“เป็ไปได้อย่างไร?ศิษย์พี่จางหู่มีพลังวัตรสูงสุดในชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าเชียวนะศิษย์พี่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกไม่น้อยยังแพ้ให้กับกระบี่ของเขาเลยจะไม่มีพลังโต้กลับแม้แต่น้อยได้อย่างไร”
“ได้ยินมาว่าศิษย์พี่จางหู่เร็วๆ นี้ก็จะข้ามชั้นเข้าสู่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกแล้วศิษย์พี่จางหลงพี่ชายของเขาก็มีพลังวัตรอยู่ที่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบปีที่แล้วเพิ่งเข้าไปเป็หนึ่งในสิบอันดับแรกของศิษย์นอกสิบอันดับแรกส่วนใหญ่ก็เข้าสู่ขั้นเบิกนภา กลายเป็ศิษย์ในกันไปแล้วปีนี้ศิษย์พี่จางหลงต้องได้เป็หนึ่งในสามอันดับแรกของศิษย์นอกอย่างแน่นอนแต่ศิษย์พี่จางหู่กลับต้องพ่ายแพ้ให้แก่ศิษย์พี่หวงเทียนบนลานประลองครั้งนี้เสียหน้าหมดสิ้น แม้กระทั่งหน้าของศิษย์พี่จางหลงก็พลอยหมดราศีไปด้วย”
“ประหลาดแท้ศิษย์พี่หวงเทียนกับศิษย์พี่จางหู่ ไม่กี่วันก่อนเพิ่งจะประลองกันไปครั้งหนึ่งตอนนั้น ศิษย์พี่หวงเทียนสู้ได้แค่สิบเอ็ดกระบวนท่าก็แพ้ให้แก่ศิษย์พี่จางหู่แล้วเวลาผ่านไปไม่กี่วันศิษย์พี่หวงเทียนร้ายกาจขนาดนี้ได้อย่างไร”
“ข้าจำได้ว่าศิษย์พี่หวงเทียนเพิ่งมีพลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่เองตอนนี้กลับ…ศิษย์พี่หวงเทียนช่างสมกับคำพูดที่ว่าทหารจากไปไม่กี่วัน ก็ต้องกวาดตามองใหม่”
“ดูแล้วศิษย์พี่หวงเทียนคงเลื่อนชั้นพลังวัตรแล้วก่อนหน้าศิษย์พี่หวงเทียนก็มีความสามารถล้มลูกศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าได้อยู่แล้วตอนนี้เกรงว่าแม้แต่ลูกศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกก็คงไม่ใช่คู่ประมือของเขาอีกต่อไป”
“ศิษย์พี่หวงเทียนร้ายกาจจริงๆหลังจากนี้ถ้าเข้าสู่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบเกรงว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งของศิษย์นอกทั้งหมดคงตกเป็ของศิษย์พี่หวงเทียนแน่แล้วการกลายเป็ศิษย์ในเป็เื่แน่นอนดั่งหมุดตอกบนกระดาน เฮ้อ ถ้าต่อไปข้าได้เป็ศิษย์ในบ้างก็ดีน่ะสิ”
“อย่าอิจฉาเลยศิษย์พี่จางหู่โดนเล่นเสียขนาดนี้ เกรงว่าศิษย์พี่จางหลงคงไม่อยู่เฉยแน่ต่อไปศิษย์พี่หวงเทียนเกรงว่าคงจะไม่ได้อยู่ดีนักหรอก”
