พุทราหมักเหล้าถูกอวี๋มู่เก็บเข้าบ้าน ทั้งสองสวมแจ็คเก็ตผ้าฝ้ายและผ้าพันคอพร้อมออกจากบ้าน
เมื่อวานหิมะเพิ่งจะตก เสียงรองเท้าเหยียบไปบนหิมะเสียงดังสวบๆ อวี๋มู่หันหลังมองเหลียงหาน เห็นผมเขายาวเลยหูลงมา เส้นผมอ่อนนุ่มปรกอยู่ที่ใบหน้า ส่งให้หน้าเขายิ่งดูอ่อนหวานคล้ายเด็กสาวเข้าไปใหญ่ หากไม่ใช่เพราะรูปร่างสูงโปร่ง ก็อาจจะโดนคนคิดว่าเป็ผู้หญิงเลยก็ว่าได้
่เวลานี้เหลียงหานสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็สูงกว่าอวี๋มู่ไปสามสี่เิเแล้ว เนื้อตัวก็แข็งเพิ่มกว่าเดิม ไม่ได้ดูบอบบางเหมือนแต่ก่อนแล้ว
จู่ๆ อวี๋มู่ก็รู้สึกแปลกๆ กับเด็กที่เลี้ยงจนเติบโตขึ้นมา
ท้ายสุดสายตาเขาเลื่อนไปอยู่ที่แผลเป็รูปกลีบดอกไม้ตรงหน้าผากเหลียงหาน ในใจบังเกิดความรู้สึกปั่นป่วน
บางทีอาจจะเป็เพราะแผลเป็นี้ ที่ทำให้เขามักจะมองเห็นเงาของชีหย่วนในตัวเหลียงหาน
“ครูอวี๋ ั้แ่เมื่อครู่ครูก็เอาแต่จ้องหน้าผม” ทันใดนั้นเหลียงหานก็หันมา มองหน้าอวี๋มู่ “บนหน้าผมมีอะไรหรือเปล่า?”
อวี๋มู่สะดุ้งใ รีบหาเื่พูดทันที “หน้าตาเสี่ยวหานคล้ายไปทางแม่ใช่ไหม?”
เหลียงหานหรี่ตามอง แล้วยิ้มออกมาก่อนเอ่ย “อื้อ ผมกับแม่หน้าตาเหมือนกันมาก ตอนเด็กก็ชอบถูกเพื่อนล้อว่าเหมือนผู้หญิงฮะ”
อวี๋มู่ล้วงมือเข้าในกระเป๋า “ฉันกลับรู้สึกว่าเหมือนผู้หญิงก็ไม่ได้แย่เสมอไป น่ารักดีออก”
“ฉันมีน้องชายอยู่คนนึง ตอนเด็กหน้าตาเหมือนตุ๊กตาเลย งดงามมาก ไม่ว่าฉันจะไปไหนก็จะพาเขาไปด้วย รู้สึกภูมิใจมากด้วย”
เขาพูดถึงชีหย่วน นึกถึง่เวลาดีๆ เ่าั้ อดที่จะรู้สึกเศร้าไม่ได้
เหลียงหานรู้สึกประหลาดใจ “น้องชาย? แต่ก่อนไม่เคยได้ยินครูพูดถึงเลย”
“ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเืหรอก เขาประสบอุบัติเหตุทางรถเสียชีวิตแล้ว ฉันเพิ่งไปร่วมงานศพเขาก่อนที่จะมาเมืองเป่ย”
“ขอโทษฮะ ครู”
“ไม่เป็ไร เธอไม่ต้องขอโทษหรอก” อวี๋มู่พ่นลมไอขาวออกมา เอ่ยว่า “ฉันเป็คนเกริ่นถึงั้แ่แรกเอง”
เขาชี้ไปที่แผลเป็ตรงหน้าผากก่อนจะพูดว่า “แผลเป็ตรงหน้าผากของเธอคล้ายกับปานของเขาที่ไหปลาร้ามาก ดังนั้นเลยจ้องเธออยู่บ่อยครั้ง พูดไปแล้วก็น่าอาย เธออย่าใส่ใจไปเลยนะ”
“......” เหลียงหานใจสั่น ชะงักฝีเท้า เขานึกถึงครั้งแรกที่อวี๋มู่พาเขาเข้าไปในบ้าน ก็จับแผลเป็ของเขาแล้วบอกว่าแผลเป็ของเขาเหมือนใครคนนึงมาก
วันนี้ในที่สุดอวี๋มู่ก็สารภาพเื่คนๆ นั้นออกมา เขากลับรู้สึกว่าในใจเหมือนกำลังถูกใครบีบ มันเจ็บแน่นจุกอยู่ข้างใน
ที่แท้ก็เป็เพราะเขาเหมือนน้องชายที่เพิ่งตายไป เขาถึงดีกับตัวเองมากมายเช่นนี้?
