ชิวอวี่มองลูกน้องล้มลงทีละคนและรับรู้ถึงความผิดปกติทันที สิ่งแรกที่เขานึกถึงคือความปลอดภัยของชิงอี หากเป็อย่างที่องค์หญิงตรัสจริงๆ คนชั่วที่อยู่เื้ัต้องซ่อนตัวอยู่ในสำนักจีเหรินจายนี้!
แย่แล้ว! องค์หญิงทรงตกอยู่ในอันตราย!
ชิวอวี่คว้าดาบเตรียมจะพุ่งตัวไป จู่ๆ ก็มีพลังประหลาดออกมาจากใต้เท้า เขามองดูด้วยความประหลาดใจ ซึ่งมันเห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไรอยู่ใต้นั้นแต่เขากลับขยับเท้าไม่ได้
ทันใดนั้นเขารู้สึกร้อนผ่าวตรงอกซ้ายราวกับมีบางอย่างกำลังลุกไหม้
เขารีบดึงปกคอเสื้อ ถึงได้มีกระดาษที่ไหม้ไปกว่าครึ่งแผ่นหนึ่งปลิวออกมา
ปัง
ลมเย็นปะทะผ่านประตูเข้ามา
ชิวอวี่เห็นเพียงเงาสีขาวก่อนที่วินาทีต่อมาเขาก็ถูกกระแทกเข้ากับกำแพง
เขากัดฟันลุกและเมื่อเขาลืมตาขึ้นมาก็ต้องขนลุก
เงาอันน่าสยดสยองของชายและหญิงยืนอยู่ไม่ไกล ใบหน้าแต่ละคนดูคล้ำเขียว แถมทั้งเจ็ดรูรับแสง[1]ยังคงมีเืหลั่งไหลออกมาและส่วนล่างก็ไม่มีเท้า!!
พวกเขาคือ...ผีร้าย!
ชิวอวี่ข่มความกลัวและชักดาบออกมาเปิดฉากโจมตีใส่ผีร้ายก่อน ทว่า ทุกการโจมตีกลับทะลุผ่านร่างของพวกมันไป เมื่อรู้ตัวอีกทีเขาก็ตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของพวกมันแล้ว
“ออกไป”
ใน่เวลาแห่งความเป็ความตาย เขาได้ยินเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดของเด็กผู้ชาย
พวกผีร้ายกลัวจนถอยออกไป ชิวอวี่รู้สึกถึงบางสิ่งที่มองไม่เห็น ซึ่งปกป้องเขาอยู่ข้างกาย กระนั้น ผีร้ายเ่าั้ก็หายกลัวและฟื้นกำลังมาจู่โจมอีกครั้ง
ครานี้เกรงว่าคงจะเสร็จพวกมันแน่ๆ!
ชิวอวี่หลับตาเตรียมตัวรับความเจ็บจากการถูกแทงทะลุหัวใจ แต่เขากลับไม่รู้สึกเจ็บและมีเพียงเสียงแมวร้องระคนกับเสียงร้องโหยหวนของผี
“เ้าเกร็งคอเช่นนั้นไม่เหนื่อยหรือไร?”
เสียงหญิงสาวที่คุ้นเคยดังขึ้น เมื่อชิวอวี่ลืมตาขึ้นก็ต้องประหลาดใจมากที่เห็นชิงอียืนอยู่ข้างหน้าตัวเอง
“องค์หญิง!” เขากระเด้งตัวขึ้นจากพื้น เขาพยายามดันชิงอีให้มาอยู่ข้างหลังเขาเพื่อจะได้ปกป้องตามสัญชาตญาณ ผลลัพธ์คือถูกนางผลักหน้าทิ่มเกือบจะจูบกับผี
“ถ้าหายเวียนหัวแล้วก็รีบไปจับคนก่อนที่เขาจะหนีไปได้” ชิงอีจ้องเขาอย่างเ็า “ในนี้ปล่อยให้เป็หน้าที่ของข้า”
ชิวอวี่มองนางอย่างลังเลแล้วเบนสายตาไปยังเ้าแมวอ้วนที่สำแดงพลังไว้จนผีร้ายเ่าั้ถูกมันข่วนจนไม่สามารถต่อสู้กลับได้
ชิวอวี่กัดฟัน “องค์หญิงทรงระวังตัวด้วยพ่ะย่ะค่ะ! อย่าให้พระองค์ตกอยู่ในอันตรายนะพ่ะย่ะค่ะ!” เมื่อพูดจบก็รีบวิ่งออกไปทันที
หลังจากที่เขาออกไป ชิงอีก็จดจ่ออยู่กับสถานการณ์ภายในห้อง มันเป็เื่ธรรมดาที่เ้าแมวอ้วนจะสามารถจัดการกับผีเหล่านี้ได้ ทว่า ตัวตนของผีพวกนี้...
