“พี่จุนห่าว น้องจุนหรูรออยู่นะ ท่านอย่าอายไปเลย ข้าเชื่อว่าแค่ท่านขอโทษ น้องจุนหรูจะให้อภัยท่านแน่ รู้ผิดแล้วแก้ไข นับว่าดียิ่งนัก” จุนอวี้กล่าว พลางแอบคิดว่า วันนี้เกิดอะไรขึ้นนะ หากเป็เมื่อก่อน จุนห่าวจะต้องรีบฟังเขาและขอโทษทันที ทว่าวันนี้ไม่เพียงแค่ไม่ฟังเขา แต่กลับมองเขาด้วยสายตาพินิจพิจารณา น่าแปลกเสียจริง เมื่อก่อนนี้ความรู้สึกของจุนห่าวที่มีต่อเขาคือเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื้นตัน อย่าบอกนะว่า ไอ้โง่จุนห่าวคนนั้นได้เสียสติไปแล้ว เื่นี้ค่อนข้างจะเหนือความคาดหมาย แต่ทว่าในครั้งนี้จุนห่าวไม่เหมือนเดิมจริง ๆ ความอ่อนแอและความขี้ขลาดลดลงไปจากใบหน้า แต่ความมั่นใจและความสุขุมกลับมีเพิ่มขึ้น ที่ยืนอยู่ในยามนี้ ดูเป็ท่วงท่าที่สง่างามของดูลูกหลานตระกูลใหญ่นัก
“น้องจุนอวี้ เราไม่ใช่คู่แค้นกันหรอกรึ” จุนห่าวเอ่ยขึ้นพลางจ้องมองจุนอวี้ที่มีหน้าตาเ้าเล่ห์ เห็นใบหน้าสวยสดงดงามของจุนอวี้จนรุ้สึกอยากจะอาเจียน ช่างเป็คนงามงูพิษเสียจริง
“พี่จุนห่าว เหตุใดท่านถึงกล่าวเช่นนี้? ใครไม่รู้บ้างว่า ความสัมพันธ์ของพวกเราดีที่สุด พวกเราจะเป็คู่แค้นกันได้อย่างไร” จุนอวี้พูดพลางมองจุนห่าวด้วยความจริงใจ
จุนห่าวนึกในใจ เ้าจุนอวี้นี้ ช่างแสดงเก่งเสียจริง ทำให้ใครต่างคิดว่า จุนอวี้ดีต่อพี่ชายด้วยทั้งหัวใจ แต่ตัวเขาเองที่เป็พี่ชายกลับไม่ได้ซาบซึ้งใจอะไร ไม่เห็นคนที่อยู่รอบข้างกำลังมองเขาด้วยความโกรธเกลียดหรือไง? เ้าจุนอวี้ยังพาลทำให้คนอื่นมาโกรธเกลียดเขาตามไปด้วยอีก
จุนห่าวเปลี่ยนจากท่วงท่าเหนื่อยหน่ายก่อนหน้านี้ เป็แววตาที่ดุดันจ้องมองจุนอวี้และพูดว่า “ในเมื่อพวกเราไม่ได้เป็คู่แค้นกัน ถ้าอย่างนั้นเหตุใดเ้าถึงแอบลอบทำร้ายข้า”
เมื่อจุนอวี้ถูกสายตาดุดันของจุนห่าว จึงทำให้ตกตะลึงงันไป จากนั้นใบหน้าก็ซีดจางและดวงตาก็พร่าเลือนไปด้วยน้ำตา พลางจ้องมองจุนห่าวและเอ่ยขึ้นว่า “พี่จุนห่าว เหตุใดท่านถึงเอ่ยเช่นนี้ ข้าไม่ได้ทำร้ายท่าน ข้าแค่อยากจะช่วยท่าน เจตนาดีของข้าจะทำเื่ร้ายได้เชียวหรือ?” จุนอวี้พยายามควบคุมอารมณ์ พลางแอบคิดในใจ จุนห่าวดูมีอำนาจเยี่ยงนี้ ั้แ่เมื่อไหร่กัน เขาเกือบจะถูกจุนห่าวทำให้ใแล้ว
จุนห่าวนึกในใจ สติปัญญาของจุนอวี้ช่างดีเสียจริง แววตาของเขาออกจะดูคุกคาม แต่ทว่าเพียงครู่เดียวจุนอวี้ก็สามารถยับยั้งได้และยังมีเวลาแสดงต่อได้อีก ข้าประเมินคนผู้นี้ต่ำไปเสียแล้ว ถึงแม้จะอายุเพียงสิบสี่สิบห้า แต่เด็กที่นี่ แก่แดดเร็วจริง จากนี้ไปข้าจะไม่คิดว่าพวกเขาเป็เด็กอีกแล้ว มิเช่นนั้นตัวเองก็คงจะตายตอนไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้เขามีภรรยากับลูกแล้ว เขายังอยากมีชีวิตไปอีกหลายปี เขาไม่อาจให้ความตั้งใจของเขาต้องมาพังทลายไปชั่วชีวิต จากความฉลาดแยบยลที่จ้องจะทำลายของคนผู้นี้
