เื่ของเฉียนเหล่าลิ่วทิ้งไว้ชั่วคราว ไม่รู้ว่าเขาจะโทรมาเมื่อไหร่ ได้แต่เพียงรอผล
ยากที่ในสำนักงานจะไม่มีเื่ จ้าวอี้เรียนรู้ที่จะชาร์จแบต ทำอะไรที่เรียกว่าทำแล้วรักสิ่งนั้น จ้าวอี้รู้สึกว่าตนเองยังมีเื่อีกมากที่ไม่รู้ งั้นเขาก็ต้องพยายามเติมเต็มจุดอ่อนของตนเอง
คดีเก่าแก่หลากหลายประเภท แฟ้มคดีหนาเตอะ ข้อมูลภายในเหล่านี้ทำให้จ้าวอี้เปิดโลกกว้าง
คดีส่วนมากที่เขาอ่านต่างเป็คดีประเภททั่วไป และคดีบางคดีที่ไม่มีคำอธิบายได้ จ้าวอี้เพียงแต่อ่านผ่านๆเล็กน้อย เริ่มเชี่ยวชาญในคดีอาญาทั่วไป จากนั้นจึงเรียนรู้อย่างลึกซึ้งในคดีพิเศษ จ้าวอี้รู้สึกว่าทางนี้ค่อนข้างเหมาะกับตนเองมากกว่า
สิ่งที่ได้เก็บเกี่ยวของจ้าวอี้มีมากมาย แิการไขคดีโดยทั่วไปนั้นชัดเจนสำหรับเขา
ที่จริงคดีจำนวนมาก เทคโนโลยีในยุคปัจจุบันสามารถจัดการคดีได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามการควบคุมดูแลก็มีอยู่ทุกที่ในเมือง ระหว่างที่ไม่ได้ใส่ใจก็อาจมีเบาะแสสำคัญออกมาได้ จากจุดนี้ นับว่าโชคดีกว่าคนที่ทำงานเหล่านี้ในสมัยก่อนมาก
เวลาสองสามวัน จ้าวอี้ก็เขียนบันทึกสิ่งที่ได้เรียนรู้เป็เล่มหนาๆ
เขาเชื่อว่าจำไม่ดีกว่าจด เขียนๆหน่อย ถึงสามารถเข้าใจได้ถ่องแท้ขึ้น และยังสะดวกต่อการสรุปแิของการไขคดี
ไม่กี่วันนี้ เจี่ยงจาวตี้โทรหาเขาหลายครั้ง สองคนทานอาหารด้วยกันบางครั้งคราว เดินๆเล่น เรียกมันว่าเดทก็ได้ แต่ไม่ได้มีการพัฒนามากมาย จ้าวอี้คิดว่าเื่เช่นนี้ค่อยเป็ค่อยไปดีกว่า แม้ว่าอายุของเขาจะถึงวัยที่ควรก่อร่างสร้างตัวแล้วก็ตาม
“งานของเธอจัดการเสร็จรึยัง?”
คืนนี้ สองคนนัดกันทานอาหารที่แผงขายอาหาร
“ไม่กี่วันนี้แหละ เจอปัญหานิดหน่อย จะแก้ไขได้ในเร็วๆนี้ ไม่ต้องห่วง” เจี่ยงจาวตี้ไม่สามารถที่จะไม่ทำอะไรเลยได้ และเธอก็ไม่ใช่แม่ศรีเรือน
“้าให้ฉันช่วยอะไรไหม? ไม่งั้นฉันโทรหาผู้บังคับกองพันให้”
จ้าวอี้ถาม
“ไม่ต้อง นายลืมแล้วเหรอว่าพ่อแม่ฉันทำงานอะไร? เพียงแค่งานที่พวกเขาจัดเตรียมไม่เหมาะกับฉัน” เจี่ยงจาวตี้มองจ้าวอี้ จากนั้นจึงพูดอย่างระวัง
“การทำงาน ต้องทำตามการจัดการจากเบื้องบน อย่าเลือก ยังไงงานที่พ่อแม่เธอจัดการต้องไม่แย่แน่ เธอต้องเชื่อสายตาพ่อแม่ของเธอ” จ้าวอี้แนะนำเจี่ยงจาวตี้ เพราะความสัมพันธ์ของทั้งสองดีมาก ไม่อย่างนั้นจ้าวอี้คงไม่อาจพูดมากขนาดนี้
เจี่ยงจาวตี้มองจ้าวอี้ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “งั้นฉันก็ทำตามที่พวเขาจัดการ?”
