ครอบครัวท่านลุงเหมาะกับการทำการค้า แต่ในบรรดาคนในครอบครัวนั้นต้าหลางเป็คนที่เก่งที่สุด หากสามารถพาเขาไปฝึกฝนได้ เื่นี้จะส่งผลต่อการพัฒนาของครอบครัวท่านลุงไม่น้อยเลย
“ถ้าเ้าเรียกข้าว่าท่านพี่ ไม่เรียกแม่หนูหราน บางทีข้าอาจจะไปพูดกับท่านลุงให้ได้นะ” เฉินเนี้ยนหรานยิ้มเ้าเล่ห์ ความจริงแล้วต้าหลางแก่กว่านางหนึ่งปี แต่เพราะว่าเขาหน้าอ่อนวัย เฉินเนี้ยนหรานถึงได้รู้สึกว่าเขาดูเหมือนน้องชายของนางมากกว่าพี่ชาย
“แม่หนูหราน!!” ต้าหลางโกรธแล้ว หันหน้าหนีไม่สนใจนาง ท่าทางโกรธจัดทำเอากวนซูเยวียนกับเฉินจื่อิที่อยู่ด้านข้างถึงกับหัวเราะออกมา
ขนาดน้องห้ากับน้องหกที่นั่งเล่นไปกินขนมไหว้พระจันทร์ไปอยู่ก็ยังหัวเราะไม่หยุด
“ท่านพ่อ… ท่านให้ข้าไปด้วยเถิด!” ต้าหลางร้อนใจแล้วจริงๆ เขาโกรธจนหน้าแดงระเรื่อจนดูน่าสงสาร มองไปทางเฉินจื่อิ หวังว่าเขาจะตอบรับตน เช่นนั้นก็ไม่ต้องถูกเฉินเนี้ยนหรานหยอกล้อแล้ว
เฉินจื่อิเมินสายตาขอความช่วยเหลือจากลูกชายตน กระแอมออกมาแล้วยกชาดอกเบญจมาศที่เฉินเนี้ยนหรานต้มให้ตนเองขึ้นมาดื่ม “แค่ก... ชานี่ ดื่มแล้วให้ความรู้สึกไม่เลวเลย แม่หนูหราน แต่ก่อนข้ารู้เพียงการดื่มน้ำเปล่า และก็ไม่เคยคิดเลยว่าคนเราสามารถใช้ดอกเบญจมาศป่าที่เด็ดออกมาได้ตลอดเวลามาชงเป็ชาได้ หลังจากดื่มเ้านี่ไปก็รู้สึกว่าตาใสขึ้นมาก ดูเหมือนว่าเ้านี่จะช่วยแก้ร้อนในอย่างที่เ้าบอกจริงๆ ”
ต้าหลางมองบิดาตนเองที่ไม่สนใจตนก็ยิ่งโกรธ แต่ก็รีบปรับหน้าตาให้ยิ้มแย้มวิ่งไปตรงหน้ากวนซูเยวียน “ท่านแม่ วันนี้ท่านเหนื่อยมาทั้งวันแล้วใช่หรือไม่ มาๆ ข้าจะนวดให้ ตอนนี้ฝีมือต้าหลางดีขึ้นมากเลยนะ”
กวนซูเยวียนก็ไม่ได้ปฏิเสธ ปล่อยให้ต้าหลางนวดไหล่ของตนเองไป ตอนที่กวนซูเยวียนคลอดเปาจื่อออกมา นางก็มีโรคหลังคลอดติดตัว เพียงแค่เหนื่อยนิดหน่อยทั้งเอวทั้งขาก็จะปวดมาก
ต้าหลางเด็กยอดกตัญญูเห็นนางทุบเอวก็เสนอตัวนวดให้ เพียงแต่หลังจากต้าหลางอายุครบสิบห้าปีเต็มก็ไม่ค่อยเสนอตัวมานวดให้นางแล้ว กลับเป็พวกเด็กๆ ที่มักจะแย่งกันทำหน้าที่นี้แทน
วันนี้เจอต้าหลางเสนอตัวเช่นนี้ แน่นอนว่ากวนซูเยวียนไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว
“ท่านแม่รู้สึกอย่างไรบ้าง ฝีมือการนวดของข้าดีขึ้นหรือไม่ขอรับ?”
