เกี้ยวที่นั่งค่อยๆ ถูกประคองตัวลง เห็นเพียงแค่หม่านกงกงที่เดินออกมาอย่างเชื่องช้าแล้วจัดอาภรณ์กับหมวกอย่างไม่รีบร้อน
กูเฟยเยี่ยนมองตรงไป เห็นได้ชัดว่าตนเองนั้นยังเอาตัวเองไม่รอด แต่กลับนึกได้ถึงจดหมายลับในใบสั่งยาพวกนั้น
นางลอบอธิษฐานให้นายก้อนน้ำแข็งเหม็นนั่นเชื่อถือได้ โกหกนางได้ แต่เื่ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตผู้คน อย่างน้อยก็ต้องเตือนสติจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยสิ ยานั้นใช้ในการช่วยชีวิตคน หากใช้ยาในการสังหารคนนั้นยากที่จะป้องกันได้
หลังจากที่หม่านกงกงผ่านประตูเข้ามา จึงพบเห็นองค์หญิงหวายหนิง เขารีบสาวเท้าอย่างรวดเร็วไปด้านหน้าเพื่อแสดงความเคารพ “นู๋ไฉน้อมคารวะองค์หญิงหวายหนิง”
องค์หญิงหวายหนิงทรงไม่้าที่จะให้เื่ราวในวันนี้ถูกผู้คนรับรู้มากนัก นางตอบเพียงว่า “ลุกขึ้น” สองคำจากนั้นหันไปส่งสายตาทางเซวียกงกงแล้วก้าวพรวดพราดเดินออกไป
เซวียกงกงเร่งรัดกูเฟยเยี่ยนให้ออกไป แต่ใครจะไปรู้ว่าหม่านกงกงกลับขวางพวกเขาเอาไว้ เขาพินิจพิเคราะห์กูเฟยเยี่ยน “ท่านนี้คือ…”
ทุกคนต่างก็ประหลาดใจกันหมด อยู่ดีๆ เหตุใดหม่านกงกงจึงได้ให้ความสนใจกูเฟยเยี่ยนขึ้นมา?
องค์หญิงหวายหนิงหยุดเดินอีกครั้งแล้วหันกลับมามอง กูเฟยเยี่ยนก็เกิดความประหลาดใจเช่นกัน แต่ประหลาดใจก็คือประหลาดใจ นางไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก ต่อให้สถานะของหม่านกงกงจะสูงส่งเพียงใด แต่ถึงที่สุดก็เป็เพียงแค่นู๋ไฉ จะสามารถประลองฝีมือกับองค์หญิงหวายหนิงได้อย่างไร?
นางเอ่ยตอบ “นู๋ปี้คือแพทย์หญิงของห้องยาสำนักหมอหลวง กูเฟยเยี่ยน”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาหม่านกงกงก็หัวเราะเยาะเย้ยกูเฟยเยี่ยนในทันที “ฮ่าๆ ที่แท้ก็เป็เ้านั่นเอง! ท่านแม่ทัพเฉิงมีปัญหาด้านโรคกระเพาะไม่ใช่โรคทางสายตานี่นา ด้วยรูปโฉมโนมพรรณเช่นนี้ เขาไม่ได้มองผิดไปใช่หรือไม่? ”
ทั้งสถานที่เต็มไปด้วยความเงียบสงัด แล้วในทันทีทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยออกมาดังลั่น
ที่แท้หม่านกงกงก็หมายความเช่นนี้นี่เอง!
ในใจของกูเฟยเยี่ยนเต้นตึกตักๆ อย่างดุเดือด พูดไม่ออกว่าเกิดความผิดหวังหรือความอึดอัด เดิมทีนางคิดว่าผู้ที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของจิ้งหวางจะแตกต่างจากคนอื่นภายในพระราชวังเสียอีก หม่านกงกงล้วนมีอากัปกิริยาเช่นนี้แล้ว จากการสันนิษฐานเดาว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็เป็เช่นนี้เช่นกันใช่หรือไม่?
