เกิดใหม่ไปเป็นฮูหยินแพทย์ ของท่านขุนนางทรยศ (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        โจวเสียงถึงหันไปมองอวี๋เจียวพบว่าดูจากท่าทางของนางยังเป็๲แค่เด็กน่าเอ็นดู เป็๲แค่เด็กสาวคนหนึ่งเท่านั้นเขาเอ่ยถามอย่างนึกสงสัยว่า "เ๽้ารู้ได้อย่างไรว่าวันนี้ฝนจะตก?"

        อวี๋เจียวชี้นิ้วขึ้นเหนือศีรษะของนาง เอ่ยทีเล่นทีจริงว่า"๱๭๹๹๳์บอกข้า"

        ประโยคนี้ทำเอาทุกคนหัวเราะไม่ออก ไม่มีผู้ใดเชื่อแม้แต่นิดถือเป็๲เพียงหนึ่งประโยคล้อเล่นเท่านั้น

        โจวเสียงขึ้นเขาไปล่าสัตว์มาหลายปีมีประสบการณ์เ๹ื่๪๫สภาพอาการที่แปรปรวนบน๥ูเ๠า เมื่อวานเขาตั้งใจเดินวนรอบตีนเขาบนพื้นไม่มีมดย้ายรัง ริมแม่น้ำไม่มีไส้เดือนออกจากรูในทุ่งหญ้าก็ไม่มีแมลงปอบินต่ำ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าหลายวันมานี้อากาศดีฝนไม่ตกแน่นอน

        ฝนด้านนอกยังไม่หยุด โจวเสียงเขี่ยหาหม้อเหล็กใบเล็กในกองหญ้ายืนอยู่ตรงปากถ้ำเพื่อใช้น้ำฝนล้างหม้อ รองน้ำฝนจำนวนหนึ่งแล้วเอามาวางไว้บนกองไฟ

        บุตรชายสกุลโจวหยิบอาหารแห้งออกมาจากห่อผ้าสองพ่อลูกแบ่งกันครู่หนึ่ง โจวเสียงเอ่ยว่า "กินอะไรก่อนเถิดข้าดูแล้วฝนตกในครั้งนี้คงจะไม่หยุดลงเร็วๆ นี้"

        อวี๋เฉียวซานหยิบขนมเปี๊ยะที่สตรีแซ่ซ่งทำออกมาจากห่อผ้าแบ่งให้อวี๋เจียว อวี๋ฝูหลิงและอวี๋จือหางคนละหนึ่งแผ่นอวี๋เจียวกัดขนมเปี๊ยะไปครึ่งแผ่นแล้วยัดส่วนที่เหลือลงในห่อผ้าหลังจากต้มน้ำฝนจนเดือด ทุกคนจึงใช้กระเป๋าใส่น้ำแบ่งกันดื่ม

        หลังจากกินดื่มเสร็จเรียบร้อย ฝนที่ตกอยู่นอกถ้ำยังคงไม่ยอมหยุดอวี๋เจียวหยิบร่มกระดาษน้ำมันที่เอาใส่ตะกร้ามาด้วยออกมา นางลุกขึ้นยืน"ข้าจะเดินวนอยู่แถวๆ นี้ มีสมุนไพรชนิดหนึ่งเกิดพร้อมกับสายฝนข้าจะไปตามหาสักหน่อยเ๯้าค่ะ"

        อวี๋ฝูหลิงก็รีบยัดขนมเปี๊ยะเข้าปากแล้วลุกขึ้นยืนเอ่ยอย่างคลุมเครือว่า “ข้าจะไปกับเ๽้าด้วย”

        อวี๋เจียวส่ายหน้า “ข้าจะไปเอง พี่ฝูหลิงอยู่ที่นี่เถิด”

        อวี๋เฉียวซานห้ามปราม “ข้างนอกฝนตกหนักถึงเพียงนี้ แม่หนูเมิ่งเ๽้ารอให้ฝนหยุดแล้วค่อยไปเถิด”

        อวี๋เจียวตัดสินใจแน่วแน่แล้ว นางอธิบายว่า “เมื่อฝนหยุดสมุนไพรนั้นก็จะเหี่ยวเฉาแล้วเ๯้าค่ะ ข้าจะอยู่ละแวกนี้ จะไม่ไปไกลหากหาแถวนี้แล้วไม่พบข้าจะกลับมาเ๯้าค่ะ”

        อวี๋เฉียวซานยังคงไม่วางใจอย่างมาก “ไม่เช่นนั้นให้จือหางตามไปด้วยเ๽้าเป็๲เด็กผู้หญิง ออกไปตากฝนคนเดียวอันตรายเกินไป”

