พลันได้ยินเสียงของหลิวหรงดังแว่วมาเสียงหัวใจของต้วนอวี้ก็ดังขึ้นมา ‘ตุบๆ’นางก้มตัวลงมาถามต้วนอวี้ด้วยท่าทางรีบร้อน “เกิดอะไรขึ้นบ่าวที่ติดตามเ้าไปไหนกันหมด”
เมื่อต้วนอวี้เห็นหลิวหรงสายตาพลันปรากฏความหวาดกลัวออกมา เขาจับแขนต้วนชิงิไว้แน่น “ไม่รู้ ข้าไม่รู้”
ต้วนเจิ้งที่ตามเข้ามาได้ยินคำพูดที่บุตรชายเอ่ยพลันโกรธขึ้นมา “คุมตัวบ่าวในเรือนทั้งหมดออกมา”
ในใจของต้วนเจิ้งโกรธจัดเมื่อไม่กี่วันมานี้ต้วนชิงิก็เกิดเื่ขึ้นในจวน ผ่านมาไม่กี่วันก็เป็ต้วนอวี้พวกบ่าวเหล่านี้กินข้าวแล้วไม่ทำงานกันหรืออย่างไร?
เมื่อเห็นต้วนเจิ้งโกรธจัดทุกคนต่างก้มหน้าก้มตา ไม่มีใครกล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว
ครู่เดียวแม่นมและบ่าวรับใช้หญิงชายในจวนต่างมากันครบ ครั้นเห็นต้วนอวี้อยู่ในสภาพย่ำแย่จึงค่อยๆ มองไปยังใบหน้าที่โกรธจัดของต้วนเจิ้งและต้วนชิงิบ่าวทุกคนคุกเข่าลงก้มหน้าไม่พูดอะไร
สายตาที่ฉับไวของหลิวหรงมองไปในกลุ่มบ่าวในจวนที่ถูกมัดไว้เพื่อหาฉวนจือบ่าวที่นางส่งเข้าไปอยู่ข้างกายต้วนอวี้ด้วยใจที่ร้อนรน ขณะที่นางกำลังจะเอ่ยปาก ต้วนชิงิพลันเอ่ยขึ้นมาก่อน
คำพูดต้วนชิงิไม่ใช่เพื่อหาเื่หลิวหรงแต่นางกลับปลอบต้วนอวี้ เอ่ยถามอย่างอ่อนโยน
“ต้วนอวี้บอกพี่มาสิว่าทำไมมาอยู่ที่นี่คนเดียว คนข้างกายเ้าไปไหนกันหมด?”
หัวของต้วนอวี้ยังซบอยู่ที่อกของต้วนชิงิเขาเปียกปอนไปทั้งตัว ซบอกเพื่อหาความอบอุ่นจากพี่สาว พูดเสียงเบา
“ฉวนจือและบ่าวคนอื่นไปดื่มเหล้ากันหมดข้าให้พวกเขาพาข้าไปด้วย แต่พวกเขาไม่ยอม ทิ้งข้าให้เล่นคนเดียวที่นี่”
คำพูดของเด็กน้อยน่าเชื่อถือที่สุดแต่ไหนแต่ไรต้วนอวี้เป็คนขี้กลัวบ่าวรับใช้ที่อยู่ข้างกายเขาถูกหลิวหรงเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ไม่มีใครสนใจรวมถึงสอนอะไรที่ดีให้กับเขาตอนนี้ต้วนอวี้บอกว่าฉวนจือไปดื่มเหล้าก็น่าจะเป็จริง
“แย่เสียจริง”หลิวหรงจึงถือโอกาสพูดขึ้น
“เป็ไปไม่ได้ฉวนจือเป็บ่าวที่อี๋เหนียงเลือกอย่างพิถีพิถันด้วยมือตนเองทำไมถึงไม่สนใจดูแลเ้าเล่า?” ต้วนชิงิพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ
เป็แค่บ่าวรับใช้กล้าดีอย่างไรทิ้งนายไปดื่มเหล้า? ทำเช่นนี้ผิดมหันต์ อีกทั้งยังเป็คนที่หลิวหรงตั้งใจคัดเลือกมาเป็อย่างดีงั้นหรือ?
