“พี่เทียน พี่ระวังตัวด้วย” หวงสือบอกด้วยความเป็ห่วง
เสวียนเทียนไม่เคยบอกเื่ที่พบเหตุการณ์ประหลาดที่บึงซ่อนกระบี่จนพลังวัตรเพิ่มขึ้นแบบก้าวะโให้แก่ใครฟังบรรดาศิษย์นอกสำนักเหล่านี้ ฝึกฝนวรยุทธ์หยุดอยู่ที่แค่ขั้นการฝึกร่างกายภายนอกไหนเลยจะมีดวงตาเฉียบคมพอที่จะมองพลังวัตรของเสวียนเทียนออก
พลังวัตรของลูกศิษย์แต่ละคนเป็อย่างไรโดยทั่วไปก็จะได้รู้กันตอนทดสอบพลังวัตรที่จัดขึ้นทุกครึ่งปี
ญาติผู้พี่ของเขาผู้นี้เป็ใครหวงสือรู้ดีอยู่แก่ใจ เป็ถึงหลานคนโตของเ้าตระกูลเสวียนซึ่งเป็ตระกูลผู้ทรงอำนาจหนึ่งในห้าของเสินโจว แม้ว่าตอนนี้จะตกยากแต่คนที่ถูกทำร้ายอย่างเสวียนหงและคนตระกูลหวงทั้งหมดต่างก็เห็นว่าเป็เพราะเสวียนจีบังคับควบคุมหัวหน้าตระกูลเสวียนสงอยู่ขอเพียงวันหนึ่งช่วยหัวหน้าตระกูลเสวียนสงออกมาได้ก็สามารถเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของเสวียนจีได้เสวียนหงกับเสวียนเทียนก็จะสามารถกลับไปมีที่ยืนในตระกูลได้อีกครั้ง
“ฮึๆๆๆ...”
เสียงหัวเราะเย้ยหยันของจางหู่ดังขึ้นแล้วกล่าวว่า “หวงเทียน ขยะอย่างเ้าในที่สุดก็ออกมาเสียทีหวงสือเ้าขยะของขยะนั่นเป็ขยะอย่างแท้จริง ถูกข้าตีเหมือนกับตีหมาไม่มีความท้าทายเลยสักนิด ถึงเ้าจะเป็ขยะ แต่อย่างไรก็ดีกว่านิดหน่อยอย่างน้อยก็พอให้ข้าเอาจริงได้บ้าง ได้ใช้ความสามารถสักเจ็ดแปดส่วน”
การปรากฏตัวของเสวียนเทียน ทำให้จางหู่ใแต่ถ้าจะบอกว่าจางหู่หวาดกลัวเสวียนเทียน นั่นเป็ไปไม่ได้
กระบี่เมื่อครู่ของเสวียนเทียนนั้นนับว่าเขวี้ยงมาจากระยะไกลถึงยี่สิบจ้างได้อย่างแม่นยำหาใดเปรียบน่าตื่นตะลึงอยู่ไม่น้อย จางหู่พอจะรู้อยู่ว่าทักษะกระบี่ของเสวียนเทียนไม่ธรรมดาเมื่อครั้งที่เสวียนเทียนยังอยู่ในชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ก็เอาชนะลูกศิษย์ที่อยู่ในชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าหลายคนได้แล้ว
ดังนั้นแม้ว่าจางหู่จะใกับทักษะกระบี่ของเสวียนเทียนอยู่หลายส่วนแต่ความสามารถของเขาเหนือกว่าลูกศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าทั่วไปอยู่มากจนเทียบชั้นกันไม่ได้ทำให้เขาไม่เห็นเสวียนเทียนอยู่ในสายตาเลย
“จางหู่ ข้าขอท้าประลองกับเ้า เ้ากล้ารับคำท้าหรือไม่” เสวียนเทียนถามเสียงดังเสียงกังวานไปทั่วทั้งสี่ทิศ ไม่เพียงจางหู่ ศิษย์นอกกว่าร้อยคนบนลานกว้างล้วนได้ยินชัดเจน
จางหู่ยกยิ้มมุมปากกล่าวว่า “ดี ข้ารับคำท้าประลองกับเ้า”
สิ้นเสียงคำของจางหู่แววตาของเสวียนเทียนก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เขามองจางหู่ด้วยดวงตาไร้อารมณ์เหมือนมองซากสัตว์ตัวหนึ่ง พอยกเท้าก้าวเดินก็เดินมุ่งตรงไปทางจางหู่
จางหู่เห็นเสวียนเทียนไม่มาเก็บกระบี่ก็ประหลาดใจจึงถามขึ้นว่า “หวงเทียน เ้าไม่ใช้กระบี่?”