“ดีๆ ไม่เลวเลย”
“ฮ่าๆ ท่านแม่ ท่านดูสิว่าลูกชายของท่านกตัญญูกับพวกท่านขนาดนี้ เื่ไปเรียนรู้ด้านนอก ท่านรู้ใช่ไหมขอรับว่ามันเป็เื่ที่ดีน่ะ?”
“ใช่ เป็เื่ดีนะ อืม ตรงนี้ลงแรงหนักหน่อย เด็กดี นวดได้ไม่เลวเลยจริงๆ ”
“ขอรับ ท่านแม่! เช่นนั้นท่านแม่รู้ว่าหากข้ามีพัฒนาการที่ดีมีสง่าราศี เช่นนั้นท่านแม่ที่เป็มารดาของข้าก็จะดูมีสง่าราศีเช่นกันใช่หรือไม่ขอรับ?”
“แน่นอนสิ ข้าหวังเสมอว่าพวกเ้าจะสามารถทำให้ข้ามีหน้ามีตาได้”
“ฮ่าๆ ดังนั้นท่านแม่ให้ข้าไปด้านนอกกับพวกเขาได้ใช่หรือไม่ขอรับ?”
“….” กวนซูเยวียนไม่ได้พูดอะไร ไอ๊หยา เ้าลูกชาย เ้าฝีมือนวดดีขนาดนี้ ข้าจะปล่อยเ้าไปได้อย่างไร
ไม่ได้ๆ จะอย่างไรก็ต้องเสพสุขกับการนวดตรงนี้จนพอใจก่อนถึงจะยอมพูดออกมา
…..
น้องหกเป็เด็กแสบพอเห็นป้าสะใภ้ใช้ต้าหลางนวดเช่นนั้น นางก็วิ่งเข้าไปหาแล้วพูดข้างหูของต้าหลางอย่างจริงจังว่า “ท่านพี่ ข้าจะบอกให้นะว่า ท่านพี่เนี้ยนหรานน่ะฟังคำพูดของข้ามากที่สุดเลย”
“หา?” มือของต้าหลางอ่อนลง ตามองไปทางเฉินเนี้ยนหรานที่พูดกับบิดาของตนเองอยู่ไม่ไกล ก่อนจะยื่นหน้าไปตรงหน้าน้องหก “เช่นนั้น…น้องหกช่วยข้าพูดหน่อยได้หรือไม่ อีกเดี๋ยวข้าจะซื้อลูกอมให้เ้ากิน”
กวนซูเยวียนได้ยินที่ทั้งสองกระซิบกระซาบกันก็รีบตีหลังมือต้าหลางทันที “ต้าหลาง อย่าแอบี้เีนะ ตรงนี้ลงแรงหนักๆ หน่อย”
“แค่ลูกอมเองหรือ? ท่านพี่ ข้าชอบตุ๊กตาหน้าตาไม่เลวตัวหนึ่ง เพียงแต่ตุ๊กตาตัวนั้นเหมือนจะมีราคาอยู่นิดหน่อย เฮ้อ น้องหกจึงไม่กล้าแสดงออกว่าอยากได้มาตลอด”
เพื่อให้น้องหกช่วยตนเองพูด ต้าหลางในตอนนี้ถึงอีกฝ่ายพูดอะไรเขาก็รับคำไว้ทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงตบอกตนเองเป็การรับประกัน “น้องหกเ้าพูดมาเถิด ท่านพี่คนนี้จะต้องช่วยให้เ้าสมหวังอย่างแน่นอน”
“ขอบคุณท่านพี่เ้าค่ะที่ดูแล ข้า้าเพียงแค่สองร้อยอีแปะ ไม่เยอะใช่หรือไม่เ้าคะ เช่นนั้นมอบเงินมาให้ข้าเถิดเ้าค่ะ”
ใบหน้าของต้าหลางกระตุกยิกๆ มองรอยยิ้มสดใสราวกับดอกไม้ของน้องหก ก็ทำได้แค่ล้วงเงินสองร้อยอีแปะออกมาให้
น้องหกพอเห็นว่าได้เงินมาแล้ว ั์ตาคู่นั้นก็โค้งขึ้นเล็กน้อย นางยิ้มออกมาเผยฟันขาวสะอาดสองซี่ออกมาจนคนมองแสบตา