ครั้งนี้ทำให้หลิวหรงน้ำท่วมปากไม่รู้จะแก้ต่างอย่างไร ต้วนอวี้มองหลิวหรงด้วยความหวาดกลัว รีบหลับตาลงอ้ำอึ้งอยู่นานจึงพูดออกมา
“ที่ผ่านมา…บ่าวคนนี้ทำเช่นนี้ทุกวัน”
“ทั้งหมดเป็ความผิดของข้าเองที่ละเลยเ้า”น้ำตาต้วนชิงิไหลออกมาอย่างรวดเร็ว คนที่ละเลยต้วนอวี้คงไม่ได้มีแค่นางผู้เดียวแม้ต้วนเจิ้งก็ไม่เคยสนใจคนที่อยู่ข้างกายต้วนอวี้เช่นกัน
เจตนาร้ายที่แอบแฝงอยู่ของหลิวหรงถูกต้วนชิงิเอามาพูดทั้งน้ำตาทำให้คนฟังแม้จะไม่พอใจแต่ก็ไม่สามารถโต้แย้งได้ ต้วนเจิ้งได้ยินก็ยิ่งโกรธมากขึ้น
“ใครก็ได้ไปจับฉวนจือมาให้ข้า”
เถี่ยเฟิงรับคำสั่งพาลูกน้องรีบไปจับฉวนจือได้ในเวลาไม่นานฉวนจือที่ดื่มเหล้าจนเดินโซซัดโซเซเมื่อเห็นเถี่ยเฟิงมาคุมตัวโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงผลักเถี่ยเฟิงออก พูดฟังไม่รู้ความ
“พวกเ้ากล้าลงมือกับข้าหรือข้าจะไปรายงานนายท่านให้บั่นคอพวกเ้า”
ต้วนชิงิฝากให้แม่นมหนิงพาต้วนอวี้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจากนั้นเดินตรงเข้าไปจับมือต้วนเจิ้งด้วยน้ำตานองหน้า พูดเสียงสั่นเครือ
“ท่านพ่อพวกเราเกือบจะเสียต้วนอวี้ไปแล้ว”
เมื่อครู่นี้ร่างกายและจิตใจของต้วนชิงิสั่นไปหมดเมื่อเห็นน้องชายนอนนิ่งไม่ขยับนางกลัวสุดขีดว่าต้วนอวี้จะตายไปเนื่องจากการวางแผนที่ผิดพลาดของนางถ้าเป็เช่นนั้นนางจะไม่มีวันให้อภัยตัวเอง
ต้วนเจิ้งรับรู้ได้ถึงอาการสั่นเทาของบุตรสาวจึงตบไปเบาๆที่มือของนาง
“ชิงิวางใจเถอะต้วนอวี้จะไม่เป็ไร”ฮูหยินติงโหรวถึงแม้จะจากไปแต่ก็ได้มอบลูกชายและลูกสาวไว้ให้เขาหากพวกเ้าทั้งสองเป็อะไรไป ข้าจะไม่มีทางให้อภัยตนเอง
ต้วนเจิ้งสูดหายใจเข้าลึกมองไปยังฉวนจือด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกลียด
“ลากบ่าวชั่วผู้นี้ออกไปตีให้ตาย”ต้วนเจิ้งไม่ค่อยมีคำสั่งที่เด็ดขาดเช่นนี้บ่อยๆทว่าวันนี้เขากลับโกรธจัดที่บุตรชายเพียงคนเดียวถูกบ่าวในจวนต้วนทิ้งไว้ที่บ่อด้านหลังสวนจนเกือบจะเสียชีวิต
หลิวหรงมองไปข้างหน้าพร้อมก้าวเท้าขึ้นไปสองก้าวนางสบตากับต้วนเจิ้งที่มีสายตาโกรธขึ้งอย่างตระหนกใ รีบพูดอย่างรีบร้อน
