ในขณะที่หลินหยางกำลังเดินตามเวินชิงชิงอยู่นั้นอยู่ดีๆ เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของเขากำลังถูกฝ่ามือขนาดใหญ่บีบเข้าให้ทีหนึ่งจิตสังหารอันน่าหวาดกลัวสายหนึ่งพุ่งเป้ามาที่เขาจนทำเอารู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว
“แย่แล้ว!”
หลินหยางพลันะโออกไปอีกทางทันทีภาพต่อมาที่เห็นคือ ลำแสงสีแดงสดดั่งเืพุ่งผ่านไปตรงจุดที่เขายืนอยู่เมื่อครู่อย่างรวดเร็วเขาหลบมันได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด
ลำแสงสีแดงสายนั้นยังคงพุ่งต่อไปไม่หยุดจนกระทั้งมันพุ่งเข้าใส่ต้นไม้ในป่าทึบต้นหนึ่ง ลำต้นของมันหนาพอๆ กับตัวคนหนึ่งคนเมื่อโดนลำแสงนั่นตัดผ่าน ต้นไม้ต้นนั้นก็ถูกตัดขาดเป็สองท่อนทันที หากลำแสงอันน่ากลัวสายนั้นพุ่งทะลุตัวหลินหยางแล้วละก็เขาได้ตัวขาดเป็สองท่อนเหมือนต้นไม้ต้นนั้นแน่
“ถูกลอบโจมตี!!”
หลินหยางล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วจึงยกหัวขึ้นะโสุดเสียง เพียงแต่ว่ามันสายเกินไปแล้วเงาร่างที่ดูคล้ายกับิญญาแปดตัวก็โผล่ออกมาอย่างกะทันหันจากทั่วทุกทิศภายในป่า
ทั้งตัวของพวกเขาถูกทาไว้ด้วยสารอะไรบางอย่างที่มีสีแปลกๆซึ่งมันช่วยกลบลบกลิ่นอายของพวกเขาให้จางหายไปแม้แต่ยอดฝีมือระดับเซียนเทียนอย่างถังหงก็ยังไม่สามารถจับััของพวกมันได้
ทั้งแปดคนปรากฏตัวออกมาพร้อมกันโดยที่พวกมันไม่คิดจะปิดบังจิตสังหารกันอีกต่อไป ราวกับยมทูตอันน่าหวาดกลัวที่ปีนขึ้นมาจากนรกโลกันต์ทำเอาเหล่านักรบของตระกูลเวินถึงกับหน้าถอดสี
แต่นักรบเหล่านี้เองก็มีประสบการณ์ผ่านศึกมาแล้วนับร้อยครั้งถึงจะรู้สึกใไปบ้าง แต่เพียงไม่นานพวกเขาก็สามารถตั้งสติได้จากนั้นก็แบ่งกันเป็ทีมย่อยๆ แยกย้ายกันพุ่งเข้าใส่เงาร่างทั้งแปดนั่น
“ปกป้องคุณหนูปกป้องผู้าุโหลิน!”
เสียงะโอย่างโกรธเกรี้ยวดังขึ้นจนสั่นะเืไปทั่วทั้งพงไพรเหล่านักรบของตระกูลเวินแต่ละคนนั้นล้วนเป็มือดี ที่มีระดับฝีมืออย่างต่ำๆ ก็ระดับชุ่ยถี่ขั้นกลางพอลงมือพร้อมกันแล้วก็ดูแข็งแกร่งในระดับหนึ่งเลย แต่น่าเสียดายคู่ต่อสู้ในครั้งนี้มันมีฝีมือที่น่ากลัวมากเกินไป
“ตายซะ!”
