จ้านอี้หยางเดินออกมาจากห้องอ่านหนังสือเขามองเห็นซูหรงหรงที่กำลังเอามือปิดใบหน้าตัวเองอยู่กลางห้องรับแขกเขาเดินไปหยุดที่ตรงหน้าเธอ เธอสังเกตได้ถึงการมีตัวตนของเขารีบเอามือออกจากใบหน้าก่อนจะหัวเราะแห้งๆออกมา
“นาย...นายทำไมยังไม่นอนล่ะ?"
เขาดูเวลา...เพิ่งจะสองทุ่มกว่า ก่อนจะตอบ “อืม"กลับมาแล้วจ้องใบหน้าที่กำลังหัวเราะของซูหรงหรง
“ความจริงก็ควรจะนอนได้แล้ว"
“คิกๆ"
ซูหรงหรงหัวเราะคิกคักเสียงดังกว่าเมื่อครู่จ้านอี้หยางรู้สึกได้ว่าเธอกำลังใจเต้นจนคุมตัวเองไม่อยู่เธอที่กลัวว่าเสียงหัวใจจะเต้นแรงเกินไปจนเขาได้ยินรีบเว้นระยะห่างระหว่างตัวเธอกับเขา
จ้านอี้หยางสังเกตเห็นถึงเท้าที่เขยิบถอยหลังของเธออา...กระต่ายก็เป็เสียแบบนี้ ยิ่งเห็นยิ่งอยากแกล้ง
เมื่อเธอถอยหลังหนึ่งก้าว เขาก็ก้าวไปข้างหน้ายาวๆไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าวบัดนี้รอยยิ้มบนหน้าของยัยกระต่ายน้อยเริ่มจางลงอย่างประหม่า
“จ้านอี้หยาง คือว่าฉัน...ฉันอยาก..."
ซูหรงหรงที่เห็นแววตาที่เป็ประกายของจ้านอี้หยางไม่กล้าที่จะเอ่ยสิ่งที่อยู่ในที่ว่าเธออยากขอย้ายไปนอนอีกห้องหนึ่ง
ถ้าเธอบอกเขาตรงๆ จ้านอี้หยางจะคิดอย่างไรกัน?
เธอเป็พวกหัวสมัยโบราณที่คัดค้านการมีอะไรกันก่อนแต่งงานแบบนี้ถึงแม้วันนี้พวกเขาจะจดทะเบียนสมรสกันวันนี้เป็วันแรกก็ตามเธอไม่แน่ใจว่าจ้านอี้หยางจะเข้าใจเธอผิดหรือไม่?
อ๊าย นี่นับว่าเป็คืนแรกก่อนแต่งงานได้หรือเปล่านะ
จ้านอี้หยางรู้ดีว่าสิ่งที่เธอหมายถึงคืออะไรแต่เมื่อมองเธอที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาตรงนี้แล้ว คำพูดทั้งหมดก็ดูจะเลือนหายไปเขาขมวดคิ้วขึ้น
“หากคุณผู้หญิงจ้าน้าทำไมฉันจะให้ไม่ได้ล่ะ?"
มือของเขาสอดเข้าไปภายในเส้นผมของเธอแรงััไม่ได้หนักหรือเบาจนเกินไป ทว่ามันกลับดูมีความหมายลึกซึ้ง
ซูหรงหรงคิดว่าเธอกับจ้านอี้หยางเข้าใจเหมือนกันว่าเขายินยอมให้เธอไปนอนที่ห้องถัดไปเธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ
“ได้จริงๆเหรอ?"
“สามีสามารถทำตามข้อเรียกร้องของภรรยาข้อนี้ได้เสมอ"
จ้านอี้หยางลูบผมดำขลับหนานุ่มของเธออย่างเบามือเขาส่งสายตาอันอบอุ่นมาให้เธอ
แม้ว่าทั้งสองกำลังพูดกันคนละเื่แต่ด้วยบทสนทนาที่ส่งมาคำพูดจึงต่อกันได้แบบนี้ไปโดยปริยาย
ซูหรงหรงเอียงหัวอย่างสงสัย
“เอ๋? มีภรรยาหลายคนร้องขอสิ่งนี้เยอะอย่างนั้นเหรอ? นายรู้ได้อย่างไรกัน?"
