วั่งจีหยิ่งผยองได้ไม่นานเพราะเท้าน้อยๆ กระทืบลงหน้าเขาอย่างไม่ปรานีปราศรัย จนฟันหน้าทั้งสองซี่กระเด็นลงมาอยู่บนพื้น
ชิวอวี่รู้สึกเสียวรากฟันของตนเอง
“คนชั้นต่ำเช่นเ้าไม่ควรมองหน้าข้าหรอก พูดความจริงมาให้หมด!” เท้าเรียวของชิงอีเหยียบหน้าผากของวั่งจีและบดขยี้ซ้ำไปอีกสองครั้ง
ั์ตาของวั่งจีมีแต่ความชิงชัง เขาพยายามเงยหน้าขึ้นหลายครั้ง แต่ฝ่าเท้าที่เหยียบเขาไว้นั้นหนักราวกับลูกตุ้มที่มีน้ำหนักสิบกิโลกรัม ทำให้เขาไม่อาจขยับเขยื้อนได้เลย
“พูดมาสิ ข้าล่ะอยากฟังว่าพวกเ้าเก่งกาจกันขนาดไหน มือถึงได้ยาวจนไปแสวงหาผลประโยชน์ในปรโลกได้?”
“แน่จริงก็ปล่อยข้าไปสิ รอให้ศิษย์พี่ออกโรง พวกเ้าทั้งหมดก็ต้องตาย...”
“ช่างโง่เง่าจริงๆ แค่ตอบให้ตรงคำถามยังทำไม่ได้” ชิงอีขยี้เท้าลงไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนหัวของวั่งจีเกือบจะจมลงไปในหลุม
ชิวอวี่ที่มองอยู่ข้างๆ รู้สึกหน้าชา แม้จะเป็เช่นนั้นเขาก็ไม่ได้เห็นอกเห็นใจอะไรจะมีก็แต่ความสบายใจ สัตว์เดียรัจฉานเช่นนี้ต่อให้โดนปะาพันมีดหมื่นแล่[1]ก็ไม่ได้ถือว่ามากเกินไปสักนิด!
คนอื่นอาจไม่ทันสังเกตเห็นแววตาอาฆาตของชิงอี แต่เ้าแมวอ้วนเห็นมันทั้งหมด ปลาที่ติดเบ็ดในครั้งนี้เป็ปลาจากต้นน้ำจริงๆ! กล้ายื่นมือไปแสวงหาผลประโยชน์ถึงปรโลกไม่รู้เสียแล้วว่านั่นคืออาณาเขตของพญามัจจุราชสาวชิงอีเตี้ยน!
วั่งจีผู้นี้กล้าเสแสร้งต่อหน้าพญามัจจุราช ช่างไม่กลัวตายเสียจริง!
วั่งจีที่ถูกกระทืบไปเพียงไม่ทีก็หมดสติไป ชิงอียังคงอารมณ์เสียขึ้นไปยืนที่บันไดและสั่งให้ชิวอวี่ดึงวั่งจีออกมาจากดิน
“ข้าถามว่ายาแก้พิษอยู่ที่ไหน?”
วั่งจีที่ยังคงมึนหัวสบตาเข้ากับั์ตาอันแสนเ็าของชิงอี ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น
“นะ...ในกล่องไม้จันทน์ ในห้องของข้า...ิญญา น้ำยาิญญา...”
ชิวอวี่หันไปมองชิงอีอย่างใระคนพิศวง เมื่อครู่มันยังปากแข็งอยู่เลยไม่ใช่หรือ? แค่ถูกเหยียบทีสองทีเหตุใดถึงพูดออกมาหมด
“มัดมันเอาไว้ก่อน แล้วไปปลุกคนของเ้าซะ” ชิงอีกล่าวพลางเอนตัวพิงข้างเสาและหลับตาลงเพื่อใช้ความคิด
ชิวอวี่รีบทำตามคำสั่งทันที เขาสาดน้ำสองสามกะละมังเพื่อปลุกลูกน้องของตนขึ้นมาทีละคน เมื่อพวกเขาตื่นมาเห็นวั่งจีที่หมดสภาพอยู่ข้างนอก ชิวอวี่อธิบายสั้นๆ เพียงสองสามคำ ทุกคนล้วนถลึงตาใส่วั่งจีด้วยความอาฆาตแค้นแทบอยากจะจับเขามาหั่นเป็ชิ้นๆ
“พวกเ้าไปปลุกคนอื่นๆ ต่อ ส่วนคนที่เหลือตามข้าไปช่วยคนก่อนแล้วค่อยคุยกัน” หลังสั่งการเสร็จชิวอวี่มองชิงอีอย่างลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ชิงอีลืมตาขึ้นมามองเขา “ข้าจะไปกับเ้า”
ชิวอวี่พยักหน้าด้วยความโล่งใจ
แม้วั่งจีจะบอกที่ซ่อนของยาแต่เขายังไม่สบายใจอยู่ดี เพราะเกรงว่าเ้าคนชั่วนั่นจะหลอก ทว่า ชิวอวี่ไม่รู้เลยว่าอำนาจสั่งการตกอยู่ในมือของชิงอีแล้ว คล้ายว่าหากนางยังคงประทับอยู่ที่นี่ เหล่าปีศาจร้ายเป็เพียงแค่ฝุ่นผงเท่านั้น
ชิวอวี่และเหล่าลูกน้องออกค้นหายาด้วยความว่องไว จนไปพบกล่องไม้จันทน์ตามที่วั่งจีกล่าวไว้ ในนั้นมีขวดหยกที่เมื่อเขย่าก็ได้ยินเสียงน้ำ ทว่า พวกเขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันคืออะไร
ชิวอวี่เปิดจุกออกเพื่อดมกลิ่นมัน แล้วก็ต้องขมวดคิ้ว เนื่องจากกลิ่นของมันเหม็นจนแทบดมไม่ไหว คนที่เหลือถึงกับทำหน้าหยี “เ้าคนชั่วนั่นหลอกพวกเราหรือไม่ สิ่งนี้มันจะเป็ยาแก้พิษได้อย่างไรกัน!”