“ทำอย่างนี้ถึงจะถูก คุณลุงคุณป้าจัดการงานเช่นนี้ให้เธอ?” จ้าวอี้ถามมากไปประโยคหนึ่ง
“ถึงตอนนั้นฉันก็จะรู้ มาชนแก้ว!” เจี่ยงจาวตี้ยกแก้วขึ้น โน้มตัวเข้ามา
เจี่ยงจาวตี้ไม่อยากพูด จ้าวอี้จึงไม่อาจฝืนใจเป็ธรรมดา เขารู้สึกว่าไม่น่ามีปัญหาใหญ่อะไร เขาเคยพบพ่อของเจี่ยงจาวตี้ หัวหน้าทหารที่สง่างามและองอาจ จ้าวอี้ไม่คิดว่าเขาไม่อาจเตรียมงานที่ไม่มีอนาคตให้กับเจี่ยงจาวตี้ เพียงแต่ไม่กี่ปีนี้เจี่ยงจาวตี้ชอบขัดใจที่บ้าน นี่เกี่ยวข้องกับการที่ั้แ่เด็กเธอถูกเลี้ยงมาให้เหมือนเด็กผู้ชาย จ้าวอี้หวังว่าความสัมพันธ์ของเธอและครอบครัวจะผ่อนคลายลงบ้าน
ทานอาหารค่ำเสร็จ จ้าวอี้พาเจี่ยงจาวตี้ส่งกลับโรงแรม
นี่เป็เหตุผลว่าทำไมจ้าวอี้ถึงถามเธอเื่งาน เพราะไม่สามารถอยู่โรงแรมไปตลอดได้ ไม่ต้องพูดถึงเปลืองเงิน ยังเปลืองเวลาอีก
ผ่านการพักฟื้นไม่กี่วัน การาเ็ของเฉินตงก็ฟื้นตัว ยังไม่ทันเข้าห้อง ก็ได้ยินเสียงคุยโวของเขา
“ดูสิ ไพ่ A นี่ก็ไม่เลว ลองดูอีก”
ในมือเฉินตงหยิบสำรับโป๊กเกอร์ออกมา เล่นมายากลที่ไม่รู้ว่าฝึกมาจากไหนอยู่ตรงนั้น อู๋เยว่ หวงอิงด้านข้างกำลังใช้สายตาศรัทธามองเขา
“น่าอัศจรรย์มาก เห็นอยู่ว่าเป็ A แต่พลิกอีกครั้งก็กลายเป็ Q แล้ว ทำยังไง ทำยังไงน่ะ?”
“ฉันแค่มีความสามารถพิเศษ แค่เหมือนกับโจวซิงซิงในหนังเท่านั้น” เฉินตงพูดโอ้อวด ทำให้อู๋เยว่ต้องมองบน เห็นได้ชัดว่าเป็แค่มายากลเท่านั้น
มุมปากจ้าวอี้เผยรอยยิ้มบาง เขาชอบบรรยากาศผ่อนคลายเช่นนี้มาก เพียงแค่ที่นี่ไม่ใช่แผนกของรัฐ ไม่งั้นถ้าเกียจคร้านเช่นนี้ ต้องถูกตำหนิแน่
แต่ เขาไม่มีเวลาจะเข้าไปร่วมด้วย ในออฟฟิศของตน ยังอ่านคดีที่ต้องวิเคราะห์ไม่เสร็จ
เวลาตอนเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว เขาบิดี้เีเล็กน้อย ตัดสินใจไปทานอาหารก่อน จากนั้นตอนบ่ายฝึกยิงปืน ต้องรวมการพักผ่อนและการทำงาน ผลลัพธ์จึงจะออกมาดีขึ้น
ในโรงอาหาร มีเพียงสมาชิกหน่วย B ของตน ก่อนหน้านี้เห็นสมาชิกหน่วย A ออกไปทำภารกิจแล้ว ไม่ใช่เพราะยุ่งกว่าหน่วย A แต่ให้พูดว่าเจอปัญหา จนถึงตอนนี้ยังแก้ไขไม่เสร็จ
เซี่ยตันรีบร้อนกลับมาจากข้างนอก ่เช้าไม่เห็นเธอเข้างาน
“จ้าวอี้ เฉินตง ทานข้าวเสร็จไปกับฉันหน่อย มีข้อมูลจากเฉียนลิ่วเหยแล้ว”
แค่พูดคำนี้ ความเร็วในการทานอาหารของจ้าวอี้ก็เร็วขึ้นไม่น้อย
พูดตามตรง การใช้ชีวิตสบายไม่กี่วันนี้ ทำให้เขาค่อนข้างไม่ชินเท่าไหร่ รวมกับการศึกษาคดีมาไม่น้อย จ้าวอี้ก็อยากลองดู ดูว่าได้รับอะไรจากการเรียนบ้างไหม
เฉินตงย่อมไม่อาจปฏิเสธ
เซี่ยตันสตาร์ทรถของตน ตรงไปอาคารสรรพสัมบัติ เธอนัดกับเฉียนลิ่วเหยไว้แล้วว่าจะเจอกันที่ไหน
“เวลาผ่านไปสามวันแล้ว คาดไม่ถึงว่าเฉียนลิ่วเหยจะติดต่อเรามาไวขนาดนี้ เขายืนยันตัวตนของเราผ่านผู้เฒ่าหม่าแล้ว?”
