หวงฝู่เซียนะโอย่างโมโหเมื่อเห็นร่างฮวาชีเยว่กดทับอยู่บนกายอวิ๋นสือโม่
“ต่ำทรามนัก! เ้าเห็นว่าข้าไม่สนใจเ้าแล้วจะเอาเปรียบพี่อวิ๋นได้หรือ?”
แพทย์ฝึกหัดทั้งสองตกตะลึงไปครู่หนึ่ง บุรุษสตรีััมือกันยามส่งของนับว่าไม่เหมาะสมแล้ว ทว่ายามนี้กลับเห็นสตรีผู้หนึ่งล้มใส่อาจารย์ของพวกตน ภาพนี้...ช่างน่ากลัวเหลือเกิน ช่างยิ่งใหญ่ และน่าตื่นตะลึงเหลือเกิน
ร่างของฮวาชีเยว่ทับอยู่บนร่างอวิ๋นสือโม่ กลิ่นกายของสตรีลอยเข้าจมูกเขา ผมของนางที่ระลงมาโดนใบหน้าทำให้เขารู้สึกจั๊กจี้
เขามองเหลือบขึ้น เห็นดวงตาตกตะลึงของฮวาชีเยว่ดูใสกระจ่างดุจบ่อน้ำใสไร้ตัณหา
ฮวาชีเยว่เงยหน้าขึ้นเห็นดวงตาทอประกายอบอุ่นของอวิ๋นสือโม่ราวกับแสงจันทร์กระจ่าง นางะโลุกขึ้นอย่างหวาดกลัว เอ่ยปาก “ขออภัย ข้าไม่ตั้งใจ... ไม่คิดว่า…”
“ฮวาชีเยว่...เ้ามันแพศยา กล้าดีอย่างไรทำพี่อวิ๋นแปดเปื้อน!” หวงฝู่เซียนเร่งเข้ามาดึงร่างอวิ๋นสือโม่ขึ้น ยืนเบื้องหน้าเขาราวแม่ไก่ปกป้องไข่
ฮวาชีเยว่คิ้วกระตุก มิคาดการกระทำไม่ยั้งคิดของตนจะทำให้มีเื่เช่นนี้
เทียนซีจับกระโปรงนางอย่างหวาดกลัว
ฮวาชีเยว่รู้สึกตัว นางนั่งยอง กอดเทียนซีอย่างอ่อนโยน “อย่ากลัวไปเลย หนานอ๋องจะช่วยขับพิษให้เทียนซี อีกหน่อยเ้าจะได้พูดได้”
แพทย์ฝึกหัดทั้งสองก้าวเข้ามาอย่างโมโห จ้องมองฮวาชีเยว่แล้วตำหนิ “แม่นางฮวา ท่านทำเกินไปแล้ว ท่านอาจารย์กำลังทำการรักษา ไม่ว่าใครก็ห้ามรบกวน แต่ท่านเกือบทำให้ท่านอาจารย์ธาตุไฟเข้าแทรกแล้ว!”
ฮวาชีเยว่สะท้อนใจขึ้นมา นางมีตาไว้เพียงเพื่อเทียนซี จึงมิคาดว่าจะทำเื่ร้ายแรงลงไป
นางมองอวิ๋นสือโม่ เห็นเพียงใบหน้าซีดเซียวของเขาและโลหิตแดงฉานที่ไหลจากมุมปาก
“ท่านอ๋อง...ข้าขออภัย ข้าคิดว่า…”
“เ้าคิดว่าข้าจะฆ่าเขาหรือ?” ดวงตาอวิ๋นสือโม่เ็า ใบหน้ามืดหม่น แพทย์ฝึกหัดทั้งสองต่างก็กลั้นหายใจ เป็ครั้งแรกที่เห็นอาจารย์พวกตนโกรธผู้อื่นเพียงนี้
อวิ๋นสือโม่ปกปิดอารมณ์ของตนเองเสมอ แต่คราวนี้เขากลับเกรี้ยวกราดขึ้นมาแล้ว
“ไม่ใช่…” ยามนี้ฮวาชีเยว่คิดคำอื่นไม่ออก หลังจากได้ชีวิตใหม่มา นางก็ไม่เคยแสดงสีหน้าจริงใจกับใครอื่น นอกเสียจากสาวใช้คนสนิทและเทียนซี
กับหนานอ๋อง ระหว่างทั้งสองมีเพียงข้อแลกเปลี่ยน ห่างไกลจากความใกล้ชิดและเชื่อถือ ทว่าเพื่อเทียนซี ฮวาชีเยว่ไม่มีทางอื่นนอกจากพยายามอย่างหนักโดยไม่คิดถึงสิ่งอื่นใด
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมักเป็ไปในทางที่ไม่คาดฝันเสมอ
หวงฝู่เซียนแค่นหัวเราะ ดวงตาทอประกายรังเกียจ เขาเกลียดที่ถูกจับหมั้นั้แ่เกิด ยิ่งกว่านั้น ฮวาชีเยว่ยังเป็คนไร้ประโยชน์อีกด้วย!
