ส-ะ-ใ-ภ้ ตระกูลเว่ย
ผู้เขียน กาสะลอง / เฉ่าฟ่าน
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ
หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ
เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
……….
นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา
ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์
ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง
ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง
*เราเตือนท่านแล้ว*
ส-ะ-ใ-ภ้ ตระกูลเว่ย
เมืองซูเจียง
วันที่กำลังมีพิธีแต่งงาน
ภายในบ้านหลังใหญ่ของ ‘ตระกูลเว่ย’ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นตระกูลใหญ่แห่งเมืองซูเจียง ผู้คนในเมืองแห่งนี้และเมืองใกล้เคียงต่างก็รับรู้กันว่าต้นตระกูลเว่ยร่ำรวยมั่งคั่งมาจากกิจการโรงเตี๊ยมและร้านขายพืชผลทางการเกษตรที่รับซื้อมาจากชาวไร่ชาวนา
นอกจากนี้ก็มีร้านขายผ้าไหมกับร้านเครื่องลายครามและร้านขายพืชผลทางการเกษตร ทำรายได้ให้กับตระกูลเว่ยเรื่อยมาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน
“จากนี้ไปเจ้าคือสะใภ้ของตระกูลเว่ย”
‘เว่ยหยาง’ ชายวัยห้าสิบปีรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมคร้ามหรือที่ผู้คนมักจะเรียกขานกันติดปากว่า ‘เถ้าแก่เว่ย’ กล่าวกับสะใภ้คนงาม
“ข้าขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะท่านพ่อท่านพี่… ”
ไฉ่หงที่อยู่ในชุดสีแดงสวยงามดูอ่อนหวานเย้ายวน เสียบปิ่นยู่อี่และประดับใบทับทิมที่ก้อนผมเกล้ามวยสีดำสลวยราวกับแพรไหม กล่าวด้วยน้ำเสียงและท่าทางนอบน้อม
นางค่อยๆ ย่อตัวคุกเข่าลงกับพื้นตรงหน้า ก้มลงคารวะบิดาและสามี
“โอ๊ววว… ลุกขึ้นเถอะสะใภ้ข้า… จากนี้ต่อไปพวกเราสัญญาว่าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี… ”
เถ้าแก่เว่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงโอบอ้อมอารี รีบก้มลงโอบไหล่ของสะใภ้คนงาม ค่อยๆ พยุงกายให้นางลุกขึ้นยืน
สายตาของเถ้าแก่เว่ยจ้องมองใบหน้างดงามของไฉ่หงด้วยแววตาเอ็นดู ไม่เคยคิดรังเกียจว่านางเป็นลูกสาวของ ‘ลี่จู’ ซึ่งมีอาชีพเป็นนางโลมหอโคมเขียวชื่อดังที่ผู้ชายในเมืองนี้ต่างก็รู้จักกันดี
ในเวลาต่อมา
ตอนค่ำ ภายในห้องนอนของบ่าวสาวที่เพิ่งผ่านพ้นพิธีวิวาห์มาได้ไม่นาน กำลังเป็นช่วงข้าวใหม่ปลามัน ทั้งสองจึงชวนกันร่วมรักเมื่อโอกาสที่รอคอยมาถึง
ทั้งสองอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อนด้วยกันทั้งคู่ ไฉ่หงนอนหงาย ถ่างขาอ้าซ่าให้เว่ยกังคุกเข่าแทรกลำตัวอยู่ระหว่างง่ามขา ขยับเอวกระเด้าเข้าใส่ร่างของนางอย่างเมามันจนเตียงสั่นคลอน
“อูยยย… ท่านพี่ข้าเสียว… ซี้ดดดด… ”
ไฉ่หงร้องคราง…
สองมือโอบอยู่รอบเอวของเว่ยกัง รั้งเข้ามาให้ง่ามขาแนบชิดสนิทแน่น แอ่นง่ามขาเด้งขึ้นมาอ้ากลีบสอดสวนรับแก่นกาย ด้วยอยากให้เขาสอดใส่เข้ามาแรงกว่านี้ลึกกว่านี้
“อ๊า… อ๊า… อ๊า… อีกค่ะ… แรงอีก… ”
ในวินาทีที่ร่างกายกำลังโดนราคะครอบงำจนไม่หลงเหลือความกระดากอาย นางเร่งเร้าเสียงกระเส่าลืมอาย ด้วยอยากให้แท่งหยกแห่งความเป็นชายของสามีรุกคืบเข้ามาแนบชิดติดโคนไข่
ทว่าด้วยขนาดอันน้อยนิดจนเรียกได้ว่าทั้งเล็กและสั้น เว่ยกังจึงไม่อาจกระแทกกระทั้นได้อย่างที่หญิงสาวต้องการ
“อ๊า… อ๊า… อ๊า… อ๊า… ซี้ดดดดด… อีก… อีก… ขะ… ข้าทรมาน… ”
เสียงร้องครวญครางของไฉ่หง…
ทำให้เถ้าแก่เว่ยที่นอนอยู่อีกห้องติดกันถึงกับพลิกตัวไปมาด้วยความกระสับกระส่ายในอารมณ์
ก่อนจะเอามือรูดแท่งหยกแห่งความเป็นชายของตัวเองที่กำลังชูชันขึ้นมาเป็นลำ
มือหยาบใหญ่ของเว่ยหยางรูดชักแก่นกายลำใหญ่ด้วยอารมณ์กระสันสุดจะข่มกลั้น จินตนาการไปว่ากำลังได้กระแทกกระทั้นรูสวาทของสะใภ้คนงาม
“อู้วววว… ซี้ดดด… ท่านพี่คะ… ได้โปรดแรงกว่านี้ได้ไหมข้าทรมาน… ”
ไฉ่หงเร่งเร้า…
นางแอ่นสองเต้าพร้อมกับเอามือบีบนมป้อนให้เว่ยกังดูดเลีย แม้ว่าเขาพยายามกระเด้าเข้าสุดออกสุด ออกแรงจนเหงื่อกาฬแตกซ่านแต่ก็ดูเหมือนว่ามันยังเข้ามาได้ไม่ลึกถึงจุดหมายที่นางอยากให้หัวเอ็นชอนไชเข้ามาบดขยี้
“อ่า… นมเจ้าใหญ่เหลือเกินไฉ่หง… อ่า… อ่า… อ่า… ข้าชอบมาก… ”
เว่ยกังก้มลงดูดนมอย่างเอร็ดอร่อย ทำเอาเถ้าแก่เว่ยที่กำลังแอบดูอยู่เงียบๆ เผลอตัวตวัดลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองไปพลางเพราะอยากดูดบ้าง นึกอิจฉาลูกชายที่ได้เชยชมสะใภ้คนงามอย่างหื่นกระหาย
“โอ๊ววว… สะใภ้ข้าเจ้าน่าเอาสุดๆ… ”
เถ้าแก่เว่ยพึมพำเบาๆ…
รู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาอย่างประหลาด เพราะไม่คิดว่าวันนี้จะได้เห็นหนังสดของลูกชายกับสะใภ้คนงามกำลังร่วมรักกันอย่างเร่าร้อนถึงพริกถึงขิง