“กลิ่นเหม็นยิ่งกว่าบ่อปุ๋ยคอกเสียอีก ดื่มไอ้นี่เข้าไปแล้วจะยังมีชีวิตรอดใช่ไหม?!”
ใบหน้าทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความสงสัย
ชิงอีพูดเสียงเรียบว่า “นี่คือยาแก้พิษ”
ชิวอวี่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็มั่นใจขึ้นมาหน่อย ส่วนคนอื่นๆ ก็ยังคงแคลงใจ
ต้านเสวี่ยและคนอื่นๆ ที่พุ่งตัวมาหลังจากที่ถูกปลุกให้ตื่นก็เกือบจะเป็ลมเพราะสิ่งที่อยู่ในขวดหยก
“องค์หญิงเพคะ หากดื่มสิ่งนี้ไปแล้วจะไม่เป็อะไรไปจริงๆ ใช่ไหมเพคะ?”
เป็อะไรไป? ชิงอียิ้มโดยที่ไม่ตอบอะไร แต่หันไปบอกชิวอวี่ที่กำลังกรอกยาเข้าปากของผู้าเ็สองคนด้วยมืออันสั่นเทาว่า “ระวังอย่าให้หกล่ะ นี่เป็ของดีเชียวนะ”
ของดี? ชิวอวี่คิดอย่างขื่นขมว่าองค์หญิงของกระหม่อม สิ่งนี้มันไม่ได้ดีไปกว่าบ่อปุ๋ยคอกเลยนะพ่ะย่ะค่ะ
หลังจากเทของน้ำยาิญญาเข้าไปแล้ว ไม่นานนัก ร่างของพวกเขาก็กระตุกอย่างรุนแรง ชิวอวี่ใจนคิดว่าจบแล้ว! มันคือกับดัก!
“แหวะ” ทั้งสองอาเจียนออกมาเป็เื ทั้งยังมีบางอย่างขยับอยู่ในกองเืนั้น ชิวอวี่เพ่งมองถึงเห็นว่าสิ่งนั้นมีลักษณะคล้ายกับรากไม้
เขารีบสั่งให้คนมาจุดไฟเผามัน
“น้ำยาิญญาที่เหลือนำมาเช็ดบนาแของทั้งคู่”
ชิงอีสั่งการอีกครั้ง ซึ่งชิวอวี่ผู้เพิ่งจะยกูเาออกจากอกไปก็ไม่รีรอที่จะทำตามทันที
เถาเซียงและต้านซวี่ยที่เฝ้าด้วยความอกสั่นขวัญแขวนและอดเอ่ยถามไม่ได้ว่า “องค์หญิงเพคะ เหตุใดกองเืของทั้งคู่ถึงมีรากต้นไม้อยู่ล่ะเพคะ? แถมมันยังมีชีวิตอยู่อีกต่างหาก!”
“ที่ต้นหยินฮว๋ายต้นนั้นรวบรวมิญญาร้ายเอาไว้ เป็เพราะคนชั่วนั่นใช้เป็จุดฝังหมุดหยิน แล้วพวกเขาทั้งสองได้รับาเ็จากน้ำยางของต้นฮว๋ายที่ปนเปื้อนิญญาร้ายมา เพราะอย่างนั้นรากไม้ที่พวกเขาคายออกมาก็คือสิ่งสกปรกซึ่งแฝงในร่างกายพวกเขา”
“แล้วกลิ่นเหม็นของน้ำยาิญญามันคืออะไรเพคะ?”