ตัวตนที่จ้าวอี้พูดถึง ย่อมหมายถึงตัวตนปลอม เซี่ยตันเป็ลูกเศรษฐีต่างถิ่น จ้าวอี้เป็บอดี้การ์ด
“ใช่ ผู้เฒ่าหม่าได้โทรมา บอกว่าเมื่อวานบนแวดวงผู้หลงใหลในสมบัติ เฉียนเหล่าลิ่วถามเล็กน้อย ผู้เฒ่าหม่าได้ปกปิดแทนเรา เขายังบอกว่า ถ้าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หวังว่าพวกเราจะสามารถปล่อยเฉียนเหล่าลิ่วไปก่อน เพราะถ้าโลกของวัตถุโบราณขาดเขาไป จากนี้ก็จะหาสมบัติไม่ได้เยอะขนาดนั้นแล้ว นายว่า ผู้เฒ่าหม่านี่หมกมุ่นในวัตถุโบราณจริงๆ”
“เขาไม่ได้หมกมุ่นจริงๆ ถ้าหมกมุ่นจริงๆ คงไม่อาจปกปิดให้เรา”
จ้าวอี้ลองวิเคราะห์จิตใจของผู้เฒ่าหม่าสักหน่อย ด้านหนึ่งมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับทางการ อีกด้านก็ไม่สามารถละทิ้งงานอดิเรกของตนเอง จากการช่วยเหลือของเขาก็สามารถดูออก ว่าเขายังคงเป็นักธุรกิจเต็มตัว ภายใต้การชั่งน้ำหนักระหว่างกำไรและขาดทุน จึงเลือกทางเลือกเช่นนี้
ที่คนนอกมองเห็นไม่ใช่เช่นนั้น เห็นแค่ได้เกษียณอย่างเต็มตัว
เซี่ยตันพยักหน้า เห็นด้วยกับความคิดของจ้าวอี้ พูดต่อ “ไม่ผิด เป็เช่นนี้ ที่จริงฉันคิดว่าเฉียนลิ่วเหยจะติดต่อเรามาช้าไปหลายวัน คาดไม่ถึงว่าเขาจะเก็บอาการไม่อยู่ยิ่งกว่าที่เราคิด”
“เขาอาจไม่ได้จัดการยากอย่างที่เราคิด เมื่อก่อนไม่พบจุดอ่อนของเขา เพราะเขาอยู่ห่าง?” จ้าวอี้คาดเดาอย่างไม่แน่ใจ
ดวงตาเซี่ยตันเป็ประกาย พยักหน้าอย่างใช้ความคิด “อาจเป็เช่นนี้ เมื่อก่อนคิดจะจับจุดอ่อนของเขา ทำได้เพียงสะกดรอยตามรวบรวมหลักฐานอย่างง่ายๆ”
เฉินตงแทรกเข้ามาหนึ่งคำ “หาหลักฐานยังไงก็มีประโยชน์ที่สุด ไม่งั้นพูดว่าการป้องกันแ่า แต่ไส้ศึกนั้นยากที่จะป้องกัน พวกนายบอกว่าแบบนี้ใช่ไหม?”
