“จะหนีไปไหนเล่า” หญิงสาวคนหนึ่งเข้ามามาขวางตรงหน้าพวกนางอีกครั้ง คิ้วที่ยกขึ้นเล็กน้อยทำให้ใบหน้ารูปไข่เปี่ยมไปด้วยพลัง ดวงตาฉายแววเหยียดหยาม “เ้ายังไม่ได้บอกพวกเราเลยว่าเหตุใดตอนแรกถึงปลอมเป็บุตรีภรรยาเอกไปผูกมิตรกับกู้อิ๋ง”
กู้เจิงสะบัดมือของหนิงซิ่วหลันที่รั้งนางไว้ ชัดเจนแล้วว่าหญิงสูงศักดิ์เหล่านี้้าหาเื่หนิงซิ่วหลัน แล้วมันก็อาจสร้างปัญหามาถึงนาง ในตอนที่กำลังคิดว่าจะออกไปจากที่นี่อย่างไรดีนั้น ก็ไม่รู้ใครเป็คนพูดขึ้นมาว่า “ข้าเคยเห็นนางที่จวนกู้ ดูเหมือนว่านางจะเป็คุณหนูใหญ่ตระกูลกู้ พี่สาวของกู้อิ๋ง”
เพียงประโยคเดียว สายตาทั้งหมดก็หันมาที่กู้เจิงอีกครั้ง
“พี่สาวของกู้อิ๋ง? ไม่ใช่ว่าเป็บุตรีอนุหรอกหรือ?” สตรีสูงศักดิ์ที่ขวางหนิงซิ่วหลันไว้จ้องมองกู้เจิงั้แ่หัวจรดเท้าแล้วหัวเราะเยาะ แสดงสีหน้าเย้ยหยัน “บุตรีอนุกู้ ไม่ใช่ว่าบุตรีอนุหนิงกำลังสอนให้เ้าสวมรอยเป็บุตรีภรรยาเอกเพื่อไปหลอกผู้อื่นอยู่กระมัง?”
กู้เจิงรู้ว่าคนในยุคสมัยนี้ให้ความสำคัญกับชนชั้นระหว่างภรรยาเอกและอนุภรรยา ทว่าฉวยเอาเื่นี้นี้มาสสร้างปัญหาไม่จบไม่สิ้นนั้นช่างไม่น่ายินดีเอาเสียเลย นางยังไม่อยากพูดอะไรในเวลานี้ เพราะถ้าได้เปิดปาก จะต้องเกิดาย่อยๆ ขึ้นแน่ นางยังไม่อยากสร้างปัญหาขึ้นในตอนนี้
“ฟู่ผิงเซียง เ้านี่มันปากเสียจริงๆ” หนิงซิ่วหลันกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ ปีนั้นนางโกหกไปว่าตนเองเป็บุตรสาวภรรยาเอกตระกูลหนิง ด้วยเหตุนี้จึงถูกหัวเราะเยาะมาตลอด หรือว่าจะต้องโดนเยาะเย้ยไปชั่วชีวิตกัน?
“เ้ากล้าพูดกับข้าเช่นนี้หรือ?”
“เหตุใดข้าจะไม่กล้า?”
“ข้าได้ยินมาว่าแม่ของเ้าใช้วิธีเอาร่างกายเข้าแลกถึงไต่เต้าตำแหน่งอนุภรรยามาได้ ดูเอาเถิด เ้าก็เป็เพียงแค่ลูกของอนุนับเป็ตัวอะไรได้”
“ข้าไม่อนุญาตให้เ้าเอ่ยถึงแม่ของข้า”
“ข้าจะเอ่ยถึงแม่ของเ้าแล้วมันทำไมหรือ?”
กู้เจิงกลอกตามองบน ช่างเป็เด็กน้อยเสียจริง เห็นสองคนนี้ทะเลาะกันไม่จบสิ้น คนโดยรอบก็มองอย่างสนุก นางจึงคิดจะฉวยโอกาสเดินหลบออกไป แต่เพิ่งจะก้าวเท้าออกก็ถูกคนเกี่ยวขาเข้า นางยืนทรงตัวไม่อยู่จึงทรุดตัวล้มลงด้านหน้าอย่างแรง สองมือของนางได้คว้าจับสิ่งหนึ่งไว้ได้ นางล้มลงบนพื้นในขณะเดียวกันนั้นก็ได้ยินเสียง ‘แควก’
กู้เจิงแหงนศีรษะขึ้นก็เห็นกางเกงผ้าไหมที่บางราวกับปีกของจั๊กจั่นตัวหนึ่ง เรียวขาสูงยาวขาวโพลนแจ่มแจ้งนั้นคลับคล้ายเลือนรางไม่ชัดเจน ช่างน่าดึงดูด เรียวขานี้เป็ของฟู่ผิงเซียง และในมือกู้เจิงยังจับกระโปรงที่ขาดจากการล้มลงของนาง
เสียงทะเลาะต่างๆ เงียบลงไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเื่เช่นนี้ขึ้น
ฟู่ผิงเซียงถลึงตาใส่กู้เจิงที่ล้มลงกับพื้นพร้อมกับมองตอบกลับนางอย่างขอโทษขอโพย นางทั้งเกรี้ยวโกรธทั้งกังวลแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร กระทั่งนางเงยหน้าขึ้นมาเจอคุณชายสามหนิงที่กำลังมองนางอย่างตะลึงงัน สีหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็ซีดเผือด แววตาตื่นตระหนก
ไม่รู้ว่าใครพูดขึ้นมาว่า “มีบุรุษอื่นอยู่”
ฟู่ผิงเซียงร้องห่มร้องไห้ขึ้นมาในทันที
กู้เจิงลุกขึ้นจากพื้น ปัดฝุ่นออกจากร่างกาย ก่อนจะมองไปยังฟู่ผิงเซียงที่ยังคงทำท่าหยิ่งผยองแต่กลับร้องไห้เหมือนกับเด็กๆ กู้เจิงรู้สึดผิดในใจ แต่ก็ไม่สามารถททำอะไรได้ เื่นี้หากไม่ใช่เพราะว่าอีกฝ่ายหาเื่ทะเลาะซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็คงจะไม่กลายเป็เช่นนี้ “ข้าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ต้องร้องแล้ว ข้าจะชดใช้กระโปรงให้เ้า พอหรือไม่?”