“รีบลากออกไปเสีย”
เสียงโเี้ที่น่ากลัวดังไปทั่วทั้งสายตาที่เย็นเฉียบของต้วนเจิ้งทำให้ฉวนจือตื่นจากการอาการเมาไปกว่าครึ่งเมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าเริ่มไม่ดี จึงรีบหันหน้ากลับไปขอร้องหลิวหรง
“อี๋เหนียงไว้ชีวิตบ่าวด้วย”แววตาตื่นตระหนกแวบเข้าในดวงตาของหลิวหลงเพียงครู่เดียว
“ยังไม่รีบลากออกไปอีกหาอะไรมายัดปากมันไว้” เถี่ยเฟิงลากฉวนจือที่ร้องขอไม่หยุดออกไป
“อี๋เหนียงเคยรับปากบ่าวขอเพียงทำให้คุณชายมีความสุข...” คำพูดขาดหายไปแทนที่ด้วยเสียงร้อง “อือๆ”
สายลมที่พัดมาพร้อมกับความหนาวเย็นเล็กน้อยสายตาของต้วนเจิ้งมองไปรอบตัวของหลิวหรง พลางส่ายหัวไปมาอย่างไม่รู้ตัว
“ถ้าปรนนิบัติคุณชายดีทำไมจะต้องมาปลอบ?” ทางด้านต้วนชิงิ เช็ดน้ำตาพูดเสียงเบา
“ข้าคิดว่าอี๋เหนียงช่วยเลือกสิ่งดีๆให้ต้วนอวี้ แต่ตอนนี้ดูแล้ว...” คาดว่าจะไม่ใช่เช่นนั้น!
ดวงตาหลิวหรงฉายแววเลิ่กลั่กเมื่อต้วนชิงิพูดจบต้วนเจิ้งทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของนางได้แต่นิ่งพลางขมวดคิ้วก้มหน้าไม่รู้ว่าคิดอะไรไม่มองแม้กระทั่งหลิวหรงหรือบุตรสาว
ต้วนชิงิใช้มือม้วนผ้าเช็ดหน้าแอบก้มหน้าเช็ดน้ำตาเงียบๆ ดูท่าแล้วต้วนเจิ้งยังเชื่อใจหลิวหรงแต่อย่างไรเสียเหตุการณ์ในวันนี้ก็ถือว่าได้สร้างเมล็ดพันธุ์แห่งความสั่นคลอนลงไปแล้ว
ต้วนชิงิมองไปยังหลิวหรงช้าๆ รีบเช็ดน้ำตา เอ่ยอย่างเกรงใจ“ข้ารับรู้ถึงความหวังดีของอี๋เหนียง แต่พวกบ่าวรับใช้กลับละเลย”
ต้วนชิงิมองหลิวหรงที่ตาขวางด้วยความจริงใจหลิวหรงได้แต่ก่นด่าบ่าวชั่วฉวนจือในใจหลายสิบรอบ จากนั้นฝืนยิ้มออกมา
“เป็ความผิดของข้าเองที่เลือกคนที่ไม่ดีดันเลือกบ่าวรับใช้ที่ละเลยหน้าที่เสียได้”
ต้วนชิงิมองหลิวหรงไม่พูดไม่จาอะไรเพื่อให้หลิวหรงรู้สึกเก้อเขิน ผ่านไปครู่หนึ่งนางจึงพูดอย่างไม่ได้ตั้งใจออกมา
“อี๋เหนียงคนข้างกายข้าและต้วนอวี้มีแต่บ่าวไม่ดี ดังนั้นต้องดูบ่าวรับใช้ของน้องอวี้หรานให้ดีอย่าให้เกิดเื่แบบนี้ขึ้นอีก”บ่าวรับใช้ของต้วนอวี้หรานนั้นหลิวหรงจัดแจงอย่างดี ทุกคนต่างจงรักภักดีแล้วจะมีบ่าวไม่ดีได้ยังไง?