“จะเป็แบบนั้นได้อย่างไรการต่อสู้บนลานประลอง ผลแพ้ชนะ ทุกคนก็เห็นกันอยู่ชัดแจ้งกับตาศิษย์พี่จางหู่ยังเล่นงานคนได้ แล้วทำไมผู้อื่นจะเล่นงานศิษย์พี่จางหู่ไม่ได้สำนักกระบี่์ไม่ใช่ของตระกูลจางเสียหน่อย เก่งแค่ไหนก็เป็แค่ศิษย์นอกคนหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่หรือ”
“ศิษย์น้องคำพูดนี้อย่าพูดพล่อยไป ถ้าศิษย์พี่จางหลงได้ยินเข้า เ้าจะได้โดนดีเข้าให้สำนักกระบี่์แม้ว่าไม่ใช่ของตระกูลเขาแต่ศิษย์พี่จางหลงก็เข้าสำนักก่อนพวกเรา พลังวัตรสูงกว่าพวกเรามากลูกศิษย์ที่เข้าสำนักปีเดียวกันกับศิษย์พี่จางหลงบางคนถึงกับเข้าไปเป็ศิษย์ในแล้วส่วนที่ด้อยกว่าศิษย์พี่จางหลงก็บรรลุถึงชั้นวิถียุทธ์ขั้นเจ็ดแล้ว เขาจะเก็บเ้ายังต้องลงมือเองอีกหรือ”
“ขอบคุณศิษย์พี่ที่ชี้แนะศิษย์น้องได้รับการสอนสั่งแล้วมิน่าเล่า ศิษย์พี่จางหู่สู้ชนะศิษย์พี่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกถึงได้ไม่เห็นมีใครมาหาเื่เขาเลย”
...
หมู่ศิษย์นอกที่อยู่ล่างเวทีถกเถียงกันให้ว่อน ทั้งยังตกตะลึงกับความสามารถของเสวียนเทียนที่เปิดเผยออกมา ในเวลาเดียวกันก็เสียดายที่เสวียนเทียนไปล่วงเกินจางหลงผู้มีความสามารถอยู่ในชั้นหัวแถวในบรรดาศิษย์นอกเข้า
บนลานประลองหลังคำวอนขอชีวิตของจางหู่ เสวียนเทียนก็หยุดเหวี่ยงตีจางหู่เหมือนโยนซากสุนัข
“จางหู่เ้าดูถูกญาติผู้น้องของข้า ครั้งนี้แค่ให้บทเรียนเล็กน้อยกับเ้าถ้ายังมีครั้งหน้า ข้าจะให้เ้าได้เข้าใจว่า อะไรคืิอความเ็ปที่แท้จริงไสหัวไปให้พ้น...”
เสวียนเทียนพูดจบเท้าหนึ่งเตะออกไป ร่างของจางหู่ลอยหวือลงมาจากเวทีประลองตกลงพื้นห่างออกไปบนลานกว้างถึงสิบจ้าง
ที่ขอบเวทีประลองหวงสือตาตั้งอ้าปากค้างมองเสวียนเทียนในดวงตามีทั้งความตื่นตะลึงและความยินดีพลุ่งพล่านจนกระทั่งเสวียนเทียนลงมาอยู่ตรงหน้าเขา เขาถึงได้สติกลับมา
“พี่เทียนพี่...เส้นปราณของพี่...พลังวัตรของพี่?” หวงสือเพราะความตื่นตะลึงยินดีแม้แต่คำพูดก็กลายเป็ติดอ่างไปเสียแล้ว
เสวียนเทียนยิ้มบางบอกว่า “คืนนั้นพี่ไปแช่น้ำที่บึงซ่อนกระบี่ เส้นปราณที่เสียหายในร่างพี่ ทั้งหมดหายดีแล้ว พลังวัตรก็ก้าวหน้าไปมาก น้องชายเ้าไม่เป็ไรมากใช่ไหม ครั้งหน้าใครกล้ารังแกเ้า ข้าจะหักขาสุนัขของมันเอง”
“ไม่เป็อะไรแล้วข้ากินยาเม็ดรักษาแผลเข้าไป าแก็เริ่มประสานกันแล้วใช้เวลาไม่กี่วันก็หายดีเหมือนเดิม”
หวงสือพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น“พี่เทียน พลังวัตรของพี่ก้าวเข้าสู่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าแล้วหรือสุดยอดเลย!จางหู่ตกอยู่ในกำมือของพี่ไม่มีแรงต่อต้านแม้แต่น้อย ข้ามองแล้วสะใจยิ่งนัก”
ยาเม็ดรักษาแผลเป็ยาเม็ดรักษาอาการาเ็ขนานหนึ่งของสำนักกระบี่์ลูกศิษย์ทุกคนจะได้รับคนละจำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันหากได้รับาเ็แล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจนกลายเป็เื่ร้ายแรง
แน่นอนว่ายาเม็ดรักษาแผลเป็เพียงยารักษาอาการาเ็แบบพื้นฐานเท่านั้นรักษาได้เพียงาแเล็กน้อย หากได้รับาเ็หนักก็จำต้องมาที่ห้องยาของสำนักเพื่อใช้ยาที่ดีกว่าหรือให้หมอยาช่วยรักษาให้
“จำไว้ล่ะต่อไปอย่าไปเซ่อซ่าให้คนอื่นเขายั่วยุได้ ฝ่ายตรงข้ามพลังวัตรมากกว่าเ้าหนึ่งชั้นก็อย่าขึ้นลานประลอง ขึ้นไปให้คนเขาเล่นงานเอาเปล่าๆ”
เสวียนเทียนดีดกะโหลกของหวงสือเสียหลายทีบอกว่า “พี่จะไปหอวิชายุทธ์เรียนวิทยายุทธ์ใหม่ เ้ากับหลินตงกลับไปที่พักพักผ่อนกันก่อนเถอะ”
ดวงตาของหวงสือเบิกกว้างพลันร้องถามด้วยความตื่นเต้น “เรียนวิทยายุทธ์ใหม่ พี่เทียน นี่พี่ก้าวเข้าชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกแล้วหรือ?”
พลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามขั้นหก ขั้นสิบเท่านั้นถึงจะเรียนวิทยายุทธ์ใหม่ได้ หนทางของการฝึกวรยุทธ์ต้องค่อยๆ พัฒนาไปตามลำดับขั้น หากพลังวัตรไม่ถึง ต่อให้ยอดวิชาของชั้นนภาหรือชั้นปฐีตกมาถึงมือ จะฝึกฝนให้ใช้ได้ก็ยากดุจปีนขึ้น์เป็การเสียเวลาเปล่า
แน่นอนว่าก็มีอัจฉริยะบางคนที่เป็กรณียกเว้นผู้ที่มีสติปัญญาสุดยอดบางคนก็สามารถเรียนวิทยายุทธ์ข้ามชั้นได้แต่เื่แบบนี้มีน้อยมาก
ดังนั้นสำนักกระบี่์จึงตั้งกฎศิษย์นอกมีเพียงยามที่บรรลุชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม ขั้นหกและขั้นสิบแล้วเท่านั้นถึงจะเรียนวิทยายุทธ์ที่สูงขึ้นไปอีกหนึ่งระดับได้
เสวียนเทียนได้เรียนวิทยายุทธ์ชั้นทองขั้นกลางไปแล้วตอนนี้จะเรียนวิชาใหม่ย่อมแปลว่าได้บรรลุชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกแล้ว
เสวียนเทียนพยักหน้าเบาๆบอกว่า “วิชาปราณชั้นทองขั้นกลางไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อพี่แล้วพี่ต้องไปศึกษาวิชาปราณชั้นทองขั้นสูง”