จ้านอี้หยางทำเพียงกระตุกยิ้มที่ริมฝีปาก เขาไม่เอ่ยต่อ
ยัยกระต่ายตัวนี้ช่างซื่อบื้อเสียจริงท่าทางการเอียงคอถามเขาอย่างสงสัยนั้นช่างดูสวยงาม
เขาอยากจะ...ให้เธอเข้ามาอยู่ในตัวของเขาแล้วเขาก็จะกลืนกินเธอให้หมด
เขาควบคุมสติของตัวเองก่อนจะเอ่ย
“ไปกันเถอะ"
“อื้มๆ"
ซูหรงหรงมอบสายตาขอบคุณไปให้จ้านอี้หยางเธอไม่คิดเลยว่าเขาจะเข้าอกเข้าใจเธอขนาดนี้เขาตอบตกลงโดยที่เธอยังไม่ได้ออกปากพูดเองเลยด้วยซ้ำ
นอกจากสายตาที่ส่งไปขอบคุณเขาแล้วซูหรงหรงเขย่งตัวขึ้นบรรจงหอมแก้มเขาไปฟอดหนึ่ง
“ฉันไปจัดการเก็บของก่อนนะ"
จ้านอี้หยางตะลึงงัน แต่เมื่อได้สติยัยกระต่ายน้อยของเขาก็เข้าห้องนอนไปเสียแล้ว
ที่แท้สิ่งที่ยัยกระต่ายน้อยอ้ำๆอึ้งๆก็เพราะอยากจะไปนอนห้องข้างๆ อย่างนั้นเหรอ...
เขาเอามือลูบแก้มตรงบริเวณที่เธอจูบเขาเบาๆ เขาเผยยิ้ม...ยัยนี่เรียนรู้ไวจริงๆ
อยู่ๆ โทรศัพท์ของซูหรงหรงที่วางไว้บนโต๊ะชาก็ดังขึ้น
จ้านอี้หยางเหลือบตามองก่อนจะเห็นหน้าจอเขียนว่า “คุณแม่"เขาใช้นิ้วเลื่อนปัดหน้าจอโทรศัพท์เพื่อรับสาย
“ซูหรงหรง นี่ลูกกับอี้หยางเป็อย่างไรบ้าง? ลูกยังไม่ได้ตบเขาใช่ไหม? แม่จะเตือนเธอเอาไว้ก่อนนะว่าอย่าทำอะไรให้ลูกเขยของแม่ไม่ชอบ"
เหอฮุ้ยหลานพ่นคำพูดออกมาเป็ชุดโดยที่ปลายสายยังไม่ได้เอ่ย
จ้านอี้หยางมองไปที่ประตูห้องถัดไปก่อนที่ริมฝีปากจะเผยรอยยิ้มออกมา
“คุณน้า นี่ผมเองครับ"
“อ้อ อี้หยางเองเหรอ!"