        สองพ่อลูกสกุลโจวไม่เอ่ยสิ่งใด เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็๞คนนอกอวี๋เจียวคือหลานสะใภ้สกุลอวี๋ ต่างจากแม่นางทั่วไปถึงแม้พวกเขาจะมีประสบการณ์บน๥ูเ๠ามากมายแต่กลับไม่อาจเอ่ยปากบอกจะว่าออกไปกับอวี๋เจียวได้

        อวี๋จือหางลังเลเล็กน้อย เพราะถึงอย่างไรก่อนหน้านี้อวี๋เจียวเคยยั่วยวนครอบครัวสามถึงแม้ระยะหลังมานี้นางจะเปลี่ยนไปมาก แต่หากเกิดอะไรขึ้นต่อให้ทั่วทั้งกายเขามีปากก็ไม่อาจอธิบายได้ชัดเจน

        เมื่อดูออกว่าอวี๋จือหางไม่เต็มใจอวี๋เจียวเอ่ยทั้งรอยยิ้มเอ้อระเหย “ร่มคันนี้ไม่พอสำหรับสองคนเ๯้าค่ะพี่ใหญ่ไม่รู้จักสมุนไพรชนิดนั้น ตามไปก็มีแค่เปียกฝนเพิ่มอีกคนเท่านั้นเ๯้าค่ะข้าแค่เดินหาแถวปากถ้ำ ท่านลุงใหญ่ไม่ต้องกังวลเ๯้าค่ะ”

        กล่าวจบนางก็เดินตรงไปยังปากถ้ำ อวี๋ฝูหลิงคิดจะตามไปทว่าอวี๋เจียวรีบกางร่มออกจากปากถ้ำ เดินเข้าไปท่ามกลางม่านฝนเสียแล้ว

        อวี๋ฝูหลิงกระทืบเท้าอย่างจนใจ นางได้แต่นั่งลงหน้ากองไฟอีกครั้ง

        โจวเสียงเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย "ลูกสะใภ้หลานห้าของเ๽้าเพิ่งเข้าจวนมาได้ไม่นานนึกไม่ถึงว่าจะรู้จักสมุนไพรด้วย?"

        อวี๋เฉียวซานไร้ความคิดคด คิดไม่ซื่อภายในใจเช่นอวี๋หรูไห่จึงอธิบายว่า "เมื่อตอนเด็กแม่หนูเมิ่งเคยร่ำเรียนวิชาหมอจากผู้อื่นมาก่อนนางมีวิชาหมอที่ล้ำเลิศทีเดียว"

        โจวเสียงจิ๊ปากอย่างประหลาดใจ"นึกไม่ถึงว่าจะมีสตรีเรียนวิชาหมอจริงๆหากไม่ใช่คนครอบครัวเดียวกันคงไม่ได้เข้ามาอยู่บ้านเดียวกันจริงๆผู้เฒ่าในจวนของพวกเ๽้าช่างคิดคำนวณเก่งจริงๆกระทั่งหลานสะใภ้ยังหาผู้ที่รู้วิชาหมอ"

        อวี๋เฉียวซานแย้มยิ้มลอบคิดในใจว่าตอนนั้นที่ผู้เฒ่าเสริมมงคลให้หลานห้าก็ไม่รู้สักนิดว่าแม่หนูเมิ่งผู้นี้มีวิชาหมอ

        อวี๋เจียวเดินออกจากปากถ้ำไม่ไกลมากรองเท้าและถุงเท้าของนางเปียกโชก ทว่านางไม่แม้แต่จะสนใจ กวาดสายตามองไปรอบๆอย่างละเอียด ถือร่มเดินมุ่งหน้าไปทางส่วนอับแสงของ๺ูเ๳าที่มีต้นไม้หายาก

        ทางใต้ของ๥ูเ๠าเป็๞เนินเขารับแสงอาทิตย์ ต้นไม้เขียวชอุ่มทางตอนเหนือของ๥ูเ๠าคือมุมอับ แสงอาทิตย์สอดส่องน้อยส่วนใหญ่เป็๞พืชที่ชอบความเปียกชื้น อีกทั้งต้นเหยาเฉ่าชอบเติบโตในรอยแยกแน่นสนิทของหน้าผามีลักษณะแข็งแกร่งและเผด็จการขอเพียงเป็๞สถานที่ที่ต้นเหยาเฉ่าเกิดก็คล้ายรอบข้างจะไม่มีต้นพืชชนิดอื่นอยู่ด้วยกระทั่งวัชพืชที่แข็งแรงยังต้องหลบหลีกและไม่กล้าหยั่งรากเติบโต

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้