หวงสือถึงกับสูดลมหายใจเฮือกเวลาเพิ่งจะผ่านไปไม่กี่วันพลังวัตรของเสวียนเทียนจากชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ก็ก้าวะโถึงสองชั้นต่อเนื่องจนบรรลุถึงชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกแล้วหรือ
วิทยายุทธ์พื้นฐานที่เสวียนเทียนฝึกฝนคือเคล็ดวิชาฝึกร่างกระทิงดุเพลงกระบี่คือเพลงกระบี่ถลาลม นอกจากนี้ยังเรียนวิชาท่าร่างก้าวย่างอสรพิษ วิชาเพลงหมัดกระทิงดุวิชาเหล่านี้ล้วนเป็วิชาปราณและวิชายุทธ์ของชั้นทองขั้นกลาง
ั้แ่กลางหว่างคิ้วมีกระบี่หยกขาวเล่มน้อยเล่มนั้นไม่ว่าเสวียนเทียนจะฝึกวิถีปราณหรือเพลงยุทธ์ใดก็ล้วนรวดเร็วเป็พิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงกระบี่ ที่เหมือนหนึ่งวันก้าวได้พันลี้
แต่เดิมเสวียนเทียนฝึกเพลงกระบี่ถลาลมได้ถึงขั้นบรรลุส่วนใหญ่ส่วนเคล็ดวิชา วิทยายุทธ์อื่นๆ ล้วนฝึกได้ถึงแค่ชั้นบรรลุบางส่วน ตอนนี้ไม่เพียงแค่เพลงกระบี่ถลาลมฝึกบรรลุถึงขั้นก้าวสู่เทพวิถีวิชาที่เหลืออย่างเคล็ดวิชาฝึกร่างกระทิงดุ เพลงหมัดกระทิงดุ ก้าวย่างอสรพิษล้วนฝึกจนถึงขั้นบรรลุส่วนใหญ่ทั้งหมดแล้ว
เมื่อบรรลุถึงชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกหาก้าให้พลังวัตรก้าวหน้าไปอีกขั้น ก็ต้องฝึกวิชาปราณของชั้นทองขั้นสูงแล้วไม่อย่างนั้นหากใช้วิชาปราณของชั้นทองขั้นกลางมาฝึกฝนจากชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกขึ้นไปสู่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดคงยากกว่าการฝึกวิชาปราณของชั้นทองขั้นสูงสิบเท่า
หลังจากให้หลินตงพยุงหวงสือกลับไปยังที่พักเสวียนเทียนก็ตรงไปที่หอวิชายุทธ์
หอวิชายุทธ์เป็สถานที่เก็บรักษาวิชาปราณและวิชายุทธ์ต่างๆของสำนักกระบี่์วิชาปราณและวิชายุทธ์ของชั้นทองขั้นต่ำและขั้นกลางเป็วิชาที่ศิษย์นอกที่เพิ่งเข้าสำนักเรียนไปเอาจากผู้ดูแลศิษย์นอกได้ส่วนวิชาปราณและวิชายุทธ์ของชั้นทองขั้นสูงขึ้นไปต้องมาที่หอวิชายุทธ์เท่านั้นถึงจะเรียนได้
วิทยายุทธ์ของชั้นทองขั้นสูงเป็เคล็ดวิชาที่มีหวังจะบรรลุชั้นเบิกนภาได้ค่อนข้างมีค่า จึงเก็บไว้ที่หอวิชายุทธ์ ดูแลรักษาไว้ด้วยกันในที่เดียว
หอวิชายุทธ์ห่างจากเขตชั้นนอกของสำนักกระบี่์ค่อนข้างไกลสร้างอยู่ตรงด้านล่างของยอดเขาลูกหนึ่งบริเวณใกล้กับเขตชั้นในของสำนักสูงสามชั้น แต่ละชั้นสูงสามจั้ง โอ่อ่ายิ่งนัก
