บทที่ 88 เป็ไปได้ว่าจะป้อนอึให้เขากินมากกว่า
เช้าวันรุ่งขึ้นฟ้ายังไม่ทันสว่าง โจวเป่าเฉิงก็ตื่นขึ้นตามเวลา
เมื่อก่อนตอนตื่นเวลานี้ยังพอได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจากนอกบ้าน แต่ทว่าวันนี้กลับเงียบเชียบ ครัวที่เคยหอมกรุ่นกลับมืดมิด ไม่มีแม้แต่แสงไฟ
หรือว่าวันนี้จะไม่นึ่งซาลาเปาแล้ว?
“ถุ้ย...” จ้าวลี่เจวียนสบถพลางดูไฟในเตา “คิดว่าพวกเราไม่รู้หรือไงว่าซาลาเปาหายไป?”
จำนวนซาลาเปาที่นึ่งในแต่ละวันพวกเธอล้วนแล้วแต่จดจำได้ ต่อให้หายไปแค่ลูกเดียวก็รู้ แต่คิดว่าอีกไม่กี่วันก็จะย้ายบ้านแล้วเลยไม่ได้ใส่ใจ
จะว่าไปโจวเป่าเฉิงก็ขี้ขลาดตาขาวสุดๆ แต่ละครั้งกล้าขโมยไปแค่ลูกเดียว
่นี้อันฉินมีความสุขเป็พิเศษ ทำไมน่ะเหรอ?
ก็เพราะว่า่นี้ทุกเช้าเธอจะได้กินซาลาเปาร้อนๆ หนึ่งลูก เป็ซาลาเปาไส้ผักที่อร่อยเป็พิเศษ
ถึงจะเป็แค่ซาลาเปาไส้ผัก แต่ก็อร่อยกว่าซาลาเปาไส้เนื้อที่เธอเคยกินที่เมืองหลวงซะอีก
ถึงแม้ว่าโจวเป่าเฉิงจะเอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ แต่เขาก็มีความสามารถทำให้เธอได้เป็ครูของประชาคม แถมยังทำให้เธอได้กินซาลาเปาร้อนๆ อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกเช้าที่เธอถือซาลาเปาร้อนๆ ไปปรากฏตัวในครัวของครัวในศูนย์ เมื่อเห็นสายตาอิจฉาของคนเ่าั้ อันฉินก็รู้สึกว่าแต่งงานกับโจวเป่าเฉิงก็ไม่ได้ขาดทุนอะไร
“ไอ๊หยา” เธอยืนอยู่ใต้ชายคาพลางยืดเส้นยืดสายพลางพูดอย่างแ่เบา “กินซาลาเปาติดๆ กันหลายวัน ฉันก็เริ่มเบื่อแล้วนะเนี่ย”
คำพูดนี้จงใจพูดให้คนที่อยู่ในครัวได้ยิน
เกาจิงจิงและยุวปัญญาชนหญิงอีกคนที่ชื่อจางหงที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวมองหน้ากันอย่างขุ่นเคือง
อะไรนะ กินจนเบื่อแล้ว?
น่าสงสารพวกเขา ่นี้กินแต่ขนมปังข้าวโพดจนเบื่อจะแย่อยู่แล้ว
ผลปรากฏว่าเธอพูดต่อว่า “ก็ไม่รู้ว่าวันนี้เป่าเฉิงของฉันจะเอาซาลาไส้อะไรมาให้”
“เหอะๆ” ฟางย่วนย่วนเพิ่งเปิดประตูห้องออกมาก็เห็นท่าทีโอ้อวดของอันฉิน จึงหัวเราะเยาะพลางพูดกับเกาจิงจิงในครัวว่า “เธออย่าไปเลียนแบบพวกที่เห็นแก่ได้เลย แค่ซาลาเปาไม่กี่ลูกก็ลืมเหนือลืมใต้ เดี๋ยวก็มีวันที่หล่อนต้องเสียใจ”
“ย่วนย่วน” อันฉินพูดยิ้มๆ “ฉันรู้ว่าแต่ก่อนเธอเคยกินของดีๆ แต่ซาลาเปาแบบนี้เธออาจจะไม่เคยกินจริงๆ คนไม่รู้ก็ไม่ผิด ฉันไม่ว่าอะไรหรอก
ใครใช้ให้เป่าเฉิงของฉันใจดีกับฉัน เอาซาลาเปาที่บ้านให้คนละลูกมาให้ฉันกินล่ะ”
เมื่อก่อนเธออาจจะคอยเอาใจฟางย่วนย่วน แต่หลังจากที่เธอหมั้นหมายกับโจวเป่าเฉิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโควต้าครูโรงเรียนประถมถูกกำหนดให้เธอแล้ว อันฉินก็รู้สึกว่าเธอไม่จำเป็ต้องเอาใจใครอีกต่อไป แต่ก็รู้ดีว่าฟางย่วนย่วนไม่สามารถขัดใจได้ ดังนั้นจึงไม่กล้าพูดอะไรมากเกินไป
“อิจฉาเธอ?” ฟางย่วนย่วนหัวเราะ “อันฉิน เธอคงจะหลงตัวเองมากเกินไปแล้วมั้ง? หรือเธอคิดว่าซาลาเปานี่ สวี่จือจือให้โจวเป่าเฉิงกินจริงๆ?”