หลิวหรงหน้าซีดคำพูดนี้เหมือนเป็การเสียดสีในการเลือกปฏิบัติของนางพลันได้ยินเสียงดังกังวานพูดขึ้น
“คนข้างกายข้าข้าจะเป็คนจัดการเอง ไม่จำเป็จะต้องลำบากพี่สาว...แต่เกรงว่าพี่สาวจะไม่ยอมดังนั้นบ่าวรับใช้จึงไม่กล้าปริปากพูดอะไรขัดหู” เสียงต้วนอวี้หรานดังมาแต่ไกลนางเดินมาแสดงความเคารพต่อต้วนเจิ้ง
“คารวะท่านพ่อ”จากนั้นจึงไปยืนกอดหลิวหรงข้างๆ “ท่านแม่ ข้าได้ยินว่าน้องชายตกน้ำจึงได้รีบมาดู”
ต้วนชิงิยิ้มเยาะล้อเลียนต้วนอวี้หรานที่ตอนนี้เรียก ‘ท่านแม่’ ไม่รู้ว่าต้วนเจิ้งจะฟังออกหรือไม่
ต้วนเจิ้งขมวดคิ้วมองไปยังต้วนอวี้หราน“โตขนาดนี้แล้วยังยืนดีๆ ไม่เป็ ยังไม่รีบทำความเคารพพี่สาวเ้าอีก?”
“คารวะท่านพี่”ต้วนอวี้หรานเบ้ พลางย่อขาลงแสดงความเคารพแบบขอไปที
ต้วนชิงิที่ยังมีน้ำตาที่เช็ดไม่แห้งมองยังต้วนอวี้หรานพูดเสียงเบา
“น้องสาวตามสบาย!” นางพูดไปก็เบ้ปากไปในมุมที่หลิวหรงและต้วนเจิ้งมองไม่เห็น ปรากฏรอยยิ้มถากถาง
“แม่เ้าเลือกปฏิบัติ!”นางพูดเสียงเบายั่ว
สีหน้าของต้วนอวี้หรานเปลี่ยนในทันทีนางพุ่งเข้าใส่ต้วนชิงิ “เ้าว่าอะไรนะ กล้าว่าท่านแม่ข้าหรือ?”
การพุ่งเข้าไปของต้วนอวี้หรานทำให้ต้วนชิงิความใพลางถอยหลังอย่างลนลานเหยียบชายกระโปรงล้มลงไปกับพื้น ต้วนเจิ้งรีบเข้าไปพยุงไว้ได้เขาหันตำหนิต้วนอวี้หรานด้วยความโมโห
“ทำอะไรของเ้า?”
ต้วนอวี้หรานถึงกับใถอยหลังไปครึ่งก้าว“นางกำลังด่าท่านแม่”
ได้ฟังเช่นนั้นต้วนชิงิก็ร้องไห้ออกมา
“ข้า...จะกล้าด่าอี๋เหนียงได้อย่างไรกัน”อี๋เหนียงที่อำนาจค้ำจวนเกรงว่าจะใกล้สิ้นสุดแล้ว
“เชอะ”ต้วนอวี้หรานหันหลังกลับไปความโกรธ
“ถ้ายังกล้ามาด่าท่านแม่ข้าจะไม่ปล่อยเ้าไว้!”
ต้วนเจิ้งยิ่งได้ฟังก็ยิ่งโมโห
“เ้ากำลังพูดอะไรอยู่? รีบขอโทษพี่สาวเ้าเดี๋ยวนี้”
ต้วนอวี้หรานใจึงรีบวิ่งไปหาหลิวหรงหวังว่าท่านแม่จะช่วยขอร้องให้นางแต่หลิวหรงกำลังเครียดกับเื่ที่เกิดกับต้วนอวี้ นางจึงไม่กล้าขอร้องแทนไม่รู้ว่าหากทำเช่นนั้นไปต้วนเจิ้งจะคิดยังไง บุตรสาวของนางก็ยังโวยวายไม่หยุดจนทำให้นางเริ่มปวดหัวนางเอ่ยอย่างรำคาญ
“พี่สาวเ้าด่าอี๋เหนียงที่ไหนกัน เ้าฟังผิดไปแล้วยังไม่รีบขอโทษพี่สาวเ้าอีก”
ต้วนอวี้หรานงงเป็ไก่ตาแตกที่หลิวหรงไม่ช่วยครั้นมองมายังต้วนชิงิที่แสร้งทำท่าเช็ดน้ำตา เบะปาก และทำสีหน้าล้อเลียนเหยียดหยามใส่ทำให้ต้วนอวี้หรานโกรธจนกระทืบเท้ากับพื้นเต็มแรงจากนั้นเดินมาที่หน้าต้วนชิงิย่อตัวแสดงความขอโทษแบบขอไปที
“ขอโทษ” เหอะ... จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ความผิดของข้าทำไมต้องขอโทษนางด้วย รอไปก่อนเถอะ ข้าจะต้องเอาคืนเ้าแน่!