“ฮี่ๆ ขอบคุณท่านพี่ ข้าจะช่วยท่านพูดเอง วางใจได้เลย ข้าจะหาไปพูดคำพูดดีๆ มาแน่นอน เพียงแต่ว่า หากได้พี่ห้ามาช่วยพูดอีก ท่านพี่สี่จะต้องรับปากแน่นอน เพราะว่าพี่เนี้ยนหราน นางรักพวกเราสองคนพี่น้องมากที่สุด พี่สาวของข้าเองก็ชอบตุ๊กตาไม้อันนั้น เฮ้อ…”
เสียงถอนหายใจเฮ้อของน้องหก ทำเอากวนซูเยวียนผู้กำลังมีความสุขกับการนวดได้ยินเข้าก็ถึงกับหัวใจกระตุก หากไม่ใช่ว่าตอนนี้ต้าหลางกำลังนวดให้ตนเองอยู่ นางคงจะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นไปแล้ว เ้าหนูหกคนนี้ แต่ก่อนไม่รู้เลยว่านางจะฉลาดถึงเพียงนี้
ดูสิ เพียงครู่เดียวก็มองออกว่าทุกคนกำลังแกล้งต้าหลางอยู่
แถมต้าหลางลูกชายของนางก็ราวกับเป็คนโง่คนหนึ่ง เฮ้อ แต่ก่อนก็ฉลาดอยู่หรอกนะ ก็ไม่รู้ว่าความฉลาดแต่ก่อนนั้นมันไปตกหล่นที่ไหนเสียแล้ว ดูเหมือนว่าขอแค่เป็เื่ที่เกี่ยวข้องกับแม่หนูหราน ต้าหลางของนางก็จะสูญเสียสติและความประมาณตนไป
“ได้ นี่เงินอีกสองร้อยอีแปะ เ้าเอาไปให้น้องห้าซื้อตุ๊กตามาสักตัวเถิด”
น้องห้าที่อยู่ไม่ไกล ได้ยินประโยคนี้เข้าแก้มก็แดงระเรื่อ ถลึงตามองน้องหก เ้าเด็กคนนี้ ตนเองจะทำเื่ไม่ดี ก็ยังกล้าลากนางเข้าไปร่วมด้วยอีก เฮ้อ หลังจากกลับเรือนไปแล้วจะต้องสั่งสอนนางสักหน่อย
เมื่อเงินสี่ร้อยอีแปะมาอยู่ในมือตนเองแล้ว ปากของน้องหกก็ยิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิม
เด็กน้อยพูดขอบคุณต้าหลางเป็ชุด “ขอบคุณท่านพี่ ขอบคุณท่านพี่ พวกเราจะต้องช่วยท่านพูดอย่างดีเลยเ้าค่ะ”
เด็กน้อยพอได้ดั่งใจแล้วก็ลงมือทำงานจริงๆ หลังจากเก็บเงินเรียบร้อยแล้ว ก็รีบวิ่งไปอยู่ตรงหน้าของเฉินเนี้ยนหราน พร้อมกับยื่นใบหน้าอ้วนๆ ส่งยิ้มไปทางเฉินเนี้ยนหรานโดยที่ไม่พูดอะไร
เฉินเนี้ยนหรานเองก็ยิ้มตาหยีมองน้องสาวของตนเอง อยากจะรู้ว่าเ้าเด็กน้อยคนนี้จะเอาอะไรมาพูดเพื่อโน้มน้าวตนเอง กวนซูเยวียนกับเฉินจื่อิสองสามีภรรยาเองก็รอชมเื่สนุก ไม่ได้มีความคิดที่จะห้ามสักคำ
ในใจของเฉินจื่อิทอดถอนใจ แต่ก่อนสนใจแค่การทำธุรกิจ ไม่ค่อยได้คุยเล่นกับพวกลูกๆ เท่าไร ตอนนี้หลังจากที่มาร่วมมือทำธุรกิจกับพวกเฉินเนี้ยนหราน เขาก็พบว่าการได้อยู่กับพวกเด็กๆ ความจริงแล้ว….ก็เป็เื่ที่ดีเลยทีเดียว!
