ฮ่องเต้แห่งแคว้นตงอู๋ไม่คิดว่าจวินหวงถูกอาวุธลับแล้วยังมีแรงฮึดขึ้นมาได้อีก ชั่วพริบตาในสภาวะคาบลูกคาบดอก เขาลากตัวจวินอวี้ที่อยู่ด้านข้างมากำบังตนเองไว้
มีดดาบไร้ตาพุ่งเสียบเข้าที่แขนของจวินอวี้ตามการรุกโจมตีสุดกำลังของจวินหวง
"อ๊า!!!" เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ฮ่องเต้แห่งแคว้นตงอู๋เห็นแขนขวาของจวินอวี้ถูกตัดขาดในชั่วพริบตา จึงยกเท้าขึ้นถีบจวินหวงอย่างเหี้ยมโหด จวินหวงจุกเจ็บร้าวรานไปทั่วช่องท้อง กระบี่หลุดออกจากมือ ทิ้งร่างหงายหลังล้มลง กระอักเป็เืสดๆ พุ่งออกมา
"ข้าจะให้โอกาสเ้าเป็ครั้งสุดท้าย" สีพระพักตร์ของฮ่องเต้แคว้นตงอู๋เข้มขรึม "ยอมสวามิภักดิ์หรือว่าตาย!"
เื้ัเป็หน้าผา จวินหวงเช็ดเืบนริมฝีปากแล้วหัวเราะขึ้นมาทันที
"สวามิภักดิ์?" นางหยัดร่างโอนเอนลุกขึ้นมา สีหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน
คนผู้หนึ่งเผชิญหน้ากับทหารม้านับพัน แต่กลับปราศจากความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ร่างเล็กบอบบางของนางราวกับมีกลิ่นอายแห่งความห้าวหาญทระนงอย่างแรงกล้า เจิดจ้าจนผู้คนมิอาจมองโดยตรงได้
พระเนตรฮ่องเต้แคว้นตงอู๋จมลึก 'ผู้ครองหงสาโลหิตได้ครองใต้หล้า' เขาเคยดูิ่คำกล่าวนี้ตลอดมา แต่ชั่วพริบตานี้กลับตระหนักได้ในบัดดล
"หงสาโลหิตที่ตายแล้ว ยังจะนับเป็สิ่งใดได้อีก?" สีพระพักตร์ของฮ่องเต้แห่งตงอู๋บูดบึ้ง ยกพระหัตถ์ขึ้นบัญชาให้ทหารม้าถือทวนที่อยู่ด้านหลังเข้าบดขยี้จวินหวง
เกิดเป็คนของซีเชว่ ตายก็เป็ผีของซีเชว่!
แม้ชีพวายวาง นางก็ไม่ขอตายในมือศัตรู
"หนี้แค้นของครอบครัวและบ้านเมือง แม้ตายก็ไม่อาจปล่อยวาง!" จวินหวงหัวเราะบ้าคลั่งอย่างคนหัวใจแหลกสลายสูญสิ้นแล้วทุกสิ่ง ฉับพลันก็หันหลังแล้วะโลงหน้าผาไปอย่างไม่มีวันย้อนกลับ
ฮ่องเต้แห่งตงอู๋หน้าถอดสี เขารุดวิ่งมาที่ริมหน้าผาอย่างรวดเร็ว แต่กลับมองไม่เห็นเงาร่างของจวินหวงเสียแล้ว
ผาสูงหมื่นจั้ง ไร้โอกาสรอดชีวิต!
...
นอกเมืองซีเชว่
พลทหารม้ากองหนึ่งหวดแส้ควบม้าห้อตะบึง ทะยานมุ่งสู่เมืองหลวงซีเชว่
"รายงาน!" พลทหารม้าลาดตระเวนเร่งกลับมารายงานอย่างรีบร้อน "เบื้องหน้าระยะยี่สิบลี้พบทัพใหญ่ตงอู๋ มีพลทหารม้าประมาณห้าพันนาย กำลังเคลื่อนพลมาทางที่ตั้งทัพของเรา!"
"ตงอู๋ยกทัพกลับแล้วหรือ" ขุนพลผู้ซึ่งเป็ผู้นำถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "ซีเชว่ถูกข้าศึกยึดครอง แล้วพบที่พำนักขององค์หญิงแห่งซีเชว่หรือไม่?"
"ไม่พบรถส่งตัวนักโทษ และไม่มีเชลยศึกขอรับ!" พลทหารม้าตอบอย่างรวดเร็ว
ขุนพลนิ่งไปเพียงชั่วขณะ แล้วออกคำสั่งฉับพลัน "พลทหารทั้งหมดเตรียมดักซุ่มโจมตีข้าศึก!"