“เื่เล็กน้อยแค่นี้พวกเราเป็พี่น้องกัน เ้าไม่จำเป็ต้องขอโทษหรอก” ต้วนชิงิแกล้งทำเป็เข้าไปพยุงก่อนจะพูดด้วยเสียงที่ได้ยินเพียงสองคน
“ดูสิขนาดแม่เ้ายังไม่ช่วยเ้าเลย!”
มันช่างไม่สมเหตุสมผลจริงๆ
ต้วนอวี้หรานโกรธจนหน้าดำหน้าแดงกลับไม่พูดอะไรออกมาสักคำเดียวต้วนชิงิจึงกลับไปเช็ดน้ำตาอยู่ข้างต้วนเจิ้งดังเดิมสิ่งที่นาง้าคือยั่วยุต้วนอวี้หรานหลิวหรงยอมที่จะอดทนแต่ต้วนอวี้หรานที่เป็เหมือนคบไฟยิ่งถูกยั่วเท่าไรไม่นานก็ต้องะเิออกมา
เพราะว่ามีแม่นมหนิงอยู่เป็เพื่อนจึงทำให้หลายสิ่งรวดเร็วขึ้น
ผ่านไปไม่นานต้วนอวี้ก็เดินตามกลับมาพร้อมแม่นมหนิง เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้วผมก็เช็ดแล้วแต่เพราะเมื่อครู่ที่จมน้ำทำให้ใบหน้าเล็กๆ นั้นยังซีดขาวไร้เืฝาดเดิมบุตรชายกลัวต้วนเจิ้งอยู่แล้วยิ่งเมื่อเห็นใบหน้าผู้เป็บิดาเคร่งขรึมจ้องมองมาก็ยิ่งกลัวรีบเข้าไปกอดต้วนชิงิผู้เป็พี่สาว
“เ้าไม่ต้องกังวลข้าดีขึ้นแล้ว” นางเช็ดน้ำตา ฝืนยิ้มกอดต้วนอวี้เอาไว้
“เ้าโตแล้วนี่นารู้จักเป็ห่วงข้าด้วย... เห็นข้าร้องไห้จนลืมแสดงความเคารพต่อท่านพ่อกลับมาโผเข้ากอดข้า... ข้ารู้ว่าเ้าโตแล้ว แต่เื่ฐานะเ้าจะลืมไม่ได้นะ!”
