บทที่ 10 ลูกท้อมหัศจรรย์
"เสี่ยวเย่ เมื่อกี้นายไป..."
สีหน้าของเซียวไห่มีความหวังอยู่ในนั้น เย่จื่อเฉินไหวไหล่แล้วยื่นลูกท้อไปให้
"ยาวิเศษไม่มีแล้ว พี่เอาลูกท้อนี้กลับไปก็แล้วกัน"
กึก
หลายคนในห้องตะลึงงันไปตามๆ กัน ฮวางิถึงกับแผดเสียงด่าลั่น
"ไอ้น้อง นายหมายความว่าไง พวกฉันมาเอายาวิเศษ แล้วนายเอาลูกท้อเน่ามาหลอกพวกฉันเนี่ยนะ?"
ลูกท้อเน่า?
ใบหน้าของเย่จื่อเฉินเยือกเย็น ั้แ่ทีแรกฮวางิคนนี้ก็เอาแต่หาเื่ ต่อให้เขาเป็คนอารมณ์ดีแค่ไหนก็ฉุดขาดได้เหมือนกัน
"ฉันพูดกับพี่ชายนาย แล้วนายมายุ่งอะไรด้วย?"
"นายพูดอีกทีสิ"
ฮวางิลุกออกจากโซฟา อยู่ในเมืองปิงเฉิงนี้มาตั้งนานยังไม่เคยมีใครพูดกับเขาแบบนี้มาก่อนเลย
"ฮวางิ!"
เซียวไห่ก็โมโหแล้วเหมือนกัน พวกเขามาที่นี่ก็เพื่อมาขอร้องคนอื่น นี่คือกิริยาที่คนเรามาขอร้องคนอื่นเหรอ!
ชั่วขณะหนึ่งเขารู้สึกเสียใจ ระหว่างทางที่มาไม่น่าพาเขามาด้วยเลย
"พี่ไห่ ผมว่าผมไปก่อนดีกว่า ลูกท้อนั่น ถ้าพี่ไม่เอาก็โยนทิ้งไปก็แล้วกัน"
เย่จื่อเฉินหันหลังเดินไปเลย ซูอี้อวิ๋นที่เห็นเหตุการณ์ก็รีบเดินตามไป
เ้าฮวางิคนนี้อวดดีเกินไปแล้ว เขาก็รังเกียจเหมือนกัน
"เสี่ยวไห่ ฉันเองก็ไปแล้วนะ"
ผู้การหลิวกระตุกยิ้มเยือกเย็นที่มุมปากพร้อมกับพานายตำรวจจางเดินออกไป ภายในห้องจึงเหลือเพียงเซียวไห่และฮวางิสองคนทันที
"พี่ เ้านั่นมันไม่เห็นพี่อยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ เขากำลังล้อพวกเราเล่นชัดๆ"
"แกหุบปาก!"
เซียวไห่ะเิอารมณ์
ถ้าไม่ใช่เพราะฮวางิเื่มันก็ไม่เป็แบบนี้หรอก!
มองดูลูกท้อบนโต๊ะตัวเล็ก เซียวไห่ลังเลอยู่พักใหญ่ แล้วจึงเอาลูกท้อกลับไปด้วย
"เย่จื่อ นายจะทำอะไรกันแน่นะ ทำไมฉันรู้สึกว่าฉันดูนายไม่ค่อยออกเลย?"
ระหว่างทางกลับหอ ความแปลกใจปรากฏเต็มใบหน้าของซูอี้อวิ๋น
"ฉันก็เป็นักศึกษาจนๆ ไง!"
"ถุย นายอย่ามาตีหน้ามึน ถ้าบอกว่าแต่ก่อนนายเป็แค่นักศึกษาจนๆ ฉันเชื่อ แต่ตอนนี้นายยังกล้าพูดว่านายจนอีกเหรอ?"
