หยิ่นยวี๋โม่ไม่ได้นอนทั้งคืนเธอมองชายหนุ่มที่สลบไสลอยู่ข้างๆ ความจริงเขาเป็ผู้ชายแบบไหนกันแน่?
ลูกเขาอยากมีลูก! เธอแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองบางทีเขาอาจจะแค่พูดเล่นไปแบบนั้น แต่ในใจของเธออยากมีลูกมากกว่าเขาเสียอีก
มู่อี้หานไปบริษัทั้แ่ก่อนรุ่งสางหยิ่นยวี๋โม่นั่งอยู่ในสวนดอกไม้เพียงลำพัง สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้เป็ข่าวของเมื่อคืนแน่นอนเป็ข่าวของงานประมูลการกุศล แต่คนที่อยู่บนพาดหัวข่าวคือมู่อี้หานและหยิ่นยวี๋โม่
เธอและเขาจูบกันอย่างดูดดื่มบนโซฟาหลังกระถางต้นไม้ต้นนั้นและเต้นรำด้วยกันอย่างสง่างามบนฟลอร์อันโออ่า ทั้งเขาและเธอต่างเป็จุดสนใจของทุกๆคน ทว่ายิ่งใกล้เหมือนยิ่งไกล เพราะหัวใจทั้งสองดวงเหมือนอยู่กันคนละฟากฟ้า
อย่างไรก็ตาม มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ภาพถ่ายแสนงดงามที่ถูกจับภาพด้วยเลนส์กล้อง เป็เพียงภาพลวงตา ระหว่างเขาและเธอมันช่างห่างไกลราวมีูเานับพันขวางกัน แต่กลับดูเหมือนพวกเขาจะกลายเป็คู่สร้างคู่สมที่รักใคร่กันดี
แม่บ้านโจวเดินเข้ามา “คุณหนู อ่านหนังสือพิมพ์มาทั้งวันแล้วนะคะ”
“แม่บ้านโจว ทิ้งมันไปเถอะค่ะ!” หยิ่นยวี๋โม่เพิ่งรู้สึกตัว เธอลุกขึ้น แล้วเดินออกจากห้องรับแขกไป
“ถ่ายภาพออกมาสวยขนาดนี้ คุณหนูคงจะชอบภาพพวกนี้มาก แต่กลับบอกให้ทิ้งซะเฉยๆ” แม่บ้านโจวพึมพำกับตัวเอง หล่อนไม่ได้เอามันไปทิ้ง แต่เก็บมันไว้แทน
เย็นวันนั้น หยิ่นยวี๋โม่ได้รับของที่ประมูลไว้เธอไม่รู้ว่าคืนนั้นมู่อี้หานประมูลของไปทั้งหมดเท่าไร เท่าที่เธอรู้คือเขาไม่ได้ประมูลกำไลหยกสีขาวคู่นั้น
แต่ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงมาอยู่ในกองของที่ประมูลได้เธอเห็นกำไลหยกขาวอย่างชัดเจน ความจริงแล้วกำไลนั้นมันเป็คู่ แต่ตรงหน้าเธอกลับมีแค่ชิ้นเดียวข้างในมีกระดาษแนบอยู่แผ่นหนึ่ง ด้านหน้ามีข้อความสั้นๆ เขียนเอาไว้ว่า ‘คุณหยิ่นยวี๋โม่ โปรดรับไว้ด้วย’ ตัวอักษรที่ปรากฏมีความแข็งแกร่งเป็ตัวอักษรที่ดูมีพลัง เหมือนกับตัวหนังสือของผู้ชาย ชายคนนั้นเป็ใครกันแน่? หรือจะเป็คนเดียวกับเ้าของสูทตัวนั้น?
