ป้าสองจ้าวกลับไปเก็บของที่บ้านเสร็จก็รีบวิ่งไปบ้านตระกูลเจียง หลินหวั่นชิวอยู่บ้านกับสองพี่น้องเจียง ส่วนเจียงหงหย่วนเอาเกวียนไปคืนที่บ้านตระกูลหวาง
หลินหวั่นชิวเห็นนางหอบหายใจรีบรินชาดอกเก๊กฮวยให้
เจียงหงหนิงคาดการณ์เวลาที่พวกนางจะกลับมา ตั้งใจชงชานี้ให้หลินหวั่นชิวโดยเฉพาะ
ป้าสองจ้าวไม่มัวเกรงใจ ดื่มชาดอกเก๊กฮวยหมดในอึกเดียว
“หวั่นชิว สามีของเ้าล่ะ?” ป้าสองจ้าวไม่เห็นเงาเจียงหงหย่วนก็ถาม
“เขาเอาเกวียนไปคืนให้บ้านตระกูลหวางเ้าค่ะ” หลินหวั่นชิวตอบ “ท่านป้าหาเขาด้วยเื่ใดหรือ?”
หลินหวั่นชิวให้เจียงหงหนิงเอาของที่พวกนางซื้อมาไปเก็บ ส่วนนางก็พาป้าสองจ้าวไปนั่งที่ลานบ้าน
ป้าสองจ้าวมองของห่อเล็กห่อใหญ่พวกนั้นพร้อมกับถอนหายใจ “มีเื่น่ะสิ วันนี้พวกเ้าซื้อของกลับมามากจนเป็ที่เตะตา มีคนบอกว่าเ้าเป่าหูให้สามีของเ้าเลิกให้หงป๋อกินยาเลยมีเงินซื้อของมามากเช่นนี้ ข้าอธิบายกับบรรดาสตรีพวกนั้นแล้วว่าสามีของเ้าขายเสือได้ราคาดี ไม่ได้เลิกให้หงป๋อกินยาแต่อย่างใด ข้าเพิ่งจะอธิบายจบ หลินฉิน หลานสาวใจดำของเ้าก็ออกมาพูดว่าสามีของเ้าคบค้ากับโจร บอกว่าคนที่มาหาเขาเมื่อไม่กี่วันก่อนเป็โจร หวั่นชิว เ้าต้องบอกเื่นี้ให้สามีของตัวเองฟังด้วยนะ ข้ามาเพื่อพูดเื่นี้เท่านั้น พวกเ้าสองคนลองเอาไปคิดให้ดีเถิด จะได้ช่วยกันป้องกันไม่ให้บ้านเหล่าหลินกระทำสิ่งใดแผลงๆ”
“ขอบคุณท่านป้ามากเ้าค่ะ!” หลินหวั่นชิวขอบคุณนางจากใจจริง เพราะถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็มาหาถึงที่นี่เพราะกลัวครอบครัวนางโดนรังแก
“ไม่ต้องเกรงใจ ข้าไปก่อนล่ะ เสื้อที่บ้านยังซักไม่เสร็จเลย!”
หลินหวั่นชิวเดินมาส่งนางออกจากบ้าน แต่เมื่อหันตัวมากลับเห็นเจียงหงหนิงยืนตาแดงก่ำด้วยความโมโหอยู่หน้าห้องครัว จากนั้นเจียงหงป๋อค่อยๆ เดินออกมา “เื่นี้ต้าเกอกับพี่สะใภ้จะจัดการเอง พวกเราอย่าเพิ่มปัญหา”
“แต่ว่า…” เจียงหงหนิงไม่เต็มใจ เขาอยากปกป้องพี่สะใภ้
เจียงหงป๋อย่อมเข้าใจเจตนาของเขา “ตอนนี้เ้าต้องตั้งใจเรียนหนังสือ วันหน้าเป็ขุนนางใหญ่แล้วถึงจะปกป้องพี่สะใภ้กับต้าเกอได้”
“ถูกต้อง รีบไปทำงานเถิด เก็บของเสร็จแล้วจะได้ทำมื้อค่ำ” หลินหวั่นชิวเร่งเร้าด้วยรอยยิ้ม ขณะเดียวกันก็นำ ‘บันทึกชื่อสมุนไพร’ ที่ซื้อมาเล่มนั้นออกมาให้เจียงหงป๋อ