ซูอี้อวิ๋นเบ้ปาก บัตรเอทีเอ็มที่มีเงินห้าล้านเสียบคาอยู่เต็มกระเป๋า ถ้ายังกล้าพูดว่าจนอยู่อีก คนอื่นก็ไม่ต้องมีชีวิตอยู่กันแล้ว
"กลับถึงหอแล้วนายห้ามพูดนะ"
สภาพของอธิบดีหลิวมันน่าตกตะลึงเกินความจริง ถ้าให้พวกที่อยู่ในหอรู้ คงจะได้ปากสว่างพูดออกไปแน่
"นายวางใจได้ ฉันจะปิดปากเงียบเลย อีกอย่างนายเองก็รู้นี่ว่าฉันไม่ได้อยู่ที่หออยู่แล้ว"
"ก็ดี"
พอกลับมาถึงมหาวิทยาลัย เย่จื่อเฉินก็รู้สึกว่าสายตาของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่มองเขานั้นดูแปลกไป
ผู้คนรอบๆ ที่พากันชี้ไม้ชี้มือมันทำให้เขาทำตัวไม่ถูก จึงจำต้องรีบสาวเท้าเดินขึ้นหอไป
"ซูเหยียน เธอดูสิ นั่นมันคนที่เอาเงินกงเต๊กฟาดหัวคนนี่"
บริเวณที่อยู่ไม่ไกลจากเย่จื่อเฉิน มีผู้หญิงสองคนยืนชะเง้อคอมองมาทางเย่จื่อเฉิน
"อืม ใช่จริงๆ ด้วย"
ซูเหยียน ดาวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปิงเฉิง
ไม่ว่าจะเป็ฐานะทางบ้าน การเรียนหรือว่ารูปร่างหน้าตา ล้วนแต่อยู่ในระดับที่คนต้องแหงนมอง ไม่รู้ว่าเป็คนรักในฝันของผู้ชายในมหาวิทยาลัยไปแล้วกี่คน
"ตอนที่มีกระทู้ข่าวของมหาลัยออกมา ฉันคิดว่าเป็พวกลูกหลานมหาเศรษฐีเสียอีก"
"ทำไมล่ะ เธอชอบลูกเศรษฐีเหรอ?"
ซูเหยียนยิ้มล้อเลียน แต่ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเธอกลับเบ้ปาก
"เชอะ ฉันไม่ชอบพวกลูกเศรษฐีแบบนั้นหรอก"
"ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเขาสิ"
"ฉันก็แค่รู้สึกว่าคนแบบนี้ร้ายมาก ใช้เงินกงเต๊กฟาดหัวคน เฮงซวยชะมัด!"
"งั้นเหรอ แต่ฉันกลับรู้สึกว่าหมอนั่นก็น่าสนใจดีนะ" ซูเหยียนหันมองตามหลังเย่จื่อเฉินด้วยรอยยิ้มสวยหวาน ก่อนจะดึงหญิงสาวที่อยู่ข้างกายแล้วเอ่ยขึ้น "เขอเข่อ ไปเถอะ เรากลับกันได้แล้ว"
"น่าสนใจ? ฉันไม่เห็นจะรู้สึกเลย"
เขอเข่อหันมองไปทางเย่จื่อเฉินเล็กน้อย แล้วจึงเดินตามซูเหยียนไป
"เ้าห้า ตอนนี้นายเป็บุคคลผู้ทรงอิทธิพลในมหาวิทยาลัยแล้วนะเว้ย"
จางรุ่ยนอนหมอบเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง เย่จื่อเฉินถึงได้เข้าใจว่าทำไมสายตาของนักศึกษาพวกนั้นถึงได้มองเขาแปลกๆ
เื่เงินกงเต๊กโดนเปิดโปงแล้ว
ตัวละครลูกเศรษฐีจอมปลอมอย่างเขาก็โดนแฉแล้ว ก็เป็ธรรมดาที่จะดึงดูดความสนใจจากผู้คน
โดยเฉพาะความคิดเห็นด้านล่างที่โพสต์ขึ้นมาใหม่นั้น เย่จื่อเฉินอดเบ้ปากไม่ได้
หลังจากที่ลูกมหาเศรษฐีที่แกล้งทำตัวยาจกโดนเปิดโปงจะต้องได้รับความชื่นชอบสิ แต่กลับโดนปฏิเสธแทนเสียอย่างนั้น
เย่จื่อเฉินไม่ได้สนใจคำพูดพวกนี้อยู่แล้ว ความสามารถของเขาตัวเขาเองย่อมรู้ดีที่สุด ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องจัดการเื่ของาาวานรให้เรียบร้อยก่อน
"ท่านซุนหงอคง"
"รีบส่งของมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!"
ซุนหงอคงตอบกลับมาแทบจะทันที
ความไวในการตอบกลับนี้ทำให้เย่จื่อเฉินกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ ดูแล้วเขาน่าจะมีความสำคัญกับซุนหงอคงอยู่มากเลย
"ขอรับ ข้าน้อยจะส่งให้ท่านเดี๋ยวนี้"
พอสแกนนมเปรี้ยวไปหนึ่งขวด อั่งเปาซองใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ทันที
"ทำไมมีแค่อันเดียว?"
าาวานรตอบกลับมา แถมมีสติกเกอร์หน้าตาโมโหต่อท้ายมาอีกสามอัน
"ท่านซุนหงอคง สมบัติล้ำข้าแบบนี้ร้องขอไม่ได้นะท่าน ข้าเองก็เหลืออยู่อันสุดท้ายแล้ว เดิมทีก็คิดว่าจะเก็บเอาไว้ใช้เอง..."
"อย่ามาเฉไฉ เชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถโยนเ้าออกจากกลุ่มได้เลยนะ"
ข่มขู่กันเหรอ!
