บทที่ 12 สุราวานรของซุนหงอคง
เมื่อฮวางิคุกเข่าลง เย่จื่อเฉินก็อึ้งไปเลย
"นายรีบลุกขึ้นมาเลยนะ..."
เมื่อเห็นว่ามีนักศึกษาเข้ามามุงเยอะขึ้นเรื่อยๆ เย่จื่อเฉินก็เลยเดินไปหยุดอยู่ข้างฮวางิและจะพยุงเขาลุกขึ้น
แต่ใครจะไปคิดว่าฮวางิไม่ลุกขึ้นยังไม่พอ กลับเปลี่ยนมาเป็กอดขาเอาไว้จนแน่นแทน
"คุณชายเย่ ขอร้องเถอะครับ ให้อภัยผมด้วย"
"นั่นมันลูกเศรษฐีจอมปลอมที่ดังอยู่ในกระทู้มหาลัยไม่ใช่เหรอ"
"ดูเหมือนว่าจะใช่นะ นี่มาเล่นละครอะไรอีกล่ะเนี่ย"
"พวกเธอดูรถสปอร์ตคันนั้นสิ ปอร์เช่911"
"แม่เ้า จริงด้วย เกิดอะไรขึ้น..."
นักศึกษาหลายคนเริ่มยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปแล้ว เว็บไซต์มหาวิทยาลัยะเิขึ้นอีกครั้งทันที
เดิมที่นี้เย่จื่อเฉินก็ขึ้นกระทู้ในหัวข้อผู้ทรงอิทธิพลอยู่แล้ว แค่โพสต์เดียวที่ใต้โพสต์ก็มีผู้ติดตามกลุ่มใหญ่ในทันที
ในเวลาเดียวกัน ตรงทางเข้าหอพักมหาวิทยาลัย
เมื่อสายตาเห็นว่านักศึกษาที่อยู่รอบตัวเริ่มถ่ายรูป เย่จื่อเฉินก็เริ่มอารมณ์เสีย เขาพยายามที่จะดึงฮวางิขึ้นมา แต่หมอนี่ก็เกาะหนึบอย่างกับกาวตราช้าง กอดเขาแน่นไม่ยอมขยับ
"ให้ตาย ถ้าไม่อยากตายก็ลุกขึ้นมาพูดดีๆ เดี๋ยวนี้"
แล้วฮวางิที่คุกเข่าอยู่กับพื้นก็ลุกพรวดขึ้นมาอย่างกับเด้งตัวกลับ
"คุณชายเย่..."
"ฉันรู้จุดประสงค์ที่นายมาที่นี่ กลับไปบอกพี่ไห่ว่า่นี้ฉันยังไม่มีของที่สามารถช่วยชีวิตปู่เขาได้ ถ้าฉันมีเมื่อไรฉันจะติดต่อไปหาเขาเอง"
"คุณชายเย่ คุณยังไม่ยกโทษให้ผมเลยนะ..."
ฮวางิทำท่าจะคุกเข่าลงอีกครั้ง เย่จื่อเฉินยอมแพ้ให้กับความไร้ยางอายของเขาเลย
"ฉันยกโทษให้นายแล้ว!"
"ไม่ คุณชายเย่ คุณยังไม่ยกโทษให้ผม"
ดูท่าจะพูดดีๆ ด้วยไม่ได้แล้ว เย่จื่อเฉินเลียริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะชี้รถสปอร์ตของฮวางิแล้วด่า
"รีบขับรถของนายออกไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้!"
"คุณชายเย่!"
"ต้องให้ฉันย้ำอีกเป็ครั้งที่สองเหรอ?"
เย่จื่อเฉินขมวดคิ้วมุ่น ฮวางิกัดฟันก่อนจะหันหลังวิ่งไปที่รถสปอร์ต และก่อนที่เขาจะไป เขาก็ยังอ้อนวอนขอร้องให้ยกโทษให้เขาไม่หยุด
ไม่ใช่เื่ง่ายเลยกว่าที่จะสลัดเ้ากาวตราช้างนี่ออกไปให้หลุดออกไปได้ จากนั้นเย่จื่อเฉินก็รีบสาวเท้ากลับหอ
"เย่จื่อ นายดังในเว็บไซต์มหาลัยอีกแล้วนะ..."
เพิ่งเข้ามาในห้อง จางรุ่ยก็โยนโทรศัพท์มาให้เย่จื่อเฉินเลย
พอรับโทรศัพท์มาดู เย่จื่อเฉินก็เห็นโพสต์ยอดนิยมบนเว็บไซต์มหาวิทยาลัย
'ลูกเศรษฐีจอมปลอมหรือลูกเศรษฐีจริงๆ ชีวิตคนก็เหมือนละคร ทุกอย่างต้องอาศัยการแสดงทั้งนั้น!'