“เ้าดูตำรานี้ไปก่อนเถิด วันพรุ่งตามต้าเกอเ้าเข้าอำเภอ ท่านหมอฉู่จากโถงร้อยโอสถตอบตกลงแล้วว่าจะช่วยตรวจอาการให้เ้า ไว้เ้าหายดีแล้วพวกเราค่อยไปหาที่เรียน ส่วนเ้านะหงหนิง พรุ่งนี้เ้าต้องตามไปด้วยเช่นกัน ไปถามเื่เข้าเรียนที่สถานศึกษาชิงซง”
หลินหวั่นชิวไม่ได้บอกเจียงหงหนิงว่าจะเข้าสถานศึกษาชิงซงต้องสอบเสียก่อน เพราะกลัวเด็กคนนี้จะประหม่า
นางรู้สึกว่าไม่น่ามีปัญหากระไร เพราะพวกเขาจะเข้าชั้นเรียนขั้นต้นเท่านั้น ไม่ได้จะเข้าชั้นเรียนเพื่อเตรียมสอบถงเซิง
ตราบใดที่ไม่ได้แย่เกินไปก็น่าจะสอบเข้าได้
“ขอรับ” เจียงหงป๋อบีบหนังสือ หลุบตาลงปิดบังน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอ
เขารู้จักท่านหมอฉู่ นั่นคือหมอหลวงที่เกษียณออกมาจากกรมหมอหลวง ท่านมีชื่อเสียงมาก
เมื่อก่อนต้าเกอเคยพาเขาไปถามที่โถงร้อยโอสถเช่นกัน แต่ท่านหมอฉู่ไม่ออกตรวจคนไข้
ครั้งนี้ท่านหมอฉู่ตอบตกลงว่าจะดูอาการให้เขา ไม่รู้ว่าต้าเกอกับพี่สะใภ้ต้องแลกมาด้วยสิ่งใด
บุญคุณพวกนี้ เขาจำไว้ในใจหมดแล้ว
“ทราบแล้วขอรับพี่สะใภ้!” เทียบกับเจียงหงป๋อ เห็นชัดว่าเจียงหงหนิงดูจะตื่นเต้นกว่า
“อื้ม เชิญพวกเ้าเถิด ข้าจะกลับไปพักที่ห้องประเดี๋ยว” หลินหวั่นชิวพูดจบก็กลับห้องตัวเอง นั่งลงคัดหนังสือ
ไม่นาน เจียงหงหย่วนก็กลับมา
เขายื่นผักตะกร้าหนึ่งให้เจียงหงหนิงแล้วเข้าห้องไปดูภรรยาตัวน้อย
“ไม่พักหน่อยหรือ? เหตุใดถึงคัดหนังสือ?” อักษรที่ภรรยาตัวน้อยเขียนทั้งเล็กทั้งเหลี่ยมสวย ไม่แปลกที่ขายได้เงิน
หลินหวั่นชิวไม่ได้วางปากกาในมือลง “หงหนิงยังเก็บของไม่เสร็จ ข้าคัดได้เพียงนิดเดียว ตอนกลับเผลอหลับบนเกวียนไปเยอะแล้ว ตอนนี้เลยไม่ง่วง”
เื่ที่นางเขียนหนังสือเป็ถูกเปิดเผยแล้ว ไม่จำเป็ต้องปิดบังเจียงหงหย่วนอีกต่อไป
เจียงหงหย่วนเห็นว่าในห้องพวกเขามีของที่ยังไม่เก็บอยู่สองสามมัดก็จะช่วยเก็บให้ แต่หลินหวั่นชิวกลับพูดว่า “ไม่ต้องเก็บ ข้าต้องใช้พวกมันวันพรุ่ง ท่านวางใจเถิด วันพรุ่งข้าเก็บเอง”
“วันพรุ่งเข้าอำเภอไม่ใช่หรือ?” เจียงหงหย่วนขมวดคิ้ว
หลินหวั่นชิวคัดหนังสือโดยหันหลังให้เขา ไม่เห็นสีหน้าที่บึ้งของเจียงหงหย่วน “พวกท่านไปเถิด เกวียนลำบากเกินไป โคลงเคลงจนโครงกระดูกข้าเกือบเคลื่อน”
เจียงหงหย่วน “เท่านี้เ้าทนไม่ไหว เช่นนี้ตอนเข้าหอจะทำอย่างไร?”
หลินหวั่นชิว “…”
นางผิดั้แ่คิดคุยกับเขาแล้ว!