หนึ่งในนักฆ่าทั้งแปดคนนั้นมีขนาดตัวที่สูงกว่าสองเมตรตัวเขาดูคล้ายกับปราการเหล็กเคลื่อนที่ได้ บนหลังของเขาพาดดาบสีดำขนาดใหญ่เหมือนกับขนาดตัวของเขาเอาไว้เป็ดาบที่ยาวมากกว่าสี่เมตร คมดาบอันน่าหวาดหวั่นที่หนาถึงครึ่งเมตรนั่นพอเขาปลดดาบออกมาตั้งไว้บนพื้นก็ดูคล้ายกับป้อมปราการขนาดใหญ่ดาบนั้นตวัดใส่เหล่านักรบของตระกูลเวินที่พุ่งเข้ามาอย่างโเี้ไร้ปรานี
เปรี้ยง!
การตวัดดาบฟันเพียงหนึ่งครั้งก็ส่งให้เหล่านักรบสิบกว่าคนกระเด็นกลับไปชนต้นไม้ที่อยู่รอบๆ จนกระดูกหักเป็เสี่ยงๆสภาพยับเยินราวกับตุ๊กตาผ้าขาดๆ กระอักเืออกมาคำใหญ่แล้วสิ้นลมหายใจไปทันที
ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น
นักฆ่าที่เคยแอบสังเกตการณ์พวกของหลินหยางตรงฐานทัพก่อนหน้านี้อยู่ดีๆ ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ความเร็วของมันนั้นสูงเกินกว่าที่สายตาของคนทั่วไปจะมองได้ทันนักรบอีกแปดคนถูกฆ่าตายโดยที่ยังไม่ทันได้เห็นคู่ต่อสู้ของตัวเองชัดๆ เลยพวกเขาถูกปาดคอทิ้งในพริบตา ต้องตายลงอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ
ข้างๆ ศพของเหล่านักรบนั้นคือชายหนุ่มที่ดูผอมแห้งคนหนึ่งกำลังเลียคราบเืสดๆ บนใบมีดของตัวเองอย่างช้าๆสีหน้าของมันดูมีความสุขมากจนน่าสยดสยอง
“รีบบส่งสัญญาณซะ!! ขอกำลังเสริมมาด่วนเลย!!”
ถังหงและหลิ่วชิงถึงกับยืนนิ่งอึ้งไปเลยเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้พวกเขาไม่มีทางคาดเดาได้เลยว่าจะถูกยอดฝีมือระดับเซียนเทียนถึงแปดคนลอบโจมตีในที่แบบนี้
แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาให้ยืนอึ้งอีกต่อไปแล้วทั้งสองส่งเสียงคำรามด้วยความพิโรธไปทีหนึ่ง แล้วรีบพุ่งเข้าไปหาเวินชิงชิงแล้วหลินอี้ในทันที
เร็ว รีบส่งสัญญาณซะ!
มีนักรบสองคนที่พอได้ยินเสียงะโของถังหงและหลิ่วชิงแล้วก็มีสติขึ้นมา
พวกเขารีบหยิบเอากระบอกส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือที่ตระกูลเวินผลิตขึ้นมาเป็กรณีพิเศษออกมาแต่ในขณะที่พวกเขากำลังยิงสัญญาณนั่นออกไป ก็ถูกลำแสงสีแดงอันน่ากลัวแบบเดียวกับเมื่อกี้ตัดผ่านบริเวณลำคอ
ฉัวะ!
โลหิตสีแดงสดพลันแตกกระจายไปทั่วทำลายโอกาสรอดสุดท้ายของพวกเขาลงในพริบตา
มีสตรีสุดเย้ายวนที่ใส่ชุดกี่เพ้ารัดรูปสีแดงสุดเซ็กซี่คนหนึ่งกำลังยิ้มอ่อนพลางชูมือขึ้นสูงลำแสงสีเืที่ดูคล้ายกับเหยี่ยวาจอมกระหายเืนั่น บินวนกลับมาอยู่ในมือของนางแท้จริงแล้วลำแสงนั่นมันก็คือกงจักรสีแดงที่มีขนาดเท่าฝ่ามือนั่นเอง
“คิคิไม่คิดเลยว่าเ้าหนูนั่นจะตอบสนองได้ไวขนาดนั้นเหมือนกัน ถึงกับสามารถหลบ ‘กงจักรปลิดิญญา’ ของข้าได้....”