โพสต์ที่ตามมาด้านล่างคือรูปฮวางิกอดขาเย่จื่อเฉิน และภาพที่ซูมระยะใกล้ของฮวางินั่งอยู่บนรถปอร์เช่
คำพูดคาดเดาใต้โพสต์ทำให้เย่จื่อเฉินถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ที่ทำให้เย่จื่อเฉินเหนื่อยหน่ายใจคือคอมเมนต์ตอบกลับของนักศึกษา
คอมเมนต์ตอบกลับใต้โพสต์แบ่งเป็สองฝ่าย
ในนั้นฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าเย่จื่อเฉินคือลูกเศรษฐีที่ถ่อมตัว ส่วนอีกฝ่ายคิดว่าเย่จื่อเฉินกำลังเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นอยู่
ใต้โพสต์ราวกับเป็สนามรบที่ต่างฝ่ายต่างสาดความคิดเห็นของตัวเองลงไปไม่จบไม่สิ้น
ต้องขอชื่นชมพลังการแพร่กระจายของเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเลย ตอนบ่ายที่เย่จื่อเฉินเข้าเรียนก็ได้รับการเชิญชวนจากผู้หญิงให้ไปกินข้าวเย็นด้วยกันตั้งหลายคน
สิ่งนี้เป็สิ่งที่เย่จื่อเฉินไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน ถึงจะบอกว่าเขาหน้าตาหล่อเหลาอยู่บ้าง แต่ยุคสมัยนี้มันก็เป็ยุคสมัยที่ใช้หน้าตาหากิน...
และที่ทำให้เย่จื่อเฉินเหนื่อยใจยิ่งกว่าก็คือนักข่าวกอสซิปของเว็บไซต์มหาวิทยาลัยที่ได้มาตามหาเขาด้วยเช่นกัน และบอกว่าอยากได้เขาไปสัมภาษณ์
คนกลัวการมีชื่อเสียงฉันใดหมูก็กลัวอ้วนพีฉันนั้นจริงๆ ด้วย วันนี้ในมหาวิทยาลัยพูดถึงเย่จื่อเฉินไม่หยุดเลย แม้แต่รูมเมทในห้องเจอหน้ากันก็นินทากันแล้ว ด้วยความเหนื่อยใจนี้เย่จื่อเฉินจึงจำต้องออกไปกินข้าวหน้ามหาวิทยาลัยคนเดียว
ติ๊ง!
ซุนหงอคงได้ส่งอั่งเปามาให้คุณ
โทรศัพท์ดังขึ้นมาตอนเย่จื่อเฉินนั่งกินบาร์บีคิวอยู่ในร้านปิ้งย่างข้างทาง พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็เห็นว่าาาวานรได้ส่งอั่งเปามาให้เขา
ไม่มีสิ่งใดได้มาฟรีๆ ทำดีหวังผลทั้งนั้น!
่นี้าาวานรติดต่อกับเขาบ่อยมาก เย่จื่อเฉินรู้ดีอยู่แก่ใจ เขาก็แค่อยากได้นมเปรี้ยวนั่นแหละ
กดเปิด
สุราวานร x5
"ฮ่าฮ่า ข้าว่าแล้วเชียวว่าเ้าต้องอยู่"
"ขอบคุณมากท่านซุนหงอคง"
"ไม่ต้องเกรงใจ นี่เป็สุราที่เด็กๆ ของข้าหมักดูเล่นๆ สุราห้าไหนี้หมักไว้ได้กำลังดีก็เลยคิดถึงเ้า"
"ฮ่าฮ่า ข้าแปลกใจจริงๆ ที่ได้รับการโปรดปรานแบบนี้"
เมื่อได้มาแล้วก็ต้องตอบแทน เย่จื่อเฉินยกโทรศัพท์ขึ้นสแกนน้ำสไปรท์บนโต๊ะส่งไปให้
าาวานรได้รับอั่งเปาของคุณแล้ว
"เด็กดี สิ่งนี้ของล้ำค่าอันใดอีก"
"สิ่งนี้คือสิ่งที่ข้าเพิ่งได้รับมาเมื่อไม่นานมานี้ เป็สหายกันก็ต้องแบ่งปันกัน ท่านลองชิมดูสิ"
"ดีๆ สหาย สหาย!"
เห็นได้ชัดว่าาาวานรตื่นเต้นมาก ตอบกลับมาประโยคเดียวแล้วก็หายเงียบไปอีกครั้ง
หลังจากนั้นประมาณสองนาที...