หอวิชายุทธ์มีข่ายอาคมปกป้อง ทั้งรอบนอกก็มีผู้าุโคอยเฝ้าอยู่หน้าประตูตลอดบนยอดเขาก็มีผู้าุโคนในของสำนักเร้นกายอยู่ทำให้การคุ้มกันหอวิชายุทธ์แ่าเป็อย่างมาก
มีเพียงลูกศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกขึ้นไปเท่านั้นถึงจะเข้าไปในหอวิชายุทธ์ได้
“วิถีแห่งการฝึกยุทธ์อยู่ที่ลึกไม่ได้อยู่ที่มาก หวงเทียนเ้าอายุสิบสี่ก็เหยียบชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกแล้ว พร์ไม่ธรรมดามีแววว่าก่อนอายุยี่สิบอาจก้าวเข้าสู่ขั้นเบิกนภาได้ จงร่ำเรียนให้แตกฉาน”
เมื่อตรวจสอบแล้วว่าเสวียนเทียนมีพลังวัตรถึงระดับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกจริงๆผู้าุโผู้รักษาหอก็เตือนเสวียนเทียนหนึ่งประโยคจึงมอบป้ายอนุญาตให้เสวียนเทียนหนึ่งชิ้น แล้วให้เสวียนเทียนเข้ามาในหอวิชายุทธ์
หอวิชายุทธ์ถูกม่านที่เป็เหมือนระลอกคลื่นน้ำบางๆ กางครอบอยู่สิ่งนั้นก็คือข่ายอาคมที่กางปกป้องหอวิชายุทธ์มีเพียงผู้ที่มีป้ายอนุญาตพิเศษเท่านั้นถึงจะผ่านข่ายอาคมเข้าไปในหอได้หากมีคนคิดบุกรุกเข้าไปในหอวิชายุทธ์ ขโมยเรียนคัมภีร์ยุทธ์ก็จะถูกข่ายอาคมกางกั้นไว้และผู้าุโผู้รักษาหอวิชายุทธ์ที่อยู่ใกล้ๆ ก็จะรู้ได้ทันที
ชั้นที่หนึ่งของหอวิชายุทธ์เป็ห้องโถงกลมที่กว้างสักสิบจั้งเห็นจะได้ภายในวางชั้นหนังสืออยู่ไม่น้อย แบ่งเป็ฝั่งวิชาปราณกับฝั่งวิชายุทธ์ในฝั่งวิชายุทธ์ยังแบ่งออกเป็สี่ประเภท หมวดวิชากระบี่ หมวดวิชาตัวเบาหมวดวิชาหมัดมวย และหมวดวิชาอาวุธอื่นๆ
ด้านในมีลูกศิษย์สิบกว่าคนกำลังเดินดูคัมภีร์วิทยายุทธ์กระจายไปตามมุมต่างๆ ชั้นที่หนึ่งของหอวิชายุทธ์จะเก็บวางคัมภีร์ของชั้นทองทั้งหมดชั้นที่สองถึงจะวางคัมภีร์ของชั้นนิลดังนั้นลูกศิษย์ที่เดินดูคัมภีร์อยู่ที่ชั้นหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วล้วนเป็ศิษย์นอก
ถ้าเข้าสู่ขั้นเบิกนภาถึงจะเข้าเป็ศิษย์ในได้ศิษย์ในโดยทั่วไปก็จะอยู่ที่ชั้นสอง ดูคัมภีร์ของชั้นนิล
สำหรับศิษย์นอกที่ชั้นหนึ่งแล้วเสวียนเทียนเป็หน้าใหม่ สายตาหลายคู่คอยเมียงมองมาที่เขาแล้วจึงเบนสายตากลับไปยังคัมภีร์ในมือของแต่ละคน
เวลาในหอวิชายุทธ์ใช่ว่าจะมีไม่จำกัดเื่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับการเรียนวิถีปราณและวิชายุทธ์