หากว่าไม่มีความสัมพันธ์เื่นี้ ครูอวี๋คงไม่มีทางสังเกตเห็นตัวตนของเขาอย่างนั้นสินะ?
งั้นตอนนี้ก็เท่ากับว่าสำหรับครูแล้ว เขานับเป็อะไรกัน?
“ผม…...ไม่ถือสาหรอกฮะ” เหลียงหานพ่นคำนี้ออกมาอย่างยากลำบาก เดินเข้าไปใกล้อวี๋มู่อีกก้าวนึง แต่สีหน้ากลับนิ่งขรึมไป
*
[โฮสต์ครับ คุณดูคะแนนความประทับใจของเขาสิ ดูท่าจะไม่ดีแล้วนะครับ]
ขณะเดินไปพร้อมกับเหลียงหาน อวี๋มู่ก็ได้ยินเสียงระบบพูดขึ้นมา จากนั้นเหลือบไปมองหัวใจห้าดวงเหนือหัวเขา พบว่าหัวใจสี่ดวงที่เต็มอยู่ตอนนี้กลับค่อยๆ ลดลง ช่างน่าประหลาด
อวี๋มู่ : นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
[คงเพราะถูกบางคำพูดของโฮสต์กระตุ้นเข้าแน่เลยครับ?]
อวี๋มู่ :......ฉันพูดอะไรออกไปตั้งเยอะ แล้วนายหมายถึงคำไหนล่ะ?
[โฮสต์รู้เื่เงาซ้อนทับไหมครับ?] ระบบวิเคราะห์อย่างจริงจัง [ตอนนี้ตัวร้ายเขาต้องกำลังคิดว่าโฮสต์มองเขาเป็เงาซ้อนทับของน้องชายอยู่ ที่คุณดีกับเขาเพราะความรักที่มีต่อชีหย่วน ดังนั้นจึงอ่อนไหว หึงหวง เศร้าเหมือนว่าโลกกำลังแตกสลาย]
อวี๋มู่ : ????? เ้าระบบ การที่นายไม่เขียนนิยายช่างเป็เื่ที่น่าเสียดาย…….
อวี๋มู่ไม่มีทางเข้าใจเื่ที่เหลียงหานหึงหวงแม้แต่นิด เพียงแต่เห็นว่าเ้าเด็กนี่เริ่มสีหน้าไม่ดี ก็รู้สึกมีผิดเล็กๆ ยังไงไม่รู้
แต่รู้สึกผิดแล้วอย่างไร เขาต้องปลอบยังไงดีล่ะทีนี้?
เขาไม่เชี่ยวชาญเื่นี้เลยนี่นา……
หรือจะให้เขาบอกไปตรงๆ ว่าตัวเองไม่ได้มองเขาเป็เงาซ้อนทับ อย่าเสียใจไปเลย?
นี่มันโง่มากเลย เพราะเ้าตัวเขาก็บอกแล้วว่าไม่ถือสา เขาเก็บงำความรู้สึกในใจ แต่ตัวเขาเองกลับมานั่งอธิบายแบบไม่มีที่มาที่ไป จะไม่น่าแปลกไปหน่อยรึไง?