ระดับความสนิทของาาวานรกับคุณเพิ่มขึ้น30 ระดับความสนิทปัจจุบันอยู่ที่170 ห่างจากระดับความไว้ใจอยู่อีก 30
"สมบัติล้ำค่า สมบัติล้ำค่าจริงๆ ด้วย"
"ท่านซุนหงอคงชอบก็ดีแล้ว"
นับว่าเย่จื่อเฉินมองซุนหงอคงออกทะลุปรุโปร่งแล้ว ได้รับระดับความสนิทมา30คะแนนแบบง่ายๆ เลย
อีกเดี๋ยวก็ถึงระดับความไว้ใจแล้ว ไม่รู้ว่าหลังจากโปรโมชันนี้แล้วจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า
กล่าวทักทายง่ายๆ อีกสองสามประโยค เย่จื่อเฉินก็กดปิดแชท
กดเปิดสุราวานรในหีบสมบัติ และมองดูบาร์บีคิวเนื้อแกะตรงหน้า เย่จื่อเฉินจุดยิ้มมุมปาก
สุราวานร กดรับ
ขวดน้ำเต้าสีเขียวขวดหนึ่งปรากฏขึ้นมาในมือของเย่จื่อเฉิน
เมื่อเปิดจุกน้ำเต้า กลิ่นสุราก็ลอยมากระทบจมูก
"เหล้าคุณภาพ"
ทันใดนั้น ชายชราที่อยู่โต๊ะข้างๆ ก็เดินตามกลิ่นมาที่โต๊ะของเย่จื่อเฉิน
"พ่อหนุ่ม ให้ฉันดื่มสักแก้วได้ไหม"
"แน่นอนครับ"
เย่จื่อเฉินก็ไม่ใช่คนขี้งก จึงยกขวดน้ำเต้าขึ้นมารินเหล้าให้ชายชราหนึ่งแก้ว
กลิ่นสุราหอมอบอวลไปนอกร้านปิ้งย่างอยู่นานไม่จางหาย ผู้คนที่ชอบดื่มสุราหลายคนต่างพากันชะเง้อคอมองมาทางนี้ แม้แต่ผู้หญิงบางคนที่ไม่ดื่มสุราก็ยังอดไม่ได้ที่จะดมกลิ่นดู
"สุราวานร" ชายชราจิบดูนิดหน่อยแล้วพูด "แต่กลับหอมกลมกล่อมกว่าสุราวานรทั่วไป แอลกอฮอล์ก็ดูเหมือนจะน้อยกว่า ไม่ได้ ฉันต้องจิบอีกหน่อย"
ชายชราพูดเอออออยู่กับตัวเอง เย่จื่อเฉินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
แค่จิบดูก็รู้รสแล้ว ชายชราคนนี้ไม่ธรรมดาเลย
"ปู่ แอบกินเหล้าอีกแล้วนะคะ!"
เสียงหวานดังขึ้นมา ชายชราที่หน้าตาเต็มไปด้วยความสุขสะดุ้งใ ก่อนจะกระดกเหล้าในแก้วดื่มรวดเดียวจนหมด หลังจากนั้นก็ทำเหมือนไม่มีอะไร และยกขาขึ้นไขว่ห้างพร้อมฮัมเพลง
"ปู่คะ หมอบอกว่าปู่กินเหล้าไม่ได้นะคะ"
"ปู่กินเหล้าเมื่อไรกันเล่า?"
ชายชราแกล้งทำเป็ไขสือ
"ยังจะมาบอกว่าไม่ได้กินอีก เมื่อกี้หนูเห็นหมดแล้วค่ะ แถมกลิ่นเหล้าก็ยังไม่จางด้วย ถ้าจะโกหกก็ให้มันเนียนหน่อยสิคะ แล้วอีกอย่าง ถ้าปู่ไม่ได้กินแล้วจะวิ่งมาที่โต๊ะคนอื่นทำไม"
"คนในร้านปิ้งย่างก็กินเหล้ากันทั้งนั้น ทำไมถึงคิดว่าปู่ต้องกินด้วย?" แล้วชายชราก็แกล้งทำเป็โวยขึ้นมา และในขณะเดียวกันก็หันไปบุ้ยปากพูดกับเย่จื่อเฉิน "ปู่เห็นว่าพ่อหนุ่มนี้กินบาร์บีคิวอยู่คนเดียวแล้วคงจะเบื่อ ก็เลยมาคุยกับเขาคำสองคำ ใช่ไหมพ่อหนุ่ม"
ชายชราพยายามส่งซิกให้เย่จื่อเฉิน เพื่อ้าให้เย่จื่อเฉินช่วยเขาโกหก แต่กลับพบว่าเย่จื่อเฉินนั้นแข็งทื่อไปแล้ว
ผู้หญิงที่เรียกชายชราตรงหน้านี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือซูเหยียนดาวมหาลัยนั่นเอง