เฉียนลิ่วเหยมาถึงตามคาด
การใช้ชีวิตของเขามีวินัยมาก เมื่อใกล้เที่ยงวัน ต้องปรากฏอยู่ที่อาคารสรรพสมบัติ
นี่เป็ผลจากข้อสรุปที่ตำรวจนายนั้นตามเขามาเกือบครึ่งปี ไม่ว่าจะฝนตกแดดออก ก็เกือบไม่มีวันไหนที่มาสาย
เฉียนลิ่วเหยตัวเล็กผอม อายุประมาณห้าสิบ คนทั่วไปเมื่อสวมชุดจงซานจวง[1] แล้วจะให้ความรู้สึกสง่างาม แต่เมื่อสวมบนตัวเขา ทำให้คนนึกถึงคำหนึ่ง ดีแต่เปลือก
ไม่เพียงเท่านี้ ด้านข้างของเขายังมากับหญิงสาวสูงคนหนึ่ง อายุประมาณยี่สิบห้ายี่สิบหก น่ารัก มีเสน่ห์ บนใบหน้างดงามมีรอยยิ้มชวนหลงใหล กอดแขนของเฉียนลิ่วเหยอย่างรักใคร่
สองคนนี้ยืนด้วยกัน ทำให้คนห้ามตนเองไม่ให้นึกถึงอะไรที่เรียกว่าดอกไม้งามปักบนขี้วัว[2]
ผุ้ช่วยเดินมาถึงด้านหน้าของเขา พูดไม่กี่คำ จากนั้นชี้มาทางจ้าวอี้สองคน เฉียนลิ่วเหยพยักหน้า จากนั้นก็พูดยิ้มตาหยีกับหญิงสาวด้านข้าง “ที่รัก เธอเดินเล่นเองก่อน ฉันไปทักแขก”
หญิงสาวคนนี้ขยิบตาให้เขาครั้งหนึ่ง เฉียนลิ่วเหยอดไม่ได้ที่จะตบก้นของเธอไปทีหนึ่ง หญิงสาวจ้องเขาอย่างยั่วยวน ทำให้เฉียนลิ่วเหยหัวเราะร่า
ฉากนี้ในสายตาของจ้าวอี้ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
“คนคนนี้ดูเหมือนไม่ค่อยเอาจริงเอาจัง”
“ไม่ผิด นี่เป็ข้อเสียอย่างเดียวของเฉียนลิ่วเหยที่อยู่ตรงหน้าเรา ก็คือเ้าชู้ นายพูดก็แปลก เขารูปร่างหน้าตาแบบนี้ ยังเปลี่ยนผู้หญิงประจำ สวยทั้งนั้น” เซี่ยตันเบ้ปาก พูดอย่างไม่แยแส
เฉียนลิ่วเหยหยุดยั้งตนเองจากรอยยิ้มไม่จริงจัง จัดเสื้อผ้า ก้าวย่างมากทางสองคน
“สหายทั้งสอง ยินดีต้อนรับสู่ร้าน ได้ยินผู้ช่วยบอก พวกคุณอยากลองดูเครื่องสัมฤทธิแท้?” เฉียนลิ่วเหยพูดพลางหัวเราะ มองดูทั้งสอง สายตาของเขาสุภาพมาก กวาดตามองผ่านเซี่ยตัน ไม่ปรากฏท่าทางเ้าชู้ใดๆ
“ใช่แล้ว ไม่ทราบว่าเถ้าแก่มีสมบัติจริงๆหรือไม่ แต่อย่าเอาเศษซากอะไรมาหลอกพวกเรา” เซี่ยตันโบกมือในอากาศ แสร้งทำท่าทางเหมือนสามารถซื้อได้
เฉียนลิ่วเหยหัวเราะร่า “ถ้าพวกคุณไม่เจอของที่้าในร้านของผม งั้นผมคิดว่า ทั้งเมือง J คงไม่มีสิ่งที่พวกคุณ้า ไม่ทราบว่าแขกทั้งสอง สามารถพูดเจาะจงได้ไหม เครื่องสัมฤทธินั้นแบ่งออกเป็หลายประเภท”