“ฮ่าๆ ไม่ว่าท่านแม่ทัพเฉิงจะมองผิดไปหรือไม่ แต่ท่านชายแม่ทัพฉีมองไม่ผิดอย่างแน่นอน หญิงสาวที่ไม่รับรู้ถึงความอัปยศเช่นนี้ ผู้ใดที่แต่งงานด้วยผู้นั้นก็จะโชคร้าย! ” เซวียกงกงพูดแล้วผลักกูเฟยเยี่ยนอย่างรุนแรง
กูเฟยเยี่ยนลากเท้าอันหนักหน่วงก้าวไปด้านหน้าทีละก้าว องค์หญิงหวายหนิงพอใจมากทีเดียว นางหัวเราะเบาๆ แล้วก้าวเท้าข้ามประตูไป ทว่าในเวลานี้เองหม่านกงกงก็ได้พูดออกมา “แพทย์หญิงกู เ้าหยุดเดี๋ยวนี้ เปิ่นกงกงให้เ้าไปแล้วหรือยัง? ”
นี่…
องค์หญิงหวายหนิงหันกลับมาเป็ครั้งที่สาม เกิดความรู้สึกระแวงและสงสัย เซี่ยเสี่ยวหม่านไม่ถึงกับมองไม่ออกว่านางนั้นกำลังจะพาคนไป เขา้าจะทำอะไร?
ความคิดของกูเฟยเยี่ยนคล้ายคลึงกับองค์หญิงหวายหนิงที่รู้สึกถึงความประหลาดใจจนไม่อาจคาดเดาได้
ใครจะไปรู้ว่าหม่านกงกงจะหันไปมองผู้คนด้านข้างแล้วพูดขึ้นมาอย่างเ็า “ด้วยรับสั่งของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เปิ่นกงกงเดินทางมาโยกย้ายแพทย์หญิง โดยในวันนี้จะต้องพาคนกลับไป! ก่อนที่เปิ่นกงกงจะคัดเลือกเสร็จหากไม่ใช่เื่ราวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคน ไม่ว่าจะเป็แพทย์หญิงคนไหนล้วนไม่สามารถออกไปได้! ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทั่วทั้งสถานที่แห่งนี้ล้วนตกอยู่ในความเงียบสงัด ทุกคนล้วนคาดไม่ถึง ต้องรู้ไว้ว่าภายในจิ้งหวางฝู่สิ่งที่ผู้คนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานก็คือการไม่มีหญิงรับใช้!
ว่ากันว่าแม้แต่ผู้ที่ซักผ้าและทำอาหารล้วนเป็บุรุษทั้งหมด ภายในจิ้งหวางฝู่ก็มีแพทย์ชายด้วยนี่นา เหตุใดจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจู่ๆ จึง้าโยกย้ายแพทย์หญิง?
“หม่านกงกง ในเมื่อเ้ารู้ว่านางเป็ใครแล้วเ้ายังจะให้นางอยู่ต่อเพื่ออะไร? นางเป็เช่นนี้จะมีคุณสมบัติในการเข้าจิ้งหวางฝู่ได้อย่างไร?” เซวียกงกงลืมเลือนไปแล้วว่านายเหนือหัวของตนเองอยู่นอกประตูทางเข้า เขารีบพูดน้ำเสียงทุ้มต่ำกับหม่านกงกงว่า “เสี่ยวหม่าน ครอบครัวอาของข้ามีบุตรสาวคนรองอยู่ในห้องยาสำนักหมอหลวง เ้าคัดเลือกได้เลย ข้าจะมีของตอบแทนและขอบคุณเ้าเป็อย่างยิ่ง! ”
หากสามารถเข้าไปรับใช้ในจิ้งหวางฝู่ได้ก็นับเป็เกียรติยศอย่างยิ่งแล้ว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการเป็หญิงรับใช้คนแรกในจิ้งหวางฝู่! มันเปรียบดั่งอาคารที่ใกล้น้ำย่อมได้จันทร์ก่อนเชียวนะ! [1] ถ้าเกิดว่าไม่ระวังไปถูกตาต้องใจจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเข้า มันคง…ไม่สามารถที่จะบรรยายได้!