ถ้าไม่ได้เห็นสวี่จือจือสั่งสอนโจวเป่าเฉิงในวันนั้น บางทีเธออาจจะถูกอันฉินหลอกไปแล้ว แต่วันนั้นสวี่จือจือลงมือจริงจังมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีที่ฮึกเหิมนั้น เธอยังรู้สึกเจ็บแทนโจวเป่าเฉิงเลย แล้วจะให้สวี่จือจือเอาซาลาเปาให้โจวเป่าเฉิงวันละลูกงั้นเหรอ? เป็ไปได้ว่าจะป้อนอึให้เขากินมากกว่า
แต่ที่แน่ๆ อันฉินได้ซาลาเปาทุกวัน ฟางย่วนย่วนคิดว่าไม่โจวเป่าเฉิงขโมยมาก็โจวเป่าเฉิงซื้อมา ยังไงก็คงไม่ใช่เหมือนที่อันฉินพูดว่าโจวเป่าเฉิงเอาซาลาเปาของตัวเองมาให้อีกฝ่ายแน่ๆ
“แน่นอนอยู่แล้ว” อันฉินพูดอย่างหนักแน่นแล้วก็โบกมือ “พวกเธอทำงานไปก่อนเถอะ ฉันจะไปเอาซาลาเปาของฉันแล้ว”
แต่ทว่าเมื่อไปถึงใต้ต้นเอล์มเก่าแก่ข้างศูนย์ แต่กลับไม่มีเงาของโจวเป่าเฉิงเลย หรือว่าวันนี้เขาจะตื่นขึ้นมากินไปแล้ว?
อันฉินเพิ่งคิดได้ดังนั้นก็เห็นคนคนหนึ่งวิ่งมาจากไม่ไกล
ไม่สิ มีคนคนหนึ่งวิ่งหนี มีคนคนหนึ่งวิ่งไล่ คนที่วิ่งไล่ถือไม้เขี่ยไฟ ส่วนคนที่วิ่งหนีคือโจวเป่าเฉิงที่มาช้า
“ช่วยด้วย” โจวเป่าเฉิงวิ่งพลางร้อง “จะฆ่าคนแล้ว ช่วยด้วย จะฆ่าคนแล้ว”
ส่วนคนที่วิ่งไล่ก็เป็คนที่อันฉินและฟางย่วนย่วนคุ้นเคยเป็อย่างดี
สวี่จือจือ
“หน้าไม่อาย มาขโมยซาลาเปาพวกเราทุกวัน” สวี่จือจือวิ่งไล่พลางร้อง “นายติดใจแล้วใช่ไหม? วันนี้พวกเราย้ายไปทำซาลาเปาอยู่อีกฝั่งแล้ว นายยังวิ่งมาขโมยอีก แขนขานายพิการหรือไง?” สวี่จือจือเอาไม้เขี่ยไฟฟาดไปที่หลังของโจวเป่าเฉิง “เอาแต่พึ่งพาพ่อแม่ ี้เีสันหลังยาว”
“เสี่ยวฉิน ช่วยฉันด้วย” ตอนที่โจวเป่าเฉิงเห็นอันฉินก็เหมือนเห็นผู้ช่วย เขารีบไปหลบอยู่ข้างหลังอันฉิน “หล่อนจะตีฉัน”
เขาฟ้องอีกแล้ว เมื่อก่อนก็ฟ้องแม่เหอเสวี่ยฉิน ตอนนี้ก็ฟ้องเมียอันฉิน
น่าสมเพชสิ้นดี
“สวี่จือจือ เธอมันผู้หญิงอันธพาล” อันฉินปกป้องโจวเป่าเฉิงไว้ข้างหลัง “ตอนเช้าตรู่เป็บ้าอะไร รีบส่งโรงพยาบาลบ้าไปเลยไป”
“พี่น้องชาวบ้าน” สวี่จือจือไม่สนใจอันฉิน แล้วพูดกับสมาชิกในหมู่บ้าน “พวกคุณคงจะรู้ว่าพี่หยวนหยวนทำอาหารอร่อย ซาลาเปาที่นึ่งถูกหัวหน้าสถานีขนส่งมองเห็นเข้า หัวหน้าสถานีสงสารคนขับรถโดยสารทางไกลที่ทำงานหนัก เลยสั่งซาลาเปาจากพวกเรา”
“พวกเราตื่นกันแต่เช้ามืด” สวี่จือจือพูดอย่างน้อยใจ “ตอนกลางคืนแอบนวดแป้ง พอเช้าตรู่ฟ้ายังไม่สางก็ตื่นขึ้นมาห่อซาลาเปา พี่หยวนหยวนเป็ผู้หญิงเลี้ยงลูกตัวคนเดียว โอกาสที่จะได้เงินมาแต่ละหยวนล้วนแล้วแต่เป็เงินที่ได้จากหยาดเหงื่อ แต่ไอ้คนหน้าไม่อายคนนี้ ไม่พูดว่าจะสงสารซือหยวนพี่สาวที่เป็ผู้หญิงเลี้ยงลูกตัวคนเดียวก็แล้วไป ทุกวันยังแอบมาขโมยซาลาเปาตอนพวกเราไม่ทันระวังตัว”
“ซาลาเปาพวกนั้นนายจะกินลงเหรอ?” สวี่จือจือชี้ไปที่โจวเป่าเฉิงอย่างโกรธเคือง “นายคิดว่าที่นายกินเข้าไปคือซาลาเปาเหรอ?”