“ท่านพี่งดงามจริงๆ เ้าค่ะ!” หลังจากที่น้องหกใช้ดวงตากลมโตเป็ประกายวิบวับมองพิจารณาเฉินเนี้ยนหรานอย่างตั้งใจ กลับไม่ได้พูดคำขออะไรออกมา แต่กลับพูดประโยคที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยออกมาแทน
“อ๊ะ น้องหกเองก็น่ารักมากเลย” พอถูกน้องหกชมแบบนี้ เฉินเนี้ยนหรานก็รู้สึกผิดขึ้นมา เ้าน้องคนนี้เ้าจะสำรวมสักหน่อยไม่ได้หรือ ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ ยังใช้สายตาชื่นชมความงามแบบนั้นมามองพิจารณาหน้าตาคนอื่นเขาอีก…
“ท่านพี่ จมูกของท่านโด่งสวย ริมฝีปากก็เป็กระจับงดงาม ใบหน้าเรียวเล็กได้รูป ผิวขาวราวหิมะ ดวงตาก็มีชีวิตชีวา คิ้วโค้ง…”
เื่ที่ทำให้ทุกคนใได้เกิดขึ้นแล้ว เ้าน้องหกตัวแสบ คำพูดที่ปากเล็กเจื้อยแจ้วออกมาล้วนแล้วแต่เป็คำชมทั้งสิ้น เฉินเนี้ยนหรานเหงื่อแตกพลั่กๆ แล้วจริงๆ ์ คำพูดพวกนี้นะ ล้วนแต่เป็คำพูดที่นางสอนน้องสาวในเวลากลางคืนทั้งนั้น
ทุกครั้งที่เรียนได้หนึ่งคำ น้องทั้งสองก็จะถามว่ามันหมายความว่าอย่างไร จำได้ว่านี่คือคำชมว่าสวย แล้วก็มีวันหนึ่งตอนที่ได้เรียนรู้กับความสวย ความงาม …นางก็ได้อธิบายไปรอบหนึ่งว่า
‘จงพูดอะไรที่คนในโลกนี้ชอบฟัง’ หากอยากจะขอให้สตรีคนหนึ่งทำอะไรให้ อย่าได้เอ่ยคำขอไปก่อน จงเอ่ยคำพูดที่น่าฟังออกไปก่อน
ตอนที่คนคนนั้นดีใจก็ค่อยเอ่ยคำขอออกไปอย่างสมเหตุสมผล แน่นอน... เื่นี้จะต้องดูผลลัพธ์ของคำกล่าวชมอีกทีว่าอีกฝ่ายจะยินยอมรับไปหรือไม่ หากคนคนนั้นสีหน้าไม่ดี เื่ที่จะขอนี้ ทางที่ดีก็อย่าได้เอ่ยออกมา ตอนที่สีหน้าของอีกฝ่ายดีขึ้นก็ค่อยเอ่ยคำขอออกไป
แท้จริงแล้ว... นางไม่ควรที่จะที่จะสอนพวกประจบคนเช่นนี้ออกไปเลย ดูสิ น้องหกถึงได้เอามาใช้กับนาง เฮ้อ ควรจะชมว่าน้องหกเป็เด็กฉลาด หรือว่าควรจะต่อว่าตนเองที่มักจะสอนพวก…เื่วิธีการรับมือคนให้เด็กใสซื่อพวกนี้ดี!
น้องหกพูดชมออกมาเป็ชุด แต่กลับเห็นสีหน้าของพี่สาวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ในตอนนั้นนางจึงรู้สึกร้อนรน คำพูดของท่านพี่คงไม่ได้เชื่อถือไม่ได้หรอกใช่หรือไม่ ฮือ น่าขายหน้านัก ทั้งๆ ที่ทั้งหมดนี้เป็ท่านที่สอนเองกับมือ เหตุใดถึงเอามาใช้กับท่านไม่ได้เล่า?!