กงจักรนี่เป็อาวุธสุดร้ายกาจที่สามารถปลิดชีวิตผู้คนได้อย่าง่ายดาย หญิงสาวทรงสเน่ห์ผู้นี้ยิ้มอ่อนพลางสะบัดมือทั้งสองข้างออกมาอีกครั้งก็มีกงจักรสีแดงเืพุ่งออกไปพร้อมกันถึงห้าวงทำให้กลุ่มของนักรบตระกูลเวินเืสาดกระจายจนกลายเป็ดั่งหยาดฝนโลหิตร่วงหล่นลงมา
ถังหงและหลิ่วชิงไม่มีโอกาสตรวจสอบดูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเหล่านักรบของตระกูลเวินได้เลย
เมื่ออยู่ต่อหน้ายอดฝีมือระดับเซียนเทียนแล้วพวกระดับชุ่ยถี่ก็ไม่ต่างอะไรกับมดปลวกไร้ค่าตอนนี้พวกเขาจึงหวังเพียงสามารถปกป้องหลินอี้และเวินชิงชิงให้หนีรอดไปจากตรงนี้ให้ได้เท่านั้นขอแค่สามารถถ่วงเวลาไว้ได้สักพัก เหล่าทหารที่อยู่ในกองทัพใกล้ๆ นั้นจะต้องได้ยินเสียงวุ่นวายแล้วรีบตามมาช่วยได้แน่นอน
แต่น่าเสียดายเส้นทางของพวกเขาทั้งสองตอนนี้ถูกดาบเรียวยาวสีดำเล่มหนึ่งขวางกั้นเอาไว้แล้ว
มีชายหนุ่มผมยาวที่มีสีหน้าเ็าและสวมชุดสีดำเอาไว้คนหนึ่งยืนขวางทางพวกเขาอยู่
“หลีกไป!”
ทั้งสองคนะโไล่อย่างเกรี้ยวกราด
หลิ่วชิงชักดาบยาวประมาณสองฟุตที่มีคมดาบสีเขียวออกมาพลันตวัดออกไปเป็คลื่นดาบอันน่ากลัวสามสายพุ่งเข้าใส่ศัตรูส่วนถังหงก็สวมใส่ถุงมือสีเงินที่เปล่งประกายแวววับ ท่าทางของเขาตอนนี้ดูราวกับวัวคลั่งตัวหนึ่งที่มีเขาวัวสีเงินอันทรงพลังสองข้างที่พร้อมจะเข้าบดขยี้ทุกสิ่งที่ขวางหน้าพวกเขา
แต่น่าเสียดายดาบยาวของชายชุดดำตรงหน้าพวกเขาเล่มนั้นมันทรงพลังเหนือกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้หลายขุม
เสียงดังเปรี้ยงเปรี้ยงสองครั้ง
ทั้งถังหงและหลิ่วชิงต่างก็ถูกสะกดให้ต้องล่าถอยกลับไป
ดาบยาวของหลิ่วชิงหักเป็สองท่อนทำเอาเขาใจนตาเหลือกส่วนถุงมือของถังหงที่เขาใช้จัดการยอดฝีมือมาแล้วหลายต่อหลายคนนั้นตอนนี้ก็แหลกสลายกลายเป็เพียงเศษเหล็กร่วงโรยสู้พื้น
ย...ยุทธภัณฑ์ิญญา...ขั้นสูง...
ทั่วทั้งอาณาจักรชูอวิ๋นจวิ้นแห่งนี้มีอาวุธิญญาขั้นสูงอยู่ทั้งหมดแค่สิบกว่าชิ้นเท่านั้นความแข็งแกร่งของมันนั้นสูงมากพอๆ กับมูลค่าของมันเลยแล้วศัตรูตรงหน้ากลับมีสุดยอดอาวุธแบบนั้นอยู่ในมืออีก ช่างสิ้นหวังเสียเหลือเกิน
“ตรงนี้ห้ามผ่าน...”
ชายชุดดำพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ดาบเรียวยาวเล่มนั้นราวกับได้ตัดขาดโลกของถังหงและหลิ่วชิงทั้งสองคนออกไปอีกฝั่งไกลๆแล้วในขณะเดียวกันก็เป็ดั่งประกาศิตตัดสินชะตาชีวิตอันโหดร้ายของหนุ่มสาวทั้งสองคน
หลินหยางและเวินชิงชิงตอนนี้ถูกชายชุดดำสี่คนรุมล้อมเอาไว้แล้ว
“อวิ๋นเอ๋อร์!!”
เวินชิงชิงส่งเสียงหวีดร้องจนแทบขาดใจ
ภาพที่ปรากฏให้เห็นตรงหน้าของนางและหลินหยางคือภาพของดาบยาวที่ดูเย็นะเืไร้ความรู้สึกเล่มหนึ่ง เสียบแทงเข้าที่กลางอกของอวิ๋นเอ๋อร์สาวใช้คนสนิทของนาง
สาวน้อยที่เคยยิ้มหวานหยอกล้อกับหลินหยางคนนั้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนางยังวิ่งเล่นสนุกสนานอยู่กับเวินชิงชิงอยู่เลย แต่ในตอนที่นางกำลังจะใช้กระบอกส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือนั้นแค่เพียงชั่วพริบตาเดียวนางก็กลายเป็ร่างไร้ิญญาอันเย็นเฉียบภายใต้คมดาบนั่นแล้ว
เวินชิงชิงจ้องเขม็งไปที่ชายชุดดำสี่คนตรงหน้าอย่างแข็งกร้าวโดยเฉพาะชายวัยกลางคนที่เป็คนลงมือสังหารคนสนิทของนาง
“อวิ๋นเอ๋อร์! พวกเ้า พวกเ้า... ข้าจะต้องฆ่าพวกเ้าทั้งหมดแน่!”
ทุกถ้อยคำของเวินชิงชิงแฝงไปด้วยหยดน้ำตาด้านหน้าของนางนั้น ก็คือหลินหยางที่ตอนนี้หน้าซีดไปหมดแล้ว
หลินหยางคำนวณพลาดไปหนึ่งก้าวเขาไม่คิดว่าคนพวกนั้นจะบ้าคลั่งถึงขนาดนี้ ถึงกับกล้าลงมือฆ่าคนของตระกูลเวินโดยไม่เกรงกลัวทหารของกองกำลังพิทักษ์เมืองเลย
ศัตรูคราวนี้แข็งแกร่งเกินไปล้วนแต่เป็ยอดฝีมือระดบเซียนเทียนทั้งนั้น เขาไม่มีโอกาสให้เข้าไปช่วยชีวิตของอวิ๋นเอ๋อร์เลยและตอนนี้ก็ถูกนักฆ่าทั้งสี่คนชี้ดาบมาทางเขาและเวินชิงชิงแล้วด้วย
ด้านหน้านั้น
ชายวัยกลางคนที่เพิ่งลงมือสังหารอวิ๋นเอ๋อร์ไปก็เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาชายคนนั้นเห็นฉากจบของทั้งสองคนแล้ว เขาประกาศคำตัดสินชะตาชีวิตของหนุ่มสาวทั้งสองว่า
“คุณหนูเวินในเวลาแบบนี้ท่านยังกล้าพูดแบบนั้นได้อีกหรือชักไม่แน่ใจแล้วว่าจะชมท่านที่เป็คนกล้าหาญ...หรือจะหัวเราะท่านที่เป็คนซื่อบื้อดี...”
เสียงพูดแบบนี้ทำให้หลินหยางถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งตัว
จิตสังหารอันบ้าคลั่งจนยากที่จะควบคุมก็พลันทะลักเข้าใส่ความคิดของหลินหยางราวกับทะเลเือันเกรี้ยวกราด
พ่อ! บ้าน! เฉิน!!!
