ขยับเข้ามารัก - Move to love

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

 

ฝั่งของเมธพนธ์

เขายืนพิงเสาริมหน้าร้านขนมหวาน สายตาคมกริบทอดมองไปยังกลุ่มเพื่อนสาวที่หัวเราะคิกคักกันอยู่อย่างสดใส รอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นตรงมุมปากอย่างห้ามไม่อยู่

“เสร็จแล้ว” คุณัชญ์เดินตามออกมาหลังจากจ่ายเงินค่าอาหารเรียบร้อย พลางบอกเพื่อนอย่างอารมณ์ดี

เมธพนธ์พยักหน้ารับคำสั้น ๆ

“คืนนี้เจอกันนะมึง อย่าลืม” อินทัชย้ำแผนการนัดสังสรรค์

ขณะนั้นเอง ดาวิภา หรือ ดาว สาวสวยผู้ได้โอกาสนั่งร่วมโต๊ะมื้อเย็นกับหนุ่มฮอต ก็รีบเอ่ยถามเสียงหวาน

“คืนนี้พี่ ๆ จะไปไหนกันคะ?”

“ไปดื่มเบา ๆ นิดหน่อยน่ะจ๊ะน้องดาว” คุณัชญ์หันมาตอบยิ้ม ๆ อย่างสุภาพ

ดวงตากลมโตราวลูกแมวของดาวิภาเปล่งประกายขึ้นทันที เธอเอียงศีรษะนิด ๆ ทำเสียงอ้อนอย่างจงใจ

“ดาวไปด้วยได้ไหมคะ?”

ยังไม่ทันที่ใครจะทันได้เอ่ยตอบ นิลวรรณ เพื่อนสาวอีกคนก็รีบผสมโรง

“นิลก็ขอไปด้วยนะคะพี่ ๆ”

คุณัชญ์หันไปมองเพื่อนอีกสองคนทันที แต่ยังไม่ทันได้รับคำตอบ ดาวิภาก็รีบทำตาเศร้า ส่งสายตาอ้อน ๆ เหมือนลูกแมวถูกทิ้ง

“ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็๲ไรค่ะ ดาวกับเพื่อนแค่อยากผ่อนคลายนิดหน่อยน่ะค่ะ” น้ำเสียงเธอแ๶่๥

คุณัชญ์สบตาเพื่อนอีกครั้ง คราวนี้ตัดสินใจ

“ถ้าน้องดาวสะดวกไป ก็ยินดีครับ”

“ขอบคุณนะคะ พี่ณัชญ์” เสียงหวานเอ่ยตอบรับอย่างดีใจ

ขณะที่บรรยากาศกำลังดูจะสดใส เมธพนธ์กลับเอ่ยเสียงเรียบ

“กูไม่ไป วันนี้จะนอนบ้าน แยกกันตรงนี้เลย... ไปละ”

พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินจากไปอย่างไร้เยื่อใย ทิ้งไว้เพียงเงาหลังที่แข็งกร้าว

“ไอ้เมฆ! ไอ้เมฆ! อะไรวะ...” คุณัชญ์๻ะโ๷๞ไล่หลัง แต่เ๯้าตัวไม่แม้แต่จะหันมา มีก็เพียงมือที่โบกไปมาอย่างขอไปที

ดาวิภาถึงกับอ้าปากค้าง เธอเห็นแวววาวแห่งความหวังดับวูบลงต่อหน้าต่อตา

อินทัชขมวดคิ้วมองเพื่อนรักที่เดินรีบหายไปในฝูงชน ก่อนจะบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด

““แล้วมันจะไปไหนของมันวะ รีบชอบกล”

อินทัชมองเพื่อนที่เดินอย่างรีบร้อน ไหนตอนแรกนัดจะไปก๊กเหล้าฉลองวันศุกร์ซะหน่อย แต่ไหงมาเทแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบนี้ มันน่าสงสัยจริง ๆ

 

แยกจากกลุ่มเพื่อน เมธพนธ์ก็เดินตามหลังกลุ่มหญิงสาวที่สะดุดตาเขา๻ั้๫แ๻่แรก ขายาว ๆ ก้าวไปอย่างเนิบช้าแต่มั่นคง รักษาระยะห่างพอสมควรเพื่อไม่ให้เธอไหวตัวทัน ดวงตาคมกริบไม่ละไปจากแผ่นหลังบอบบางนั้นเลยสักนิด

จนกระทั่งเห็นเธอแยกตัวออกจากเพื่อน ๆ เมธพนธ์เร่งฝีเท้า ก้าวยาวเข้าไปใกล้

“เห้ยยยย!!!”

เสียงอุทานหลุดออกมาจากปากวรวลัญช์ เมื่อรู้สึกถึงแรงรั้งที่ต้นแขน เธอสะดุ้งโหยง รีบหันกลับไปมอง ก่อนถอนหายใจแรง ๆ เมื่อเห็นใบหน้าคนที่ทำให้ใจแทบหยุดเต้น

“จะไปไหน” น้ำเสียงทุ้มต่ำถามนิ่ง ๆ พร้อมกับดวงตาคมที่กวาดมองเธอไม่วางตา

วรวลัญช์ขมวดคิ้วงุนงง มองซ้ายมองขวาอย่างไม่เข้าใจ...เขามาคนเดียว? ไหนเมื่อตะกี้ยังเห็นอยู่กับเพื่อน ๆ ไม่ใช่หรือ?

