล็กๆ ของท่านเพียงอย่างเดียว อย่างมากที่สุด ท่านก็คงสามารถเปิดร้านเพิ่มได้แค่ไม่กี่ร้าน แต่หากท่านคิดอยากจะยื่นมือเข้าไปแทรกในธุรกิจแขนงอื่นด้วย หรือจะไปทางด้านอาหารที่เดิมทีคนก็ทำกันอย่างแพร่หลายแล้ว หรือจะทำโรงเตี๊ยมแบ่งขายขนมหวาน ท่านคิดว่า พวกคนที่อยู่ในสาขาเดียวกันจะเป็อย่างไร? จะต้อนรับท่านหรือไม่? และเื้ัของพ่อค้าพวกนี้ต่างมีผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ให้คอยพึ่งพิงกันใช่หรือไม่? ข้าขอลองถามท่านลุงสักอย่างนะเ้าคะ หากตอนนี้มีคนเข้ามาหาโดยจงใจทำให้ท่านลำบาก ท่านยังจะเปิดร้านนี้อยู่หรือไม่?”
คำถามที่ถามกลับมาทำเอาสีหน้าของเฉินจื่อิถึงกับซีดเผือด
เดิมทีเขาเพิ่งจะมีความคิดจะทำธุรกิจใหญ่ ก่อนที่ความคิดนี้จะพังทลายไปเพราะคำพูดเช่นนี้ของเฉินเนี้ยนหราน
“เฮ้อ...แม่หนูหราน ยิ่งข้าอยู่ใกล้ชิดกับเ้า ได้พูดคุยกัน ก็ยิ่งรู้สึกว่าการที่เ้าเป็สตรีคนหนึ่ง ช่างน่าเสียดายยิ่งนักจริงๆ ความสามารถในการศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนและคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงน่ะ ต้าหลาง เ้าจะต้องเรียนรู้จุดนี้มาจากแม่หนูหรานเขานะ ในจุดนี้น่ะ ข้าเองก็สู้หลานอย่างเ้าไม่ได้ ไม่ผิด สิ่งที่แม่หนูหรานพูดมาถูกต้องแล้ว การทำธุรกิจไม่ใช่แค่้าเพียงสมอง หากเ้ามีสายตาที่กว้างไกลก็สามารถที่จะทำเื่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งได้”
“สิ่งสำคัญที่สุด จะต้องมีผู้มีอิทธิพลมาให้พึ่งพา หากไม่มีที่พึ่งพิง ยามมีเื่อะไรเกิดขึ้น เกรงว่าเ้าจะตายได้น่าอนาถกว่าใคร หลายปีก่อน ข้าเองก็มีเพื่อนที่พัฒนาไปได้ไว มือก็แทรงแซงเข้าไปที่ธุรกิจอื่นได้สำเร็จ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวอย่างรวดเร็วและน่าอนาถเหลือเกิน พอคิดขึ้นมาตอนนี้ เกรงว่าสินค้าของเขาคงไม่ได้จมไปกับเรือ แต่เป็...”
เฉินจื่อิไม่ได้พูดต่อไป แต่เฉินเนี้ยนหรานกลับเข้าใจอย่างถ่องแท้ พ่อค้าที่มีคนดันหลังไม่หนาพอ หากอยากจะทำเื่ใหญ่โตให้ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เช่นนั้นก็เท่ากับเป็การรนหาที่อย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่ว่าจะเป็ยุคโบราณหรือปัจจุบัน ไม่ว่าธุรกิจใด ต่างมีคนบงการอยู่เื้ักันทั้งนั้น
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ในสาขาอาชีพต่างๆ จะยอมให้เข้าไปตัดหน้าเพื่อแย่งผลประโยชน์ของพวกเขามาง่ายๆ ได้อย่างไร
“ต้าหลาง หากต่อไปสามารถเชื่อมสัมพันธ์กับคนของต้าตางเจียได้จริงๆ ต้องเป็เพื่อนที่ดีต่อกันไว้นะ”
“ข้าเข้าใจแล้ว!” ต้าหลางรีบรับคำ “เพราะว่าเ้าของต้าตางเจียคนนี้สามารถทำธุรกิจไปได้หลายแขนงเช่นนี้ ก็สามารถบอกได้เลยว่าเขาเก่งกาจมากที่สามารถเปิดธุรกิจได้ทุกแขนงอาชีพ หากเป็คนที่พวกเราสามารถเชื่อมความสัมพันธ์ไว้ได้ล่ะก็ คงจะดีต่อพวกเราไม่น้อยเลยจริงๆ น่าเสียดาย ต้าตางเจียที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ พวกเราจะเชื่อมสัมพันธ์กับเขาได้หรือ?”