ไม่ว่าจะเป็แพทย์หญิงหรืออาจารย์แพทย์ล้วนเหมือนกับถูกฉีดเืไก่ [2] ตื่นเต้นดีอกดีใจ เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่แล้ววิ่งไปทางด้านของหม่านกงกง เพียงชั่วครู่เดียวพวกนางก็ได้ล้อมรอบหม่านกงกง แต่ละคนต่างก็แย่งกันพูดเสนอตนเอง อย่าว่าแต่งานของแพทย์หญิงเลย ต่อให้เป็งานซักผ้า ถูพื้น ทำอาหาร ผัดผัก ยกถ้วยชา เทน้ำ จัดที่นอน พับผ้านวม แต่ละคนก็ต่างแย่งชิงเอ่ยขึ้นมา ว่าสามารถทำได้ ขาดเพียงสิ่งเดียวที่พวกนางทำได้ แต่ไม่ได้พูดออกมาก็คือการอุ่นเตียงคลอดลูกแล้ว
ด้วยความที่เป็เช่นนี้ องค์หญิงหวายหนิงจึงถูกลืมเลือนไว้ด้านหน้าประตู ส่วนกูเฟยเยี่ยนนั้นถูกเบียดไปด้านข้าง นางมองแล้วก็รู้สึกตะลึงตาค้างเล็กน้อย
นางทราบมาโดยตลอดว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยมีกระแสความนิยมมากกว่าเฉิงอี้เฟยและฉีอวี้มากกว่าหนึ่งเท่า ทว่าคิดไม่ถึงว่าเพียงแค่ตำแหน่งของหญิงรับใช้ธรรมดาๆ ในจิ้งหวางฝู่ก็สามารถทำให้ผู้คนคลั่งไคล้ได้เช่นนี้
นางอดคิดไม่ได้ว่าหากในวันใดวันหนึ่งจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรง้าจะเสกสมรส มันจะกลายเป็ฉากแบบไหนกันนะ? ทว่าใต้ฟ้านี้ต้องเป็หญิงสาวประเภทไหนถึงจะโชคดี แล้วได้กลายมาเป็สตรีของจวินจิ่วเฉินกันนะ?
กูเฟยเยี่ยนมีสติกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว แล้วละความสนใจในเื่ราวพวกนี้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับนาง ต่อให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงคัดเลือกแพทย์หญิง ก็คัดเลือกมาไม่ถึงนาง ถึงอย่างไรนางก็เป็เพียงแพทย์หญิงที่ชื่อเสียงถูกทำลายอยู่ดี นางถอยไปด้านข้างมองไปที่ถุงผลไข่มุกครุ่นคิดว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร จะต้องทำอย่างไรถึงจะรักษาชีวิตจากองค์หญิงหวายหนิงได้
ท่ามกลางความโกลาหลได้ยินเพียงแค่เสียงดังลั่นของหม่านกงกง “พอได้แล้ว! ”
ในทันทีทันใดนั้น เสียงจอแจก็ได้หยุดตัวลงอย่างฉับพลัน แล้วได้ยินเสียงะโของหม่านกงกงอีกครั้ง “หลบไป” ในเวลานี้ผู้คนจึงได้ถอยหลังไปตามลำดับ ร่างผอมเล็กของหม่านกงกง ในที่สุดก็ปรากฏออกมาจากกลุ่มผู้คนแล้ว เขาเกือบจะถูกหญิงสาวเหล่านี้จมทับแล้ว เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้งในที่สุดก็ผ่อนคลายลง
“ข้าพเ้าก็ไม่ทราบว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงโปรดปรานแบบไหน แต่ว่าในการโยกย้ายแพทย์หญิงในครั้งนี้ ไม่ได้เลือกตามความโปรดปรานของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย ข้าพเ้าได้มาพร้อมกับเงื่อนไข หากผ่านด่านแรกของข้าพเ้าไม่ได้ ฮ่าๆ…เช่นนั้นก็ไม่มีหวังแล้ว! พวกเ้าเข้าแถวอยู่ที่นี่แล้วเรียกผู้ดูแลของพวกเ้าออกมาด้วย”
ทันทีที่หม่านกงกงพูดเช่นนี้ ทุกคนก็เข้าแถวในทันที
เมื่อเห็นว่ากูเฟยเยี่ยนยืนโง่อยู่ หม่านกงกงจึงได้พูดแขวะขึ้นมา “แพทย์หญิงกู เ้ายังยืนอยู่ตรงนั้นทำไม ฟังภาษาคนไม่รู้เื่อย่างนั้นหรือ? ”
กูเฟยเยี่ยนไม่เข้าใจที่หม่านกงกงพูดจริงๆ ชื่อเสียงของนางแย่เช่นนี้ ยังสามารถกลายมาเป็ผู้รับเลือก? นางกำลังจะเอ่ยขึ้นมา แต่ในที่สุดองค์หญิงหวายหนิงที่อยู่หน้าประตูทนไม่ไหวแล้ว นางสาวเท้าพรวดพราดเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงโทสะ “เซี่ยเสี่ยวหม่าน เ้าหมายความว่าอย่างไร? หญิงสาวใจง่ายเช่นนี้เป็ไปไม่ได้ที่ท่านพี่จิ้งหวางจะ้า? เ้าเป็ผู้รับใช้อย่างไรกัน? ”
ใครจะไปรู้ว่าหม่านกงกงจะตอบกลับอย่างจริงจัง “เรียนองค์หญิง ในครั้งนี้การคัดเลือกคนจะเลือกจากดวงชะตาวันเกิดก่อน! หากดวงชะตาวันเกิดไม่ตรงกัน ต่อให้มีคุณธรรมมากแค่ไหนนู๋ไฉก็ไม่กล้าเลือก หากมีดวงชะตาวันเกิดที่ตรงกัน ไม่ว่าจะเป็ใครหน้าไหนต่อให้ไม่อยากไป…ก็ต้องเป็เด็กดีตามนู๋ไฉไปอยู่ดี! ”
ดวงชะตาวันเกิด?