หัวเราะจบ เฉียนลิ่วเหยพูดเชิงบวก เล่นเมล็ดวอลนัทในมืออย่างรีบร้อนขึ้นเรื่อยๆ
“เดือนหน้าจะเป็วันเกิดของคุณย่า ฉันอยากมอบเครื่องสัมฤทธิให้เธอสักชิ้น ไม่ทราบว่าที่นี่มีหรือไม่?” เซี่ยตันอ้าปากพูดโกหกออกไป หรืออาจคิดวิธีไว้แต่แรกแล้ว
“ที่นี่มีกระจกทองแดงที่สภาพไม่เลวอยู่ไม่กี่บาน ราคาสมเหตุสมผล กรุณามากับผม” ดวงตาของเฉียนเหล่าลิ่วเป็ประกาย พยักหน้าทันที
เซี่ยตันและจ้าวอี้มองหน้ากัน เดินตามอยู่ด้านหลังเขา เดินไปทางชั้นสอง
จ้าวอี้ยกย่องอยู่ในใจ อาคารสรรพสมบัตินี้มีค่าพอที่จะนั่งตำแหน่งต้นๆของเมือง J อย่างมั่นคง จ้าวอี้นึกเหตุผลหนึ่งออก เพราะที่นี่เฉียนเหล่าลิ่วมีของสะสมมากมายจริงๆ
ขึ้นชั้นสอง เฉียนเหล่าลิ่วชี้ไปที่เก้าอี้ ส่งสัญญาณให้สองคนรออยู่ที่นั่นก่อน เขาเดินไปที่มุมห้อง
ที่มุมห้อง วางตู้เซฟอยู่อย่างไม่ดึงดูด เฉียนเหล่าลิ่วหันหลังให้ทั้งสองนำตู้เซฟเปิดออก หยิบกระจกทองแดงที่ใช้ผ้าไหมสีแดงห่อชิ้นหนึ่งอย่างระมัดระวัง วางไว้บนโต๊ะ
“เชิญ...นี่เป็กระจกลายนกและสัตว์ป่า สมบัติยุคฮั่นตะวันออก มีความสมบูรณ์ สองท่านเชิญดู”
เซี่ยตันแสร้งทำท่าทางตรวจสอบ ไม่ถึงสองสามนาที ก็พูดอย่างหลีกเลี่ยง “ไม่สวย น่าเกลียดมาก ฉันไม่เอามันไปหรอก เถ้าแก่ คุณยังมีกระจกบานอื่นอีกไหม?”
“ไม่พอใจบานนี้? ได้ ผมให้คุณดูของล้ำค่าชิ้นต่อไปของผม” สีหน้าของเฉียนเหล่าลิ่วไม่มีความไม่สุขใจใด เก็บกระจกบานนี้ล๊อคในตู้เซฟก่อน จากนั้นหยิบอีกชิ้นออกมาจากอีกตู้เซฟ
“นี่คือกระจกลายลูกนกป่า เป็ชิ้นงานที่มีไม่มากจากยุคฮั่นเช่นกัน” เฉียนเหล่าลิ่ววางมันบนโต๊ะอย่างตั้งใจ
เซี่ยตันยังคงมองดู แล้วส่ายหน้า “ไม่สวย ฉันดูแล้วไม่ได้ คุณช่วยนำสมบัติทุกชิ้นของคุณออกมา ฉันจะลองดู ถ้าถูกใจ จะไม่ขัดข้องแน่นอน”
เฉียนเหล่าลิ่วใช้สายตาตักเตือนมองที่เซี่ยตันทันที จ้องเธอเหมือนจะยิ้มและไม่ยิ้ม “สองท่าน ธรรมเนียมของผมที่นี่คือนำออกมาชิ้นหนึ่งวางกลับไปชิ้นหนึ่ง ไม่ใช่นำสมบัติทั้งหมดออกมาวางทีเดียว คุณสองคนไม่ใช่มีความคิดอื่น?”
