ฝีเท้าของกู้จวิ้นเฉินหยุดชะงักลง มิใช่ด้วยเหตุที่บ่าวรับใช้แสดงความเคารพ ทว่าด้วยเหตุที่เขาเหลือบไปเห็นหยกพกที่ห้อยอยู่ข้างเอวของเด็กชายคนนั้น เขาเหลียวกลับไป พลันสายตาก็ประสานเข้ากับสายตาของเด็กน้อยที่กำลังมองมาที่เขา เมื่อสักครู่ที่เด็กน้อยเดินเข้ามานั้น ด้วยความที่เขาเตี้ยเกินไป และเขาเองก็ไม่ได้สังเกตอะไรมากมายนัก ยามนี้จึงพบว่าเด็กคนนั้นประกายตาสดใส หน้าตางดงามชวนมองยิ่ง
หลี่ลั่วสังเกตเห็นกู้จวิ้นเฉินั้แ่แรกแล้ว ในฐานะที่เขาเป็เกย์คนหนึ่ง มีหนุ่มน้อยหน้าตาดีอย่างนี้เดินผ่านมา ต่อให้เป็หนุ่มน้อย เขาก็ตัดใจไม่ได้ที่จะมองไปทางอื่น หนุ่มน้อยมีสีหน้านิ่งสงบเยือกเย็นมาก เ็าและดูเป็คนเข้าถึงได้ยาก ท่านอ๋องหรือ?
คนทั้งสองต่างเดินสวนทางกันไปเช่นนี้เอง
“เขาเป็ท่านอ๋องท่านใดหรือ?” หลี่ลั่วถามขึ้นอย่างประหลาดใจ
ฝีเท้าของกู้จวิ้นเฉินหยุดลงอีกครั้ง เสียงใสกังวานของเด็กน้อยด้านหลังนั้นเขาได้ยินแล้ว
“ฉีอ๋องขอรับ เป็พระราชนัดดาแท้ๆ ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน เป็พระโอรสองค์เล็กของฮ่องเต้องค์ก่อน” บ่าวรับใช้ตอบคำ
หลี่ลั่วรู้จักฉีอ๋อง ฉีอ๋องสองท่านในหนึ่งแคว้นสองรัชสมัย หลี่จงิได้แนะนำให้แก่เขาฟังมาก่อน แน่นอนว่าเป็การแนะนำถึงจ้าวหนิงฮ่องเต้เมื่อครั้งยังดำรงพระยศเป็ฉีอ๋อง สำหรับฉีอ๋องอีกท่านหนึ่งนั้นได้เอ่ยถึงครั้งหนึ่ง
ที่จริงแล้วจนถึงบัดนี้หลี่ต้านเองก็ยังไม่กระจ่างแจ้งว่าเหตุใดวันนี้กู้จวิ้นเฉินจึงมาเยือนที่เรือนของเขา เฉกเช่นเดียวกับที่เขามิรู้ว่าจะต้อนรับหลี่ลั่วเช่นใด ทว่ากลับยังคงต้องต้อนรับอยู่นั่นเอง “น้องหก[1] รีบมา พี่ชายเตรียมน้ำชาไว้พร้อมรอเ้าแล้ว” เมื่อเห็นหลี่ลั่วเดินเข้ามา หลี่ต้านก็เปลี่ยนเป็คนที่มีความกระตือรือร้นขึ้นมาทันที
ใช้เพียงน้ำชามาต้อนรับเด็กอายุห้าขวบ ช่าง...ไม่ละเอียดรอบคอบเอาเสียเลย
หลี่ลั่วยิ้มบางๆ “ขอบคุณพี่รอง[2]ขอรับ” สายตาตวัดผ่านน้ำชาเ่าั้ กาน้ำชาสองกา ถ้วยน้ำชาสี่ใบ ในจานยังมีน้ำที่ใช้แล้ว เมื่อคิดดูถึงคนเมื่อสักครู่ที่เดินสวนกันไป ก็ให้คิดว่านี่ใช้น้ำชาที่ต้อนรับคนผู้นั้นแล้วเอาน้ำชาที่เหลือมารับรองตนกระนั้นหรือ?
