ผมเกาหัวไปมาอย่างกลัดกลุ้มสายตากวาดมองไปรอบๆ ครู่หนึ่ง จนสุดท้ายความคิดก็บังเกิดเมื่อสายตาไปหยุดอยู่บนร่างของอาจิ่วที่กำลังนอนแผ่หลาอยู่จากนั้นก็คว้าเ้าเด็กคนนี้ยัดเข้าไปในอ้อมกอดของซ่งฉียวนแทนในที่สุดก็ช่วยเหลือต้นขาของตัวเองได้สำเร็จ
อาจิ่วที่สะลึมสะลือกะพริบตาปริบๆพร้อมกับมุบมิบปากไปมาแล้วหลับต่อไป ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอกจากนั้นก็เริ่มฝึกการบำเพ็ญเพียรเพราะความสามารถในการเข้าถึงร่างกายนี้เป็พื้นฐานแห่งความอยู่รอดควรใช้เวลาให้คุ้มค่าจะดีกว่า หนำซ้ำความรู้สึกที่โดนกอดต้นขานั้นก็รู้สึกพิลึกจนเกินไปพูดง่ายๆ ก็คือผมยังไม่คุ้นเคยกับการได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับใคร
ปกติแล้วขณะบำเพ็ญเพียรจิตไม่ควรจะฟุ้งซ่านแต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ผมนึกถึงเมื่อหลับตาลงอีกครั้งกลับเป็ภาพอักขระประหลาดเ่าั้ที่อยู่เหนือตำหนักบรรทมของอวี๋เคอทั้งๆ ที่ผ่านไปสิบกว่าวันแล้ว แต่ผมไม่เคยหวนนึกถึงมันเลยสักวันเดียว ทว่าในตอนที่ผมเริ่มบำเพ็ญเพียรมันกลับผุดขึ้นมาจากส่วนลึกในความทรงจำทั้งยังฉายซ้ำวนไปมาไม่หยุดหย่อน ตอกย้ำความรู้สึกในการดำรงอยู่ของตัวเองอย่างหนัก
การไปตามหาอาจิ่วเพื่อไม่ให้เขากินซ่งฉียวนในตอนนั้นเป็เหตุให้ต้องหยุดการทำฌานสมาธิ ต่อมาก็เกิดเื่ขึ้นอีกหลายเื่จึงลืมเื่การศึกษาอักขระไปเสียสนิท และดูเหมือนว่าอักขระเ่าั้จะไม่ขยับไปไหนอีกเลยั้แ่นั้นมาดังนั้นจะปั่นหัวผมซ้ำๆ ในตอนนี้ไปเพื่ออะไร?
รูปร่างของอักขระชัดเจนมากยิ่งขึ้นเหมือนกับอิริยาบถของผู้คนที่แตกต่างกันออกไปมากมายทว่าก็ยังเหมือนกับตัวอักษรเล็กๆ รูปร่างประหลาดที่เรียงกันเป็แถวอีกด้วยจากนั้นพลังปราณอันมหาศาลจึงค่อยๆ ไหลไปตามเส้นสายของอักขระนั่นราวกับมีถนนอันไร้ขอบเขตซ่อนอยู่ภายใน ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนสิ่งของธรรมดาตามสัญชาตญาณในการเขียนนิยายแล้ว ผมเดาว่านี่อาจจะเป็ผนึกของคาถาบางอย่างเป็แน่แต่ในเื่ “มหันตภัยแห่งแดนเซียนปีศาจ”ไม่ได้บอกนี่ว่าอวี๋เคอจะได้รับคาถาลึกลับ? และเ้าสิ่งนี้ยังถูกสลักไว้บนหลังคาเหนือตำหนักบรรทมของเขาโดยบังเอิญอีกซึ่งนี่เป็เนื้อเื่ที่ผมไม่เคยเอ่ยถึงมาก่อนเลย
พยายามคิดวนไปมาซึ่งผมระดมความคิดเพื่อไตร่ตรองอักขระประหลาดนี้ให้มากขึ้นแล้ว แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายมันเป็ความทรงจำในตอนนั้นที่แวบเข้ามาเพียงชั่วขณะแม้ตอนนี้จะฉายซ้ำไม่หยุด แต่มองคร่าวๆ แล้วก็ยังพอเข้าใจได้ทว่าเมื่อมองอย่างละเอียดกลับไม่เห็นสาเหตุใดๆ เลย เข้าใจเพียงแค่หนึ่งคำที่สลักอยู่บนขอบของภาพว่า“เฉิน [1] ”
เมื่อทำหน้าโง่เขลาอยู่แบบนี้ไปกว่าค่อนคืนแล้วผมก็จำเนื้อเื่ที่ตัวเองเขียนทั้งหมดได้คลับคล้ายคลับคลาว่าได้เจอคาถาที่มีคำว่า “เฉิน” ผ่านตาอยู่ครั้งหนึ่งแต่อักขระนั้นทำให้ความรู้สึกของผมต่างออกไปมาก
ดูเหมือนว่าผมคงต้องรีบกลับไปแล้วจริงๆเื่ของเจียงกุ่ยกับอักขระปริศนานี้ค้างคาอยู่ในใจผมจนรู้สึกว้าวุ่นไปหมดเมื่อดูจากร่องรอยแล้ว เนื่องจากหลังคาของตำหนักบรรทมมีภาพอักขระผนึกอยู่หนึ่งผืนจึงเป็ไปได้ว่าที่อื่นอาจจะมีบางส่วนของภาพนี้หลงเหลืออยู่อีก สิ่งที่ไม่รู้ทำให้ผมเริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อยแต่สิ่งที่มีมากกว่าก็คือความตื่นเต้น บางทีนี่อาจจะเป็นิ้วทองคำ [2] ที่โลกส่งมาให้ผมก็ได้?
เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งสายตาก็ปะทะเข้ากับอาจิ่วที่กำลังทำแก้มป่องพร้อมกับกระพือปีกอยู่กลางอากาศพอดีผมเกาหน้าไปมาอย่างกระอักกระอ่วน แล้วเอ่ยถามไปว่า “อาจิ่ว ตื่นแล้วหรือ? ”
ใครจะรู้ว่าในขณะที่ผมพูดประโยคนี้ยังไม่ทันจบอาจิ่วก็พุ่งถลาเข้ามาในวงแขนของผมด้วยความเร็วแสงจากนั้นก็ถูไถไปมาอย่างเอาเป็เอาตาย “นายท่าน ท่านทำเกินไปแล้ว!ท่านยัดข้าใส่เข้าไปในอกของเ้าเด็กบ้านี่ได้อย่างไร อ๊า!!!ข้าเคืองจะตายอยู่แล้ว! ข้านึกว่าท่านกอดข้าไว้ทั้งคืนเสียอีก! ”
“เอ่อ... นี่อาจิ่วอย่าเคืองไปเลยนะ อย่าเคืองไปเลย ไม่ใช่ว่าถูกเด็กนั่นกอดจนหลับไปทั้งคืนหรอกหรือ?ยังจะเสียขวัญไปทำไมเล่า อีกอย่างข้าก็จะไม่อยู่ที่นี่อีกหลายวันเ้ากับเขาก็จะต้องอยู่กันตามลำพังนะ” ผมลูบขนนกบนศีรษะของเขาไปมาแล้วพยายามพูดโน้มน้าวว่า “อีกอย่างในภายหน้าเขาจะสามารถช่วยเ้าตามหาัเขียวได้ ตอนนี้เขาอยู่ในสายตาเ้าแล้วจากนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตามหาศัตรูคู่อาฆาตของเ้าไม่เจอแล้ว”
“นายท่าน! ทะ ทะท่านจะไปด้วยตัวเองเลยหรือ? แล้วทิ้งข้าไว้ที่นี่คนเดียว? ” อาจิ่วเงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าหวาดหวั่นดวงตาที่เบิกกว้างไม่เรียวยาวอีกต่อไป ดูกลมโตน่ารักมาก
ผมชี้นิ้วไปยังซ่งฉียวนที่ยังคงหลับสนิทอยู่“ยังมีอีกหนึ่งคนไม่ใช่หรือ? ”
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าต้องเป็เช่นนี้ั้แ่ที่มีเ้าเด็กผี คนที่ต้องทุกข์ทรมานก็คือข้าทุกครั้งไปนายท่านก็ยังไม่ยอมบอก เหตุใดข้าจึงต้องลำบากเช่นนี้! ”
“งูั์หกตัว”ผมครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะโพล่งออกมา
ทว่าอาจิ่วก็พลันหยุดบ่นทันทีดวงตาเล็กหรี่ลง แล้วะโว่า “ยี่สิบตัว! ”
“สิบตัว”
“สิบห้าตัว! ”
“สิบสองตัว”
อาจิ่วทำท่าเบ้ปากก่อนจะกล่าวอย่างน้อยใจว่า “นายท่าน สิบสามตัวเถอะ! ”
ผมยอมเขาจริงๆจากนั้นจึงโบกมือไปมาว่าตกลงก่อนจะมองเ้าตัวเล็กที่นอนกลับลงไปบนเตียงอย่างพึงพอใจพร้อมกับกลิ้งไปมาอยู่สองสามรอบ
เมื่อครู่ตอนที่กำลังคิดหาวิธีเกลี้ยกล่อมอาจิ่วจู่ๆ ภาพความทรงจำที่อาจิ่วชอบกินงูั์ก็ผุดขึ้นมาในหัว ด้วยใจที่ลุกลี้ลุกลนผมจึงพูดออกไป แม้ตอนนี้จะเกลี้ยกล่อมเขาได้ แต่ผมกลับวิตกเล็กน้อย
ตอนที่ผมเพิ่งมาถึงโลกใบนี้ผมไม่มีความทรงจำของอวี๋เคอเลยแม้แต่น้อย ตัวเองเป็เพียงคนสมัยใหม่ที่เป็นายคอยควบคุมร่างกายแต่ตอนนี้ความทรงจำเกี่ยวกับอวี๋เคอกลับเพิ่งเริ่มฟื้นคืนแล้วสิ่งที่คลุมเครือเ่าั้ก็แตกเป็รอยร้าวในทันใดส่งข้อมูลพุ่งออกมาเป็เสี่ยงๆ
ไม่รู้เลยจริงๆ ว่ามันจะดีหรือร้าย...
......
เชิงอรรถ
[1] เฉิน หมายถึงรุ่งอรุณ หรือ เวลาหลังตี 3
[2] นิ้วทองคำ หมายถึงสิ่งวิเศษที่ทำได้ทุกอย่าง ทั้งนี้ในโลกของเกมจะหมายถึง ไอเทมโกง