หลินหยางไม่มีวันลืมน้ำเสียงของมันได้อย่างเด็ดขาด
น้ำเสียงที่ฟังดูโเี้เ็าจนชวนให้ผู้ฟังรู้สึกสั่นสะท้านไปถึงิญญาด้วยความหวาดกลัวนั่นก็เคยประกาศตัดสินชะตาชีวิตของหลินหยางอย่างอำมหิตจนเขาเกือบจะต้องลงไปพบยมบาลในปรโลกมาแล้ว
มาวันนี้ เ้าพ่อบ้านเฉินนั่นมันกลับมายืนอยู่ตรงหน้าของหลินหยางอีกครั้ง
แถมมันยังจะมาปลิดชีวิตเขาอีกรอบด้วย!
แววตาของหลินหยางภายใต้หน้ากากตอนนี้ราวกับว่าจะสามารถพ่นไฟแห่งความพิโรธออกมาได้แล้วถ้าแววตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าพ่อบ้านเฉินนี่คงตายไปเป็พันๆ รอบแล้ว
แต่น่าเสียดายว่าหลินหยางในตอนนี้ยังไม่สามารถลงมือได้
ถึงเขาในตอนนี้พอจะสามารถรับมือยอดฝีมือระดับเซียนเทียนได้บ้างก็ตามแต่อีกฝ่ายตอนนี้มีพวกมากถึงสามคน โอกาสรอดจึงเหลือแค่ทางเดียวเท่านั้น...
“เ้า เ้ารู้จักข้า!!”
การแสดงออกของเวินชิงชิงตอนนี้ดูต่างกับตอนปกติมากเยือกเย็นแต่เข้มแข็ง
นางจับได้ว่านักฆ่าที่อยู่ตรงหน้าของนางน่าจะเป็ศัตรูเก่าของตระกูลเวินเพียงแต่เฉินผิงผู้นี้นั้นมีใจคอเหี้ยมโหดและไร้ความเมตตาโดยสิ้นเชิง คนอย่างมันไม่มีทางเปิดโอกาสให้หลินหยางและเวินชิงชิงมีชีวิตรอดกลับไปได้โดยเด็ดขาด
“ฆ่ามัน!”
พอกล่าวจบเฉินผิงก็ดีดตัวเข้าใส่ทันที โดยมีอีกสามคนตามหลังมาติดๆปิดโอกาสรอดของหลินหยางหมดทุกทางโดยสิ้นเชิง
หลินหยางขมวดคิ้วแน่น ในเสี้ยววินาทีแห่งความเป็ความตายแบบนี้แหวนที่สวมอยู่บนนิ้วกลางข้างขวาของเขาก็เปล่งแสงสว่างขึ้นมาในเสี้ยวพริบตาหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงะโดังขึ้น
“ปลิวไปให้หมดซะ!”
ตูมม!
เงาร่างที่ดูแก่ชราสายหนึ่งพุ่งดิ่งลงมาจากฟากฟ้าราวกับเทพาผู้องอาจพุ่งทะยานสู่โลกมนุษย์ คลื่นอัดอากาศอันรุนแรงจนสามารถมองเห็นได้ด้วยสายตานั้นสาดซัดกระแทกเข้าใส่พวกเฉินผิงจนต้องถอยกลับไป
ผู้าุโถังหงเข้ามาช่วยไว้ได้ทันอย่างเส้นยาแดงผ่าแปดพอดีในจังหวะสุดท้าย
“ท่านลุงถัง!!”
เวินชิงชิงจำได้ว่าผู้าุโทั้งสองท่านถูกนักดาบชุดดำสุดแข็งแกร่งนั่นสกัดเอาไว้อีกฝั่งไม่ใช่หรือนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนี่?