“เอาเป็ว่าข้าไม่ไป พวกท่านสามพี่น้องไปกันเองเถิด” หลินหวั่นชิวพูด
“ไปด้วยกัน ข้าไม่วางใจให้เ้าอยู่บ้านผู้เดียว” เจียงหงหย่วนขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม
หลินหวั่นชิววางปากกาลง เก็บของแล้วหันมามองเจียงหงหย่วน “ท่านไม่อาจพาข้าติดตัวไปได้ตลอดไม่ใช่หรือไร? วันหน้าท่านต้องไปทำงานที่บ่อน เด็กสองคนต้องเรียนหนังสือคนหนึ่ง เรียนแพทย์คนหนึ่ง หรือจะให้ข้าตามท่านไปที่บ่อนด้วย? จริงอยู่ที่ในหมู่บ้านมีคนน่ารังเกียจ แต่ข้าก็ไม่ได้รังแกง่ายเสียหน่อย รวมกับครั้งก่อนท่านเพิ่งจับคนโยนลงบ่อมูล ไม่น่ามีผู้ใดกล้ามาหาเื่ข้าในเร็วๆ นี้ หากผู้ใดกล้าหาเื่ ไว้ท่านกลับมาแล้วข้าค่อยให้ท่านช่วยจัดการย่อมได้ อีกอย่าง พวกท่านทั้งสามคนออกจากบ้าน ข้าแค่ลงกลอนประตูไม่ไปที่ใดก็จบแล้วไม่ใช่หรือ หย่วนเกอ ข้าต้องเติบโตขึ้น เจอสิ่งใดต้องรู้จักเผชิญหน้าและรับมือ ข้าไม่อยากเป็คนเขลาที่ทำสิ่งใดไม่เป็ มีแต่ต้องพึ่งพาผู้อื่นอย่างเดียว”
จะพาภรรยาตัวน้อยไปที่บ่อนไม่ได้!
เจียงหงหย่วนรู้สึกว่าที่นางพูดมีเหตุผล
ถูกต้อง เขาพานางติดตัวไปไหนมาไหนตลอดไม่ได้ ยังมีสิ่งอื่นอีกหลายอย่างต้องทำ และเื่พวกนั้น…
ดวงตาดอกท้อเป็ประกายของหลินหวั่นชิวเต็มไปด้วยความดื้อรั้นและแน่วแน่ เจียงหงหย่วนมองแล้วใจลอยเล็กน้อย
ตอนแรก จุดประสงค์ที่เขาใช้หมูป่าแลกภรรยาตัวน้อยกลับมานั้นเรียบง่ายมาก นั่นคือหาสตรีคลอดลูกให้ตัวเอง มอบทายาทให้เขา
แต่หลังจากได้ทำความรู้จักกับภรรยาตัวน้อย เขากลับค่อยๆ พบว่าตัวเองชอบนางเข้าเสียแล้ว
นางไม่อ่อนแอแม้แต่น้อย รู้จักช่วยทวงความยุติธรรมให้หงหนิงตอนเขาไม่อยู่บ้าน ทั้งยังจัดการให้สองครอบครัวที่รับมือยากที่สุดในหมู่บ้านต้องจ่ายเงิน
ภรรยาตัวน้อยไม่ใช่ดอกทู่ซือที่ต้องพึ่งพาเขา นางเป็ต้นไม้ ต้นไม้ที่สามารถเติบโตเคียงบ่าเคียงไหล่เขา
เขาอยากปกป้องนาง อยากรวบนางเข้าใต้ปีกแต่ไม่อยากหักปีกนาง ไม่อยากให้นางสูญเสียท้องนภา สูญเสียโลก…
“ได้!” เจียงหงหย่วนตอบเสียงอู้อี้หนึ่งคำ
หลินหวั่นชิวคิดว่าตัวเองฟังผิด บุรุษหยาบเถื่อนยอมตอบตกลงง่ายๆ เช่นนี้!
หลังจากที่บุรุษหยาบเถื่อนเห็นนางถูกรังแกทุกครั้งที่เขาออกจากบ้านแล้วนางคิดว่าต้องพูดกล่อมอีกมากถึงเขาจะยอมเสียอีก!
“เ้าอยากกินสิ่งใด? ข้าจะทำให้!” หลินหวั่นชิวดีใจมาก บุรุษหยาบเถื่อนยอมตอบตกลงให้นางอยู่บ้านผู้เดียวเช่นนี้ ไม่กลัวนางหนีแล้ว เช่นนั้นวันหน้าจะยอมให้นางออกจากบ้านคนเดียวด้วยใช่หรือไม่?
หลินหวั่นชิวตัดสินใจให้รางวัลเขา วันหน้ามีกระไรจะได้คุยกันง่ายเช่นนี้
(เจียงหงหย่วน “…วันหน้าข้าก็คุยง่ายจริงๆ นั่นแหละ!”)
