โลหิตทะลักออกจากลำคอราวกับสายน้ำ เดิมทีนางคิดว่าโลหิตของนางน่าจะไหลหมดตัวไปนานแล้วคาดไม่ถึงว่ายังคงเหลือมากถึงเพียงนี้ มันไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง จนไม่รู้ว่านานเท่าใดจึงจะหยุดหายใจหรือขาดใจตายเสียทีความเ็ปเช่นนี้เพียงพอที่จะทำให้นางจดจำไปตลอดกาล
กงอี่โม่สะดุ้งตื่นขึ้นทันใด มือของนางจับลำคอพร้อมหายใจแรงภาวะหยุดหายใจเกิดขึ้นในความฝันอีกครั้ง ราวกับถูกประทับลึกเข้าสู่กระดูกกลายเป็ฝันร้ายชั่วชีวิต
กงอี่โม่มองตำหนักเย็นที่ถูกทอดทิ้งอย่างเดียวดายเบื้องหน้า นางมึนงงไปชั่วขณะใช่แล้ว นางกลับมาเกิดใหม่ได้สามวันแล้ว ่วินาทีสุดท้ายของชีวิต นางเห็นสัญลักษณ์ดอกบัวบนนิ้วมือของนางสะท้อนประกายออกมาจากนั้นนางจึงกลับมาเกิดใหม่ตอนอายุเจ็ดขวบ เป็่ชีวิตวัยเยาว์ในตำหนักเย็นตอนที่นางยังไม่ได้หนีออกจากวัง
ส่วนเพราะเหตุใดจึงต้องอยู่ในตำหนักเย็นนางคงต้องพรรณนาอย่างยาวนานเมื่อกล่าวถึงเื่นี้
แผ่นดินนี้มีลักษณะเหมือนราชวงศ์ถัง* ในอีกมิติเวลาเนื่องจากประวัติศาสตร์ใน่ราชวงศ์ฮั่น* เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่สุดท้ายจึงเกิดเป็ราชวงศ์ต้าอวี้ในปัจจุบัน ราชวงศ์ต้าอวี้นี้รุ่งเรืองมาสองสมัยแล้วและปัจจุบันคือสมัยที่สาม
หลังจากผ่านเหตุการณ์วุ่นวายในสมัยแรกและค่อยๆ พัฒนามากขึ้นในสมัยที่สองราชวงศ์ต้าอวี้ในปัจจุบันก็เจริญก้าวหน้าอย่างที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน กงเซิ่งผู้เป็จักรพรรดิทรงมีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงมีกำลังวังชาไร้ขีดจำกัด ถือเป็่ที่มีความทะเยอทะยานอย่างยิ่ง ทรงมีแผนการอันยิ่งใหญ่ขึ้นครองราชย์ได้สิบกว่าปีก็สามารถยึดครองแคว้นเล็กแคว้นน้อยบริเวณรอบๆ ได้หลายแคว้นและขยายอาณาเขตแผ่นดินต้าอวี้ แผ่อำนาจบารมี ทำผลงานมหาศาล ผู้คนต่างชื่นชมในพระปรีชาสามารถของพระองค์
ดั่งคำกล่าว รักแผ่นดินและรักสาวงาม ฮ่องเต้ผู้แผ่นดินในใต้หล้าพระองค์นี้ทรงมีความสนพระทัยสาวงามอย่างยิ่งในอดีตเคยมีฮ่องเต้ที่สาวงามสามพันนาง แต่วังหลังของกงเซิ่งกลับมีสตรีถึงสามหมื่นนางอีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเสียด้วย เขาชื่นชอบการแย่งชิงสตรีจากผู้อื่นเป็อย่างยิ่งส่วนพระมารดาของกงอี่โม่ก็คือสตรีที่กงเซิ่งแย่งชิงมาในตอนนั้น
ตอนที่แย่งเสวี่ยเหลียนมานั้นนางไม่เหมือนกับสิ่งที่ได้จากชัยชนะเหมือนในอดีตเพราะขณะนั้นนางตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนแล้ว
ตอนแรกกงเซิ่งยังคงยุ่งกับการนำทัพกลับแผ่นดินพร้อมชัยชนะ จึงไม่ทราบในเื่นี้แต่เมื่อรอจนทราบความจริงแล้ว เหตุการณ์ทุกอย่างกลับสายจนเกินไป