“นั่นก็...” ริมฝีปากของชิงยกขึ้น “มันก็คงจะเหมือนน้ำจากซากศพอะไรประมาณนั้นมั้ง”
ทั้งสองคนที่เพิ่งฟื้นถึงกับเป็ลมไปอีกรอบเมื่อได้ยินเช่นนั้น คนอื่นๆ ก็ต่างโก้งคอคล้ายจะอาเจียน
น้ำจากซากศพ?!
เถาเซียงและต้านเสวี่ยหน้าซีดแล้วซีดอีก เมื่อนึกถึงรากของต้นฮว๋ายที่เชื่อมกับศีรษะของศพสิบหกศพก็รู้สึกแย่ไปหมด
“องค์หญิง...เช่น เช่นนั้นพวกเขาดื่มไปแล้วจะไม่เป็อะไรใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” ชิวอวี่รู้สึกใจคอไม่ดีและมองอย่างอึดอัดใจไปยังขวดหยกในมือ
“เหตุใดข้าต้องโกหกเ้าด้วยล่ะ?” ชิงอีกลอกตามองบน “ถ้าไม่เข้าใจก็อย่าคิดมาก มันไม่ใช่น้ำจากซากศพในแบบที่พวกเ้าคิดหรอก หลุมฝังหมุดหยินรวบรวมิญญาร้ายไว้แล้วค่อยกลั่นออกมาเป็น้ำค้าง ซึ่งมันก็คือน้ำยาิญญานั่นเอง โดยการทำผ่านต้นฮว๋ายต้นนั้นที่เชื่อมอยู่กับศพเด็กน้อย ถ้าจะเรียกมันว่าเป็น้ำจากซากศพก็ไม่ใช่เื่เกินจริงแต่อย่างใด เ้าคนชั่วทั้งสองทำเื่เช่นนี้คงทำเงินไปได้มากมายเลยทีเดียว”
ทำเงิน? ดื่มเข้าไปแล้วจะกลายเป็ะหรือไร สุดท้ายแล้วน้ำยาิญญานี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับศพ...
กระนั้น สีหน้าของแต่ละคนก็ยังไม่สู้ดีนัก
ชิวอวี่มองผู้เคราะห์ร้ายสองคนที่สลบไปอย่างเห็นอกเห็นใจ ถึงจะเป็น้ำจากซากศพก็เถอะ! ดีกว่าต้องตายแล้วกัน
“องค์หญิง ควรทำอย่างไรกับเ้านี่ดีพ่ะย่ะค่ะ” ชิวอวี่ชี้ไปที่วั่งจีซึ่งเป็ลมหมดสติอยู่ใกล้ๆ สิ้นคำเหล่าสามเณรน้อยที่ถูกจับก็เข้ามา
“พระอาจารย์! เหตุใดท่านจึงทำเช่นนี้กับพระอาจารย์!”
“พวกท่านทำเกินไปแล้ว เหตุใดต้องทำร้ายผู้คนสุ่มสี่สุ่มห้าเช่นนี้ด้วย!”
“พระพุทธเ้าต้องลงโทษพวกท่านอย่างแน่นอน!”
เมื่อได้ฟังคำประณามด้วยความเกรี้ยวกราดของสามเณรน้อยแล้ว ชิวอวี่ถึงกับขมวดคิ้วและโต้กลับไป “หุบปาก! ผู้ชายคนนี้เป็ปีศาจที่คร่าชีวิตผู้คน พวกเ้ายังจะกล้าพูดแทนเขาอีก! ศาสนาพุทธที่บริสุทธิ์แต่กลับซ่อนสิ่งสกปรกโสโครกเอาไว้ หรือว่าพวกเ้าเป็ผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยงั้นหรือ?!”
“ไม่...มันเป็ไปได้ยังไง พวกท่านพูดเื่ไร้สาระ!” เหล่าสามเณรตัวน้อยหน้าแดงก่ำ
“ใช่ไม่ใช่ถึงเวลาสอบสวนก็จะรู้เอง ก่อนอื่นพาพวกเขาทั้งหมดลงไปก่อน”
ชิงอีไม่เหลียวมองเหล่าสามเณรตัวน้อยสักนิดและหันหลังเดินจากไป
ชิวอวี่คิดว่าองค์หญิงทรงมีทางอื่นที่ต้องไปทำอีก จึงพุ่งตัวตามไปติดๆ
ปึง
ชิงอีเปิดประตูเข้าไปเห็นเพียงเซียวเจวี๋ยยังคงหลับใหลอยู่ในท่าเดิมเหมือนตอนที่นางจากไป ชิวอวี่ที่เดินตามหลังมาชะโงกมองถึงกับอุทานออกมา
“เหตุใดเซ่อเจิ้งอ๋องถึงกลายเป็เช่นนี้ได้?!”
*************************
[1] ปะาพันมีดหมื่นแล่ คือ การปะารูปแบบหนึ่งของจีนในสมัยก่อน โดยจะค่อยๆ แล่เนื้อของนักโทษเป็ชิ้นบางๆ อย่างช้าๆ จนกว่าจะถึงความตาย