“พวกเราซื้อของนะ เงินมากขนาดนี้ ต้องเลือกอย่างละเอียดอยู่แล้ว” คำพูดตามเหตุตามผลของเซี่ยตันไม่ทำให้เฉียนเหล่าลิ่วลดความระแวงลง
“ฮาๆ พูดแบบนี้ แต่ผมได้ยิงผู้ช่วยด้านล่างพูด คุณสองคนเป็มือใหม่ ของแพงขนาดนี้ คุณสองคนไม่ได้หาคนในมาค่อยดูใช่ไหม?” นี่เป็จุดที่แปลกมาก เมื่อครู่มีใจสงสัย
“ผู้เฒ่าหม่าแนะนำพวกเรามา เขาบอกว่าพวกคุณที่นี่ไม่หลอกลวง”
เซี่ยตันพูดชื่อคนหนึ่งออกมา ผู้เฒ่าหม่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ท้องที่ ถือได้ว่าเป็ผู้มีอำนาจอันดับหนึ่งแห่งเมือง J และจัดอยู่ในอันดับต้นๆของประเทศ
ทันใด สีหน้าของเฉียนเหล่าลิ่วก็เปลี่ยนไป เขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทั้งตัวดูผ่อนคลางลง “ที่แท้ก็เป็คนที่ผู้เฒ่าหม่าแนะนำมา ผมยังคิดว่าเป็...”
เขาส่ายหน้า ท่าทางเหมือนกับค่อนข้างรำคาญและละอายใจ
“คุณคิดว่าอะไร?”
เซี่ยตันถามด้วยความสงสัยไปประโยคหนึ่ง
“เป็เช่นนี้ ่นี้มีข่าวลือตามท้องถนน บอกว่าเมือง J มีกลุ่มโจรหลบหนีมาที่นี่ พวกเขาขโมยวัตถุโบราณโดยเฉพาะ ผมยังคิดว่าพวกคุณมาดูลาดเลา แต่แน่นอน พวกคุณพูดชื่อผู้เฒ่าหม่าออกมา นั่นแน่นอนว่าต้องไม่ใช่กลุ่มคนพวกนั้น ผู้เฒ่าหม่ามีฐานะอะไรล่ะ!”
เฉียนเหล่าลิ่วไม่มีความสงสัยใดๆ ผู้เฒ่าหม่าตอนนี้ได้เกษียณตัวแล้ว กิจการของเขาส่งต่อให้ลูกชายทั้งหมด ตอนนี้หมกมุ่นอยู่กับของโบราณ ถ้าไม่ใช่คนใน ย่อมไม่ทราบ
เซี่ยตันจำข้อมูลนี้ไว้เงียบๆ เตรียมกลับไปบอกเพื่อนร่วมงาน ข้อมูลบางอย่าง สำนักนักคิดต่างๆยังไงก็เร็วกว่าทางการก้าวหนึ่ง นี่เป็ปกติ
เธอแสร้งพูดเล่นทำท่าทางใส่ใจ “งั้นคุณก็ต้องระวังแล้ว บ้านของคุณมีแต่ทรัพย์สมบัติ”
เฉียนเหล่าลิ่วโบกมือ พูดหายใจแรงๆ “ไม่เป็ไร ถ้าพวกเขามีประสบการณ์ก้ไม่กล้าทำชั่วที่นี่ อย่าเพิ่งพูดถึงการรักษาความปลอดภัยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ตอนกลางคืนก็เปิดอินฟาเรดป้องกัน แม้แต่แมลงวันตัวเดียวก็บินเข้ามาไม่ได้”
เขามั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม เพื่อการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยนี้ ต้องเสียเงินไปไม่น้อยจริงๆ
“ยังไงพวกเราก็เป็คนกันเอง งั้นพวกเราจะไม่อ้อมค้อมอีก แท้จริงแล้วคุณสองคนอยากได้กระจกแบบไหน มีชื่อก็บอกชื่อ ไม่มีชื่อก็บอกลักษณะโดยรวม ผมจะลองดูว่ามีหรือไม่” เฉียนเหล่าลิ่วเหมือนกับทิ้งความระแวดระวังทั้งหมด พูดพลางหัวเราะลั่น
“ก่อนหน้านี้พวกเราไปเป็แขกที่บ้านคุณเฉิง เห็นกระจกทองแดงบานนั้นของเขา รู้สึกชอบมาก ไม่ทราบว่าคุณทราบหรือไม่?”
