บทที่ 11 ฮวางิขอโทษ
ในตอนที่เย่จื่อเฉินเพิ่งจะกลับมาจากไปกินข้าวกับรูมเมทที่เดินอยู่ข้างกันนั้น รถสปอร์ตหรูคันหนึ่งก็ได้ขับเข้ามาจอดขวางหน้าทุกคนเอาไว้
รถสปอร์ตขับเฉียดตัวไปจนพวกเย่จื่อเฉินสะดุ้งใ ในขณะที่ทุกคนกำลังเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่นั้น เ้าของรถก็ก้าวลงมาเสียก่อน
"นาย!"
เย่จื่อเฉินเลิกคิ้วขึ้น คนตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็เ้าฮวางิคนที่อยู่กับเซียวไห่คนนั้น
"เย่จื่อเฉิน!"
"นายมาทำอะไรที่นี่?"
เย่จื่อเฉินไม่ชอบเ้าหมอนี่ ฮวางิเองก็เช่นเดียวกัน
เมื่อครู่นี้เขากำลังสนุกอยู่กับสาวสวยที่ไนต์คลับ แล้วเซียวไห่ที่ไม่รู้ว่าเป็อะไรก็โทรศัพท์มาบอกให้เขามาขอโทษเย่จื่อเฉิน
ถึงเขาจะเป็น้องชายของเซียวไห่ แต่ก็แค่ลูกพี่ลูกน้องกัน
น้ำเสียงกระด้างของเซียวไห่ทำให้เขาหวาดกลัว เมื่อทำอะไรไม่ได้จึงจำใจต้องมาขอโทษ แต่ในใจของเขานั้นกลับคิดว่าเย่จื่อเฉินต้องไปพูดอะไรลับหลังกับพี่ชายเขาแน่นอน พี่ชายเขาถึงได้ทำแบบนี้
"จะบอกอะไรให้นะไอ้น้อง อย่ามาเล่นตุกติกอะไรลับหลังฉัน นายคิดว่าโทรศัพท์ไปหาพี่ชายฉันให้เขากดดันฉันเพื่อมาขอโทษนาย แล้วฉันจะขอโทษนายเหรอ? ฝันไปเถอะ จะบอกอะไรให้นะ ฉันไม่มีทางขอโทษนายหรอก!"
"นายประสาทหรือไง?"
"เหอะ ฉันขอเตือนนายเอาไว้เลยนะ อย่ามาเล่นตุกติกลับหลังฉัน"
พอทิ้งถ้อยคำดุดันเอาไว้แล้ว ฮวางิก็บึ่งรถสปอร์ตออกไป
คังเผิงมองตามหลังรถสปอร์ต แล้วจึงเลิกคิ้วถาม
"เย่จื่อ นายไปมีเื่กับคนแบบนั้นได้ยังไง ฉันว่ารถสปอร์ตคันนั้นของเขามันราคาสูงมากอยู่นะ ฐานะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ"
"ก็แค่คนบ้า อย่าไปสนใจเขาเลย"
การปรากฏตัวของฮวางินั้นทำให้เย่จื่อเฉินแปลกใจอยู่เหมือนกัน แต่จากการคาดเดาของเขาน่าจะเป็เพราะเซียวไห่เอาลูกท้อผลนั้นให้คนที่บ้านของเขากินแล้ว
แค่คิดถึงลูกท้อเย่จื่อเฉินก็อดที่จะเสียดายขึ้นมาไม่ได้
แม่เ้า เขายังไม่ได้กินเลยด้วยซ้ำ!
บ้านตระกูลเซียว
เซียวไห่ทำการตรวจร่างกายทั้งหมดให้กับชุยเสว่ฟางอย่างละเอียด และพบว่ากลไกการทำงานในร่างกายของชุยเสว่ฟางได้ย้อนกลับไปเมื่อตอนอายุสามสิบแล้ว และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คืออาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ของเธอก็ได้หายไปด้วยเป็ปลิดทิ้ง
สิ่งนี้ทำให้ตระกูลเซียวทุกคนต่างพากันใ
"คุณชายิกลับมาแล้ว"
ฮวางิเดินหาวเข้ามาในบ้าน หลังจากที่ออกมาจากมหาวิทยาลัยของเย่จื่อเฉิน เขากะว่าจะไปเที่ยวที่ไนต์คลับอีกสักหน่อย แต่เขากลับโดนเรียกตัวให้รีบกลับบ้าน
เมื่อทำอะไรไม่ได้ เขาจึงจำต้องกลับบ้านมาด้วยอารมณ์คุกรุ่น
แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นกลุ่มคนที่อยู่ในบ้าน เขาก็ชะงักไปทันที
ทุกคนในห้องนั่งเล่นลากสายตาไปหยุดอยู่ที่ฮวางิ ฮวางิลอบกลืนน้ำลายแล้วค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไป
"เย่จื่อเฉินยกโทษให้แกหรือยัง?"