นี่เป็การพูดที่มีเหตุผล ป้อมปราการยังไงก็ถูกตีแตกได้จากด้านใน
ถนนโบราณจอแจกว่าปกติ เซี่ยตันนำรถจอดในที่โล่ง
“พวกเราแยกเป็สองทาง เฉินตงนายปลอมเป็แขกทั่วไป ฉันและจ้าวอี้จะเข้าไปเจอเฉียนลิ่วเหย ดูสายตาฉันค่อยลงมือ”
เข้าไปในอาคารสรรพสมบัติ เฉียนลิ่วเหยรออยู่ที่นั่นแต่แรก
เฉินตงเข้าไปในร้านเช่นกัน แสร้งทำท่าทางมองซ้ายมองขวาด้วยความสงสัย จึงมีผู้ช่วยมาต้อนรับเขาเป็ธรรมดา
“ลิ่วเหย เตรียมสมบัติเรียบร้อยรึยัง? ฉันนำเงินมาแล้ว”
เซี่ยตันพูดพลางยิ้ม พูดได้ว่าผู้หญิงเกิดมาเพื่อเป็นักแสดง
“เพื่อนเก่าคนหนึ่งของผมมีอยู่ชิ้นหนึ่ง อีกทั้งเขาคนนี้ ค่อนข้างแปลกประหลาด สามารถรับได้แต่เงินสด ไม่สามารถโอนเงิน คุณว่าไง?” เฉียนลิ่วเหยพูดพลางหังเราะ สายตามีประกายที่ยากจะสังเกตเห็น
จุดนี้เกินความคาดหมายของเซี่ยตัน พูดอย่างอึดอัด “ถ้าคุณก็รู้ว่าถ้าเป็เงินสดในประเทศ ต้องติดต่อกับธนาคารล่วงหน้า ตอนนี้เกรงว่าจะไม่ทัน? โอนผ่านธนาคารไม่ได้เหรอ?”
ที่จริง ในใจของจ้าวอี้ชัดเจนดี เซี่ยตันไม่ได้เตรียมเงินก้อนนี้ เพียงแต่รอจนเฉียนลิ่วเหยเอาสินค้าของจริงออกมา จากนั้นใช้ของกลางมาตัดราคากับเฉียนลิ่วเหย คาดไม่ถึงว่าเขาจะ้าเงินสด ยิ่งกว่านั้น เฉียนลิ่วเหยยังพูดว่าไม่ใช่สินค้าของเขา นี่ก็ยุ่งยากแล้ว
“จุดนี้ไม่มีปัญหา เสี่ยวเหล่ามีธนาคารอยู่สามสาขาในท้องที่ สามารถโอนเงินจำนวนน้อยได้ตลอดเวลา แต่ราคาของกระจกทองแดงบานนี้เทียบกับกระเจกทองแดงบานอื่นแล้ว นับเป็ราคาต่ำที่สุดแล้ว เรียกได้ว่าเป็ของดีราคาถูก”
เฉียนลิ่วเหยท่าทางยิ้มตาหยี ทำให้ใจของจ้าวอี้เพิ่มความระมัดระวังขึ้นสามส่วน ที่จริงแล้วเื่นี้เป็เฉียนลิ่วเหยที่จัดเตรียมไว้อย่างระมัดระวัง ถ้าจัดเตรียมไว้อย่างระวัง งั้นเฉียนลิ่วเหยคนนี้ก็เป็คนที่มีความคิดรอบคอบจริงๆ
“ไม่ทราบว่า้าเงินประมาณเท่าไหร่? เพราะเฉียนลิ่วเหยมีความเกี่ยวข้อง งั้นก็ต้องรบกวนเฉียนลิ่วเหยแล้ว?” เซี่ยตันคิด แล้วจึงตกลง
“ดูท่าจะประมาณไม่เกินหนึ่งล้าน หนึ่งล้านก็เพียงพอแล้ว” เฉียนลิ่วเหยพูดตัวเลขออกมา ทำให้เซี่ยตันถอนใจโล่งอกในใจ โชคดีที่ไม่ใช่จำนวนดาราศาสตร์ ต้องรู้ว่า ตอนนี้เธอแสร้งเป็ลูกเศรษฐีต่างถิ่ง ธุรกิจครอบครัวมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลหม่า คนเช่นนี้คงไม่อาจต่อรองราคาเพราะปัญหาเื่เงิน
ตอนนี้เพียงแต่สามารถฝืนใจ ไม่อาจเลิกล้มกลางคันได้
“ไม่มีปัญหา ไม่ทราบว่าพวกเราจะพบเพื่อนคุณได้ที่ไหน?”
