ณ จวนต้วน ภายในห้องของต้วนชิงินอน นางตื่นหลังจากงีบหลับ พบว่าหัวเตียงมีสิ่งของวางไว้ตอนไหนมิรู้ ซึ่งสิ่งนั้นคือ ‘ธนูชวนเย่ว์กง’ ในสามวัน นางเห็นธนูนี้มาสองครั้งแล้ว
ต้วนชิงิลุกขึ้นมาแล้วเดินไปนั่งพิงเก้าอี้ ใบหน้าฉายแววสงสัยพลางขมวดคิ้ว ในมือกำธนูชวนเย่ว์กงและเศษกระดาษแผ่นเล็กที่เขียนว่า ‘รบกวนมอบให้อวี่เิ’
ธนูคันนี้ นางได้ปฏิเสธชายชุดดำไปแล้วนี่! ภายในเวลาเพียงแค่สามวัน นางเห็นธนูนี้มาสองครั้งแล้ว และในตอนนี้มันยังย้อนกลับมาปรากฏอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง วิธีนี้ทำให้นางไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรดี!
นางหยิบธนูชวนเย่ว์กงขึ้นมา ในดวงตาพลันปรากฏภาพขึ้นมามากมายในมโนทวาร หรือว่าทั้งชาตินี้และชาติที่แล้วจะเหมือนกัน ชะตาชีวิตของนางถูกธนูชวนเย่ว์กงกำหนดไว้แล้ว
แล้วเช่นนั้นนางจะต้องจัดการอย่างไร เอาไปให้คนที่ชื่อ ‘อวี่เิ’ หรือจะเอาไปทิ้งดี?
ต้วนชิงิหยิบกระดาษขึ้นมาสีหน้าฉายแววกังวล พลางถอนหายใจลึกออกมา
เสียงเคาะประตูดังขึ้น “คุณหนู บ่าวกลับมาแล้วเ้าค่ะ” แม่นมหนิงเอ่ยรายงานอยู่นอกห้อง
“คนที่ข้าให้ตามหา ตอนนี้หาเจอหรือยัง?” นางถามกลับ พลางรีบเอาธนูชวนเย่ว์กงซ่อนไว้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จะต้องพาคนนั้นกลับมาให้ได้! ถึงจะสามารถเชื่อมโยงไปถึงต้วนอวี้และอีกคนหนึ่งได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตของคนอีกจำนวนมาก
“เรียนคุณหนู ตอนนี้พบแล้วเ้าค่ะ บ่าวได้นำตัวกลับมาด้วย” แม่นมหนิงยังคงก้มหน้าก้มตาเช่นเดิม เสียงที่ตอบมาไม่มีความสงสัยแม้แต่น้อย
สายตาของแม่นมหนิงเห็นได้ถึงความสงสาร “สภาพของเขาเป็เหมือนที่คุณหนูเล่า”
เป็ความคิดของต้วนชิงิที่ให้แม่นมหนิงออกจากเมืองไปตามหาใครคนหนึ่งและจะต้องนำตัวกลับมาพบนางให้ได้ สุดท้ายทั้งเวลา สถานที่ และรูปลักษณ์ก็ยังเหมือนที่ต้วนชิงิบรรยายไว้ไม่ผิดเพี้ยน แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยาแ ลมหายใจรวยริน ทว่าดวงตากลับมีความแน่วแน่วาววับราวกับไข่มุก
แม่นมหนิงเข้าไปสอบถาม ถึงได้รู้ว่าชายผู้นั้นทำของหายและถูกคนกลั่นแกล้ง นางจึงทำตามแผนที่วางไว้และพาเขากลับมา
เดิมทีต้วนชิงิยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจ ไม่นานก็สลัดความคิดนั้น แววตาเผยให้เห็นถึงความเ็าอันหนาวเหน็บยิ่งกว่า ราวกับว่าวันเวลาในจวนต้วนต่อจากนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!
“ดี... พาเขาไปพักผ่อนก่อน ตอนบ่ายค่อยพาเขามาเจอข้าที่สวนดอกไม้ด้านหลัง”
ต้วนชิงิยังคงกำมือแน่น นางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาสะบัด ผ่านไป่หนึ่งถึงเรียกแม่นมหนิงเข้ามากระซิบข้างหูและกำชับอย่างจริงจัง
“เื่นี้เกี่ยวข้องกับต้วนอวี้ จะให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด” สีหน้าของแม่นมหนิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย นางถอยหลังกลับไปสองก้าวคุกเข่าที่พื้น ‘ตุ้บ’
“บ่าวจะไม่ยอมให้เื่นี้เกิดขึ้น”
พูดจบแม่นมหนิงจึงพยุงตัวลุกขึ้นยืน รู้สึกได้ถึงเหงื่อที่เปียกชุ่มด้านในของเสื้อ นางก้มหัวแต่ยังคงกุมมือตัวเองไว้แน่น หากเป็อย่างที่คุณหนูพูด เื่นี้ใหญ่เกินไป ถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมา ต่อให้นางตายอีกกี่ครั้งก็ไม่สามารถใช้หนี้จนหมดได้!