กงเซิ่งไม่สนพระทัยว่าสตรีที่แย่งมายังคงบริสุทธิ์หรือไม่ ทว่าการมีครรภ์ติดมาด้วยถือเป็ความอัปยศอย่างยิ่งดังนั้น เขาจึงรับสั่งให้เสวี่ยเหลียนที่เพิ่งได้รับการสถาปนาแต่งตั้งเป็เสวี่ยเฟยเอาเด็กออกทว่าเสวี่ยเฟยต่อรองด้วยความตาย นางสาบานว่าถึงต้องตาย ก็ไม่มีวันยอม
สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ กงเซิ่งผู้แข็งกร้าวมาตลอดกลับยอมรับเงื่อนไขนี้สุดท้ายเขาจึงรับสั่งให้ผู้ที่รู้เื่นี้แต่ไม่อาจสังหารได้ห้ามเอ่ยถึงเื่นี้เด็ดขาดเขายอมรับบุตรสาวที่นางคลอดออกมา อีกทั้งยังตั้งชื่อว่า อี่โม่ กงอี่โม่
ชื่อนี้ไม่ใช่แค่ชื่อขององค์หญิงพระองค์หนึ่งเท่านั้น แต่เป็การแสดงอำนาจของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่้าใช้ชื่อนี้ประกาศถึงความรักที่เขามีต่อสตรีผู้ดื้อรั้นนางนั้นเขาผู้เป็จักรพรรดิ สาวงามถึงสามหมื่น แต่กลับ้าจับมือฟันฝ่าอุปสรรคครองรักกับสตรีเพียงนางเดียว**
ความโปรดปรานของฮ่องเต้ที่มีต่อเสวี่ยเฟยจึงถูกประกาศศักดาด้วยชื่อของกงอี่โม่เช่นนี้อีกทั้งยังบรรลุเป้าหมายถึงจุดสูงสุด
น่าเสียดาย แต่ไหนแต่ไรเสวี่ยเฟยไม่ใช่สตรีที่เชี่ยวชาญด้านการวางแผนกลอุบายแม้ว่ากงเซิ่งจะปกป้องดูแลนางอย่างเข้มงวดรัดกุม สุดท้ายนางยังคงหนีไม่พ้นการวางแผนกลั่นแกล้งจากฝ่ายในขณะที่กงอี่โม่อายุสามขวบนั้น นางถูกวางยาพิษจนสิ้นใจ อีกทั้งก่อนขาดใจ นางได้บอกความจริงกับบุตรสาวของนางว่าฮ่องเต้พระองค์นี้ไม่ใช่บิดาที่แท้จริงของนาง
ตอนนั้นกงเซิ่งทั้งเสียพระทัยและโกรธจัด!
เมื่อสูญเสียมารดาผู้เป็ที่โปรดปรานแล้วกงอี่โม่ตัวน้อยผู้มีสถานะพิเศษจึงถูกละเลยในชั่วข้ามคืน
กงเซิ่งไม่ยอมพบนางอีก ส่วนพระชายาพระองค์อื่นที่อิจฉาเสวี่ยเฟยกลับรู้สึกยินดีปรีดาอย่างยิ่งองค์หญิงน้อยไม่เป็ที่โปรดปราน ไม่มีตระกูลทางมารดา เมื่อถูกส่งเข้าตำหนักเย็นแล้วนางจึงป่วยหนักภายในระยะเวลาไม่ถึงสองเดือน ชาติก่อนนางทะลุมิติมาตอนที่นางอายุสามขวบ ทว่าชาตินี้นางกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งช้ากว่าเดิมถึงสี่ปี
ชาติก่อนนางโชคดีมาก เมื่อตื่นขึ้นมาได้ไม่นานก็มีโอกาสพบอาจารย์ผู้เดินทางมาเยี่ยมเยียนต้าอวี้พอดีเมื่อถูกรับเป็ศิษย์แล้ว นางจึงถูกพาขึ้นูเาอวิ๋นติ่ง
ชาตินี้นางกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งตอนอายุเจ็ดขวบ พลาดโอกาสได้คารวะอาจารย์ไปนานแล้วอีกทั้งเมื่อย้อนคิดถึงภาพความทรงจำที่ผ่านมาในชาตินี้ องค์หญิงผู้นี้ป่วยอยู่ในตำหนักเย็นนานถึงสี่ปีนางจึงรู้ได้ทันทีว่าร่างกายของนางในตอนนี้อ่อนแอมากเพียงใด
เมื่อครุ่นคิดอยู่นานพอสมควร นางจึงเริ่มรู้สึกหิวบ้างแล้วซึ่งปกติร่างกายของเด็กน้อยก็มักจะทนหิวไม่ค่อยได้อยู่เป็ทุนเดิม
นางลูบคลำแขนผอมแห้งของตนรวมทั้งใบหน้าเหลืองซีดเพราะขาดสารอาหาร อืมเลิกคิดถึงกล้ามเนื้อแข็งแรงสวยงามที่ได้จากการฝึกวรยุทธ์ในอดีตได้เลย ตอนนี้นางมีเพียงหนังหุ้มกระดูกเท่านั้น