“เกิดอะไรขึ้น พวกท่านกำลังทำอะไร?” เสียงสตรีเฉียบขาดดังมาจากด้านข้าง
ทุกคนมองไปก็เห็นนางกำนัลาุโในวัยราวๆ สามสิบนำนางกำนัลเล็กหลายคนเดินเข้ามาหาพวกนาง เมื่อนางกำนัลาุโเห็นเสื้อผ้าของฟู่ผิงเซียงเข้าก็รีบกล่าวกับนางกำนัลที่อยู่ด้านหลังว่า “รีบไปเอาเสื้อคลุมมาให้คุณหนูใหญ่ฟู่เร็วเข้า”
“เ้าค่ะ” นางกำนัลจึงรีบเดินออกไป
ในยามที่นางกำนัลาุโเดินมาทางฟู่ผิงเซียงก็เห็นบุรุษหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังเหล่าสตรีสูงศักดิ์ นางชะงักงัน สีหน้าเคร่งขรึมในชั่วพริบตา และเดินไปตรงหน้าคุณชายสามหนิง “คุณชายสามหนิง ท่านยืนอยู่ที่นี่ในตอนนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะสมกระมังเ้าคะ?”
คุณชายสามหนิงอายุยังน้อยไม่รู้จะจัดการกับเื่เช่นนี้อย่างไร สายตาตื่นตระหนกจับจ้องไปที่ฟู่ผิงเซียงอยู่ตลอด จนนางกำนัลาุโเอ่ยเตือน ใบหน้าเขาก็แดงขึ้นในทันทีทันใด ก่อนจะรีบจากไปโดยเร็ว
กู้เจิงประหลาดใจกับความจริงที่ว่านางกำนัลาุโผู้นี้รู้จักผู้คนมากมาย น่าจะมีภูมิหลังไม่น้อย ในเวลานี้ นางกำนัลที่ไปเอาเสื้อคลุมได้กลับมาแล้ว และนำเสื้อคลุมไปคลุมให้กับฟู่ผิงเซียงพร้อมกับพานางออกไป
นางกำนัลาุโถอนหายใจเมื่อเงาร่างของฟู่ผิงเซียงจากไป จากนั้นนางถึงได้ยอบกายต่อเหล่าสตรีสูงศักดิ์ “หนูปี้[1] แซ่ชุย เป็นางกำนัลาุโข้างกายพระสนมซู เมื่อครู่เกิดอันใดขึ้นหรือเ้าคะ? เหตุใดกระโปรงของคุณหนูใหญ่ฟู่จึงได้เป็เช่นนั้น?”
มือของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ล้วนชี้ไปที่กู้เจิง
กู้เจิง “...” แม้แต่ร้อยปากก็เถียงไม่ขึ้น
เหล่าท่านหญิงที่อยู่ตรงนี้ล้วนประทับอยู่ในความทรงจำชุยกู้กู่[2] ทว่าสาวน้อยที่มีโฉมหน้างามล้ำยิ่งนี้กลับไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อไตร่ตรองแล้วจึงได้ถามขึ้นว่า “ท่านคงเป็คุณหนูใหญ่กู้กระมัง?”
“ใช่เ้าค่ะ เป็ข้าน้อยเอง” เนื่องจากเป็นางกำนัลาุโข้างกายพระสนมซู กู้เจิงจึงได้ทำความเคารพ ก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่นและอธิบายว่า “ชุยกู้กู่ เมื่อครู่ข้าโดนใครก็ไม่รู้ขัดขา ตอนล้มลงจึงไม่ทันระวังจับกระโปรงของคุณหนูใหญ่ฟู่เข้า”
ในเมื่อเป็สตรีของตระกูลกู้ ชุยกู้กู่ก็ย่อมไม่ไว้สีหน้า เพียงถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “คุณหนูใหญ่กู้ก่อหายนะแล้ว”
หายนะ? กู้เจิงไม่เข้าใจ จนกระทั่งได้ยินเหล่าสตรีที่อยู่ข้างหลังกระซิบกระซาบ “ถูกบุรุษอื่นเห็นรูปร่างเช่นนี้แล้ว ดูท่าฟู่ผิงเซียงคงได้แต่แต่งให้กับคุณชายสามหนิงเท่านั้น”
“คุณชายสามหนิงนั่นดูเหมือนจะเพิ่งอายุสิบสอง ยังน้อยกว่าฟู่ผิงเซียงสี่ปีได้”
“สิบสองปี? เป็ไปไม่ได้กระมัง ดูเหมือนจะสิบสี่สิบห้าแล้ว”
“ที่สำคัญที่สุดคือคุณชายสามหนิงเป็บุตรชายที่เกิดจากอนุ”
----------------------------------------------------
[1] หนูปี้ เป็คำเรียกแทนตนเองของนางกำนัลในวัง
[2] กู้กู่ เป็คำเรียกขานนางกำนัลาุโ