เสวียนเทียนไพล่แขนซ้ายไปข้างหลัง ยิ้มบางๆพลางบอกว่า “รับมือขยะอย่างเ้าข้าไม่ต้องใช้กระบี่ แค่มือข้างเดียวก็พอแล้ว”
ลูกศิษย์ในลานกว้างต่างสูดลมหายใจเฮือกอย่างตกตะลึงจางหู่เป็สุดยอดของลูกศิษย์ที่พลังวัตรอยู่ในชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าเป็ที่สุดของที่สุดของลูกศิษย์ในรุ่นเดียวกันถึงขนาดที่ลูกศิษย์รุ่นก่อนหน้าจำนวนไม่น้อยยังห่างชั้นจากเขาอีกไกลเสวียนเทียนกลับบอกว่าจะรับมือเขาโดยไม่ใช้กระบี่ ทั้งยังใช้มือข้างเดียวอีกด้วย
สำนักกระบี่์เป็สำนักวิชากระบี่สิ่งหลักที่ฝึกฝนก็คือวิชากระบี่ หากในมือไร้กระบี่ความสามารถของลูกศิษย์สำนักกระบี่์ก็ลดหายไปครึ่งหนึ่ง
“ฮ่าๆๆๆ...โอหังนัก”
จางหู่โกรธจัดพลางแสยะยิ้ม กล่าวว่า “ข้าว่าเ้าคงแช่น้ำในบึงซ่อนกระบี่จนสมองเพี้ยนไปแล้ว ก็ดีวันนี้ข้าจะฟันเ้าให้ตื่นเอง ไม่ปล่อยให้เ้าฝันกลางวันอยู่ตรงนั้นหรอก รับมือ...”
พูดจบ สองขาของจางหู่ก็ถีบพื้นร่างพุ่งทะยานไปข้างหน้า กระบี่ยาวในมือยกขึ้น ฟันออกไปอย่างรุนแรงกระบี่ยาวตัดผ่านอากาศเห็นเงากระบี่เป็เส้นแสงสีขาวสว่าง ฟาดฟันลงมาที่เสวียนเทียน
เพลงกระบี่ชั้นทองขั้นกลาง...เพลงกระบี่สะบั้นสิงห์
เพลงกระบี่นี้สำคัญที่ความแข็งแกร่งรุนแรงและพลังอันหนักหน่วงเหมาะกับผู้ฝึกฝนที่มีเรี่ยวแรงมากมาแต่กำเนิด ซึ่งเหมาะสมกับจางหู่เป็อย่างยิ่ง
เมื่อจางหู่ใช้ ‘เพลงกระบี่สะบั้นสิงห์’ นี้ในหมู่ลูกศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าไม่มีใครเป็คู่ประมือของเขาได้แม้จะเป็ลูกศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกก็ยังมีส่วนหนึ่งที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับเขา
เสวียนเทียนไม่มีทีท่าว่าจะหลบ ‘เพลงกระบี่สะบั้นสิงห์’ ของจางหู่แม้แต่น้อย
ตอนนี้เสวียนเทียนฝึกฝน ‘เพลงกระบี่ถลาลม’ บรรลุถึงขั้นข้ามสู่เทพวิถีแล้ว ทำให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับเพลงกระบี่ท่าธรรมดาได้ดี ‘เพลงกระบี่สะบั้นสิงห์’ ที่แต่ก่อนดูร้ายกาจมหาศาล ในสายตาของเขาตอนนี้กลับมีจุดอ่อนเต็มไปหมดทั้งความเร็วก็ดูช้าลงกว่าเดิม
เสวียนเทียนไม่ถอย แต่กลับรุกเข้าไปเขายื่นแขนออกไป ยกนิ้วขึ้นสองนิ้ว
ชิ้ง...
เกิดเสียงดังกังวานขึ้นสองนิ้วของเสวียนเทียนตัดผ่านเงากระบี่ของจางหู่ หนีบสองข้างของปลายกระบี่ไว้ได้อย่างแม่นยำไม่มีพลาด
จางหู่ตกตะลึงพลังแข็งแกร่งสายหนึ่งพลันพุ่งผ่านมาทางตัวกระบี่ เงาแสงสลาย กระบี่ยาวหลุดจากมือดีดกระเด็นออกไปกว่าสิบจั้ง
จางหู่ยังคงตกอยู่ในห้วงตะลึงงันร่างของเสวียนเทียนก็รุกเข้ามา มือที่ยกสองนิ้วเปลี่ยนเป็ห้านิ้วเรียงชิดฝ่ามือร้ายกาจข้างหนึ่งฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของจางหู่
เห็นฝ่ามือของเสวียนเทียนฟาดมา จางหู่คิดจะหลบทว่าเพิ่งเริ่มคิด ความเจ็บแปลบสายหนึ่งก็ส่งผ่านมายังใบหน้าฝ่ามือของเสวียนเทียนประทับรอยไว้บนหน้าของจางหู่แล้ว
“อ๊าก...!”