เหอฮุ้ยหลานอุทานด้วยความใ เธอค่อยๆปรับอารมณ์ของตนเองลง
“กินข้าวหรือยังจ๊ะ? อ๊ะใช่แล้ว เื่ทำกับข้าวน่ะ ยกให้เป็หน้าที่ของยัยเด็กไม่เอาไหนได้เลยที่จริงแล้วยัยเด็กไม่เอาไหนซูหรงหรงยังพอมีฝีมือการทำกับข้าวอยู่บ้างโดยเฉพาะมันฝรั่งผัดเนื้อเป็เมนูที่ทำได้ดีที่สุดเลยล่ะเรียกได้ว่าสูสีกับเชฟของโรงแรมได้เลย แล้วก็อีกเื่หนึ่ง ในเมื่อลูกสองคนแต่งงานกันแล้วถ้าอย่างนั้นก็ห้ามเรียกฉันว่าน้าอีก"
“ครับ แม่"
จ้านอี้หยางยิ้ม แม้น้ำเสียงจะฟังดูเป็ปกติทว่าสายตาราวเหยี่ยวของเขาตอนนี้จ้องไปที่ห้องนอนถัดไปอย่างอันตราย
ยัยซูหรงหรง หลอกเขาว่าทำกับข้าวไม่เป็ช่างเป็ยัยกระต่ายที่กล้าหาญชาญชัยยิ่งนัก
“แม่ครับ ตอนนี้หรงหรงมีธุระนิดหน่อยเดี๋ยวพอเธอว่างแล้วผมให้เธอโทรกลับนะ"
จ้านอี้หยางเป็คนที่มีพร์ในการพูดถนอมน้ำใจใครที่ได้ฟังเขาพูดมักจะมองไม่ออกว่าเขาคือผู้บัญชาการของกองทัพแล้วยิ่งกว่าการคาดเดาตอนนี้คือ ความรู้สึกในตอนนี้อยากจะไปตีคนของเขาให้ตาย
พอเหอฮุ้ยหลานได้ยินคำเรียกแทนชื่อของตนเมื่อครู่ก็หัวเราะชอบใจนับวันยิ่งรู้สึกชอบลูกเขยคนนี้
“ได้สิ ถ้าเขายุ่งอยู่ก็ไม่เป็ไรหรอก ค่อยให้เขาโทรหาแม่พรุ่งนี้ก็ได้แม่สบายใจนะที่ยกลูกสาวให้เธอ"
จ้านอี้หยางหัวเราะก่อนจะกดวางสายโทรศัพท์
และแล้วความเย็นะเืก็ถูกแผ่ออกมาเต็มทั่วทั้งห้อง
จ้านอี้หยางวางโทรศัพท์ลง เขาเดินตรงไปห้องนอนของเธอด้วยความอาฆาตมาดร้าย
สิ่งเล็กๆนี้ กล้าหลอกลวงเขาอย่างนั้นหรือกล้าใช้ท่าทางไร้เดียงสานั้นหลอกเขา ในที่สุดเขาก็โดนเธอหลอกเข้าเต็มเปา
ที่แท้ทำกับข้าวเป็ แต่กลับบอกเขาว่าทำไม่เป็แล้วยังกล้ายืนถือวิธีการทำอาหารชี้นิ้วสั่งเขาให้ทำกับข้าว
เื่นี้ช่างมันก่อนที่สำคัญคือกล้าสั่งให้เขาทำมันฝรั่งผัดเนื้อซึ่งเป็สิ่งที่เธอถนัดที่สุดเนี่ยนะ!
เดี๋ยวนะ วิธีทำอาหารอย่างนั้นเหรอ?
เมื่อครู่เธอยืนจ้องไอแพดแล้วหัวเราะแน่ใจนะว่ากำลังอ่านวิธีทำอาหาร? มันฝรั่งผัดเนื้อเป็สิ่งที่เธอถนัดที่สุดเธอยังจะต้องดูวิธีทำอย่างนั้นเหรอ?
เดินไปได้ครึ่งทางจ้านอี้หยางก็หมุนตัวกลับไปที่ห้องครัวเพื่อเปิดไอแพดของเธอดู
ประวัติการเข้าเยี่ยมชมอย่างนั้นเหรอ...มีแค่ประวัติการเข้าชมนิยายเธอเปิดดูรายการอาหารตอนไหนกัน?
ดี ดีมาก! ยัยกระต่ายน้อยอยากโดนถลกหนังนักใช่มั้ย
จ้านอี้หยางวางไอแพดลง ริมฝีปากกระตุกยิ้มอย่างเืเย็นเขาเปิดประตูห้องของเธอ
ซูหรงหรงกำลังนอนอยู่บนเตียงนอน พอเธอได้ยินเสียงเปิดประตูเธอก็หันไปดู แล้วพบว่าจ้านอี้หยางยืนอยู่ตรงนั้น
“เอ๊ะ? มีอะไรอย่างนั้นเหรอ?"
