เมื่อส่งกู้ซินออกไป กู้หนานเฟิงก็มีสีหน้าเคร่งขรึมจากการครุ่นคิดที่ยากจะได้เห็น หลิวเยว่ไม่อยากรบกวนเขาจึงคิดจะเดินออกไป แต่เขากลับถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“หลิวเยว่เ้าคิดอย่างไรกับเื่นี้”
หลิวเยว่หยุดชะงักฝีเท้าแล้วมองกลับไป น้ำเสียงที่เอ่ยถามของเขาไม่ได้มีความสบายอารมณ์ แต่นางไม่สามารถพูดอะไรได้ นางไม่เข้าใจเกี่ยวกับข่าวที่ได้รับมาจากกู้ซินในคืนนี้ สำหรับการต่อสู้ของราชสำนักและการแข่งขันในวังหลัง นาง้าซ่อนตัวให้ห่างที่สุด
“เื่ในราชสำนักข้าไม่เข้าใจเลยสักนิด ไม่สามารถให้คำแนะนำใดๆ ได้”
“หลิวเยว่ เ้าต่างจากคนอื่น เ้าเก่งในเื่ขบคิดปัญหาต่างๆ จากมุมมองที่ยืนดูอยู่ข้างๆ เ้าสามารถมองเห็นได้ชัดเจนกว่าบรรดาขุนนาง ดังนั้น ข้าจึงเชื่อในตัวเ้า”
กู้หนานเฟิงพูดเื่นี้ด้วยใบหน้าจริงจังทำให้ฝีเท้าของหลิวเยว่ที่กำลังจะก้าวออกไปข้างนอกหยุดลง
นางเป็คนที่ยืนดูอย่างนั้นหรือ? นางเป็ผู้ชมที่จะมองเห็นปัญหามากพอหรือ?
นางคือเจินลิ่วซี บุตรสาวของแม่ทัพเจิน นางคือคนที่ถูกคุมขังในตำหนักลิ่วฉือด้วยคำสั่งของอวิ๋นซู่ และเจินลิ่วซีก็มีความรู้สึกดีๆ ต่อเมืองตั้งหยางเช่นกัน เพราะที่นั่นนางได้ใช้เวลาในวัยเยาว์อย่างมีความสุขกับอวิ๋นซู่
ใช่ เมืองตั้งหยางก็สำคัญกับนางเช่นกัน ภายใต้สายตาที่จับจ้องของกู้หนานเฟิง หลังจากนางครุ่นคิดจึงเอ่ยไปว่า
“ข้าคิดว่าสิ่งที่พระสนมซินเอ่ยนั้นมาสมเหตุสมผล ไม่ต้องพูดถึงว่าเ้าเต็มใจช่วยหรือไม่ การทำให้นางยิ่งใหญ่ขึ้นมาในวังหลัง ย่อมจะช่วยให้ตระกูลกู้ของเ้าสูงขึ้นด้วย เ้าเข้าใจดีกว่าข้าเื่ต้นไม้ใหญ่มักจะดึงดูดลม เสนาบดีกู้มีอำนาจในราชสำนักนั้นเป็เื่ที่แน่นอน และเ้า กิจการของตระกูลเฟิงก็ครอบคลุมทั้งเมืองเทียนเฉิง เก้าในสิบล้วนเป็ร้านค้าของเ้า ั้แ่สมัยโบราณ ขุนนางและพ่อค้าก็เหมือนพวกเหาบนเนินเขา [1] ความสัมพันธ์ระหว่างราชสำนักและการค้าขายนั้นแยกจากกันไม่ได้ วันนี้เ้าถือตัวไม่ยอมอ่อนน้อมถ่อมตนกับพวกเขา แต่หากไม่ใช่เพราะตำแหน่งของเสนาบดีกู้รวมถึงพระสนมซินในวังหลัง จนไม่มีใครกล้าแตะต้อง เกรงว่ากิจการตระกูลเฟิงของเ้าคงดำเนินต่อไปไม่ได้ อีกอย่าง ทั้งที่เ้าร่ำรวยเทียบเท่าแคว้น เหตุใดฮ่องเต้ถึงไม่มากดดันเ้า? ใน่เวลาคับขัน ราชสำนักมักจะดูว่าเ้าสามารถช่วยเหลือแคว้นได้หรือไม่”
นางพูดทั้งหมดออกมาในลมหายใจเดียว เมื่อมองไปที่ใบหน้าของกู้หนานเฟิงยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปล นางจึงพูดต่อ
“เ้าขอความเห็นจากข้า และความเห็นของข้าก็คือ ไม่เพียงแต่ให้ทำเท่านั้น แต่ยังต้องทำให้ยิ่งใหญ่ด้วย เพื่อให้ทุกคนในใต้หล้ารับรู้ว่าเ้ากู้หนานเฟิงให้ความสำคัญกับราชสำนัก และในอนาคตไม่เพียงแต่กิจการของเ้าจะราบรื่น แต่เสนาบดีกู้ยังสามารถรักษาตำแหน่งของเขาไว้ได้ และพระสนมซินก็ประสบความสำเร็จในวังหลังเช่นกัน ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเช่นนี้ เหตุใดไม่ทำเล่า”