พูดไป เซี่ยตันก็หยิบรูปหนึ่งออกมา วางไว้ตรงหน้าเฉียนเหล่าลิ่ว
เฉียนเหล่าลิ่วหยิบมาดูอย่างสงบเยือกเย็น จากนั้นจึงใช้สายตาแปลกประหลาดมองที่เซี่ยตัน ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพยักหน้า “ผมจำกระจกบานนี้ได้”
“คุณจำได้ ดีมากเลย ใช่คุณขายที่นี่รึเปล่า?” เซี่ยตันถามอย่างค่อนข้างตื่นเต้น จ้าวอี้ยังคงสำรวจสีหน้าของเฉียนเหล่าลิ่วอยู่ตลอด มองเห็นหางตาของเขาลอกแลก คิดในใจ แย่แล้ว เซี่ยตันใจร้อนเกินไป
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ ผมแค่เคยเห็น เสี่ยวเหล่าถามในสิ่งที่ไม่ควรถาม ในเมื่อ้าเป็ของสะสม ต่าง้าสมบัติหนึ่งเดียวไม่มีสอง ทำไมคุณสองคนถึง้าของซ้ำกับของผู้อื่นล่ะ?”
สายตาของเฉียนเหล่าลิ่วมองเซี่ยตันอย่างเป็ประกาย
คำพูดของเขามีเหตุผล นักสะสมคนไหนไม่หวังให้ของสะสมของตนเป็ของชิ้นเดียว? ความเป็ไปได้เดียว คือต่างหวังให้ไม่ซ้ำกับของผู้อื่น เช่นนี้ถึงเป็เื่ปกติ
สีหน้าเซี่ยตันเปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
จ้าวอี้อ้าปากพูด “ตอนแรกเห็นกระจกบานนี้ที่บ้านของคุณเฉิง วางอย่างเหมาะสม ยิ่งมองยิ่งชอบ โดยปกติคุณย่าไม่ค่อยออกจากบ้าน ในเมื่อซื้อของ แม้ว่าจะเป็ของขวัญ ก็ต้องเลือกที่พอใจคุณว่าใช่ไหม?”
เฉียนเหล่าลิ่วคิดเล็กน้อย หัวเราะลั่น “ไม่ผิด เป็เหตุผลเช่นนี้”
ลังเลเล็กน้อย เฉียนเหล่าลิ่วก็พูดต่อ “พวกเราต่างคนกันเอง ผมจะพูดตรงๆไม่บ่ายเบี่ยงอีก กระจกบานนี้ ชั่วร้ายมาก ผมแนะนำพวกคุณสองคนอย่าซื้อกระจกบานนี้เลย ลองดูกระจกบานอื่นก็ไม่เลว”
“ทำไมพูดแบบนี้?”
จ้าวอี้ถามประโยคหนึ่ง
“พูดยังไงเหรอ? สิ่งชั่วร้ายของกระจกบานนี้มีคนที่ชะตาแข็งแกร่งเป็ผู้มัน ทรัพย์สมบัติจะมากมายก่ายกอง แต่ถ้าคนชะตาไม่แข็ง นั่นจะทำให้โชคร้ายอย่างต่อเนื่อง แน่นอน ว่านี่เป็ข่าวลือที่ได้ยินมา ไม่อาจเป็เื่จริง เพียงแต่ยังไงก็ควรระวังสักหน่อยใช่ไหม? คุณสองคนก็เป็คนที่ผู้เฒ่าหม่าแนะนำมา ผมไม่กล้าที่จะยั่วยุเขา”
ประโยคท้ายสุด เฉียนเหล่าลิ่วพูดอย่างล้อเล่น
“ตอนที่ย่าของฉันยังอายุน้อยเลี้ยงพ่อฉันมาตัวคนเดียว แล้วจึงก่อตั้งกิจการขึ้น หมอดูต่างพูดว่าชะตาของย่าฉันแข็งแกร่งมาก ของขวัญชิ้นนี้เหมาะสมพอดี เถ้าแก่ คุณขายให้พวกเราเถอะ ราคาไม่ใช่ปัญหา” เซี่ยตันแสร้งทำท่าทางดีใจ สองตาเป็ประกาย
วอลนัทในมือของเฉียนเเหล่าลิ่วหยุดลง พูดพลางหัวเราะ “ที่นี่ผมไม่มีจริงๆ กระจกบานนั้นของคุณเฉิงผมแค่เพียงเคยเห็น เอาอย่างนี้ ผมลองสอบถามในแวดวงดูสักหน่อย ดูว่าใครมี คุณสองคนทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้? ถ้ามีสินค้า ผมจะแจ้งพวกคุณแน่ คุณว่าเป็ยังไง?”