“พี่อวิ๋น นางเพียง้าเอาเปรียบท่านเท่านั้น!”
“หวงฝู่เซียน เลิกพูดจาไร้สาระเสียที! ข้าไม่มีความคิดไม่เหมาะสมกับหนานอ๋อง เมื่อครู่เป็เพียงความผิดพลาดเท่านั้น” ฮวาชีเยว่ตอบอย่างไร้อารมณ์น้ำเสียงจริงจัง
อวิ๋นสือโม่จัดชุดคลุมตนเองให้เรียบร้อย จากนั้นกล่าว “ฮวาชีเยว่ โปรดพาเขาออกไปจากที่นี่เถอะ! ข้าไม่ชอบผู้ที่แหกกฎระเบียบระหว่างการรักษาและขับพิษให้ผู้อื่น และข้าก็ไม่ชอบสตรีปล่อยตัวเช่นเ้า!”
ใบหน้าอวิ๋นสือโม่ดูซีดเซียว พิศไปแล้วคล้ายจะได้รับาเ็รุนแรง ทั้งยังหงุดหงิดอยู่บ้าง
ทว่าเมื่อคิดถึงความนุ่มนิ่มบนร่าง ใบหน้าของอวิ๋นสือโม่ก็แดงขึ้นมาทันที กระทั่งหูและคอก็ร้อนผ่าว ในเวลานั้น บุรุษสตรีเพียงััมือกันยามส่งมอบสิ่งของก็นับว่าไม่เหมาะสม ดังนั้นหากความแนบชิดเมื่อครู่ร่ำลือออกไป พวกเขาคงต้องแต่งงานกัน มิเช่นนั้นศักดิ์ศรีของสตรีผู้หนึ่งย่อมเสื่อมเสีย ไม่มีใครกล้าแต่งกับนางอีก
หวงฝู่เซียนมองอวิ๋นสือโม่ด้วยสายตาแปลกประหลาดแล้วะโดุดัน “ฮวาชีเยว่ ไสหัวออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”
“ได้! ข้าจะทำลายหลงแดงที่มือให้หมด!”
ฮวาชีเยว่ยังคงไม่สะทกสะท้าน ในดวงตานางเปี่ยมประกายสังหาร
นางผ่านความเป็ความตายมาแล้ว ลูกรักของนางต้องพิษที่ไม่อาจทำลายได้ นางจะยอมแพ้ได้อย่างไร
ไม่ว่าจะยากเย็นหรืออวิ๋นสือโม่จะไม่้ารักษาขับพิษให้เทียนซีอย่างไร นางก็ต้องหาทางทำให้อวิ๋นสือโม่ยอมแพ้ให้ได้
ฮวาชีเยว่เปิดกล่องงดงามราคาแพง หยิบหลงแดงกลิ่นหอมขึ้นมาถือไว้ในมือ จากนั้นเพียงเสียงเป๊าะดังขึ้นคราวหนึ่งต้นหลงแดงก็หักออกเป็สองส่วน ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอย่างโศกเศร้า
อวิ๋นสือโม่รักใคร่สมุนไพรดุจชีวิตจึงได้ชื่อว่าราชันโอสถ แม้ว่าเขาจะมีฝีมือในด้านการปรุงโอสถ ทว่าเขาเองก็ไม่ยอมให้ผู้อื่นทำลายสมุนไพรมีค่าโดยไม่คิด เขาถือว่าสมุนไพรทุกชนิดล้วนเป็ดังบุตรชาย ปกป้องพวกมันเอาไว้อย่างหวงแหน
ใจเขาจะไม่เ็ปเมื่อเห็นสมุนไพรล้ำค่าแตกสลายเป็สองส่วนต่อหน้าตนได้หรือ?