สองทัพเข้าประจัญบาน ผู้คนล้มตาย โลหิตหลั่งไหลกลายเป็สายน้ำ
"ตรวจนับเชลยศึกได้ความอย่างไร" ขุนพลในชุดเกราะสวมหมวกเหล็กเต็มยศ ทุกย่างก้าวเปี่ยมไปด้วยความองอาจ
"เรียนท่านแม่ทัพ เชลยศึกทั้งหมดสามร้อยยี่สิบสี่คน ผู้บัญชาการทัพอู๋หนีไปทางทิศบูรพา ผู้บัญชาการเิเยว่นำไพร่พลไล่โจมตีไปแล้วขอรับ"
"สอบถามได้ความหรือยังว่าองค์หญิงแห่งซีเชว่พำนักอยู่ที่ใด?" บุรุษผู้นั้นถอดหมวกเหล็กออก เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาอย่างชัดเจน
ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ คิ้วคมดุจดาบดวงตาราวกับดาราฉาย จมูกโด่งริมฝีปากบาง แต่ทว่าใบหน้านั้นกลับเรียบเฉยไม่มีการแสดงออกทางสีหน้า เยียบเย็นและแข็งกร้าวราวกับหินเหมันต์หนาเก้าฉื่อ
"ข้าน้อยได้ซักไซ้ไล่เลียงกับเชลย องค์หญิงแห่งซีเชว่... ถูกบังคับให้ะโหน้าผาไปแล้ว"
"ะโหน้าผา?" บุรุษผู้นั้นชะงักเท้าหยุดยืน แววตาส่องประกายเฉียบคม "ส่งคนออกไปค้นหาที่ก้นเหว อยู่ต้องเจอคน ตายต้องพบศพ!"
...
"ข้าอยู่บนูเาลึก… ฟ้ามืดไม่ปิดประตู..." ชายชราผมขาวผู้หนึ่งแบกกระบุงอยู่บนหลัง ปากก็ร้องเพลงเสียงเบาบางเป็ท่วงทำนองแปลกหู โคลงศีรษะไปมาเดินผ่านเข้าไปในป่า
ชายชราผมขาวใบหน้ามีเืฝาดราวกับเด็กน้อย สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบสีขาว ั์ตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยว
"เอ๋ ไม่ถูกต้องนะ!" เขาหยุดเท้าเดินฉับพลัน พลางย่นจมูกดมกลิ่นฟุดฟิด หัวคิ้วค่อยๆ ขมวดเข้าหากันอย่างช้าๆ "กลิ่นคาวเื?"
เขาพูดไปก็ค้นหาไป ทันใดนั้นก็เห็นคนร่างโชกเืพาดอยู่บนกิ่งไม้ ด้วยความใจึงสบถร้องพลางถอยหลังกรูดออกมาหลายก้าว
ไม่คิดว่าด้านหลังจะมีหินกรวดอยู่ก้อนหนึ่ง พอเขาก้าวถอยหลัง เท้าก็เลยพลาดเหยียบหินกรวดจนเสียหลักล้มลงกับพื้น
"ไอ๊หยา บั้นเอวของข้า!" เขาเจ็บจนร้องออกมาพลางนวดก้นของตนเอง แล้วมองไปที่คนบนต้นไม้ด้วยท่าทางโมโหฮึดฮัด "ถึงกับกล้าทำให้ข้าใเชียวหรือ เดี๋ยวข้าจะสั่งสอนเ้าให้ดู!"
แต่พอตั้งใจมองดีๆ ที่แท้ก็เป็หญิงสาวที่ได้รับาเ็คนหนึ่ง
ชายชราผมขาวออกแรงลากจวินหวงย้ายไปที่เตียงอย่างยากเย็น เหนื่อยจนหอบแฮก
"ทำเอาข้าเหนื่อยแทบตาย นี่ต้องกินยาบำรุงเสริมอีกเท่าไร บั้นเอวของข้าถึงจะกลับมาล่ะเนี่ย" ชายชราจับชีพจรของจวินหวงพลางทอดถอนใจอยู่ครู่ใหญ่ แต่จู่ๆ ก็มีสีหน้าจริงจังขึ้นมา
"จุ๊ๆ ชีพจรนี้ไม่ปกติ จะต้องถูกพิษแน่ๆ พิษนี้ข้าไม่เคยพบมาก่อนเสียด้วย" เขาเกาหูเกาแก้มขบคิดอยู่เป็เวลานาน "ไม่เห็นต้องสนใจ ลองให้กินยาดูก่อน แม่ตุ๊กตาหน้าตายกล้ามาทำให้ข้าใ คอยดูเถอะ ข้าจะสั่งสอนเ้าให้น่าดูเลยเชียว!"