“นั่งเถิด” หลี่ต้านให้ถ้วยน้ำชาสองใบแล้วรินน้ำชาให้ “ลองดื่มดูเถิด น้ำชาสองถ้วยนี้แตกต่างกันอย่างไร”
...หลี่ลั่วรู้สึกว่า เ้าพี่ชายที่เอาเปรียบผู้อื่นคนนี้ในสมองคงมีแต่น้ำ “พี่ชาย ข้าง่วง อยากนอนแล้วขอรับ” เขาต้องตื่นแต่เช้าั้แ่แต่ตีสี่กว่าเพื่อจะไปคารวะยามเช้าที่เรือนเหล่าไท่ไท่ จนถึงเดี๋ยวนี้ยังมิได้พักผ่อนเลยแม้แต่น้อย หากหลี่ต้านเอาของเล่นและอาหารว่างมาต้อนรับตนเองก็แล้วไปเถิด นี่ยังต้อนรับโดยการให้ตนดื่มน้ำชา จะให้เด็กอายุห้าขวบทำตัวเหมือนเด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปีหรือไร?
นี่มันปัญญาอ่อนชัดๆ
อูย...หลี่ต้านรีบกล่าว “ไป พี่ชายพาเ้าไปพักผ่อน”
ณ เรือนเอินเจ๋อ
หลี่เจ๋อมองดูหลี่หงในยามนี้ เขาเห็นหลี่หงั้แ่ยามาเ็จนกระทั่งก้าวออกมาจากความเ็ปได้สำเร็จ ทั้งยังรู้สึกดีใจกับหลี่หง “ระยะนี้เป็เช่นใดบ้าง?”
“เริ่มรับ่กิจการค้าของจวนโหวมาดูแล ท่านแม่ให้ข้าลองทำความเข้าใจดู ลั่วเอ๋อร์ยังเยาว์ ระหว่างที่เขายังต้องเจริญเติบโตอีกหลายปีนี้ อย่างไรในครอบครัวก็ควรมีผู้ชายที่เป็เสาหลักให้พวกเขาพึ่งพา” หลี่หงนั้นเคยหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ทว่าการตายของหลี่ซวี่ทำให้เขาต้องโตขึ้น เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะหมดอาลัยตายอยากในชีวิต เขาต้องปกป้องดูแลน้องสาว ต้องดูแลมารดา และบัดนี้ยังต้องเป็ตัวอย่างที่ดีให้แก่น้องชายอีก
คำพูดของหลี่หงนั้นช่างปวดใจนัก ทว่าความเ็ปนี้สำหรับหลี่เจ๋อที่มีพร้อมทุกอย่างย่อมไม่มีวันเข้าใจ เขาหยิบหมากออกมาชุดหนึ่ง “นานแล้วที่พวกเราไม่ได้เดินหมากกัน มาแข่งกันไหม?”
“ได้”
เมื่อทั้งสองเดินหมากไปกว่าครึ่ง หลี่จือได้ให้สาวใช้ของนางมาส่งจดหมาย หลี่เจ๋อเปิดจดหมายออกอ่าน “จือเจี่ยเอ๋อร์้ายืมหนังสือของข้า ข้าต้องไปส่งหนังสือให้นาง”
เื่ที่หลี่หงและิเจี๋ยเอ๋อร์มาดูตัวกันนั้น กั๋วกงฮูหยินได้แจ้งกับหลี่หลินซื่อแล้ว วันนี้หลี่หลินซื่อจึงบอกกับหลี่จือและหลี่เจ๋อไว้ล่วงหน้า ให้หลี่หงและิเจี๋ยเอ๋อร์ได้พบหน้ากันสักครั้ง
หลี่หงหน้าแดงเล็กน้อย ทว่าพยักหน้า เื่ขาของเขาที่พิการนั้นิเจี๋ยเอ๋อร์รู้อยู่ก่อนแล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้อีกฝ่ายยังยินยอมที่จะมาดูตัวพบหน้ากัน หลี่หงบังเกิดความรู้สึกที่ดีต่อแม่นางน้อยผู้นี้อย่างอธิบายไม่ถูก แม้จะมีการพูดถึงเื่ที่ว่าที่สามีของแม่นางได้เสียชีวิตไปแล้วสองคน แต่หลี่หงเป็ผู้ที่ร่ำเรียนหนังสือ สำหรับเื่งมงายหรือความเชื่อผิดๆ นั้นเขาไม่เชื่อ
[1] น้องหก (六堂弟) หรือ ลิ่วถังตี้ ในที่นี้หมายถึงลูกผู้น้องลำดับที่หก ถัง หมายถึงญาติฝ่ายบิดาหรือผู้ร่วมแซ่เดียวกัน
[2] พี่รอง (二堂哥) หรือ เอ้อร์ถังเกอ ในที่นี้หมายถึงลูกผู้พี่ลำดับที่สอง