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาซีดอีกครั้ง
ฮวาชีเยว่จ้องเขาอย่างเ็า สีหน้ามุ่งมั่น “หากท่าน้าให้ข้าออกไปจากที่นี่และไม่ยอมรักษาลูกข้า ข้าจะทำลายต้นหลงแดงทั้งหกต้นในบ้านข้า เหมือนที่ข้าทำลายต้นนี้!”
ต้นหลงแดงในมือนางราวกับคนตาย กลิ่นหอมและสีแดงจางหายไปกลายเป็สีน้ำตาลอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก ต้นหลงแดงก็กลายเป็สีขาวไร้กลิ่นเสียแล้ว
นี่คือการ “ตาย” ของสมุนไพร ปาฏิหาริย์ทั้งหมดล้วนหายวับไปเช่นนี้
ยามที่สมุนไพรเทพเกิดความเกลียดชังตุ่์ พวกมันจะทำลายตัวเอง ไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป ดังนั้นสำหรับมนุษย์จึงนับเป็ความสูญเสียอันยิ่งใหญ่
เช่นนี้ทำให้โรคร้ายไม่อาจรักษา ดั่งการทำลายความหวังในการมีชีวิตของผู้ป่วย
“ฮวาชีเยว่... เ้า... โหดร้ายนัก!” ดวงตาของอวิ๋นสือโม่เปี่ยมด้วยความโมโห บุรุษผู้นี้มักมีท่าทีเลื่อนลอยไม่ใส่ใจ ทว่ายามนี้กลับแสดงอาการโมโหร้ายออกมาเป็ครั้งแรก
“ข้าจะนับถึงสาม บอกคำตอบข้ามาให้ชัดเจน หนึ่ง สอง และสาม…”
“ข้ารักษา!”
อวิ๋นสือโม่ะโตอบอย่างโมโห หวงฝูเซียนมองอวิ๋นสือโม่อย่างตกตะลึง อุทานออกมา “พี่อวิ๋น! ท่านบ้าไปแล้ว สตรีผู้นี้เป็แพศยาผู้หนึ่ง นางเพิ่งจะเอาเปรียบท่าน ท่านก็ยามตกลงให้นางแล้วหรือ?”
หวงฝู่เซียนมองออก เขาเห็นว่าอวิ๋นสือโม่เองก็รังเกียจฮวาชีเยว่มากนัก แต่อวิ๋นสือโม่ก็สมแก่ชื่อเสียงที่กล่าวว่าเขารักสมุนไพรเท่าชีวิต
เทียนซีมองคนสลับไปมา แล้วจึงดึงแขนเสื้อฮวาชีเยว่
ฮวาชีเยว่มองดวงตาของเทียนซีที่แวววาวฉ่ำน้ำ
นางดึงเอาผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดเหงื่อเย็นบนใบหน้าเขาอย่างทะนุถนอม “เทียนซีลูกรัก อีกไม่นานหรอก...ประเดี๋ยวเ้าก็พูดได้แล้ว ข้ายอมทำได้ทุกสิ่ง ขอเพียงเ้าพูดได้เท่านั้น”
น้ำเสียงนางอ่อนโยนนักแทนที่ความดุดันเ็าก่อนหน้า
เทียนซีจ้องมองนาง ไม่เข้าใจอะไรมากนัก
ฮวาชีเยว่มองดวงตาลูกชาย “ไม่อยากเห็นแม่ลำบากหรือ?” เห็นผู้ใหญ่โต้เถียงกันเพราะเขา เทียนซีเป็เด็กดีก็ดูจะลำบากใจนัก
ดวงตาของฮวาชีเยว่แดง จมูกนางรั้นขึ้นมา หญิงสาวลูบใบหน้าน้อยอย่างนุ่มนวล
“เด็กดีของแม่ ประเดี๋ยวกลับถึงจวนแม่จะหาของอร่อยให้เ้าทานนะ”
นางยิ้ม รอยยิ้มนี้สดใสผลิบานดังดอกไม้งามทว่ากลับดูโศกเศร้า ทำให้อวิ๋นสือโม่และผู้อื่นสับสนอยู่บ้าง
ฮวาชีเยว่เพิ่งจะรับเลี้ยงลูกผู้อื่น เป็เพียงลูกของผู้อื่นเท่านั้น ทว่ามองไปยามนี้ราวกับแม่ลูกแท้ๆ