“คุณหนูคะ ของพวกนี้จะให้ฉันเอาไปไว้ที่ชั้นบนเลยไหมคะ?” แม่บ้านโจวออกมาจากในตัวบ้าน หยิ่นยวี๋โม่รีบนำกระดาษโน้ตแผ่นนั้นเก็บใส่กระเป๋าเสื้อโดยไม่ให้แม่บ้านโจวเห็น “อืม”
แม่บ้านโจวกำลังจะนำกำไลหยกขาวไปเก็บแต่หยิ่นยวี๋โม่ก็คว้ามันไปเสียก่อน “ชิ้นนี้ฉันเก็บเองค่ะ” ถ้าให้มู่อี้หานเห็นกำไลหยกขาวชิ้นนี้ไม่รู้ว่าเขาจะโวยวายจนเกิดเื่อะไรขึ้นอีก ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำไลนี้มาอยู่ในมือเธอได้อย่างไร
เมื่อคืนวาน ผู้คนต่างประมูลสิ่งนี้กันแทบเป็แทบตายสุดท้ายตอนนี้มันกลับถูกส่งให้เธอถึงหน้าประตูบ้าน แต่เธอก็ยังไม่รู้ว่าคนนั้นๆเป็ใคร?
แม่บ้านโจวไม่ได้คิดอะไรหล่อนนำของชิ้นอื่นๆ ขึ้นไปไว้ที่ชั้นบน หยิ่นยวี๋โม่นั่งอยู่ในห้องเพียงลำพัง มองกระดาษโน้ตในมือถึงจะเป็กำไลหยกแค่ชิ้นเดียว แต่มันก็ราคาสูงไม่น้อย
เมื่อมู่อี้หานกลับมาถึงคฤหาสน์ก็เห็นหยิ่นยวี๋โม่อยู่ในห้อง มองแจกันลายครามชิ้นนั้นอยู่ เขาก้าวเท้าเข้าไปหาเธอ “ถ้าพรุ่งนี้คุณอยากจะส่งของขวัญชิ้นนี้ ผมจะให้คนขับรถไปส่งให้”
หยิ่นยวี๋โม่ได้ยินเสียงเขาก็ใ “ทำไมคุณกลับบ้านเร็วจัง” ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็กลับมาถึงคฤหาสน์แล้ว ค่อนข้างผิดปกติเพราะเขาไม่ใช่คนแบบนี้
“ผมกลับบ้านเร็วแบบนี้ ไม่ดีหรือไง?” มือของมู่อี้หานคว้าเอวเธอมากอดไว้แนบอก
หยิ่นยวี๋โม่พยายามดิ้น “ที่นี่มันบ้านคุณ คุณจะกลับเมื่อไรก็เื่ของคุณ ฉันแค่แปลกใจ ว่าวันนี้คุณไม่ต้องอยู่กับเลขาโจวเหรอ?”
คำพูดของเธอทำให้มู่อี้หานแย้มยิ้ม “คุณนายมู่ นี่คุณกำลังหึงผมอยู่ใช่ไหม?”
“ฉันไม่เคยหึงคุณ” หยิ่นยวี๋โม่ไม่ใช่คนน่ารำคาญเช่นเขาดูเหมือนหมู่นี้เขาจะยุ่งมากจริงๆ
“แต่งตัวสวยๆ นะ เย็นนี้มีนัดทานข้าว และคุณต้องไปกับผมด้วย” มู่อี้หานเอ่ยพลางยกยิ้มขึ้น
หยิ่นยวี๋โม่หันกลับไปหาเขา “ฉันไม่อยากไป”
“ไม่อยากไป? คุณคิดว่าคุณมีทางเลือกมากนักหรือไง” มู่อี้หานรั้งตัวเธอไว้ ริมฝีปากของเขาประกบเข้ากับริมฝีปากของเธอบรรจงจูบอย่างอ่อนโยน เขาพูดไม่ผิด เธอไม่มีทางเลือก
แต่ว่าทำไมเขาถึงได้้าตัวเธอมากขนาดนี้เขาอยากจะถอดเสื้อผ้าของเธอออกมาให้หมด
“อย่านะ...อย่าทำแบบนี้” หยิ่นยวี๋โม่เหลือบเห็นประตูยังไม่ปิด หน้าต่างบานใหญ่ก็เปิดอยู่แม้จะเป็คฤหาสน์เดี่ยว ไม่มีใครเห็น แต่เธอก็ไม่ใช่คนเปิดเผยขนาดที่ทำเื่แบบนี้ที่ไหนเมื่อไรก็ได้