ยังจะกล้าถามเขาอีกเหรอ?
ความรู้สึกอยากฆ่าคนเต็มหัวจ้านอี้หยางไปหมดใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไม่มีอะไรฉันแค่เพิ่งนึกออกว่าถ้าฉันกลับกองทัพแล้ว เธอที่ทำกับข้าวไม่เป็จะทำอย่างไร?"
“นาย...นี่นายกำลังเป็ห่วงฉันอย่างนั้นเหรอ?"
ซูหรงหรงชี้นิ้วเข้าหาตัวเองพร้อมทั้งมองไปที่จ้านอี้หยางภายในใจของเธอเต็มไปด้วยความตื้นตัน
เฮ้อ ไม่น่าโกหกเขาเลย สามีที่ดีขนาดนี้ยังจะเป็ห่วงเป็ใยเธออีก
ซูหรงหรงรู้สึกผิด...ไม่แน่โกหกเลยจริงๆ
แต่เธอก็ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะบอกความจริงคำพูดของจ้านอี้หยางประโยคนั้นยังคงอยู่ในหู เธอหายใจขัด...น่ากลัวจัง
จ้านอี้หยางยิ้มเดินเข้าไปใกล้ซูหรงหรงเขามองกระต่ายน้อยที่เริ่มละอายแก่ใจ...ดีมาก
เขาหยุดยืนตรงหน้าซูหรงหรง ใช้มือลูบผมของเธอไปมาการกระทำช่างดูอ่อนโยน
“ใช่สิ พวกเราเพิ่งจะแต่งงานกันนะไม่ใช่ว่าพอฉันไม่อยู่บ้านเธอก็ทนหิว ฉันหาแม่บ้านให้เธอสักคนดีมั้ย?"
ซูหรงหรงเบิกตากว้างอย่างทราบซึ้งใจ น้ำตาเธอแทบจะไหลออกมา
“ไม่ต้องหรอก ไม่ต้อง งานของฉันก็ยุ่งมากแต่ฉันจะพยายามเรียนทำอาหาร อื้ม นายกลับมาครั้งหน้า ฉันน่าจะทำกับข้าวอร่อยๆ ให้นายกินได้แล้ว"
พูดจบยัยกระต่ายน้อยก็หัวเราะ เธอวางแผนล่วงหน้าไว้เรียบร้อยหมดแล้วรวมถึงการที่จ้านอี้หยางกลับมาบ้านครั้งหน้าด้วย เธอจะทำกับข้าวหรูๆให้เขาทานทำให้เขาเซอร์ไพรส์ไปเลย
นี่เป็วิธีเดียวที่จะชดเชยความผิดให้จ้านอี้หยาง
“ก็ถูก"
จ้านอี้หยางมองกลับไปที่ไอแพดที่วางอยู่โต๊ะชา
“...อีกอย่างเธอก็มีวิธีการทำอาหารแล้วรายการอาหารอะไรก็มีหมดใช่มั้ย?"
ซูหรงหรงสำนึกผิด ก่อนจะพยักหน้าแล้วเอ่ยเสียงเบา
“อื้ม ใช่แล้ว..."
การตอบกลับของเธอค่อนข้างทำให้เขาพอใจเขายอมยกเลิกการคิดบัญชีแค้นตอนนี้ เขาใช้มือลูบหัวของเธอไปมา
“กระเป๋าสัมภาระของเธออยู่ในห้องใหญ่ทำไมไม่ไปเอามาล่ะ?"
“โอ้ว ฉันจะไปเอามาเดี๋ยวนี้แหละ"
ซูหรงหรงตอนแรกวางแผนว่ารอจ้านอี้หยางเผลอเธอค่อยเข้าไปเอาของแต่เมื่อจ้านอี้หยางเสนอออกมาเอง เธอก็สามารถเข้าไปเอาของของเธอได้แล้ว
แง่ว จ้านอี้หยางช่างเป็คนที่มีน้ำใจจริงๆหรือว่า...พรุ่งนี้จะทำกับข้าวให้เขากินดี?