เย่จื่อเฉินแสยะยิ้มมุมปาก
"ถ้าอย่างนั้นก็สุดแล้วแต่ท่านเถอะ ข้าพูดความจริง ถ้าท่านจะไม่เชื่อข้าก็ทำอะไรไม่ได้ แต่หากท่านพูดออกไปแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะให้ข้าส่งอั่งเปาไปให้เป็การส่วนตัวอาจจะไม่ได้มีแค่ท่านคนเดียวแล้วก็ได้"
"ช่างมันเถอะ ข้าจะไว้ชีวิตเ้าสักครั้งก็แล้วกัน!"
"ขอบคุณขอรับ"
ติ๊ง!
ระดับความสนิทของคุณและาาวานรเพิ่มขึ้นอีก10 ห่างจากระดับความไว้ใจอยู่อีก60
เมื่อเห็นระดับความสนิทที่แสดงบนหน้าจอโทรศัพท์ เย่จื่อเฉินก็ยกยิ้มมุมปาก
ของหายากต้องกักตุนเอาไว้ทำกำไร เหตุผลนี้เขาเข้าใจดี
าาวานรสนใจนมเปรี้ยว เมื่อครู่นี้เขาเพิ่งมาััได้ ถ้าอยากดึงดูดความสนใจของเขา ก็ต้องทำให้นมเปรี้ยวเป็ของหายากที่สุด แบบนี้ถึงจะสามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้ และไม่ทำให้เขารู้สึกเสียเปรียบด้วย
แอบส่องดูอยู่ในกลุ่มมาสักพัก แต่ละวันที่แอบส่องอยู่ในกลุ่มก็ดูอยู่ไม่กี่อย่าง แล้วที่คุยกันก็มีแต่เื่ที่เย่จื่อเฉินไม่เข้าใจ
เมื่อเห็นว่าคนในกลุ่มไม่ส่งอั่งเปาแล้ว เย่จื่อเฉินก็โยนโทรศัพท์ไว้ข้างหมอนแล้วเอนตัวลงนอน ในหัวคิดแต่เื่ลูกท้อผลนั้น
ไม่รู้เลยว่าลูกท้อนั้นจะมีรสชาติยังไง
บ้านตระกูลเซียว
เซียวไห่นำลูกท้อของเย่จื่อเฉินกลับมาด้วย แต่เขาไม่ได้เอาให้คุณปู่ของเขาใช้เลยในทันที
ต้องบอกก่อนว่าอาการป่วยของคุณปู่นั้นสาหัสจนอ้าปากไม่ได้แล้ว ทุกวันทำได้แค่ให้อาหารเหลวเพื่อพยุงการทำงานของกลไกร่างกายเท่านั้น อีกอย่าง ลูกท้อผลนี้จะมีผลกระทบอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ เขาต้องหาทีมแพทย์มาทำการตรวจสอบเสียก่อน
ประตูใหญ่ของทาวน์เฮาส์ถูกเปิดออก เซียวไห่นำทีมแพทย์กลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาจากทางด้านนอก แต่เมื่อเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นกลับพบว่าลูกท้อหายไปแล้ว
"อาไห่ ลูกกลับมาแล้วเหรอ"
หญิงสาวสวยคนหนึ่งเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน เซียวไห่มองผู้หญิงคนนั้นแล้วลังเลไม่กล้าพูด
หากแต่เสียงนี้บ่งบอกแน่ชัดว่าน่าจะเป็แม่ของเขา ชุยเสว่ฟาง
"อาไห่ มัวอึ้งอะไรอยู่?"
"แม่!"
เซียวไห่อ้าปากค้าง ชุยเสว่ฟางยื่นมือออกไปลูบหน้าผากเขาเล็กน้อย
"เด็กโง่คนนี้นี่ ทำไมทำท่าแบบนั้นล่ะ"
"แม่ แม่ไม่รู้เหรอครับว่ามีอะไรเปลี่ยนไป?"
"แม่มีอะไรเปลี่ยนไปเหรอ?"
ชุยเสว่ฟางมองค้อนเซียวไห่เล็กน้อย แต่เมื่อเธอกวาดตามองไปที่กระจกของห้องนั่งเล่น ทันทีที่เห็นใบหน้าของตัวเอง เธอก็ตะลึงไปทันที
หลังจากนั้นก็รีบสาวเท้าเดินไปหากระจก
"นี่มัน..."
"แม่ แม่กินลูกท้อที่วางไว้บนโต๊ะนั่นแล้วใช่ไหม"
"ใช่ไง"
เพียะ!
เซียวไห่ตบตักฉาดใหญ่ ก่อนจะควักเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าและะโลั่น
"ฮวางิ นายรีบไปขอโทษเย่จื่อเฉินเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าเขาไม่ให้อภัยนาย นายเตรียมตัวตายได้เลย!"