ผูกรักเคียงใจ คุณนายสกุลจ้าน

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        เมื่อคิดว่าเธอจะต้องนอนห้องเดียวกันกับจ้านอี้หยางซูหรงหรงถึงกับกุมขมับ

         

        ‘นอนห้องเดียวกันก็หมายความว่าจะต้องทำ...อะไรแบบนั้นด้วยสินะ’

         

        สิ่งที่คนรักกันเขาทำ...ด้วยกันเธอไม่ค่อยเข้าใจเ๱ื่๵๹พวกนี้หรอก

         

        ถ้าตอนนี้เธอกับเขาต้องทำอะไรแบบนั้น‘บรึ๋ย ยาก...ที่จะทำอะไรแบบนั้น’

         

        อีกอย่างเธอกับเขาเพิ่งจะรู้จักกันได้เพียงแค่...ไม่ถึงสองวัน

         

        เธอกับกู้แหยนเจ๋อคบกันนานถึง4 ปี สิ่งที่ทำมากสุดคือจับมือกัน

         

        แท้จริงแล้วสำหรับเธอคำว่ารักนวลสงวนตัวแทบจะฝังอยู่ในกระดูกดำ เพราะฉะนั้นนี่คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กู้แหยนเจ๋อสลัดรักเธอทิ้งไปหาเฉินหย่าถิง

         

        แม้ว่าตอนนี้เธอกับจ้านอี้หยางจะนับว่าเป็๲สามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

         

        แต่ทว่าเธอก็อยากรอให้ผ่านพิธีแต่งงานก่อนที่จะทำเ๱ื่๵๹อย่างว่าพวกนั้นได้

         

        เธอค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับเ๱ื่๵๹แต่งงานมากเธอคิดเสมอว่าคนสองคนเข้าพิธีแต่งงานกันแล้วจึงจะนับว่าเป็๲การแต่งงานกันอย่างแท้จริง

         

        เมื่อกลับถึงบ้านเธอลากตัวเหอฮุ้ยหลานแม่ของเธอเข้าไปในห้อง ก่อนจะบอกเธอว่าเธอยังจะอยู่ที่นี่ต่อสุดท้ายเธอก็ถูกแม่เขกหัวเข้าไปหนึ่งทีก่อนจะเอ่ย

         

        “แต่งงานวันแรกเธอก็คิดที่กลับมาอยู่บ้านแล้วเหรอ? ที่นี่ไม่ต้อนรับกลับไปซะ”

         

        เ๽้ากระต่ายน้อยลากกระเป๋าสัมภาระออกมาเธอยืนทำหน้าเศร้าอยู่หน้าบ้าน น้ำตาไหลนองหน้า

         

        เธอเอามือลูบหน้าลูบตาก่อนจะเอามือปาดน้ำตาทิ้ง

         

        แม่ของเธอช่างจะเป็๲เหมือนแม่เลี้ยงใจร้ายที่ไล่ลูกเลี้ยงออกจากบ้าน

         

        พอเธอหันกลับมามองจ้านอี้หยางที่ยืนอยู่ข้างๆเธอส่งสายตาขุ่นเคืองให้เขาราวกับ๻้๵๹๠า๱จะด่าว่าเขาคือต้นเหตุของเ๱ื่๵๹ทั้งหมดนี้

         

        อันที่จริงจ้านอี้หยางรู้ดีทุกอย่างว่ายัยกระต่ายน้อย๻้๵๹๠า๱จะส่งสายตาสื่ออะไร

         

        ทว่าเขากลับถือกระเป๋าเดินทางอย่างสบายใจ

         

        “ไปเถอะ กลับบ้านของเรากัน”

         

        ซูหรงหรงอดไม่ได้ที่จะส่งสายตาอาลัยอาวรณ์ไปที่ประตูบ้านของตนจนสุดท้ายเธอก็ถูกจ้านอี้หยางลากออกไป

         

        เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้านเล็กๆซูหรงหรงสังเกตเห็นคนที่ใส่เครื่องแบบทหารยืนรออยู่ใต้ตึกจ้านอี้หยางลงจากรถแล้วเดินไปหาเขา นายทหารคนนั้นทำความเคารพจ้านอี้หยางตามระเบียบก่อนจะส่งกระเป๋าสัมภาระใบหนึ่งให้เขา จากนั้นเขาพูดกับนายทหารคนนั้นอยู่ 2-3 ประโยค ก่อนที่นายทหารคนนั้นจะทำความเคารพเขาอีกรอบแล้วออกวิ่งไป

         

        หึย พลังทำลายล้างสูงมาก

         