มีเพียงต้าหลางที่ได้ยินคำชมของน้องหกแล้วในใจบังเกิดรู้สึกชื่นชม ดูสิ เงินสี่ร้อยอีแปะช่วยได้มากแค่ไหน เพียงเวลาคู่เดียวก็สามารถทำให้น้องหกมาถึงจุดนี้ได้ ทั้งยังลำบากให้นางพูดคำพูดดีๆ มากมายเพื่อตนอีก
“ท่านพี่ ท่านคือคนที่ผู้ใดเห็นผู้ใดก็รัก ดอกไม้เห็นก็ล้วนเบ่งบานเพื่อท่าน ข้าเห็นข้ายังถอนหายใจที่โลกนี้มีท่านพี่ที่งดงามขนาดนี้ ข้ารักท่านพี่คนงามที่สุดเลยเ้าค่ะ ข้าสามารถขออะไรท่านพี่ผู้งดงามสักอย่างได้หรือไม่เ้าคะ?”
เฉินเนี้ยนหรานมองน้องหกที่ทำท่าทางน่ารักอยู่ก็หมดคำพูด
นางถลึงตาใส่เด็กน้อยหนึ่งที “พอเลย ข้ายอมให้ต้าหลางไปด้วยแล้ว เ้านี่นะ จะชมคนน่ะจะชมออกมาตรงๆ แบบนี้ไม่ได้ จะต้องสำรวมเก็บถ้อยคำสักหน่อย พี่ไม่ได้สอนให้เ้าสำรวมหรือ? เพียงแต่ว่าที่เ้าพูดว่ารักข้าที่สุดนี่จริงหรือไม่?”
น้องหกถูกถามเช่นนี้ก็รีบพยักหน้า “จริง จริงมากๆ เ้าค่ะ ตอนนี้ในใจของข้ามีแค่ท่านพี่เพียงคนเดียว” เห็นพี่ห้ากับพวกกวนซูเยวียนกำลังใช้สายตาที่ซ่อนความแง่งอนเอาไว้มองมาทางตน น้องหกก็เริ่มเหงื่อตกคิดหนักแล้ว
มองเฉินเนี้ยนหรานที่ยิ้มไปถึงตาก็ต่อว่าในใจ แต่ปากก็ยังพูดชมเพื่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา “ท่านพี่ ที่ท่านพูดนั่นถูกต้องที่สุด การชมคนจะต้องสงวนคำพูดไว้สักหน่อย ท่านดูสิ ท่านดูสิ แม้แต่ท่านที่เป็อาจารย์ ท่านก็ยังชอบคำพูดน่าฟัง เพียงแต่ว่า ข้าเหมือนจะพูดเพื่อท่านมากเกินไป จนเผลอทำผิดกับอีกหลายคนเลย”
สายตาของนางมองไปรอบๆ ก่อนจะรีบพูดเสริมเพื่อขอความช่วยเหลือ “แน่นอน ในใจของข้า ก็มีพื้นที่กว้างๆให้ท่านพี่ห้าด้วย” นิ้วเล็กๆ กางออกทำขนาดออกมาเป็พื้นที่เท่านิ้วเล็กๆ เมื่อมีพื้นที่ให้ตนเองได้แทรกเข้ามา ดังนั้นดูเหมือนว่าน้องห้าจะพอใจแล้ว ก็ได้ ถึงแม้ตำแหน่งของนางจะไม่เยอะเท่าท่านพี่เนี้ยนหราน แต่ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้นางก็มีพื้นที่ในใจของน้องหกแล้ว
น้องหกมองไปทางพวกกวนซูเยวียน สองสามีภรรยาที่มองตนเองตาปริบๆ อยู่ด้านข้าง แล้วก็ยังมีต้าหลางที่ตอนนี้ก็ใช้สายเหมือนหมาน้อยขออาหารมองมาทางตน ในใจของนางก็กระตุกอย่างแรง เฮ้อ... คนที่อยากได้รับความรักเหล่านี้ น่าเศร้า…จริงๆ เลย
“แน่นอน ท่านป้า แล้วก็ท่านพี่ ท่านลุง พวกท่านก็อยู่ในใจเล็กๆ ของน้องหกเช่นกันเ้าค่ะ” ครั้งนี้ มือเล็กๆ พยายามกางออกให้กว้าง เมื่อเห็นเช่นนั้น…ดูเหมือนบรรดาคนที่เดิมทีกำลังผิดหวังอยู่จะรู้สึกสมหวังอีกครั้ง