เวลาของเสวียนเทียนก็มีจำกัดเมื่อกวาดตามองสภาพของหอวิชายุทธ์ชั้นหนึ่งเสียรอบหนึ่งแล้วเขาก็เดินตรงไปที่ฝั่งวิชาปราณ
้าจะก้าวขึ้นไปสู่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดก่อนอื่นก็ต้องเลือกวิชาปราณชั้นทองขั้นสูงชุดหนึ่ง
คัมภีร์วิทยายุทธ์ของชั้นทองขั้นสูงในชั้นที่หนึ่งนี้มีเยอะมากวิชาปราณ วิชากระบี่ วิชาท่าร่าง วิชาตัวเบา วิชาเตะ วิชาหมัด วิชาฝ่ามือวิชาสารพัดอาวุธ ล้วนแล้วแต่มีไม่น้อย สำนักกระบี่์เป็สำนักกระบี่สำนักหนึ่งเก้าในสิบส่วนของลูกศิษย์ล้วนมุ่งเน้นฝึกวิชากระบี่คนที่ร่ำเรียนวิชาของอาวุธชนิดอื่นน้อยนัก
ลูกศิษย์ในชั้นที่หนึ่งของหอวิชายุทธ์กระจายกันไปตามหมวดคัมภีร์ต่างๆดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีคัมภีร์ให้อ่านแน่นอนว่าก็มีบางครั้งคัมภีร์ที่ตนเอง้าอยู่ในมือของคนอื่นที่กำลังอ่านอยู่เช่นนั้นก็ได้แต่โทษว่ามาผิดเวลา คัมภีร์ไม่อนุญาตให้นำออกไปนอกหอแค่เข้ามาอ่านคนละเวลาก็ไม่มีปัญหาแล้ว
ปราณหยางบริสุทธิ์พลังเคลื่อนเมฆา เกราะระฆังทอง วิถีจิตคืนสู่กำเนิด ปราณเบิกนภา...
ปราณหยางบริสุทธิ์วิถีปราณชั้นทองขั้นสูง ต้องรักษาร่างกายพรหมจรรย์ไว้ ลมปราณภายในล้วนเป็ปราณหยางอันแข็งแกร่ง ไม่มีปราณหยินปะปน พิษไม่อาจแทรกตัดขาดความปรารถนา ทำให้พลังชีวิตในร่างเปลี่ยนเป็ปราณแท้ได้เทียบชั้นได้กับปราณแท้ของยอดฝีมือในชั้นเบิกนภา
พลังเคลื่อนเมฆาวิถีปราณชั้นทองขั้นสูง เหมาะกับผู้ฝึกฝนที่ใจกว้างรักอิสระลมปราณภายในต่อเนื่องเป็ระลอกคลื่น ดุจทะเลเมฆพัดเคลื่อนมาเป็ระลอกไม่มีหยุดไม่จบไม่สิ้น
เกราะระฆังทองวิถีปราณชั้นทองขั้นสูง เหมาะกับผู้ฝึกฝนที่มีร่างกายแข็งแกร่งลมปราณภายในแข็งกร้าวเด็ดขาด ดั่งมีระฆังทองคุ้มกาย กระดูกเหล็กผิวทองแดงมีดดาบฟันไม่เข้า
วิถีจิตคืนสู่กำเนิดวิถีปราณชั้นทองขั้นสูง เหมาะกับผู้ฝึกฝนที่มีนิสัยอ่อนโยนลมปราณภายในไหลเคลื่อนไม่หยุด อ่อนโยนพิสุทธิ์กลมเกลียวราวมหาสมุทรรองรับสายน้ำนับร้อยนับหมื่นรวมเข้าเป็หนึ่งเดียวกว้างใหญ่ไม่อาจประมาณ
ปราณเบิกนภาวิถีปราณชั้นทองขั้นสูง เหมาะกับผู้ฝึกฝนที่มีสติปัญญาสูง ลมปราณภายในมั่นคงบริสุทธิ์ แข็งแกร่งต่อเนื่อง...ฝึกฝนจนบรรลุขั้นสูงสุดจะทำให้พลังภายในร่างกายเปลี่ยนไปเป็ปราณแท้ของชั้นเบิกนภาก้าวเข้าสู่ขอบขั้นของยอดฝีมือชั้นเบิกนภา