แต่พอนางหลังกลับไปดูก็ต้องหลั่งน้ำตาทันที
ผู้าุโที่มีเส้นผมสีขาวออกเงินหรือก็คือหลิ่วชิงได้ถูกดาบยาวสุดแข็งแกร่งเล่มนั้นเสียบทะลุหัวใจไปแล้ว เขาใช้ตัวเองเป็โล่มนุษย์พุ่งไปรับดาบเล่มนั้นเอาไว้แน่นโดยไม่ปล่อยให้หลุดออกไปได้เลยทำให้ถังหงมีโอกาสสลัดหลุดจากมันแล้วเข้ามาช่วยเด็กน้อยทั้งสองได้ทันเวลา
“อา...อา...”ในปากของหลิ่วชิงตอนนี้เต็มไปด้วยเืสดๆ หลั่งไหลออกมาบนใบหน้าของเขาในตอนนี้ประดับไปด้วยรอยยิ้มอันภาคภูมิใจของจอมยุทธ์ผู้องอาจ “ใคร... ใครว่าพวกเรา... ผ...ผ่านไป... ไม่ได้...”
ท่านลุงหลิ่ว!!!
เวินชิงชิงอดทนต่อไปไม่ไหวแล้วถึงร้องไห้โฮออกมา
หลิ่วชิงเป็คนที่คอยดูแลนางั้แ่เล็กจนโตหนวดเคราสีขาวนั่นเป็ของเล่นที่นางในตอนเด็กๆ ชอบมากที่สุดแล้วเพียงแต่ท่านผู้เฒ่าอันแสนใจดีคนนั้นได้กลายเป็ร่างไร้ิญญาภายใต้คมดาบไปแล้ว
หลินหยางกำมือของเวินชิงชิงเอาไว้รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายนั้นมือสั่นไม่หยุดมันเป็ความเ็ปที่ทิ่มแทงไปถึงสุดขั้วหัวใจ
ตัวเขาเองก็เ็ปราวกับถูกมีดกรีดที่หัวใจเช่นกัน
เ้าพวกตระกูลเฉิน พวกเ้ามันเลวทรามสมควรตาย!!
ข้า หลินหยางจะต้องให้พวกเ้าทุกคนต้องชดใช้ - เื มันต้องล้างด้วย เื!!
“เร็วสิรีบหนีไปเร็ว!!”
ด้านหน้าของชายหญิงทั้งสองนั้น
ถังหงที่ตอนนี้มีควันสีขาวปล่อยออกมาจากทั่วทั้งตัวเขาได้รีดเร้นเอาพลังฟ้าดินที่มีอยู่ในร่างทั้งหมดออกมาแล้ว แต่เขารู้ตัวดี...ด้วยระดับความสามารถของเขาในตอนนี้ ต่อให้เอาชีวิตเข้าแลกก็คงทำได้แค่ถ่วงเวลาให้พวกหลินหยางหนีไปเท่านั้น
“รีบไปสิ!!!”ถังหงไม่สามารถหันหน้ากลับมาพูดด้วยได้แล้ว ทำได้แค่จ้องมองไปยังคนทั้งสี่คนของตระกูลเฉินที่กำลังค่อยๆก้าวเข้ามาทีละก้าวช้าๆ ราวกับสัตว์ป่ากระหายเื เขาเอาตัวเองเข้าบังพวกหลินหยางเอาไว้เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนได้หนีไป
“ท่านลุงถัง!!”เวินชิงชิงที่ปกติเป็คนเข้มแข็งแต่ตอนนี้กำลังร้องไห้หนักราวกับว่ากำลังจะแตกสลาย
มีเพียงหลินหยางเท่านั้นที่รู้ตัวว่าตัวเขาในตอนนี้เป็เสาหลักสุดท้ายที่คอยค้ำจุนทั้งเวินชิงชิงและตัวเขาเองอยู่เขาต้องพาเวินชิงชิงหนีไปให้ได้
ต้องมีชีวิตรอดถึงจะล้างแค้นได้!!!