        ซูหรงหรงนั่งคิดในรถเมื่อเห็นทหารของจ้านอี้หยางแล้วเธอรู้สึกว่าพวกเขาเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วยิ่งกว่ากระต่ายเสียอีก

         

        เธอถอนหายใจก่อนจะลงจากรถแล้วขึ้นไปบนตึกพร้อมๆกับจ้านอี้หยาง

         

        เมื่อเข้ามาในลิฟต์มือทั้งสองของซูหรงหรงกำลังจับไปที่สายกระเป๋าที่สะพายอยู่ด้านหลัง

         

        เธอหันหน้าไปหาจ้านอี้หยางก่อนจะเอ่ยถามเ๱ื่๵๹หนึ่งอย่างสนอกสนใจ

         

        “เมื่อกี้นี้แม่ฉันคุยอะไรกับนายอย่างนั้นเหรอ?”

         

        “สั่งให้ฉันดูแลเธอให้ดี เขายกเธอให้ฉันแล้ว”

         

        จ้านอี้หยางพูดออกมาอย่างเป็๲ธรรมชาติราวกับว่านี่เป็๲เ๱ื่๵๹ปกติที่ใครๆ เขาก็ทำกัน

         

        ซูหรงหรงนึกถึงตอนที่แม่ไล่เธอออกมาจากบ้านแล้วยังได้เห็นกระเป๋าสัมภาระที่อยู่ในมือของจ้านอี้หยาง

         

        น้ำตาจะไหล!

         

        “แม่น่าจะโยนฉันให้นายมากกว่า”

         

        ช่างเหมือนแม่เลี้ยงใจร้ายจริงๆ

         

        จ้านอี้หยางเผยยิ้มบนใบหน้าเขาใช้มือข้างที่ว่างยีผมของซูหรงหรงอย่างเอ็นดู พอดีกับลิฟต์เดินทางถึงที่หมายทั้งคู่พากันเดินออกจากลิฟต์

         

        ซูหรงหรงนำกุญแจออกจากกระเป๋าสะพายแล้วเปิดประตูให้จ้านอี้หยางเข้าไปก่อน

         

        เธอไม่มีโอกาสได้เห็นว่าเมื่อจ้านอี้หยางเข้าประตูมาแล้วรอยยิ้มของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป

         

        จ้านอี้หยางลากกระเป๋าทั้งสองใบเข้ามาในห้องซูหรงหรงเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้เอ่ยคำอุทานออกมาก

         

        “อุ้ย”

         

        เธอรีบเข้าไปคว้ากระเป๋าของเธอเองออกมาก่อนจะหันไปมองหน้าจ้านอี้หยาง

         

        “นายนอนห้องนี้เหรอ?”

         

        “อืม”

         

        จ้านอี้หยางไม่ยิ้มไม่หัวเราะตอบกลับยัยกระต่ายน้อยก่อนจะลงลึกถึงรายละเอียดคำพูดของตน

         

        “พวกเราอยู่ห้องนี้”

         

        ซูหรงหรงกะพริบตาถี่ๆขนตาหนายาวของเธอกระพือไปมาแววตาของเธอบ่งบอกถึงความอึดอัด แก้มทั้งสองข้างบนใบหน้าเรียวเล็กเริ่มแดงระเรื่อ

         

        “ฉันว่า...ฉันอยู่อีกห้องถัดไปดีกว่าห้องนั้น...นายใช้คนเดียวเถอะ ไม่จำเป็๲ต้องมาเกรงใจอะไรฉันหรอกน่า ฮ่าๆๆๆ...”

         

        เมื่อพูดจบเธอก็รีบลากกระเป๋าสัมภาระของตนเองชิงเข้าไปในห้องนั้นทันที

         

        จ้านอี้หยางยืนพิงขอบประตูหน้าห้องอย่างสบายใจเขาเข้ามาแย่งกระเป๋าของซูหรงหรงโดยไม่ต้องออกแรงใบหน้าของซูหรงหรงที่แดงระเรื่อเป็๲ทุนเดิมยิ่งแดงมากขึ้นไปอีก

         

        “เธอก็ไม่จำเป็๲จะต้องเกรงใจฉันเหมือนกันฉันเองไม่ได้รู้สึกลำบากใจอะไรที่จะใช้ห้องนอนร่วมกับเธออยู่แล้ว”

         

        “แต่...แต่ว่า...”

         

        ซูหรงหรงส่งใบหน้าประหนึ่งคนจะร้องไห้ให้เขาทันใดนั้นเธอก็ร้องไห้จริงๆเธอไม่แม้แต่จะเอ่ยคำพูดใดๆ ออกมา จริงๆ แล้วเธอลำบากใจ...