ความอบอุ่นและความรักนี้มิอาจเสแสร้งได้
“ท่านอ๋อง ขออภัยที่ทำให้ท่านไม่พอใจ ข้ารักลูกของข้ามาก อาจจะทำร้ายท่านโดยไม่ตั้งใจ หากเทียนซีหายดี ข้าย่อมจดจำความดีของท่านไว้ในใจ ท่านอ๋อง ไม่ว่าท่าน้าอะไร หากข้าไขว่คว้ามันมาได้ ข้าย่อมต้องคว้ามันมาให้ท่าน”
ฮวาชีเยว่ยืนยันหนักแน่นด้วยความจริงใจและจริงจังทั้งหมดที่มี
อวิ๋นสือโม่จ้องมองนางอย่างเงียบงัน ที่นางล้มใส่เขา หรือนางมิได้ตั้งใจจริงๆ?
ทันใดนั้น สีหน้าอวิ๋นสือโม่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขานึกได้ว่าตนยังมีเกราะแสงแดงซึ่งสร้างจากลมปราณของตนเป็กำบัง พูดโดยง่าย มันจะไม่ถูกทำลาย เว้นเสียแต่จะถูกโจมตีอย่างรุนแรง
แต่ฮวาชีเยว่กลับล้มผ่านเกราะป้องกันในยามนั้นมาได้โดยไม่ได้โจมตีเขาแม้แต่ครั้งเดียว เขาเองก็ััได้ เช่นนั้นเหตุใดเกราะป้องกันของเขาจึงได้กลายเป็ลมปราณ ไหลเข้าสู่ร่างของฮวาชีเยว่ได้เล่า?
เขาไม่เคยพบเื่ประหลาดเช่นนี้มาก่อน
สตรีเบื้องหน้าเขาดูไม่คล้ายสตรีมากตัณหาดังในข่าวลือ ในดวงตาคู่นั้นของนางไร้ซึ่งความลุ่มหลง
“เขาต้องพิษร้ายแรง การถอนพิษต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือน เขายัง้าสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดนามปทุมหงสาเกล็ดน้ำค้าง น่าเสียดาย... แม้จะเป็ราชันโอสถ ทว่าข้าไม่มีสิ่งนี้ แต่ยังมีสมุนไพรชนิดนี้อยู่ในมือเทพโอสถอยู่บ้าง…”
อวิ๋นสือโม่ข่มกลั้นความโมโห กลับมาเยือกเย็นได้อีกครั้ง
หวงฝู่เซียนมองคนนี้ทีคนนั้นทีด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
“พี่อวิ๋น ท่านบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วจริงๆ! ถึงกับถูกสตรีแพศยาผู้นี้ข่มขู่!” หวงฝู่เซียนร้องะโอย่างโมโหต่อการยอมพ่ายแพ้ของอวิ๋นสือโม่
อวิ๋นสือโม่กลับไม่มองหวงฝู่เซียนแม้แต่น้อย เขาเพียงยืนตรงด้วยท่าทีไม่เปลี่ยนแปลง คิ้วขมวดมุ่นเล็กน้อย ยังคงสงสัยว่าเหตุใดร่างของฮวาชีเยว่จึงดูดซับลมปราณเข้าไปเช่นนั้นได้
“หนานอ๋อง ท่านช่วยส่งคนไปขอสมุนไพรจากเทพสมุนไพรได้หรือไม่? ของจะราคาเท่าใดไม่สำคัญ ข้าล้วนจ่ายได้!” ฮวาชีเยว่ขอร้องเสียงอ่อน ไม่ใส่ใจหวงฝู่เซียนที่ยืนอยู่อีกทาง ทำให้อีกฝ่ายได้แต่กัดฟันอย่างโมโห
แพทย์ฝึกหัดทั้งสองมองหน้ากันและกันอย่างตกตะลึง ปกติหนานอ๋องแทบจะไม่เก็บค่ารักษาใคร สิ่งที่ฮวาชีเยว่ขอร้องเช่นนี้ไม่ต่างจากทำให้หนานอ๋องเสียหน้าโดยแท้
แม้สกุลฮวาจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่จะมีเงินทองมากมายได้อย่างไร?