เซี่ยตันพูดเช่นนี้ ส่งสายตาให้เฉินตง ให้เขาคิดหาทางเอาเงินมา
เฉินตงฉลาดมาก ออกจากอาคารสรรพสมบัติ ไปโทรศัพท์ด้านนอก
ในสำนักงานมีกองทุนสำหรับจัดการคดี กองทุนนี้ไม่สามารถใช้ฟุ่มเฟือย แต่ยืมมาใช้ชั่วคราว ย่อมไม่มีปัญหา
“ตอนนี้พวกเราออกไปก่อน นั่งรถของผมเถอะ ไปนำเงินมา จากนั้นไปหาเพื่อนคนนี้ที่นั่น”
เฉียนเหล่าลิ่วเสนอความเห็น เซี่ยตันย่อมไม่ทำตามนั้นแน่นอน ตอนนี้เฉินตง้าเวลาเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงพูด “รอก่อน เสี่ยวจ้าว นายไม่ได้บอกว่าจะซื้อหยกสักชิ้นให้แฟนนายเหรอ? เฉียนลิ่วเหยเป็ผู้เชี่ยวชาญพอดี ของในร้านเขาต่างเป็ของดีอย่างแท้จริง ซื้อของที่นี่เลยดีกว่า”
การตอบสนองของจ้าวอี้ก็ไม่ช้า พูดอย่างเกรงใจ “งั้นก็รบกวนลิ่วเหยแล้ว แต่ผมไม่มีเงินมาก คุณคงได้เงินจากผมน้อยหน่อยแล้ว”
เฉียนลิ่วเหยหัวเราะลั่น “ดูจากหน้าตาคุณหนูเซี่ย ผมจะลดให้คุณสิบเปอร์เซ็น เชิญทางนี้ พวกเราที่นี่มีหยกโบราณจำนวนมาก ราคาต่ำกว่าหยกใหม่เล็กน้อย”
ตามคาด ราคาหยกโบราณที่นี่ไม่ถือว่าสูง จ้าวอี้เลือกหยกโบราณชิ้นหนึ่งราคาห้าพันกว่า ชอบมาก และลูบไล้อย่างวางไม่ลง และรูดบัตรจ่ายเงิน
ความล่าช้านี้ เฉินตงได้กลับมาแล้ว พยักหน้าเล็กน้อยกับเซี่ยตัน นี่เป็การตกลงอย่างเงียบๆจากการร่วมมือกันเป็เวลานาน ถ้าจ้าวอี้ไม่รู้ว่าสองคนนี้รู้จักกัน ก็ยากที่จะสังเกตเห็นการกระทำเล็กๆนี้ของพวกเขา
รถของเฉียนลิ่วเหยเป็รถ SUV หรู ต่างกับรถทั่วไป แยกส่วนกับคนขับ มองไม่เห็นด้านหน้า หน้าต่างสองฝั่งแยกจากกันด้วยผ้าม่าน
“มาๆๆ เรามาดื่มชาก่อน ไปที่ธนาคาร”
ในแววตาของเซี่ยตันมีท่าทางกังวล จากนั้นพูดพลางยิ้ม “ลิ่วเหยรื่นรมย์จริงๆ นั่งรถแล้วยังสามารถดื่มชา ถือเป็การเปลี่ยนบรรยากาศ”
“ช่วยไม่ได้ อายุมากแล้ว ต้องใส่ใจตัวเอง ไม่งั้นเงินที่ได้มาก็ต้องเอาไปลงหลุมหมด?”
จ้าวอี้หลับตาพักผ่อน ทั้งร่างดูผ่อนคลาย ที่จริงในใจกลับระมัดระวังมาก เขาคำนวนเส้นทางอยู่ในใจเงียบๆ ในกองทัพ เรียนในด้านนี้โดยเฉพาะ เขาสามารถรู้สึกได้ และคาดเดาตำแหน่งอย่างคร่าวๆ
แม้รู้ว่าเฉินตงตามอยู่ด้านหลัง แต่จ้าวอี้คิดว่าทำเช่นนี้เป็การกันไว้ดีกว่าแก้
[1] คำเปรียบเปรย หมายถึงเติมเต็มความรู้
[2] เปรียบเปรย หมายความว่าตัวเลขจำนวนมาก