หลังจากฟังคําพูดของหลิวเยว่จบแล้ว กู้หนานเฟิงผู้มีสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อครู่นี้ก็แย้มยิ้มออกมาอย่างกะทันหันและมองไปที่หลิวเยว่ด้วยรอยยิ้ม
“คนที่ข้ารู้จัก ไม่มีใครเหมือนเ้าเลยหลิวเยว่ ทำตามที่เ้าบอก เปิดคลังสินค้านำเมล็ดข้าวธัญพืชต่างๆ ออกมา ข้าจะนำขบวนขนสินค้าไปส่งที่เมืองตั้งหยางด้วยตัวเอง ข้าจะทำให้ทุกคนในใต้หล้ารู้ว่าข้านำทรัพย์สมบัติจากประชาชนมา ข้าก็จะคืนให้ประชาชน”
“ไปส่งเองเลยหรือ? ไม่จำเป็ก็ได้กระมัง เ้าเป็คุณชายที่ร่ำรวยที่สุดในราชวงศ์ทง ถ้าถูกดักปล้นจะทำอย่างไร” เื่สำคัญได้ถูกตัดสินแล้ว ประโยคนี้หลิวเยว่เพียงพูดติดตลก
“นี่ๆๆ ปากเสียจริงๆ ถ้าทำอะไรต้องทำให้ถึงที่สุด เ้าเองก็ไปที่เมืองตั้งหยางกับข้าด้วย”
การเดินทางไปยังเมืองตั้งหยางเป็การเดินทางที่ง่ายที่สุดสำหรับกู้หนานเฟิง เพราะในปีนั้น ตอนที่เขาออกจากตระกูลกู้เพื่อออกไปทำการค้าด้วยตัวเอง เขาได้เดินทางไปทั่วสารทิศ และยังเดินทางมานานกว่าครึ่งปี ไม่ว่าความลำบากรูปแบบใดเขาล้วนพบเจอมาทั้งสิ้น เพียงแต่ใน่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา กิจการของเขามั่นคงมากขึ้น จึงตัดอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในอดีตออกไป แต่ครั้งนี้เพราะมีหลิวเยว่ติดตามไปด้วย เขาจึงตั้งตารอคอยการเดินทางในครั้งนี้
ทันทีที่มีข่าวว่าตระกูลเฟิงเปิดคลังสินค้าเพื่อนำเมล็ดข้าวและธัญพืชออกมาบรรเทาทุกข์ให้ประชาชน ชาวเทียนเฉิงทั้งหมดต่างยกนิ้วให้เขาและยกย่องเขา เป็เหตุให้ผู้คนจำนวนมากไปอุดหนุนกิจการภายใต้ชื่อของตระกูลเฟิง
เมืองตั้งหยางอยู่ทางตอนล่างของแม่น้ำหวง ห่างจากเมืองเทียนเฉิงเกือบพันลี้ เป็ระยะทางที่ไกลพอสมควร วันที่กู้หนานเฟิงและหลิวเยว่พาขบวนขนข้าวออกไป ชาวบ้านของเมืองเทียนเฉิงล้วนมารออยู่ริมถนนเพื่อกล่าวลา โดยเฉพาะหญิงสาวส่วนใหญ่ ในเมืองเทียนเฉิง พวกนางพากันร้องห่มร้องไห้ สายตาเป็ประกายเพราะหยาดน้ำตาคลอ มองดูกู้หนานเฟิงจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์ หลิวเยว่จึงพูดติดตลก
“เ้าช่างเหมือนกับโรคระบาดเสียจริง สตรีเหล่านี้ไม่สามารถออกเรือนได้ก็เพราะเ้า แม้ว่าพวกนางจะออกเรือนไปกับชายอื่น นางจะยังคงคิดถึงเ้า ถ้านำมาเปรียบเทียบกับเ้า ชีวิตของพวกนางถือว่าเป็ชีวิตที่ไม่ดีเลย”
“ตอนนี้ข้าเองยังเอาตัวไม่รอด เหตุใดข้าต้องสนใจด้วยว่าพวกนางจะอยู่หรือตาย สตรีในโลกนี้ทุกคนต่าง้าตัวข้า แต่ข้าเหนื่อย ข้าไม่สามารถรับผิดชอบไหว คงต้องให้พวกนางผิดหวังแล้ว”
“ผิวหน้าของเ้านี่หนาขึ้นทุกวันเลย”
“หลิวเยว่ ข้าควบคุมสตรีคนอื่นไม่ได้ แต่ข้าอยากถามเพียงเ้า เ้าเห็นข้าเป็คนอย่างไร?”