“จุนห่าว สาวน้อยรูปงามรู้ตัวตนของเ้าแล้วหรือเปล่า มิเช่นนั้น เหตุใดจึงมองเ้าด้วยสายตาเช่นนั้นล่ะ เ้านี่เป็บุรุษที่ไม่ทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรีเสียเลย นึกไม่ถึงเลยว่า เ้าจะทำให้สาวน้อยรูปงามร้องไห้ได้เร็วปานนี้ เ้านี่ไม่เข้าใจจิตใจที่อ่อนไหวเลย” เสี่ยวไป๋เอะอะโวยวายอยู่ในสมองของจุนห่าว เสี่ยวไป๋ตอนนี้ไม่อาจออกมาได้ แต่ยังสามารถใช้จิตรับรู้แห่งเทพได้อยู่
“หุบปากเถอะ เ้าใช้สายตาจากไหนมองออกว่า เขารู้ตัวตนของข้าแล้ว” จุนห่าวคิดในใจ เสี่ยวไป๋ช่างโง่เง่านัก ชอบแสดงว่าตัวเองมีตัวตนอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ถูกเสี่ยวไป๋รบกวนเวลาที่ตัวเขากับหานรุ่ยแสดงความรักกันหลังจากนี้ เขาจะต้องขยันฝึกบำเพ็ญเพียร มิเช่นนั้นทุกครั้งที่ถึงชั่วเวลาสำคัญ เสี่ยวไป๋จะต้องคอยก่อกวนเป็แน่ แค่คิด เขาก็รับไม่ได้แล้ว
“ข้าเห็นจากตาทั้งสองข้างยังไงล่ะ” เสี่ยวไป๋กล่าวอย่างไม่พอใจ
“หุบปากไปเถอะ” จุนห่าวะโสั่งเสี่ยวไป๋ให้พออยู่ในสมองและจะไม่สนใจมันละ
จุนห่าวหาใช่บุรุษที่จะทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรีไม่ การแสดงออกของจุนอวี้ไม่สามารถทดแทนความเ็ปของเขาได้ ความรักที่มีเต็มอกของเขาได้ให้หานรุ่ยไปหมดสิ้นแล้ว ฉะนั้นเขาจึงกล่าวต่อว่า “เ้าไม่ได้แอบทำร้ายข้าได้อย่างไร ในเมื่อเ้าเป็ฝ่ายใส่ร้ายว่า แม่ใหญ่มีชายอื่น โทษนี่หนักนัก ถึงขั้นถูกขับไล่ออกจากตระกูลเลยนะ”
“ข้าไม่ได้... พี่จุนห่าว” จุนอวี้กล่าวพร้อมน้ำตาอย่างน่าสงสาร ครั้งนี้จุนอวี้ถูกทำให้ใจนร้องไห้จริง ๆ แต่เขาก็รับผิดไม่ลงต่อชื่อเสียนี้
“เ้าจะไม่ได้พูดได้อย่างไร เ้าไม่ใช่หรือ ที่พูดต่อหน้าทุกคนว่า ข้าพูดว่าแม่ใหญ่มีชายอื่น เพราะอย่างนี้ข้าถึงต้องกล่าวขอโทษจุนหรู แล้วทำไมตอนนี้ไม่ยอมรับแล้วล่ะ หูข้างไหนของเ้าหรือ ที่ได้ยินข้าพูดว่า แม่ใหญ่มีชายอื่น คำนี้น่ะ ข้าไม่ได้พูด ทั้งหมดทั้งมวลเป็เพราะเ้าคิดไปเอง เ้ารู้หรือไม่ว่า การกล่าวหาแบบนี้ มันจะทำร้ายข้า คนจิตใจงดงามอย่างเ้า เหตุใดถึงได้ทำเื่เลวทรามต่ำช้าเช่นนี้ เ้าทำให้ข้าผิดหวังจริง ๆ น้องจุนอวี้” จุนห่าวพูดจบ แต่เดิมเขาก็ไม่ได้อยากใส่เขาฉอดๆ แบบนี้ ทว่าครั้งนี้เขาจำเป็จะต้องให้บทเรียนกับจุนอวี้เสียหน่อย ไม่อย่างนั้นครั้งหน้าจุนอวี้อาจจะยั่วยุให้เกิดเื่อีกได้