“คุณคิดว่าผมจะทำอะไรคุณเหรอ? โม่โม่” มู่อี้หานมองเธอ “หรือความจริง คุณรอให้ผมอยากได้คุณกันแน่” เขามองใบหน้าแดงระเรื่อ และร่างที่กำลังบ่ายเบี่ยง พลางพูดจาเหน็บแนมเธอหยิ่นยวี๋โม่หันไปสบตากับเขา สิ่งที่เขาดูถูกเธอทั้งหมด เธอทราบดี มันเป็เพียงการแสดงมู่อี้หานไม่รู้ไปหยิบถุงใบหนึ่งจากไหน เขาส่งมันให้เธอ “เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปกับผม”หยิ่นยวี๋โม่มองเขาถอดเสื้อผ้าทิ้ง แล้วเดินจากไป
เธอก้มตัวลงเก็บถุงใบนั้นภายในถุงเป็เดรสสีครีม เขาอยากให้เธอใส่ชุดนี้ไปสังสรรค์กับเขาอย่างนั้นหรือ? เสื้อผ้าชั้นดี แบรนด์เนมระดับโลก คอเสื้อประดับเพชรแวววับ เสื้อผ้าราคาแพงขนาดนี้คงมีแต่เขาที่คิดจะซื้อ
หยิ่นยวี๋โม่หยิบเสื้อผ้าชุดนั้นขึ้นมาทันใดนั้นใบเสร็จซึ่งติดอยู่ข้างในร่วงลงมา เธอหยิบมันขึ้นมาดูมันเป็ชื่อผู้ใช้บัตรเครดิต ซึ่งชื่อนั้นไม่ใช่มู่อี้หาน แต่เป็โจวลี่ฉีนอกจากนั้น จำนวนก็ไม่ใช่หนึ่ง กลับเป็สองชุด ทว่าสีต่างกัน อีกชุดหนึ่งเป็สีน้ำเงินสองชุดอย่างนั้นหรือ?
หยิ่นยวี๋โม่เผยรอยยิ้มมุมปากมู่อี้หานต้องไม่รู้แน่ว่าโจวลี่ฉีทำเื่แบบนี้? หรือไม่ สิ่งที่โจวลี่ฉีทำทั้งหมด ล้วนได้รับการยินยอมจากเขาแล้วยังไง? เธอก็จะแต่งตัวซ้ำกับหล่อน! หยิ่นยวี๋โม่หยิบเสื้อคลุมตัวใหญ่ของเธอสวมกลับไปอีกครั้งเธอหันกลับไปยังห้องแต่งตัวซึ่งอยู่ในห้องนอน เสื้อผ้าเรียงรายอยู่เต็มตู้ เธอหยิบเดรสสีครีมไปเปลี่ยนเป็ชุดที่ดูเรียบง่ายไม่มีอะไรตกแต่งเป็พิเศษ มีเพียงสายคาดเอวเล็กๆ คาดเอาไว้กับเอวบางของเธอเท่านั้น
มู่อี้หานรอเธออยู่ด้านล่างจนเริ่มจะหมดความอดทนเมื่อเขาลุกขึ้นจากโซฟา ก็เห็นหยิ่นยวี๋โม่เดินลงมาพอดี เขาเห็นว่าเธอไม่ได้ใส่เดรสสีครีมตัวนั้นเขาจึงไม่ค่อยพอใจ “ทำไม? คุณไม่ชอบเสื้อผ้าที่ผมซื้อให้เหรอ?”
“ฉันว่าคุณซื้อเสื้อผ้ามาเยอะไปนะ ถึงฉันไม่ใส่ แต่ก็มีบางคนอยากใส่มันอยู่ดี” หยิ่นยวี๋โม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเธอไม่ได้รู้สึกว่าเสื้อผ้าที่เธอใส่อยู่ไม่เหมาะสมตรงไหน
ขอเพียงสวมใส่สบายก็พอแล้วราคาเท่าไร ก็ไม่สำคัญ
โจวลี่ฉีไม่เพียงแต่อยากให้คุณนายมู่เข้าใจว่าสิ่งที่หล่อนมีโจวลี่ฉีก็มีของสิ่งนั้นได้เช่นกัน
บางทีสำหรับมู่อี้หานภรรยากับความรักก็ไม่ต่างกัน
แต่ว่า โจวลี่ฉีคิดผิดบางตำแหน่ง บางชื่อเสียง ก็ต่างกันอย่างเทียบไม่ติด
ภรรยาก็คือภรรยาคนรักก็คือคนรัก