เซียวไห่เปิดปากถาม
"ผม...พี่ใหญ่ หมอนั่นมันมาใส่ร้ายอะไรผมลับหลังกับพี่ใช่ไหม ผมจะบอกให้นะ เ้าเด็กนั้นมันก็แค่อยากกอบโกยเงิน พี่ไม่ต้องไปสนใจมันเลยด้วยซ้ำ"
"ฉันถามแกว่าเขายกโทษให้แกแล้วหรือยัง!"
น้ำเสียงของเซียวไห่ดุดันจนน่ากลัว ฮวางิยังไม่เคยเห็นพี่ชายของเขาโมโหขนาดนี้มาก่อนเลย
เขาเลียริมฝีปาก แล้วก้มหน้าพูด
"ผมไม่ได้ขอโทษ"
เพล้งงง
ไม่รู้ว่าแก้วน้ำในมือของใครหล่นลงพื้น เซียวไห่ถลึงตาจ้องเขาเขม็ง กำหมัดแน่นจนเสียงดังกรอด
"อาสอง ดูลูกชายตัวดีของอานะ!"
เซียวไห่เดินจากไปอย่างขุ่นเคือง ฮวางิมองไปทางพ่อของเขาด้วยสีหน้าขลาดกลัว
เพียะ!
ฝ่ามือหนึ่งมือตบหน้าฮวางิจนอึ้งไป
"พ่อ..."
ฮวางเจิ้นมามีลูกตอนที่อายุมากแล้ว ก็เลยตามใจลูกชายอย่างฮวางิจนเสียนิสัย โตจนขนาดนี้แล้ว เขาก็ยังตามใจฮวางิไม่เลิก แถมยังไม่เคยตีเขาเลย
"ไร้จิตสำนึก ไร้จิตสำนึก...ขอบอกแกไว้เลยนะ ไม่ว่าแกจะใช้วิธีอะไรก็ตามต้องทำให้เย่จื่อเฉินยกโทษให้แกให้ได้ ถ้าแกทำไม่ได้ ฉันก็ไม่มีลูกอย่างแก... "
ฮวางิอึ้งไปจริงๆ เขามองพ่อของเขาด้วยความสับสนมึนงง และในตอนนี้ชุยเสว่ฟางก็ได้เดินเข้ามาดึงมือฮวางิไปจับแล้วพูดเสียงหนักแน่น
"อาิ ฟังป้านะ ไปขอโทษเย่จื่อเฉินซะ"
"คุณป้า!"
ฮวางิมองผู้หญิงตรงหน้าที่แทบจะเป็พี่สาวเขาได้แล้วถึงกับอึ้ง ทันใดนั้น เขาก็เข้าใจเื่ทุกอย่างขึ้นมาทันที
"ผมเข้าใจแล้วครับ"
วันต่อมา เย่จื่อเฉินที่เข้าเรียนวิชาเอกในตอนสายหัวสมองแทบจะะเิ
ไม่ใช่เพราะสาขาวิชาที่ทำให้เขาหัวะเิ แต่เป็เพราะสายตาของเพื่อนร่วมคลาสเรียนที่อยู่รอบตัว
พอเลิกเรียน เย่จื่อเฉินก็รีบเร่งฝีเท้าวิ่งกลับหอพักทันที ในระหว่างที่วิ่งกลับหอเขาก็ยังเห็นพวกนักศึกษาที่อยู่รอบๆ ยังคงชี้นิ้วมาทางเขา
"อ๊ะ นี่มันคุณชายเย่ ลูกเศรษฐีจอมปลอมเย่จื่อเฉินใช่ไหมเนี่ย?"
เย่จื่อเฉินเงยหน้าขึ้นก็เห็นเหยาเยว่เกาะไหล่กัวเฉียงยืนอยู่ข้างหน้าไม่ไกลจากเขา เมื่อเห็นใบหน้ารูปไข่ที่คุ้นเคยนั้นของเหยาเยว่ แต่คำพูดกลับระคายหูผิดปกติ เย่จื่อเฉินก็ส่ายหน้าพร้อมกับถอยเท้าก้าวไปทางด้านข้างแทน
"จะไปแล้วเหรอ?"