“เปล่าเลย” เธอพูดอย่างโกรธเกรี้ยว “สิ่งที่นายกินเข้าไปคือหยาดเหงื่อของพี่หยวนหยวน”
อีกฝ่ายยื่นมือชี้ไปที่โจวเป่าเฉิง แต่อันฉินกลับรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า
เธอรู้สึกว่าคนที่สวี่จือจือด่าคือเธอ
“ฉันไม่ได้ขโมยนะ” โจวเป่าเฉิงเชิดหน้า “ฉันแค่อยากจะไปดูว่าพวกเธอเก็บของเสร็จหรือยัง ใครจะรู้ว่าพวกเธอกำลังนึ่งซาลาเปาอยู่?”
ตอนเช้าเขาเห็นว่าทางมืดมิด เขายังคิดว่าวันนี้สวี่จือจือพวกนั้นคงจะไม่ทำมาหากินแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ใครจะรู้ว่าผ่านไปครู่เดียวก็เห็นจ้าวลี่เจวียนกลับมา เหมือนว่าจะมาเอาอะไรบางอย่างในครัว แล้วก็รีบไปที่บ้านของลู่ซือหยวนอีกฝั่ง
โจวเป่าเฉิงเลยเก็บเื่นี้ไว้ในใจ เขาแอบลุกขึ้นตามไป ยังไม่ทันเดินเข้าไปก็ได้กลิ่นหอมของซาลาเปา
เมื่อก่อนตอนอยู่ที่บ้านตระกูลลู่ทุกคนอยู่ในบ้านเดียวกัน เขาสามารถหยิบซาลาเปามาได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้ประตูบ้านปิดอยู่ เขาจะเข้าไปได้ยังไง?
โจวเป่าเฉิงนั่งยองๆ ที่มุมกำแพงอยู่นาน ในที่สุดก็อาศัยจังหวะเหมาะแอบเข้าไปในบ้านของลู่ซือหยวน
ต้องบอกว่าบ้านหลังเล็กๆ ที่ไม่โดดเด่นหลังนี้พอตกแต่งใหม่ กลับดูเป็ระเบียบเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน และอบอุ่น ถ้าเป็บ้านของตัวเองคงจะดี ดังนั้นการที่ลู่ซือหยวนยึดครองเรือนหอของเขา การที่เขาหยิบซาลาเปาของเธอไปสักสองสามลูกก็คงจะไม่เกินไปหรอกมั้ง!
แต่ไม่นึกเลยว่าสวี่จือจือจะสายตาดีขนาดนั้น มือของเขายังไม่ทันแตะซาลาเปา ไม้เขี่ยไฟก็ฟาดเข้ามา ทำให้เขาร้องโวยวายเสียงดัง
ความจริงแล้วเมื่อก่อนตอนอยู่ที่บ้านตระกูลลู่ มีอยู่ครั้งสองครั้งที่เขารู้สึกว่าสวี่จือจือน่าจะเห็นเขาแล้ว แต่กลับไม่ได้ส่งเสียงดังอะไร
โจวเป่าเฉิงเลยใจกล้าขึ้น แต่กลับไม่คิดว่าครั้งนี้สวี่จือจือจะตอบสนองรุนแรงขนาดนี้ ตีเขาไปสองสามทียังไม่หายแค้น วิ่งไล่ตีเขามาตลอดทาง
ผู้หญิงคนนี้โเี้เกินไปแล้ว!
.............................