“ทำตามที่เถ้าแก่พูดแล้วกัน” เซี่ยตันยืนขึ้น ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ของตนเองไว้
เฉียนเหล่าลิ่วส่งทั้งสองคนออกจากประตูร้าน ยืนอยู่ตรงนั้นมองด้านหลังของทั้งสองพลางขมวดคิ้วไตร่ตรอง
“ที่รัก เด็กสองคนนั้นไม่ได้ซื้อเหรอ?”
ร่างกายของหญิงสาวมีเสน่ห์แนบชิดบนตัวของเฉียนเหล่าลิ่ว สีหน้าของเฉียนเหล่าลิ่วจึงเ็าขึ้น “ฉันไม่ได้บอกเธอแล้วเหรอ? เื่ของธุรกิจเธอถามให้น้อยหน่อย!”
หญิงสาวเม้มปากอย่างรูสึกผิดทันที
“อย่าหันกลับไป เดินต่อไป!” เซี่ยตันเตือนจ้าวอี้ประโยคหนึ่ง สองคนออกจากหัวถนนจึงถอนใจโล่งอก
“ทำไมไม่บอกสถานะตรงๆ ให้เขาบอกที่มาของกระจกทองแดงกับเราล่ะ?” จ้าวอี้ถามอย่างไม่เข้าใจ เขาคิดว่าเปิดเผยสถานะเป็วิธีที่ดีกว่า
“ไม่ได้ผล คนมากประสบการณ์เช่นเขาถ้าพวกเราเปิดเผยสถานะ เขาต้องปัดความรับผิดชอบ และไม่พูดอะไรแน่ พวกเราก็ไม่มีหนทาง นายว่า เขาจะโทรหาเราไหม?”
“เขาน่าจะเชื่อพวกเรามั้ง? ยังไงก็บอกเราว่ากระจกทองแดงนี้เป็สิ่งชั่วร้าย นี่นับว่าพูดความจริง” จ้าวอี้รู้สึก ชื่อของผู้เฒ่าหม่าใช้การได้ดีทีเดียว
เซี่ยตันส่ายหน้า พูดยืนยัน “ไม่ เฉียนเหล่าลิ่วดูแล้วเหมือนเชื่อพวกเราทุกคำพูด แต่แท้จริงแล้วเขาไม่เชื่อพวกเราแม้แต่น้อย ฉันคิดว่าเขาต้องหาผู้เฒ่าหม่าเพื่อพิสูจน์ตัวตนของเราแน่ สำหรับเขาแล้วนี่กลับไม่ยาก”
“โอ้? งั้นเราทำยังไง?”
“ไม่ต้องกังวล พวกเราและผู้เฒ่าหม่าเคยทักทายกันมาก่อน เขาต้องช่วยเราเื่นี้แน่ เพียงแต่ แค่ไม่รู้ว่าเฉียนเหล่าลิ่วจะโทรหาเรารึเปล่า”
เซี่ยตันขมวดคิ้วพิจารณา เธอไม่มั่นใจแม้แต่น้อย
โดยทั่วไปที่มาของวัตถุโบราณ ต่างเป็ความลับ ถ้าไม่ใช่คนในแวดวง ย่อมไม่ทราบ ถึงแม้จะสืบสวน ก็ยากอย่างยิ่งยวด ยิ่งไม่ต้องพูดถึง คนใหญ่คนโตที่นิ้วมือเดียวก็นับได้หมดในแวดวงของเฉียนเหล่าลิ่ว
[1] ชุดจงซานจวง คือ ชุดซุนยัดเซ็น มีลักษณะเป็สูทสไตล์จีน
[2] ดอกไม้งามปักบนขี้วัว อุปมาว่า คนสวยแต่งงานกับคนขี้เหร่