ต้วนชิงิพูดไปก็หยิกเขาเบาๆเข้าที่แขนของต้วนอวี้ส่งสัญญาณ ทว่าทำให้เขาน้ำตาไหล ไม่กล้าอ้าปากร้องออกมา
เมื่อต้วนอวี้หรานเห็นภาพเช่นนั้นก็หัวเราะเยาะเย้ยออกมาทั้งยังพูดว่าต้วนชิงิไม่ได้รับการสั่งสอนอย่างนี้ก็ไม่มีสิทธิ์มาดูแลต้วนอวี้แล้ว
ต้วนอวี้หรานเป็คนที่เ้าคิดเ้าแค้นเมื่อต้วนชิงิทำให้นางอับอาย แค้นนี้นางจะจดจำไว้อย่างดี
ทว่าน่าเสียดายสิ่งที่ต้วนอวี้หรานพูดถูกแม่นมหนิงพูดตัดหน้าไปก่อนมุมที่แม่นมยืนทำให้ต้วนอวี้หรานมองไม่เห็นต้วนเจิ้งพอดี นางจึงย่อตัวแสดงความเคารพพูดยิ้มๆ
“คุณชายเห็นคุณหนูใหญ่ร้องไห้ด้วยความเสียใจตลอดทางได้แต่เสียใจเพราะความสัมพันธ์ที่แแ่ของพี่สาวและน้องชาย จึงทำให้เมื่อเห็นคุณหนูใหญ่เลยอดไม่ได้ที่จะทักทาย”
ความสัมพันธ์ที่แแ่ของพี่สาวและน้องชายอย่างนั้นหรือ? คำพูดของแม่นมหนิงชี้นำทำให้ต้วนเจิ้งมองไปยังต้วนชิงิด้วยสายตาเศร้าโศกทว่าเขากลับขมวดคิ้วมองต้วนอวี้หรานที่ยังอยู่ปกติสุขดี
ต้วนชิงิยิ่งมั่นใจขึ้นอีก
ถ้านางคาดการณ์ไม่ผิดคงเป็เพราะฉวนจือที่สอนให้น้องชายของนางกลัวต้วนเจิ้ง
แม่นมหนิงกำชับต้วนอวี้ไม่น้อยและเขาก็เชื่อฟังแต่โดยดีจึงเดินเข้าไปที่หน้าของต้วนเจิ้งแสดงความเคารพอย่างถูกต้อง
“คารวะท่านพ่อ!เมื่อครู่ลูกเห็นใจพี่สาวที่าเ็เมื่อหลายวันก่อน ร้องไห้เยอะจะไม่ดีต่อร่างกายด้วยความรีบร้อนจึงไม่ได้แสดงความเคารพต่อท่านพ่อ หวังว่าท่านพ่ออย่าได้ถือโทษลูก”
เมื่อเห็นต้วนอวี้เข้าใจสถานการณ์ สีหน้าของต้วนเจิ้งก็คลายลง
“พี่สาวของเ้าสุขภาพไม้ดีต่อไปเ้าอย่าสร้างเื่ให้พี่เ้าเป็ห่วง”
ต้วนอวี้ก้มหน้าน้อมรับ“ลูกรับทราบแล้ว” จากนั้นจึงทำความเคารพต้วนชิงิและต้วนอวี้หรานตามลำดับก่อนถอยกลับไปอยู่ด้านหนึ่ง ต้วนชิงิกอดต้วนอวี้ไว้ พูดเสียงเบา
“ต้วนอวี้ต่อไปอย่าทำอย่างนี้อีก พี่ใแทบแย่!”ต้วนอวี้อยู่ในอ้อมกอดและจับเสื้อของต้วนชิงิไว้แน่นเพื่อที่จะััความอบอุ่นโดยไม่พูดไม่จาอะไร
ตอนนี้เองที่หลิวหรงหยิกต้วนอวี้หรานแรงๆไปหนึ่งที นางจึงรีบยื่นมือออกไปหาต้วนอวี้
“ข้าได้ยินว่าเ้าตกน้ำ แต่เห็นเ้าไม่เป็อะไรแล้วก็ดี” ไม่เป็อะไรแล้ว...ไม่ดีเอาเสียเลย!
ต้วนอวี้หรานใส่เสื้อแขนสั้นสีแดงสดกระโปรงสีอ่อน เส้นผมที่ดำขลับเกล้ายกสูงขึ้น เสียบปิ่นลายดอกมู่หลาน[1]ด้านปลายมีสายห้อยระย้าลงมาทำให้เวลาเดินแกว่งไปมาดูอ่อนหวาน ้าประดับด้วยลูกปัดที่ร้อยอย่างพิถีพิถันเข้ากับใบหน้าที่ขาวนวลผ่องผิวละเอียดนุ่ม คิ้วโก่งดั่งคันศรเล่มงามดวงตาวาววับดั่งดวงดาวพร่างพราวอยู่บนท้องฟ้าจมูกเล็กรับกับรูปปากและริมฝีปากบางเบาโค้งขึ้น เมื่อดูจากที่ไกลๆสวยงามสะดุดตายิ่งนัก
…...
[1]ดอกมู่หลาน คือ ดอกกล้วยไม้