ขณะกำลังครุ่นคิด อวี๋มู่มองไปทางตลาดในเมือง บังเอิญเห็นแผงขายมันฝรั่ง[1]กับมันเทศเผา[2] รู้สึกราวกับมีแสงสว่างสาดส่อง รีบเดินหน้าไป แล้วสั่งมันกับมันเผาห่อใส่กระดาษมาอย่างละหนึ่งอัน แล้วยัดมันฝรั่งเผาร้อนๆ ในมือเหลียงหาน ส่วนตัวเองก็แกะเปลือกมันเผา “เธอชอบกินมันไม่ใช่รึไง ลองชิมดูสิ นี่เพึ่งเผามาร้อนๆ เลย น่าจะอร่อยน่าดู”
ได้กินของอร่อยที่ชอบมักทำให้คนอารมณ์ดีขึ้น อวี๋มู่เห็นด้วยกับข้อนี้
เหลียงหานชอบกินมันฝรั่ง หากว่ากินหมดแล้วไม่งอนเขา อย่างนั้นคงดีไม่น้อย
เหลียงหานถือมันฝรั่งเผาร้อนๆ ในมือ ดวงตาหลุบลงแต่ยังคงเห็นใบหน้าหล่อเหลาของอวี๋มู่ ขนตายาวเรียงเป็แพพลิ้วไหว ฟันกัดไปที่มันเผา พ่นไอขาวออกมาตามจังหวะหายใจ
ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงอยู่แบบนั้น เหลียงหานเองก็ถือมันฝรั่งเผาขึ้นมา แกะเสร็จก็ใส่เข้าปาก รู้สึกถึงรสชาติหวาน เนื้อนิ่ม แต่ดวงตายังคงจดจ้องอวี๋มู่ แววตานั้นล้ำลึกดำดิ่ง ตอบกลับ “ขอบคุณครูมากฮะ อร่อยมาก”
เขาคิดจนตกตะกอนแล้ว
ไม่ว่าอย่างไร คนที่อยู่ข้างครูในตอนนี้คือเขา ไม่ใช่คนที่ตายไปแล้วคนนั้น
ถ้าพูดให้ถูกคือเขาต้องขอบคุณอีกฝ่ายที่ทำให้ครูมาเจอกับเขา ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะยังคงยืนอยู่ปากเหวที่มืดมัว เงยหน้าไม่เจอตะวัน ชีวิตเลือนลางหม่นหมอง
สายตาของเขามากล้นเกินไป อวี๋มู่เริ่มรู้สึกขนลุกชัน เขาบ่นกับระบบ : ระบบ นายคิดว่าฉันกำลังคิดมากไปหรือเปล่า? ที่เขาบอกว่าอร่อยมากเหมือนไม่ได้พูดถึงมันฝรั่งเผายังไงไม่รู้แฮะ?
ระบบหัวเราะเฝื่อน [โฮสต์ผู้ฉลาดน้อยครับ ในที่สุดคุณก็เห็นแล้วสินะ? พูดจริงๆ นะ ตอนนี้เวลาที่เหลียงหานอยู่กับคุณ ขณะที่คุณไม่ทันสังเกต สายตาของเขาที่จ้องคุณนั้นแทบจะกลืนกินคุณเข้าไปแล้ว]
อวี๋มู่สำลักมันเผา : กลืนกิน? กินแบบที่ฉันกำลังคิดอยู่อย่างนั้นหรือ?
ระบบ : [อื้อ จับคุณแก้ผ้าเปลือยขังในห้อง แล้วกลืนกินทั้งตัวแบบนั้นแหละครับ]
อวี๋มู่ : เ้าระบบ มุขนี้ไม่ตลกเลยนะ
ระบบ [ทำไมครับ? กลัวล่ะสิ? พ่อชายแท้ตัวน้อย]
อวี๋มู่ :......กลัว? กับเ้าเด็กบอบบางแบบนี้ ฉันจะกลัวไปทำไม?
ระบบหัวเราะอย่างมีเลศนัย : [ไม่กลัวก็ดีแล้วครับ]
คำพูดที่อวี๋มู่พูดกับระบบล้วนเพียงเพื่อแสดงออกถึงความกล้าหาญ ชายกับชายอยู่ด้วยกัน ความขัดแย้งทางสรีรวิทยา แค่นึกถึงภาพแบบนั้นเขาก็ขนหัวลุกแล้ว
เขาในตอนนี้ร่างใหญ่กว่าเหลียงหานเพียงแค่เล็กน้อย อีกอย่างตอนนี้เด็กคนนี้ยังรู้จักแบ่งแยก เพียงแค่แอบรักยังไม่ได้จู่โจม
หากว่าเปลี่ยนเป็เหลียงหานที่ในนิยายตอนหลังโผล่มา่อายุสามสิบกว่า เดาว่าคำพูดที่ระบบพูดคงเป็เื่จริง……
มองดูเด็กหนุ่มหน้าสวยที่กำลังยืนกินมันเผาอย่างเชื่อฟัง อวี๋มู่กลืนน้ำลายดังเอือก
#ถ้าเธอไม่โรคจิต ทุกอย่างคงสดใส#
เขาภาวนาในใจ
---------------------------------------------------------------------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] มันฝรั่ง ภาษาจีนคือ 土豆 tudou ลักษณะเปลือกสีเหลือง ตามรูปด้านซ้าย
[2] มันเทศ ภาษาจีนคือ 红薯 Hongshu ลักษณะเปลือกสีม่วงแดง ตามรูปด้านขวา
"มันฝรั่ง"กับ"มันเทศ"ต่างกันอย่างไร
มันมี 2 ชนิดด้วยกัน คือ ชนิดหวานและไม่หวาน ชนิดหวานเรียกว่า สวีทโพเตโต (sweet potato/红薯) คือ มันเทศ[2] นั่นเอง ส่วนชนิดไม่หวานเรียกว่า ไอริชโพเตโต (Irish potato/土豆) เราเรียกว่ามันฝรั่ง[1]