"ถึงยังไงเราก็เคยมี่เวลาที่ดีร่วมกัน จำเป็ต้องทำแบบนี้ด้วยหรือไง?" เย่จื่อเฉินหยุดเดิน มุมปากกระตุกยิ้มด้วยความระอา "ดูท่าว่าเื่นี้เธอจะจัดการได้ดีมากเลยนะ มันมีผลกระทบกับชีวิตของฉันจริงๆ นั่นแหละ สมใจเธอแล้วนี่ ใช่ไหมล่ะ?"
"นายอย่ามาเสแสร้งเป็คนดีหน่อยเลย จนก็คือจน จะมาแสร้งทำเป็คนมีเงินอะไรของนาย ฉันคบกับนายมาตั้งครึ่งปี แม้แต่กระเป๋าดีๆ ใบเดียวนายก็ไม่เคยซื้อให้!"
ทำไมถึงได้มาเห็นความน่ารังเกียจของเหยาเยว่เอาตอนนี้นะ เย่จื่อเฉินคิดยังไงก็คิดไม่ตกว่าทำไมเขาถึงเอาคนแบบนี้มาเป็แฟนได้
มันก็จริงนั่นแหละ เขามันก็แค่นักศึกษาจนๆ ธรรมดา แต่เวลาที่เหยาเยว่อยากจะซื้ออะไร มีครั้งไหนที่เขาลังเลบ้าง?
จริงๆ เลย...
ส่ายหน้าไม่สนใจเหยาเยว่ ก่อนจะเดินตรงไปทางหอพัก
เอี๊ยดดด
ในขณะที่เย่จื่อเฉินกำลังจะเดินเข้าหอ รถสปอร์ตสีเงินคันหนึ่งก็จอดอย่างกะทันหัน
"คุณชายเย่ คุณชายเย่..."
ฮวางิวิ่งลงจากรถเข้ามาหาเย่จื่อเฉินอย่างลนลาน
เย่จื่อเฉินแสร้งทำเป็ยิ้มให้ฮวางิ เขาไม่ชอบเ้าหมอนี่เลย
"นี่มันคุณชายฮวางไม่ใช่เหรอเนี่ย มาหานักศึกษาจนๆ อย่างผมทำไมอีกล่ะครับ?"
ตุบ
ฮวางิคุกเข่าลงต่อหน้าเย่จื่อเฉินทันที
"คุณชายเย่ คุณชายเย่...คุณชายอย่าได้ถือสาคนโง่ทำอะไม่ไม่คิดอย่างผมเลยนะครับ คิดเสียว่าผมยังเด็กไม่รู้ความอะไรด้วยเถอะครับ"
ฮวางิพูดด้วยความจริงใจ เื่เมื่อเย็นวาน สำหรับเขาสามารถใช้คำว่าทุกข์ระทมมาขยายความได้เลย
ในใจของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว การแสดงออกของเซียวไห่และพ่อของเขา บวกกับการเปลี่ยนแปลงของชุยเสว่ฟาง ทำให้เขาเข้าใจเื่ทั้งหมด เย่จื่อเฉินไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ
เขาอยู่กับตระกูลใหญ่อย่างตระกูลเซียว อะไรที่เกี่ยวกับเื่นั้นเขาก็พอจะรู้มาบ้างแล้ว
คนคนนั้นคือยอดมนุษย์ที่แฝงตัวอยู่บนโลกเชียวนะ เซียวไห่แค่โกรธเขานั้นไม่เป็ไรหรอก แต่ถ้าไปมีเื่เย่จื่อเฉินเข้าจริงๆ แล้วอีกฝ่ายใช้อุบายอะไรลับหลังเขา เขาต้องได้รับบทเรียนครั้งใหญ่แน่นอน
และในทันใดนั้น กัวเฉียงที่กำลังจะขับรถออกไปจากมหาวิทยาลัยก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหอพักชาย
ร่างสองร่างที่คุ้นตาทำให้เขาเพ่งมองซ้ำๆ อยู่นาน แต่ด้วยระยะห่างที่ไกลเกินไปก็ทำให้มองเห็นไม่ชัด
"พี่เฉียงคะ เราไปกันเถอะค่ะ"
เหยาเยว่กอดแขนกัวเฉียงอย่างออดอ้อน กัวเฉียงเลิกคิ้ว แล้วจึงเอื้อมมือไปลูบคลำตัวเหยาเยว่เล็กน้อยก่อนจะยิ้มพร้อมกับตอบรับ
"อืม"