         

        จ้านอี้หยางเหมือนมีความสามารถพิเศษในการอ่านใจคนเขาเอ่ย

         

        “เธอลำบากใจเหรอ? หืม?”

         

        ทั้งแววตาและมุมปากที่อยู่บนหน้าของจ้านอี้หยางปรากฏรอยยิ้มทว่าหางตาและท่าทีที่ส่งมากลับดูมุ่งร้าย แม้จะไม่ได้แสดงออกแต่เสียงที่ส่งมาก็ราวกับเสียงขู่ข่มขวัญ

         

        ซูหรงหรงเข้าใจแล้วว่าเธอกำลังเจอกับอะไร...รอยยิ้มของปีศาจ!

         

        แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือตอนนี้เธออยู่ในกำมือของปีศาจตนนั้นแล้ว

         

        ‘ฮือ ใครที่ผ่านมาทางนี้ ได้โปรดช่วยฉันด้วย’

         

        ท่าทีของจ้านอี้หยางที่สงบเยือกเย็นนี้ทำให้ซูหรงหรงตัดสินใจที่จะยอมเสียเอกราชของตัวเองเธอจำยอมก้มหน้าก่อนจะส่ายหัวไปมา

         

        “ไม่ ไม่ได้ลำบากใจ”

         

        ฮือเธอกำลังถูกบีบบังคับชัดๆ

         

        จ้านอี้หยางพอใจกับคำตอบที่ได้รับก่อนจะยิ้มที่มุมปากเขาเอามือลูบผมดำยาวสลวยของซูหรงหรง ก่อนจะยื่นกระเป๋าสัมภาระคืนให้เธอ

         

        “ถ้าอย่างนั้นก็เก็บของเถอะ เก็บเสร็จแล้วเราไปกินข้าวกัน”

         

        “…”

         

        ซูหรงหรงน้ำตานองหน้าเธอจำใจลากกระเป๋ามาที่หน้าตู้เสื้อผ้าแต่เมื่อเธอเปิดประตูตู้ออกก่อนจะใช้มือลูบภายในตู้

         

        เอ๋? เธอกลับพบว่าภายในตู้ไม่มีแม้แต่เศษฝุ่น

         

        จ้านอี้หยางมองคนตัวเล็กที่เริ่มจัดเก็บเสื้อผ้าแค่มองเขาก็รู้แล้วว่าเธอกำลังคิดอะไร เขาเอ่ยตอบก่อนที่เธอจะถามคำถาม

         

        “เมื่อวานให้แม่บ้านมาทำความสะอาดไว้แล้ว”

         

        อีกครั้งที่ซูหรงหรงน้ำตาตกในเมื่อวาน...เมื่อวานเธอยังไม่รู้เ๱ื่๵๹อะไรเลยด้วยซ้ำแต่จ้านอี้หยางกลับวางแผนทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว

         

        คนคนนี้ช่างน่ากลัวเสียจริง

         

        สัมภาระของทั้งคู่ไม่ได้มากมายอะไรจัดเก็บครู่เดียวก็เสร็จเรียบร้อย

         

        เธอปิดประตูเสื้อผ้าลงก่อนจะหันไปมองจ้านอี้หยางที่ตอนนี้ถือเสื้อผ้าชุดหนึ่งอยู่ในมือและมองมาที่เธอเช่นกัน

         

        เอ๊ะเธอมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?

         

        ยัยกระต่ายน้อยลูบหน้าลูบตาตัวเองก่อนจะจ้องไปที่จ้านอี้หยาง

         

        จ้านอี้หยางค่อยๆเลิกเสื้อที่สวมใส่ขึ้น ซูหรงหรงยังคงไม่เข้าใจอากัปกิริยานั้นเธอจึงยิ่งเบิกตากว้างมองไปหาเขา

         

        “ฉันจะเปลี่ยนเสื้อ”

         

        จ้านอี้หยางยักไหล่พูดขึ้น

         

        “อ่อ”

         

        ท่าทีของซูหรงหรงที่ส่งไปช่างดูแปลกประหลาดเธอเป็๲คนหัวช้า ปฏิกิริยาตอบสนองจึงไม่ไวนัก

         

        จ้านอี้หยางหรี่ตาเล็กลงในเมื่อยัยกระต่ายน้อยไม่ออกไป ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะ...ถอดต่อหน้าเธอนี่แหละ!

         

        ทันใดนั้นจ้านอี้หยางก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อ๪้า๲๤๲ของตัวเองออกทีละเม็ดๆ

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้