กู้หนานเฟิงถามอย่างจริงจัง หลิวเยว่ไม่หลบเลี่ยงคำถามนี้ นาง้าตัดความยุ่งเหยิงนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว ถึงจะเหมาะสมที่สุด
“เ้าอยากฟังความจริงหรือคำโกหก?”
กู้หนานเฟิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไปทันที
“ความจริงถูกผูกไว้กับความเ็ป แต่ข้าก็ไม่้าได้ยินคำโกหก เ้าไม่จำเป็ต้องตอบคำถามของข้า วันเวลาข้างหน้ายังอีกยาวไกล ข้าไม่ได้รีบร้อน”
“คุณชายเฟิง พวกเราไม่ใช่คนในโลกเดียวกัน แม้ว่าเ้าจะยอดเยี่ยม เป็บุรุษในฝันของสตรีเมืองเทียนเฉิงทั้งหมด ข้าชื่นชมในตัวเ้า เลื่อมใสในตัวเ้า แต่มันไม่ใช่ความรัก เ้าไม่จำเป็ต้องเสียเวลากับข้า มันไม่คุ้มค่า ไม่ช้าก็เร็ว ข้าต้องจากไป...”
หลิวเยว่ยังพูดไม่ทันจบ คุณชายเฟิงก็กดนิ้วชี้ไปที่ริมฝีปากของนางและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ชู่... ไม่ต้องพูดแล้ว อนาคตไม่มีใครตัดสินได้ ประโยคนั้นไว้เ้าค่อยตอบข้า เวลายังอีกยาวไกล หลิวเยว่ ข้าไม่ได้รีบร้อน”
หลิวเยว่ได้ยินเขาเอ่ยเช่นนั้น จึงไม่ได้พูดอะไรเพิ่มอีก
เพื่อความปลอดภัย กู้หนานเฟิงจึงขอให้สำนักคุ้มครองมาคุ้มกันตลอดทาง และราชสำนักก็ให้ความสำคัญ จึงเชิญกองทหารม้ามาคุ้มกันด้วย
รถม้าวิ่งจากเหนือลงใต้ ท่ามกลางความโคลงเคลง หลิวเยว่ก็หลับไปด้วยความงุนงง ในฝันของนางนั้น นางเห็นโจวเฉิงิกลับมาจากยุโรปด้วยกระเป๋าใบใหญ่และกระเป๋าใบเล็ก เขาโยนกระเป๋าเครื่องมือในสตูดิโอบนตึกไชน่าเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์แห่งกรุงปักกิ่ง แล้วหมดสติไป นางฝันอีกครั้งว่านางนั่งอยู่บนรถไฟเพื่อไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ แม่ของนางได้วิ่งมาหลายสิบเมตร เมื่อรถไฟเริ่มเคลื่อนตัว นางก็ะโมาที่หลิวเยว่
“หลิวเยว่ ตอนที่ไปอยู่ที่นั่น ลูกต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ”
“แม่เสียใจที่ทำกับลูกแบบนั้น พ่อของลูกไม่ได้ตายเพราะลูก มันไม่เกี่ยวอะไรกับลูกเลย”
“หลิวเยว่ ขอให้ลูกมีความสุข”
เพราะแม่ของนางลำบากตรากตรำมาหลายปี เส้นผมจึงได้เปลี่ยนเป็สีขาว นางหายใจไม่ออกหลังจากวิ่งไปได้ไม่กี่เมตร และหลิวเยว่ก็นั่งร้องไห้อยู่ในรถตลอดทาง
“หลิวเยว่ ตื่น”
เชิงอรรถ
[1] เหาคือ แรคคูน เหาบนูเา หมายถึง เป็พวกเดียวกัน ไม่มีอะไรต่างกันเหมือนพวกแรคคูนบนูเา