เสียงร้องด้วยความเ็ปดังขึ้นจางหู่รู้สึกเหมือนยอดเขาแห่งหนึ่งทลายลงมา ตกทับลงบนใบหน้าของเขาจนร่างกายล้มโครมถูกฝ่ามือเดียวของเสวียนเทียนตบลงไปกองกับพื้น
“ใครกันแน่ที่เป็ขยะ?”
เสวียนเทียนตวาดถามเสียงดัง เดินเข้าไปก้าวหนึ่งแล้วเอาเท้าเหยียบลงไป
จางหู่ที่เพิ่งล้มลงมากองกับพื้น ยังคงร้องโอดโอยเท้าของเสวียนเทียนเหยียบลงมาบนหน้าของเขา
เท้าข้างนี้หนักอย่างประหลาด เสียง ‘ตึง!’ ดังขึ้นพื้นแข็งของลานประลองทะลุเป็รู ศีรษะของจางหู่ถูกเหยียบจมลงไปในรูนั้น
ครั้งแรกจางหู่โดนหนึ่งฝ่ามือของเสวียนเทียนตบล้มลงไปกองกับพื้นต่อมาก็ถูกเท้าหนึ่งของเสวียนเทียนเหยียบศีรษะจนทะลุพื้นเวที ติดอยู่ในรูทั้งตัวโดนเล่นงานจนยับ ได้แต่ร้องโอดโอย ไม่ทันได้ตอบสนองแม้แต่น้อย
ขาขวารู้สึกตึงจางหู่ในสภาพเท้าชี้ฟ้าหัวปักดินก็ถูกเสวียนเทียนหิ้วขึ้นมา
ตอนนี้ศีรษะของจางหู่ถูกดึงขึ้นมาจากหลุมทำให้ได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว ในใจหวาดกลัวยิ่งนัก ร้องเสียงหลงบอกว่า “ศิษย์พี่หวงไว้ชีวิตด้วย!”
แต่คำพูดของจางหู่เปล่งออกมาได้ไม่ทันไรเสวียนเทียนก็ตวาดเสียงดังขึ้นมากลบเสียงของจางหู่ไป “ใครเป็ขยะ?”
พูดพลางเสวียนเทียนก็จับขาขวาของจางหู่แล้วเหวี่ยงออกไป
ปั้ก..!
ร่างของจางหู่หมุนคว้างกลางอากาศครึ่งรอบก็ตกกระแทกพื้นเวทีอย่างแรง
ครึก…ครึก…!
พื้นเวทีแตกออก เกิดเป็รอยแตกมากมายเห็นได้ชัดว่าเสวียนเทียนเหวี่ยงออกไปรุนแรงขนาดไหน
อุ่ก...!
จางหู่กระอักเืออกมาก้อนใหญ่ร่างกายถูกเล่นงานหนักจนยับเยิน มีาแฉีกเปิดอยู่ไม่น้อย เืสีสดไหลริน
“ใครเป็ขยะ?”
เสวียนเทียนตวาดถามเสียงดังลั่นขึ้นมาอีกครั้งร่างของจางหู่ก็ลอยคว้างครึ่งรอบตกกระแทกพื้นลานประลองอย่างแรงอีกครั้ง
ครึก...ครึก...!
จุดที่ตกกระแทก ลานประลองปริแตกจางหู่กระอักเืพุ่งออกมาเป็สายอีกครั้ง
“ข้าเป็ขยะ...ข้าเป็ขยะ...ศิษย์พี่หวงไว้ชีวิตด้วย...ข้าเป็ขยะ!”
จางหู่กลั้นความเ็ปละล่ำละลักะโออกมาเสียงดัง เขาถูกเล่นงานจนหวาดผวาเขารู้สึกว่าตนเองเป็ดั่งแมลงตัวกระจ้อยในฝ่ามือของเสวียนเทียนเสวียนเทียนจะบี้เขาให้ตายเมื่อไรก็ได้
ลูกศิษย์ด้านล่างลานประลองต่างนิ่งงันแต่ละคนเบิกตาค้าง อ้าปากหวอ ในแววตาของพวกเขามีแต่ความตกตะลึง
ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นบนลานประลอง
จางหู่ตกอยู่ใต้กำมือของเสวียนเทียนไม่มีความสามารถที่จะต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อยเหมือนกับเป็สุนัขตายตัวหนึ่งที่ถูกเสวียนเทียนเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา