อดีตหวังเฟยเองก็มิได้เกลี้ยกล่อมอันใด การหมั้นหมายจึงได้สิ้นสุดลงเช่นนั้นเอง
เทียนซีเห็นสีหน้าดุร้ายของหวงฝู่เซียนก็กลัวจนรีบหลบหลังฮวาชีเยว่ทันที
ใบหน้าฮวาชีเยว่คล้ำลง นางคาดว่าบุรุษอีกผู้หนึ่งน่าจะเป็หนานอ๋อง ทว่าสายตาเขากลับเหม่อลอยออกนอกหน้าต่าง มองแสงตะวันงดงาม
แสงอาทิตย์สาดส่อง ผิวน้ำทอประกายระยับ หลังคาห้องหลักที่ถูกสลักเสลาจากลำไผ่เรียวสะท้อนอยู่บนผิวน้ำกลายเป็ภาพอันสงบสุขอย่างน่าประหลาด
กลิ่นสมุนไพรบางเบาลอยมาตามลม ฮวาชีเยว่คาดว่าสวนสมุนไพรคงจะอยู่ที่สวนด้านหลัง
“คารวะหนานอ๋องและหวงฝู่ซื่อจื่อ หม่อมฉันมิได้มาเพื่อพบซื่อจื่อทว่ามาเพื่อพบหนานอ๋อง หม่อมฉันอยากขอร้องให้หนานอ๋องช่วยรักษาคอของบุตรชาย คอเขาต้องพิษที่่ชิงเสียงของเขาไป หวังว่าพระองค์จะช่วยให้หม่อมฉันสมปรารถนา”
ฮวาชีเยว่คุกเข่าลงอย่างเคารพ นางสามารถทำได้ทุกสิ่งเพื่อเทียนซี
หนานอ๋องมองมาทางนางทันที เห็นดวงตานางหลุบต่ำ นางดูใจกว้างและจริงใจ มิคล้ายกำลังแสดง
ดวงตาหวงฝู่เซียนเบิกกว้างขึ้น จ้องมองนางอย่างไม่เชื่อสายตา
สตรีหยาบคายผู้นี้มิได้มาเพื่อพบเขาหรือ? เขาอดมิได้ให้รู้สึกถึงความหึงหวงบางเบาที่เต้นระริกอยู่ในความคิดนั้น
“ฮึ่ม ฮวาชีเยว่ เ้าต้องได้ยินแล้วว่าหนานอ๋องและข้าเป็สหายที่ดีต่อกัน พวกเรามักพบกันที่จวนของเขาอยู่บ่อยครั้งเพื่อเล่นหมากรุกร่ำสุราใช่หรือไม่? เช่นนี้เ้าจึงได้ร้อนใจรับเลี้ยงเด็กพิการ…”
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันขอร้องอย่างจริงใจ ให้ท่านช่วยสงเคราะห์ด้วย!”
ฮวาชีเยว่เอ่ยขัดหวงฝู่เซียนอีกครั้งด้วยน้ำเสียงถ่อมตน
ฮวาชีเยว่ดึงเทียนซีที่กำลังกังวลมาข้างกาย มองเขาอย่างอ่อนโยนยามกล่าว “เทียนซีทำตัวดีๆ นะ หนานอ๋องย่อมต้องช่วยรักษาคอให้เ้า เ้าต้องสงบนิ่งเอาไว้”
หนานอ๋องหรี่ตาลงเล็กน้อย เขาเคยได้ยินเื่ฮวาชีเยว่มาก่อน ทำให้แปลกใจนักที่เห็นว่าตัวตนของนางกลับแตกต่างจากสตรีขี้ขลาดอ่อนแอที่ข่าวลือว่ามา
อวิ๋นสือโม่ยังคงไม่เคลื่อนไหว เขาเอ่ยอย่างเ็า “ขออภัยด้วย ข้าจะไม่รักษาเขา”
ฮวาชีเยว่อึ้งงัน จากนั้นจึงยกกล่องผ้าไหมที่บรรจุหลงแดงขึ้นมาแล้วกล่าว “ท่านอ๋อง หม่อมฉันยินดีส่งมอบสมุนไพรเทพหลงแดงนี้ให้ท่าน แลกเปลี่ยนกับสุขภาพบุตรชายข้า”
จากนั้น นางเปิดกล่องผ้าไหมออก สีหน้าของหนานอ๋องเปลี่ยนไปโดยฉับพลันเมื่อเห็นของภายใน
เป็หลงแดง!
สมุนไพรแห่งปาฏิหาริย์ที่ประเมินค่ามิได้
ฮวาชีเยว่ไม่มองหวงฝู่เซียนแม้แต่น้อย เขาแปลกใจนักแล้วจึงหันไปมองอวิ๋นสือโม่ จากนั้นก็มองฮวาชีเยว่ ราวกับจำคนทั้งสองผิดไป
สีหน้าอวิ๋นสือโม่มืดครึ้มลงทันทีที่เห็นของในกล่องไหม เขารับกล่องผ้าไหมไป แล้วจึงสำรวจหลงแดงอย่างระมัดระวัง
ต้นหลงแดงในกล่องดูเหมือนโสม ทว่าทอแสงศักดิ์สิทธิ์และแสงแดงบริสุทธิ์ แสงสีแดงนี้บริสุทธิ์ราวกับประกายแสงที่เต้นระริกอยู่บนผิวน้ำในบ่อ ทำให้ดูยิ่งงดงาม ทั้งยังมีกลิ่นหอม เป็กลิ่นหอมที่ทำให้ผู้ดมมึนเมา ทำให้จิติญญากระปรี้กระเปร่า รู้สึกราวกับได้ชะล้างร่างกายให้สิ้นซึ่งมลทิน
หวงฝู่เซียนยื่นหน้าเข้าไปดูแล้วจึงอุทานออกมา “นี่...นี่มันอะไรกัน? ทั้งงดงามทั้งหอมนัก!”
นักปรุงยาฝึกหัดที่ยืนอยู่ด้านข้างมิอาจปิดบังความแปลกใจ นี่เป็สมุนไพรเทพ ย่อมหมายความว่ามิใช่จะเป็สิ่งที่ได้มาโดยง่าย กระทั่งผู้มีวรยุทธ์สูงถึงระดับปรมาจารย์หรือเ้าสำนักก็ใช่ว่าจะมีใน
กระทั่งเทพแห่งยาในอาณาจักรฉางจิงก็ไม่มีหลงแดงในเช่นกัน
อวิ๋นสือโม่ยังคงใจเย็น ในดวงตาปรากฏร่องรอยแปลกใจทว่าไร้ซึ่งความละโมบ “แม่นางฮวา วันนี้ข้าไม่รีบคนไข้ ต้องขออภัยด้วย ท่านกลับมาพรุ่งนี้เถอะ”
ใจของฮวาชีเยว่ดิ่งลง หลงแดงต้นนี้คุณภาพสูงสุด เหตุใดเขายังไม่พอใจเล่า?
เทียนซีจับมือตนเองอย่างกังวล นางลูบหัวเขาเบาๆ
“ท่านอ๋อง เหตุใดจึงไม่้ารักษาเขา?” ฮวาชีเยว่้าคำอธิบาย “หากท่านคิดว่าหลงแดงต้นนี้ไม่พอ ข้ายังสามารถมอบให้ท่านได้มากกว่านี้ หากท่าน้าเงินทาง ข้าก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน ตราบใดที่ท่านยอมรักษาเขา ข้ายอมรับข้อเรียกร้องได้ทั้งสิ้น!”
ฮวาชีเยว่ยินยอมทำได้ทุกสิ่ง ขอเพียงหนานอ๋องยอมรักษาลูกชาย
สายตาของอวิ๋นสือโม่ยังคงเยือกเย็นเป็อย่างยิ่ง เขาเอ่ยเสียงเรียบ “วันนี้ข้าจะไม่รักษาเขา!”
ฮวาชีเยว่ไม่ยอมแพ้ เค้นถามต่อ “ท่านอ๋อง เหตุใดท่านจึงไม่อาจบอกเหตุผลที่ไม่รักษาเขา?”
อวิ๋นสือโม่ไม่เสียเวลาตอบอีก เขาผลักถ้วยน้ำชาไปข้างหนึ่ง ยกเท้าขึ้นมุ่งสู่ห้องชั้นใน
หวงฝู่เซียนหัวเราะสะใจ “ฮวาชีเยว่ คนชั้นต่ำเช่นเ้ากล้าดีอย่างไรจึงคิดลูกไม้เช่นนี้เพื่อยั่วยวนบุรุษรูปงาม? ฮ่าๆ เ้ายอมแพ้เสียเถอะ”
ฮวาชีเยว่ไม่เสียเวลาสนใจคนเย่อหยิ่งผู้นี้ หนานอ๋องผู้นี้ทราบกันดีว่าความอดทนสั้น แล้วหากพรุ่งนี้เขาไม่ยอมรักษาเทียนซีเล่า? นางย่อมต้องได้ในสิ่งที่้าภายในวันนี้!
“ท่านอ๋อง หากท่านไม่ยอมทำตามคำขอข้า ข้า...ข้าจะทำหลายหลงแดงทั้งหมดที่ข้ามี!”
ฮวาชีเยว่ะโอย่างดุดัน นางดูไม่คล้ายว่าจะยอมแพ้!
หนานอ๋องชะงักฝีเท้า ฮวาชีเยว่ศึกษามาก่อนจะเข้ามาที่นี่แล้ว ทราบดีว่าหนานอ๋องให้ค่าแก่สมุนไพรเท่าชีวิต เช่นเดียวกับเทพแห่งยาที่มิอาจทนเห็นสมุนไพรล้ำค่าเสียเปล่า นางทราบดีว่าวิธีนี้ย่อมได้ผล รับมือกับคนประหลาดย่อมต้องใช้กลยุทธ์ประหลาด นางต้องทำในสิ่งที่เขาไม่้ามากที่สุด เช่นนี้จึงจะทำให้เขายอมเชื่อฟัง!
อวิ๋นสือโม่หันมา ดวงตาคู่นั้นเ็าสุดขีด คราวนี้ยังมีชั้นน้ำแข็งบางๆ ปรากฏในดวงตาหนานอ๋องผู้เย่อหยิ่ง ทำให้เขาดูยากเข้าหายิ่งกว่าเดิม
“ฮวาชีเยว่ กล้าดีอย่างไรใช้เื่นี้มาข่มขู่ข้า!” อวิ๋นสือโม่เอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด นับแต่เป็อ๋องมาหลายปี นี่เป็ครั้งแรกที่มีคนกล้าข่มขู่เขาเช่นนี้!
“หากท่านไม่ยอมรักษาเขา...ข้าจะทำหลายหลงแดงต้นนี้เดี๋ยวนี้!” ฮวาชีเยว่กล่าวอย่างดุดันขณะยกต้นหลงแดงที่ส่องประกายขึ้นสูง
สีหน้าเ็าของอวิ๋นสือโม่พลันแตกสลายยามเขาเอ่ยถาม “ที่บ้านเ้า...ยังมีอีกกี่ต้น? ”
“หก!”
สีหน้าอวิ๋นสือโม่เปลี่ยนไปอีกครั้ง สมุนไพรเทพอันสูงค่าในแดนมตาแห่งนี้ นางกลับมีถึงหกต้น!
“ฮวาชีเยว่! ข้าจะจำเื่นี้เอาไว้! เ้าเป็คนแรกที่ข้ายอมยกเว้นให้ เื่นี้จบลงเมื่อใด ข้าจะให้เ้าต้องชดใช้!” อวิ๋นสือโม่กล่าวอย่างเ็า ทว่ากลับตกลงรับเทียนซีเป็คนไข้อย่างรวดเร็วสุดกำลัง
ฮวาชีเยว่ถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งอก รีบนำเทียนซีไปหาเขา
ทว่าหวงฝู่เซียนกลับชี้หน้านางแล้วกล่าว “นี่...เ้าสตรีต่ำช้า! ข้าขอห้ามมิให้เ้าก้าวออกมาแม้แต่ก้าวเดียว!”
ฮวาชีเยว่แค่นหัวเราะ “ซื่อจื่อวางใจ ข้าไม่สนใจท่านแม้แต่ส่วนเสี้ยว ช่วยรักษาระยะห่างจากข้าให้ดีเถอะ”
หวงฝู่เซียนโมโหเสียจนแทบกระอักแล้ว
ทันทีที่นางเข้าใกล้อวิ๋นสือโม่ นางก็ััได้ถึงกลิ่นสมุนไพรบางเบา
กลิ่นสมุนไพรนี้รุนแรงนัก
หนานอ๋องยื่นมือออกมา นิ้วเรียวยาวผุดผ่องดูมิคล้ายของโลกใบนี้ นี่เขา...ใช่หมอยาจริงหรือ?
เทียนซีจับมือนางอย่างหวาดกลัว ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล
ฮวาชีเยว่ลูบหัวปลอบประโลมเขา ให้เด็กน้อยใจเย็นลงด้วยการกระทำ
เทียนซีเม้มปากในยามที่ฮวาชีเยว่มองเขาอย่างให้กำลังใจ เขายื่นมือออกไปช้าๆ อย่างลังเล อวิ๋นสือโม่จับมือเขา จากนั้นสีหน้าพลันหม่นคล้ำทันทีที่ััชีพจร
“นี่เป็พิษออกฤทธิ์ช้าที่ส่งผลต่อโลหิต คราวแรกปล้นชิงเสียง จากนั้นโจมตีอวัยวะที่เหลือ อีกสองปีให้หลังผู้ติดพิษจะกลายเป็บ่อเื พิษนี้รู้จักในนามพิษกัดกร่อน มิใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะมีใน”
ทันทีที่ััชีพจรของเทียนซี เขาก็ทราบได้ทันทีว่ามีสิ่งใดผิดปกติ
ดวงตาของหวงฝู่เซียนเบิกกว้างขึ้นทันที “ข้าคิดว่า...มีเพียงปรมาจารย์พิษแห่งราชสำนักจึงจะมีพิษนี้!”
อวิ๋นสือโม่พยักหน้า “ถูกแล้ว พิษนี้มีเพียงมาจากปรมาจารย์แห่งพิษที่เก่งที่สุดเช่นสุ่ยเชียนรั่วเท่านั้น”
สุ่ยเชียนรั่ว?
สีหน้าของฮวาชีเยว่ครึ้มลง ดวงตาทอแสงเย็น ทำให้ใบหน้างดงามดูเยือกเย็นสุดขีด
หวงฝู่เซียนมองฮวาชีเยว่แล้วเป็ต้องตกตะลึงกับสีหน้านาง
สีหน้าเช่นนี้ไม่เคยปรากฏในฮวาชีเยว่ที่เขารู้จักมาก่อน
“ก่อนอื่นให้ข้าขับพิษนี้ออกจากร่างกายเขาก่อน หากไม่ได้ผล ข้าจะใช้วิธีค่อยๆ สลายพิษจากร่างของ มากับข้า” อวิ๋นสือโม่กล่าวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก บุรุษรูปงามผู้เ็าราวกับน้ำแข็งผู้นี้ดูมิคล้ายมีเจตนาร้าย
เทียนซีมองฮวาชีเยว่ก็เห็นนางมองเขาอย่างแน่วแน่ให้กำลังใจ เขาจึงตามอวิ๋นสือโม่เข้าไปด้านใน
ฮวาชีเยว่กังวลสุดขีดจนไม่อาจหยุดเดินวนไปมาได้ นางไม่ยอมมองหวงฝู่เซียนแม้แต่แวบเดียว
หวงฝู่เซียนคิดว่าฮวาชีเยว่กำลังเสแสร้งจึงลอบมองนางจากหางตา สตรีผู้นั้นสวมชุดคลุมขาว ใบหน้าไร้สีสันยามเทียบกับบุปผา ทว่านางกลับดูราวกับเทพเซียนะ หว่างคิ้วงามขมวดน้อยๆ ทำให้นางดูงดงามเสียยิ่งกว่าจันทรา นางดูสว่างไสวบริสุทธิ์เจือความโศกเศร้าบางเบา
หวงฝู่เซียนรู้สึกรำคาญใจอยู่บ้าง สตรีผู้นี้ทำราวกับเขาไร้ตัวตน!
“ฮึ่ม กระทำตัวราวกับแม่พระเช่นนี้ช่างไม่น่ามองเอาเสียเลย!” เขากล่าวอย่างเ็า
ฮวาชีเยว่ไม่อยากเอาอกเอาใจเขา นางฟังเสียงจากห้องในอย่างตั้งใจทว่ากลับไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียงน่ารำคาญของหวงฝู่เซียน
“นี่! ฮวาชีเยว่ เห็นเ้าแล้วข้าขยะแขยงนัก เ้าช่วยออกไปเรือนนอกได้หรือไม่?”
หวงฝู่เซียนสั่งนางอย่างเอาแต่ใจ
“ซื่อจื่อ ข้าเองก็รำคาญตัวท่านเท่าๆ กัน ท่านหุบปากได้หรือไม่?” ฮวาชีเยว่ย้อนกลับไปอย่างหยาบคาย
หวงฝู่เซียนเบิกตากว้าง เขาชี้ฮวาชีเยว่ ละล่ำละลัก “เ้า...เ้า...เ้า…”
ชะงักตรงคำว่า “เ้า” อยู่เป็นาน ฮวาชีเยว่จึงได้แค่นเสียง “เมื่อก่อนข้าเป็คนหัวช้าจึงดูเหมือนคนไร้สติปัญญา ทว่าดังที่ไต้ซือเสวียนจีทำนาย สติสัมปชัญญะของข้ากลับมาเมื่อรับเลี้ยงเทียนซี วางใจเถอะ ข้าไม่มีภาพหลอนเื่ความสัมพันธ์ของเรา ทั้งยังไม่สนใจเ้าอีก”
ฮวาชีเยว่ก้าวสองก้าวสู่ห้องใน แล้วจึงหยุดชะงัก
นางมิอาจขัดอวิ๋นสือโม่ระหว่างรักษาไล่พิษลูกชายนาง
นางทำได้เพียงก้าวถอยหลัง ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องก็ดังออกมาจากด้านใน เป็เสียงเทียนซี!
ต้องพิษแล้วเทียนซีมิอาจพูดได้ ทว่ายังคงกรีดร้องได้
ฮวาชีเยว่ใสุดขีด นางเร่งเท้าก้าวเข้าไปด้านใน แพทย์ฝึกหัดทั้งสองตกตะลึงกับท่าทีกะทันหันของนาง มิคาดนางจะเร่งร้อนก้าวเข้าไป
“แม่นางฮวาหยุดเถอะขอรับ... ท่านห้ามขัดขวางระหว่างการรักษา…” พวกเขาพยายามห้ามนาง ทว่าสายไปแล้ว นางเข้าไปด้านในแล้ว
หวงฝู่เซียนกำลังโมโหสุดขีด เห็นเหตุการณ์กะทันหันเช่นนี้ก็ตามเข้าไปด้วยเช่นกัน
เมื่อเข้ามาห้องในแล้วนางก็เห็นพรมนุ่มๆ ปูอยู่บนพื้น อวิ๋นสือโม่วางมือบนหัวเทียนซี รอบกายพวกเขามีลมปราณสีแดงที่ปลดปล่อยความร้อนลอยออกมา!
สีหน้าของเทียนซีบิดเบี้ยวอย่างเ็ป คาดว่าเพราะร้อนเกินไป หน้าผากเขามีเหงื่อผุดพราย เขาดิ้นรนขัดขืนเต็มแรง กรีดร้องสุดเสียง ทว่ามิอาจหลุดพ้นจากลมปราณที่จับตัวเอาไว้อย่างแ่า
ฮวาชีเยว่เป็ห่วงลูกชายสุดขีด อย่างไรเทียนซีก็ได้รับาเ็ เหตุผลทั้งหมดของนางล้วนปลิวหายเมื่อเห็นเขาต้องทุกข์ทรมาน นางปราดกายเข้าไปอย่างแตกตื่น!
“แม่นาง ได้โปรดหยุดเถอะ…” แพทย์ฝึกหัดทั้งสองะโไล่หลัง ทว่าฮวาชีเยว่เข้าััวงลมปราณแล้ว วงลมปราณพลันกันนางเอาไว้ราวกับกำแพงหนา!
เทียนซีมองฮวาชีเยว่ ดวงตาคู่นั้นเอ่อท้นด้วยน้ำตา
ดวงตาอวิ๋นสือโม่ยังคงปิดยามตั้งสมาธิรักษาเทียนซี แพทย์ฝึกหัดทั้งสองเร่งร้อนเข้ามาดึงตัวนางออกมา ทันใดนั้นวงลมปราณสีแดงพลันหายวับไปพร้อมเสียงดังปัง กลายเป็สายธารลมปราณพุ่งเข้าสู่ร่างนาง!
ฮวาชีเยว่ก้าวไปข้างหน้า และอวิ๋นสือโม่พลันลืมตาขึ้น เห็นฮวาชีเยว่ล้มมาทางเขาพร้อมเสียงอุทานดังลั่น…
ตุบ…
ยามฮวาชีเยว่ล้มลงบนร่างอวิ๋นสือโม่ก็เกิดเป็เสียงทึบๆ ขึ้น ทุกคนเื้ัทั้งคู่ต่างก็จ้องมองมาอย่างตกตะลึง!