เขาวิ่งตึงๆ ไปหยิบหยูกยาสารพัดมากองใหญ่ "นี่คือยาบำรุงธาตุหยินหล่อเลี้ยงปอดกรอกเข้าไปก่อน ไม่มีปฏิกิริยา? นี่ก็ช่วยคลายกล้ามเนื้อหมุนเวียนเื แต่นางเสียเืมากขนาดนี้ถ้าดื่มเ้านี่เข้าไปจะเสียเืจนตายหรือเปล่า? ช่างปะไรไม่สนใจซะอย่าง กรอกเข้าไปก่อนค่อยว่ากัน ยังไม่มีปฏิกิริยาอีก? งั้นอันนี้..."
เขาจับนางกรอกยากองใหญ่ไม่หยุด แต่หญิงสาวบนเตียงกลับไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่น้อย จนเขาอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ
"นังหนูตุ๊กตาช่างร้ายกาจ จับกรอกยาไปตั้งเยอะขนาดนั้น เป็คนทั่วไปก็คงร้องขอความตายไปตั้งนานแล้ว แต่เ้ากลับไม่มีปฏิกิริยาสักนิด..."
ทันใดนั้นดวงตาของเขาวาวโรจน์ขึ้นมา ตบตักหนึ่งฉาด "จริงสิ ข้ากำลังขาดหนูลองยาพอดี เ้ามันทนทายาดขนาดนี้ ก็เอาเ้ามาทดลองยาเสียเลยก็แล้วกัน!"
ค่ำคืนน้ำค้างพราว แสงจันทร์สุกสกาวลอดผ่านลายฉลุหน้าต่างฉาบฉายไปบนร่างเล็กที่อยู่บนเตียง สีหน้าขาวซีดของหญิงสาวเมื่ออยู่ภายใต้แสงจันทร์ ก็ยิ่งดูอ่อนแอและเปราะบาง
"เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ไม่นะ ไม่นะ ไม่...!" จวินหวงลุกขึ้นมานั่งโดยฉับพลัน หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ในฝันเสด็จพ่อเสด็จแม่ตายอย่างน่าอนาถ ทำให้นางเ็ปทุกข์ทรมานเจียนคลั่ง
ซีเชว่สิ้นแล้ว เสด็จพ่อเสด็จแม่ก็ตายอย่างน่าอนาถ น้องชายตัวน้อยไปอยู่แห่งหนใดไม่อาจรู้ นาง... นางไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
ภาพในความฝันแต่ละฉากประดุจคลื่นม้วนเกลียวโหมซัดเข้ามาในสมองของนางระลอกแล้วระลอกเล่า ภาพใบหน้าของจวินอวี้กับฮ่องเต้แห่งแคว้นตงอู๋สลับกันไปมาไม่หยุด นางมองไปยังนอกหน้าต่างอย่างงุนงง แต่แล้วก็พลันตื่นตะลึง
นาง... ยังไม่ตาย!
นางมองสองมือของตนเองอย่างเหลือเชื่อ นางยังมีชีวิตอยู่ นางะโลงมาจากยอดหน้าผา ไม่นึกว่าจะไม่ตาย
"ฮ่าๆ ฮ่าๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ!" นางส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับคนมึนเมาเสียสติ เสียงหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ ไปพร้อมหัวใจที่แหลกสลายและร้าวราน
ฟ้าคงนึกเวทนา ์จึงให้นางมีชีวิตอยู่ ในเมื่อนางรอดชีวิตมาได้ ก็ต้องแก้แค้นให้กับซีเชว่ และตามหาน้องชายให้พบให้จงได้!
"ค่ำมืดดึกดื่น เอะอะหนวกหูอันใด จะไม่ให้คนได้หลับได้นอนกันเลยหรือไร"
"ปัง" เสียงหนึ่งดังขึ้น ชายชราผมขาวใบหน้าดูมีเืฝาดท่าทางดุดันเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาจากด้านนอก แล้วชี้หน้าด่าจวินหวงอย่างสาดเสียเทเสีย
จวินหวงสังเกตเห็นาแบนร่างกายมีผ้าพันแผลพันไว้ ก็รู้ได้ว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้าเป็ผู้ที่ช่วยชีวิตตนเอง นางสูดลมหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง ก่อนจะกล่าวคำขอบคุณ
"ขอขอบคุณในบุญคุณที่ท่านช่วยชีวิต ผู้น้อยยังมีภาระหน้าที่ติดตัว มิกล้ารบกวน จึงจะขอลาจากไปก่อน"