“เบามือหน่อย ไม่ต้องถึงขั้นตายหรอก” ชิงอีกล่าวพลางขมวดคิ้ว
เ้าแมวอ้วนที่กำลังยุ่งก็ส่งสายตาไม่พอใจให้นาง เกลียดจริงๆ มันไม่ง่ายเลยกว่าที่จะได้ผีร้ายมาเป็มื้ออาหารพิเศษ ไม่นึกเลยว่ายังไม่ให้กินอีก
โก่วต้านที่อยู่ข้างๆ ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ขอบคุณขอรับพี่สาว พวกเขาเป็ลุงๆ ป้าๆ ในหมู่บ้านผี ปกติแล้วพวกเขาไม่ได้เป็แบบนี้ พวกเขาต้องถูกคนชั่วหลอกล่อให้โจมตีผู้คนแน่ๆ”
ชิงอีพ่นลมอย่างเกียจคร้าน นางเองก็รู้เื่นี้ถึงได้บอกเ้าแมวอ้วนว่าอย่าฆ่าพวกเขา
ไม่นานหลังจาก บรรดาผีร้ายต่างร้องไห้และพากันกลัวหงอภายใต้กรงเล็บของเ้าแมวอ้วน
“ฮึ เ้าพวกขยะ” เ้าแมวอ้วนเชิดคางอย่างหยิ่งผยอง แววตาของมันทำให้ผีร้ายกลัวจนตัวสั่น
เพียะ
ราชินีแห่งเหล่าภูตผียกมือฟาดลงไป ท่าทางอันน่าเกรงขามของเ้าแมวอ้วนเมื่อครู่พังทลายลงมาในพริบตาก่อนจะกลับมาเป็ดั่งเดิม
“แม้พวกเ้าจะถูกคนชั่วทารุณและท้ายที่สุดก็ถูกเขาฆ่าตายกลายมาเป็ผีร้าย นั่นก็พอให้อภัยกันได้ ทว่า ปรโลกมีกฎระเบียบและกฎก็ต้องเป็กฎ หลังจากที่ข้าจัดการพวกปีศาจร้ายตนอื่นเรียบร้อยแล้ว ข้าจะมาจัดการกับพวกเ้าอีกที”
เมื่อผีร้ายได้ยินคำพูดก็พยักหน้าหงึกๆ จะมีใครหน้าไหนกล้าขัดนางกัน
ชิงอีดึงถุงหูรูดที่เอวออกมา แล้วกระดิกนิ้วเรียกซึ่งพวกผีร้ายก็ะโเข้าไปตามหน้าที่
จากนั้นจึงแขวนถุงกลับไปที่เอวเช่นเดิม ชิงอีเดินทอดหุ่ยและทอดมองไปไกลๆ ก็เห็นชิวอวี่เดินดุ่มๆ กลับมาอย่างเหี้ยมโหด โดยในมือจับคนผู้หนึ่งราวกับลูกเจี๊ยบ
ตึง
วั่งจีที่ทั้งหัวและหน้าชุ่มโชกไปด้วยเืถูกโยนลงบนพื้น หากไม่มีผีร้ายคอยปกป้องเขาก็เป็คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น จึงไม่สามารถทนรับการเตะต่อยแค่ไม่กี่ครั้งของชิวอวี่ได้ ทั้งยังไม่อาจโต้กลับอะไรได้
ถ้าไม่ใช่ว่าชิวอวี่ยังมีสติพอจะคิดถึงลูกน้องที่รอยาแก้พิษอยู่คงถูกทุบตีวั่งจีจนตายในที่เกิดเหตุไปแล้ว
วั่งจีกระอักเื ั์ตาของเขาทั้งตื่นตระหนกทั้งหวาดผวา นึกไม่ออกว่าทำไมตนเองถึงกลายเป็แบบนี้? เหตุใดกลุ่มผีร้ายของเขาถึงถูกคนอื่นพาตัวไปอย่างง่ายดายเช่นนี้?
ไหนจะกำยานผีที่ใช้ไม่ได้ผลกับคนทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าอีก?
ต่อให้ผีน้อยตัวนั้นช่วยได้อย่างไรก็ไม่สามารถเป็คู่ต่อสู้กับกลุ่มผีร้ายของเขาได้อยู่ดี
และสิ่งที่เขาไม่เข้าใจไปมากกว่านั้นคือการที่ตัวเองถูกจับได้ ได้อย่างไรกัน?
“ก่อนที่เ้าจะโดนทรมาน ข้าจะให้โอกาสเ้าส่งยาแก้พิษของต้นฮว๋ายให้ข้า”
วั่งจีตากระตุกในสถานการณ์เช่นนี้เขาแทบไม่สามารถปฏิเสธได้เลย แต่เขายังตีหน้าซื่อ “กระหม่อมไม่เข้าใจว่าองค์หญิงกำลังตรัสถึงเื่อะไรพ่ะย่ะค่ะ เข้าพระทัยอะไรผิดหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
ชิงอีจ้องมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ยังจะเสแสร้งอยู่อีกหรือไง? เ้าพูดเองนี่ว่าเ้าจะปล่อยพวกผีร้ายมาสู้กับพวกข้า?”
วั่งจีตัวสั่นเทาและจ้องอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะทำหน้าเหี้ยมเกรียมขึ้นมาทันที “ท่านนี่เอง! เหตุใดถึงเป็ท่านไปได้?” เขาคิดว่าชิวอวี่เป็ผู้ทำลายจุดฝังหมุดหยินและผลงานดีๆ ของเขา แต่กลับกลายเป็องค์หญิงผอมกะหร่องก่องผู้นี้?!
ชิงอีไม่อยากจะเสวนากับวั่งจีอีกจึงหันไปหาชิวอวี่ “เ้ารู้วิธีสอบปากคำวิธีอันนั้นใช่ไหม? ใช้กับมันดูซิว่าจะยอมพูดออกมาหรือไม่”
ชิวอวี่พยักหน้า จริงๆ แล้วเขาอยากทำใจจะขาด เพียงแต่ “องค์หญิงทรงหลบไปก่อนดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ” วิธีนั้นโหดร้ายเกินไป เขากลัวว่าชิงอีจะรับไม่ได้
หญิงสาวมองพร้อมส่งรอยยิ้มดูแคลนจึงนึกขึ้นได้ว่านางไม่กลัวผีด้วยซ้ำ แถมยังกล้าหาญกว่าชายชาตรีเสียอีก คาดว่าคงเห็นฉากนองเืมาไม่น้อยและไม่พูดเื่ไร้สาระให้มากความ เขากำนิ้วมือข้างขวาของวั่งจีและออกแรงหัก!
กร๊อบ!
“จะพูดไม่พูด!?” ชิวอวี่ตะคอกใส่เสียงเข้ม “สิบนิ้วของเ้า ข้าจะค่อยๆ หักมันทีละนิ้ว จนกว่าเ้าจะเอายาแก้พิษมา!”
วั่งจีเหงื่อแตกผลั่กราวกับเปียกฝนพร้อมร้องด้วยความเ็ป กระนั้นเขายังคงไม่ยอมอ่อนข้อให้สักนิด แม้เืจะกบปากเขายังคงฉีกยิ้มและกล่าวท้าทายว่า “ฆ่าข้าได้ก็ลงมือเลยสิ! ไม่สิ ทางที่ดีเ้าควรจะรีบฆ่าข้าให้ตาย เ้าคิดว่าข้ากลัวตายงั้นหรือ? ฮ่าๆๆ ความตายเป็เพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นแหละ แต่ลูกน้องทั้งสองของเ้าคงไม่ได้เดินบนถนนหวงเฉวียนอย่างราบรื่น บางทีอาจจะหลงทางจนกระทั่งผีก็ไม่ได้เป็!”
สีหน้าของชิวอวี่เปลี่ยนไปในทันที
วั่งจีหัวเราะชอบใจ “รู้จักกลัวแล้วหรือ? ทางที่ดีปล่อยข้าไปดีกว่า ไม่เช่นนั้น เ้าเตรียมตัวไว้เลยศิษย์พี่ข้าจะเอาิญญาของเ้าไปปรุงยา!”
“อย่าคิดที่จะปั่นหัวคนอื่นเลย หลังจากคนชั่วเช่นเ้าตายไปคงเป็แค่เพียงส่วนหนึ่งของปรโลกเท่านั้นแหละ!”
“ปรโลก เหอะ หากไปปรโลกจริงๆ พวกเ้าก็คงต้องเรียกข้าว่าาา”
ดวงตาของชิวอวี่แดงก่ำจนลงมือหักนิ้วทั้งห้าของวั่งจีด้วยความโกรธและลังเลว่าควรชักมีดมาตัดนิ้วเขาดีหรือไม่ กลายเป็ชิงอีที่พูดขัดขึ้นมาก่อนว่า “ปล่อยเขาไปก่อน”
“องค์หญิง?” ชิวอวี่ทั้งสงสัยและไม่เข้าใจ
ชิงอีหลุบตามองวั่งจีด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ยากจะอธิบาย “ฟังจากที่เ้าพูดแล้ว หมายความว่านอกจากเ้าแล้วยังมีคนอื่นอีกสินะ?
*********************
[1] เจ็ดรูรับแสง (七窍) หมายถึงในหัวตา รูหู รูจมูก และปาก