ต้วนชิงิหลับตาลงช้าๆ เอนตัวลงนอนอีกครั้ง ในใจรู้สึกเศร้าเสียใจจนไม่สามารถอธิบายออกมาได้
ภายในจวน่เดือนเจ็ดเข้าสู่เดือนแปด บ่ายวันนี้อากาศร้อนผิดปกติจนเหงื่อท่วมกาย กระทั่งลมก็เงียบหายจนน่าผิดสังเกต มีเพียงเสียงจักจั่นร้องไม่หยุดปานจะขาดใจ
ต้วนชิงิกำลังอิงตั่งอยู่ในห้องหนิงซูเยี่ยน ถึงนางไม่ได้ขยับตัว แต่เสื้อผ้าด้านในกลับเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แม้แต่ผ้าเช็ดหน้าที่ถูกบิดเป็เกลียวในมือก็เปียกชุ่มเช่นกัน หูของนางตั้งตรง เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในจวนนางก็ได้ยินชัดเจน จนรู้สึกตื่นเต้นไปหมด
ไม่นานภายในจวนก็มีเสียงของเซี่ยฉ่าวเอ๋อร์ “คุณหนูๆ เกิดเื่แล้วเ้าค่ะ”
ต้วนชิงิได้ฟังพลันรู้สึกเวียนหัว มองไปยังตั่งทรุดนั่งลงไป
ท่าทางรีบร้อนใของเซี่ยฉ่าวเอ๋อร์ทำให้นางรู้สึกหน้าชา พูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “จะรีบร้อนทำไม หากใครมาเห็นเข้าเ้าคงโดนตำหนิ”
ใบหน้าของเซี่ยฉ่าวเอ๋อร์เต็มไปด้วยคราบน้ำตา หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลเป็ทางยาวลงมา ทำให้แยกไม่ออกว่าบนหน้าเป็น้ำตาหรือเหงื่อ
เมื่อได้ยินต้วนชิงิตำหนินางจึงคุกเข่าลงกับพื้นดังตุบ พูดเสียบแหบแห้ง “คุณหนู คุณชายจมน้ำที่สวนหลังจวนเ้าค่ะ”
เซี่ยฉ่าวเอ๋อร์เล่าอย่างติดขัดจนนางเข้าใจเหตุการณ์ว่า หลังจากคุณชายต้วนอวี้ทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็ไปเล่นที่สวนหลังจวน ไม่ทันระวังตกลงไปในบ่อจนเกือบจมน้ำตาย
บ่อน้ำนั้นลึกมากและยังสามารถเชื่อมไปยังแม่น้ำที่อยู่นอกจวนได้ ไม่ต้องพูดถึงเด็กน้อยอย่างคุณชายต้วนอวี้ ต่อให้เป็ผู้ใหญ่ก็ยังไม่กล้าเฉียดเข้าใกล้
ต้วนชิงิที่เมื่อครู่ยังหายใจไม่ทั่วท้อง พอลุกขึ้นมาแล้วจึงเซล้มลงไปกองกับพื้น
เซี่ยฉ่าวเอ๋อร์เห็นเช่นนั้นรีบวิ่งเข้าไปพยุง พูดลนลานว่า “คุณหนูรีบไปดูเถอะเ้าค่ะ”
ต้วนชิงิกระวนกระวาย รีบให้บ่าวรับใช้เก็บของแล้วไปบ่อน้ำที่ต้วนอวี้ตกลงไป
แม่นมหนิงได้เตรียมการไว้แต่เช้าแล้ว เมื่อเห็นต้วนชิงิหน้าตาเศร้าโศกเดินมานางจึงขยิบตา เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถวางใจได้ นางถอนหายใจยาว เมื่อเห็นต้วนอวี้หลับตาไม่ขยับตัว หายใจอย่างแ่เบานอนอยู่ข้างทางเดินของบ่อน้ำ พลันรู้สึกเวียนหัวจะล้มลงกับพื้นอีกครั้ง
แม่นมหนิงเข้าไปช่วยพยุงอย่างรวดเร็ว ใช้มือบีบส่งสัญญาณ ต้วนชิงิพลิกมือไปจับข้อมือแม่นมหนิงแน่นทั้งที่ร่างกายสั่นเทิ้ม
แม่นมหนิงกะพริบตาให้กับต้วนชิงิ นางมองเหตุการณ์ตรงหน้าเห็นแต่เด็กหนุ่มแปลกหน้าตัวเปียกปอนกำลังช่วยชีวิตต้วนอวี้ เด็กหนุ่มชันขาขึ้นเพื่อนำ่อกของต้วนอวี้มาพาดไหล่ ยกหลังให้สูงขึ้น ปล่อยให้หัวห้อยลงเพื่อให้ต้วนอวี้สำลักน้ำออกมา
ทำเช่นนี้อยู่ครู่หนึ่งยังไม่เห็นต้วนอวี้มีปฏิกิริยาใดๆ เขาจึงใช้นิ้วกดจุดตามฝ่าเท้า สลับช่วยปั๊มหัวใจและผายปอดให้ต้วบอวี้สำลักเอาสิ่งสกปรกออกมา
ผ่านไปครู่เดียวจึงได้ยินเสียงต้วนอวี้ไอสำลักน้ำออกมา
ต้วนชิงิวิ่งเข้าไปกอดต้วนอวี้ที่พึ่งตื่นโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใด นางสะอึกสะอื้นน้ำตาไหล “ต้วนอวี้”
“ต้วนอวี้ เ้าทำพี่ใไปหมดแล้ว”
“ท่านพี่อย่าร้องไห้ ข้าไม่เป็ไรแล้ว” ต้วนอวี้ฝืนยิ้มแล้วยื่นมือที่เปียกปอนไปจับแขนพี่สาว พยายามพูดให้นางหยุดร้องไห้
“คุณหนู คุณชายเพิ่งสำลักน้ำออกมา ตอนนี้ไม่เป็อะไรแล้ว” เด็กหนุ่มที่อายุน้อยคนนั้นมองมายังต้วนชิงิอย่างสุภาพอ่อนน้อม
ต้วนชิงิใช้ผ้าเช็ดน้ำตา กอดต้วนอวี้พลางกล่าวขอบคุณเด็กหนุ่ม “ลำบากคุณชายแล้ว” เด็กหนุ่มส่ายหัว ยิ้มเพียงเล็กน้อย
“ด้วยความยินดี”