แต่ช่างเถอะ...สิ่งที่ควรสงสัยมากกว่าคือ ทำไมถึงต้องมารั้งเธอไว้แบบนี้?!

“ถามว่า...กำลังจะไปไหน” เมธพนธ์ย้ำด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

“ต้องตอบด้วยเหรอ?” เธอเงยหน้าสบตาเขา ใสซื่ออย่างตั้งใจ...ซึ่งเขารู้ดีว่ามันคือการกวนประสาท

“อือ” เขาครางรับสั้น ๆ ดวงตาวาววับจับผิด

วรวลัญช์กลอกตาเบา ๆ ก่อนยอมตอบอย่างเสียไม่ได้ “กลับบ้าน”

ใบหน้าคมนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนเอื้อมมือคว้าแขนเธอแล้วออกแรงดึงเบา ๆ

“ดี งั้นก็ไป”

“ไปไหน?!” เธอโวยวายเสียงสูง งงไปหมด อยู่ดี ๆ ก็โดนลากไปเฉยเลย พ่อคุณไม่บอกไม่กล่าวให้ชัด ๆ ทำเอาคนสวยหัวใจจะวายซ้ำสอง

“ก็กลับบ้านไง เธอเองก็ว่าจะกลับบ้านไม่ใช่หรือ” เมธพนธ์ตอบนิ่ง ๆ ราวกับเ๹ื่๪๫นี้มันสมเหตุสมผลที่สุดในโลก

โอ๊ยยย...คนบ้าอะไรก็ไม่รู้! วรวลัญช์ได้แต่ครางในใจ มองเขาสายตาขุ่นเคือง ในหัวมีแต่ความงุนงง

“เดี๋ยวก่อน! แล้วนายจะลากฉันทำไม ฉันก็กำลังจะกลับอยู่แล้วนี่นา นายก็ไปของนายนู่นเลย!” เธอดิ้นขลุกขลักพยายามดึงแขนคืน

“ฉันก็กำลังกลับบ้านเหมือนกัน กลับพร้อมกัน จะได้ไม่เสียเวลา” เมธพนธ์พูดเรียบ ๆ แต่ไม่ยอมปล่อยมือจากเธอ

“อ๋อ... ถ้างั้นก็บอก๻ั้๫แ๻่แรกสิ พูดอะไรไม่รู้ งงไปหมด” วรวลัญช์บ่นงึมงำแต่ยอมเดินตาม แต่ก็ยังอดเหน็บไม่ได้ “งั้นไม่ต้องลากได้ไหมคะ นี่เดินเองได้”

แทนที่จะปล่อย มือหนากลับเลื่อนจากแขนลงมากอบกุมข้อมือแทนอย่างแ๲๤แ๲่๲

วรวลัญช์เบิกตากว้าง ก่อนจะขมวดคิ้วอีกครั้ง “เฮ้ย..อะไร” วันนี้เขามาทำให้เธองงอะไรหนักหนา เดี๋ยวอิแม่กะใจ๋ขึ้น (อารมณ์เสีย) มาเอาแต่ใจ๋ตั๋วเก่าอีกล่า (มาเอาแต่ใจอีกละ)

“ก็เธอเดินช้า เดี๋ยวออกช้ากว่านี้ รถจะติด” เขาบอกเสียงเรียบเหมือนไม่มีอะไร ทั้งที่ยังจับข้อมือเธอแน่นไม่คลาย

“บอกเฉย ๆ ก็ได้ไหมล่ะ...” คนตัวเล็กหน้างอเหมือนแมวถูกแย่งของเล่น “ถ้ากลัวรถติด ฉันกลับเองก็ได้ ไม่ต้องลำบากนาย”

เมธพนธ์หรี่ตามอง ก่อนตอบเสียงหนักแน่น “ไม่ได้ กลับด้วยกัน จะได้ไม่เปลืองเงินค่ารถไง”

วรวลัญช์อึ้งไปนิดหนึ่ง... เหตุผลของเขาช่างน่าฟังเสียจริง

“ก็...จริง” เธอพึมพำตามอย่างเสียไม่ได้

เห็นเธอเงียบยอมเดินตาม เมธพนธ์ถึงกับหลุดยิ้มบาง ๆ อย่างพอใจโดยไม่ให้เธอสังเกตได้

จริง ๆ แล้ว...แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เธอคิดอย่างตลกในใจ อย่างน้อยวันนี้...เธอก็ไม่ต้องเบียดรถเมล์กับใคร นั่งสวย ๆ กลับบ้านพร้อมเขา ประหยัดแรง ประหยัดเงิน ประหยัดหัวใจ...แถมยังได้ใกล้เขาอีกนิดหน่อยด้วย

ร่างบางปล่อยให้คนตัวสูงพาเดินไปยังลานจอดรถในห้าง สายลมเย็น ๆ ของยามเย็นพัดมาเบา ๆ ทำให้เธอเผลอยิ้มกับตัวเองอย่างไม่รู้ตัว

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้