ทุกคนเกิดความประหลาดใจอีกครั้ง ดวงตาของกูเฟยเยี่ยนเบิกกว้างมาก นางเป็ผู้ที่เกิดความประหลาดใจมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
องค์หญิงหวายหนิงจึงตระหนักได้ว่าเื่ราวมันไม่ปกติ นางเริ่มจริงจังขึ้นมา “เซี่ยเสี่ยวหม่าน แพทย์หญิงผู้นี้เป็คนที่ข้าเลือกไว้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้บอกกล่าวกับศาสตราจารย์แพทย์แล้ว ดังนั้นจึงไม่อยู่ในขอบเขตคัดเลือกคนของเ้า! ”
หม่านกงกงยังคงตอบอย่างเคารพนอบน้อม “เรียนองค์หญิง จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงกำชับมาอย่างชัดเจนว่าขอบเขตการคัดเลือกคือแพทย์หญิงของห้องยาสำนักหมอหลวงทั้งหมด หากองค์หญิงยืนกรานที่จะนำตัวคนไป นู๋ไฉทำได้เพียงรายงานเตี้ยนเซี่ยไปตามตรง”
“เ้า! ” องค์หญิงหวายหนิงโกรธเป็ฟืนเป็ไฟ
หม่านกงกงพูดต่อไปว่า “เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงเสด็จไปยังวัดต้าฉือเสี่ยงเซียมซี พระอาจารย์แห่งวัดต้าฉือได้คำนวณเอาไว้ว่าจะต้องรีบตามหาแพทย์หญิงผู้หนึ่งที่มีดวงชะตาวันเกิดตรงกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เพื่อ้าให้มาควบคุมศิลาโอสถในจิ้งหวางฝู่เป็ระยะเวลาสามเดือน มิฉะนั้นแล้วในสามเดือนนี้…”
หม่านกงกงพูดมาถึงตรงนี้แล้วก็หยุดเอาไว้ ทั่วทั้งสถานที่แห่งนี้ล้วนเงียบเป็เป่าสาก ทุกคนตกตะลึงจนตาค้างรวมไปถึงกูเฟยเยี่ยนด้วย ไม่มีใครคาดคิดว่าสาเหตุที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงคัดเลือกแพทย์หญิงอย่างกะทันหันจะเป็เช่นนี้
แม้ว่าหม่านกงกงจะไม่ได้พูดต่อว่ามิฉะนั้นแล้วจะเป็เช่นไรออกมาจนจบ ทว่าต่อให้เป็คนโง่ก็สามารถเดาได้ว่า “มิฉะนั้น” คำนี้ประโยคต่อไปด้านหลัง ไม่มีทางเป็เื่ที่ดีอย่างแน่นอน!
เื่นี้ค่อนข้างรุนแรงนะ!
—————————-
เชิงอรรถ
[1] อาคารที่ใกล้น้ำย่อมได้จันทร์ก่อน หมายถึง การที่เราไปอยู่ในสถานที่ที่เอื้ออำนวย เราจะได้ประโยชน์ก่อนเป็คนแรก
[2] ฉีดเืไก่ หมายถึง ลิงโลด ตื่นเต้น คลั่งไคล้