ทว่าจากน้ำเสียงของฮวาชีเยว่ ดูไปแล้วนางคงสามารถจ่ายเงินได้มากมายจริงๆ น่าตกตะลึงนัก!
“เทพสมุนไพรรักสมุนไพรเสียยิ่งกว่าข้า หากขอสมุนไพรจากเขาได้ก็นับว่าเป็ปาฏิหาริย์แล้ว เ้านำตัวลูกชายมาจวนหนานได้ทุกสองวัน ข้าจะล้างพิษให้เขา หลังจากนั้นเมื่อได้ปทุมหงสาเกล็ดน้ำค้างมาแล้ว ข้าย่อมสามารถช่วยเขารักษาได้ทันที”
กล่าวดังนั้น หนานอ๋องกันสะบัดแขนเสื้อจากไปในเรือนหลัง บุรุษในชุดขาวหายไปรวดเร็วราวสายลมพัดผ่านจันทรา ราวกับการโต้เถียงทั้งหลายไม่เคยปรากฏ แต่อวิ๋นสือโม่ถูกข่มขู่เช่นนี้ บางทีหลังจบเื่แล้ว เขาคงจัดการฮวาชีเยว่ได้อย่างง่ายดาย
หวงฝู่เซียนมองฮวาชีเยว่อย่างอาฆาตแล้วจึงว่า “ฮวาชีเยว่ คราวนี้ข้าจะปล่อยเ้าไปก่อน คราวหน้าหากเ้ากล้าเอาเปรียบพี่อวิ๋นอีก ข้าจะเอาชีวิตเ้า ไสหัวไปเสีย สตรีหยาบช้า!”
จบคำ เขาก็ปราดเข้าไปยังเรือนหลัง
มุมปากของฮวาชีเยว่กระตุกขึ้น “เขาเป็ซื่อจื่อกงชินอ๋องแน่หรือ? ทำตัวราวเด็กน้อย ไร้ซึ่งบรรยากาศของสายโลหิตราชวงศ์ ช่างยกหางตัวเองโดยแท้!”
ฮวาชีเยว่ไม่มีอารมณ์จะอยู่ต่ออีกแล้ว “ยัง้าตัวยาอีกหนึ่งอย่าง... เช่นนี้คงต้องไปขอร้องเทพสมุนไพรอย่างเลี่ยงไม่ได้แล้ว”
เทพโอสถ ชื่อเดิมจี้เฟิง ยามนี้เป็ที่รู้จักในฐานะนักปรุงโอสถาุโแห่งอาณาจักรฉางจิง ถือครองโอสถแห่งปาฏิหาริย์คาดว่ามากกว่าหนึ่งร้อยชนิด
ดังนั้น ผู้คนนับไม่ถ้วนจึงได้ไปหาสกุลจี้เพื่อร้องขอโอสถทุกปี ทว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นจึงจะสำเร็จ
เทพโอสถผู้นั้นจะมอบโอสถให้หรือไม่ก็แล้วแต่คน
เพราะโอสถสรรพโรคมิอาจซื้อได้ด้วยเงินตรา