เมื่อมองแผ่นหลังของซูหรงหรงที่ดูเริงร่าจ้านอี้หยางหรี่สายตาลง เขาฝังลึกความคิดของตนเอง...พรุ่งนี้เธอตายแน่
ซูหรงหรงลากกระเป๋าสัมภาระของตนออกจากห้องใหญ่จ้านอี้หยางกำลังยุ่งอยู่กับเื่งานของตนเองอยู่ในห้องหนังสือเธอหยิบชุดนอนไปอาบน้ำ พอดูหนังเล่นอินเทอร์เน็ตได้สักพักก็ง่วงนอน เธอปิดคอมพิวเตอร์แล้วหลับไป
แม้ว่าเธอจะยังไม่คุ้นเคยกับเตียงนอนแต่เธอก็สามารถหลับได้อย่างสบาย
จ้านอี้หยางที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินเข้าห้องมาก็เห็นว่าซูหรงหรงหลับไปแล้ว
รูปร่างของเธอช่างเล็กมากจริงๆเธอนอนขดตัวบนเตียงนอนราวกับก้อนอะไรเล็กๆ ผมยาวดำขลับบนศีรษะของเธอแลดูน่าดึงดูดความสนใจเป็พิเศษ
แม้ความสวยของเธอจะไม่มากมายเสียจนล่มเมืองได้ แต่แววตาไร้เดียงสาของเธอนั้นช่างดึงดูดราวกับดวงตาของเด็กน้อยดูสดใสสุกวาว ผิวของเธอขาวนวลเนียน ริมฝีปากสีเชอรี่ที่ดูเย้ายวนใจประจวบกับหน้ารูปไข่ที่สวยงามได้รูป ทุกๆส่วนของร่างกายเธอช่างดูละเอียดอ่อน
แท้จริงแล้ว เธอยังคงเหมือนเด็กไม่ยอมโต แม้จะหลอกคนได้แต่ก็หลอกได้ไม่นาน สุดท้ายก็ถูกคนอื่นจับได้อยู่ดี
จ้านอี้หยางหัวเราะหึเบาๆเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปิดผ้าห่มแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆเธอ
ยัยกระต่ายน้อยบอกกับเขาว่าอยากนอนห้องรองเขาสามารถยอมรับข้อเสนอนี้ของเธอได้
แต่ว่า...เขาไม่ได้รับปากนี่ว่าจะให้เธอนอนห้องรองคนเดียว
จ้านอี้หยางอยากจะเห็นหน้าเธอตอนตื่นนอนแล้วพบว่าเขานอนอยู่ข้างๆเธอเสียจริง
ในขณะที่กำลังคิด ยัยกระต่ายน้อยก็หันตัวกลับมาอีกฝั่งมือของเธอััเข้ากับท่อนแขนของเขา ราวกับเธอกำลังกอดเขาอยู่แก้มของเธอวางทับอยู่บนแขนอีกข้างของเขา ลมหายใจของเธอเข้าออกยาวๆ สม่ำเสมอ
ราวกับยัยกระต่ายน้อยกำลังแกล้งเขาเล่นตอนนี้เขารับรู้ได้ถึงััจากการกอดของเธอ ในหัวของเขาตอนนี้สับสนไปหมด
เขาเป็เพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเขาจะทำใจไม่ให้ตื่นเต้นได้อย่างไร
แต่พอมองท่าทีที่หลับสบายของยัยกระต่ายน้อยแล้ว ช่างเถอะครั้งนี้ยอมปล่อยเธอไปแล้วกัน
ถ้าจะพูดให้ถูก เขาได้เตรียมของเซอร์ไพรส์เธอในวันพรุ่งนี้แล้ว