กงอี่โม่มองอาหารเหลือทิ้งบนโต๊ะที่ถูกส่งมาั้แ่เมื่อวานนี้ นางถอนหายใจอยู่ชั่วครู่พลิกผ้าห่มอันมอมแมมและแข็งกระด้างออก ะโลงจากเตียงหารองเท้าที่ไม่พอดีเท้าคู่หนึ่งออกมา เมื่อสวมแล้ว นางจึงเดินออกไปด้านนอกอย่างระมัดระวัง
สถานที่ที่นางพักอาศัยเป็เรือนไม้แกะสลักอย่างประณีตสวยงาม ทว่าตำหนักเย็นก็คือตำหนักเย็นนอกจากมีกระเื้ัคาอันสวยงามและนางกำนัลจำนวนน้อยนิดจนน่าสงสารแล้ว ที่นี่ก็ไม่มีอะไรอีก
ตำหนักเย็นถูกแบ่งเขตด้วยทางเดินสายเล็กๆ สายหนึ่ง โดยตำหนักเย็นส่วนที่อยู่ด้านขวาของทางเดินสายนี้เป็ที่พักอาศัยของพระสนมชายาส่วนทางด้านซ้ายเป็ที่พักอาศัยของพระโอรสและพระธิดาที่กระทำความผิดและไม่เป็ที่โปรดปรานทว่าชาติที่แล้วนางอยู่ที่ตำหนักเย็นเพียงไม่นานก็ถูกอาจารย์พาตัวจากไปจึงไม่รู้ว่ามีใครบ้างที่อยู่ในบริเวณนี้เหมือนกับนาง
เมื่อเดินวนจนทั่วแล้ว ในที่สุดกงอี่โม่จึงขโมยอาหารและน้ำบางส่วนมาจากเรือนของแม่นมผู้ดูแลตำหนักเย็นนางกัดหมั่นโถวและเดินกลับไปยังเส้นทางเดิมพร้อมครุ่นคิดเื่ราวในชีวิตของตน
์คงเมตตานางอยู่ไม่น้อย เมื่อนับการทะลุมิติมาก่อนหน้านี้นางได้ใช้ชีวิตมาสองชาติภพแล้ว แม้ว่าทั้งสองชาติภพนางจะเสียชีวิตค่อนข้างเร็ว อีกทั้งยังตกอยู่ในสภาพน่าอนาถทว่าชาติที่สามในครั้งนี้ นางจะใช้ความได้เปรียบเื่กาลเวลาและสถานที่สร้างชีวิตใหม่ให้ตนเองหากยังไม่สามารถใช้ชีวิตจนถึงบั้นปลายมันก็คงจะเกินไปหน่อย
ต่อไปนางจะเดินบนเส้นทางชีวิตรูปแบบใดดี?
แก้แค้น?
นางยังคงมีความแค้นและความไม่ยอมแพ้ ทว่านางจะยอมแลกชีวิตในชาติที่สามซึ่งได้มาอย่างไม่ง่ายเลยในครั้งนี้กับคนเลวทรามสองสามคนนั้นอย่างนั้นหรือ? มันช่างไม่คุ้มค่าเอาเสียเลยต่อไปหากมีโอกาสแก้แค้น นางก็จะแก้แค้นให้เต็มที่ ทว่านางไม่มีทางทำทุกอย่างเพื่อตั้งใจแก้แค้นโดยตรงแน่
ออกไปจากที่นี่?
ชาตินี้นางกลับมาเกิดใหม่ช้าเกินไป นางไม่มีโอกาสพบกับอาจารย์ อีกทั้งเขตพระราชวังมีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดรัดกุมส่วนนางอายุยังน้อย สุขภาพร่างกายอ่อนแอ นอกจากนี้ยังไม่มีคนนอกคอยช่วยเหลือ หากคิดจะหนีไปจากที่นี่ด้วยตัวคนเดียวจึงเป็เื่ที่เป็ไปไม่ได้อีกอย่างการค้ามนุษย์ในสมัยโบราณไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย ตอนนี้นางยังไม่สามารถปกป้องตนเองได้การออกไปเผชิญหน้ากับโลกภายนอกจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก
ถ้าเช่นนั้นคำตอบจึงมีเพียง...
สายตาของกงอี่โม่ทอดมองไปยังตำหนักหลวงที่อยู่ห่างออกไปที่นั่นเป็ใจกลางพระราชวังที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด นางแอบครุ่นคิดอยู่ในใจ
ไม่ว่าอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการฝึกวรยุทธ์ก่อน
ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้นพลันมีเสียงด่าทอดังลอยมา กงอี่โม่ขยับตัวหลบอยู่ตรงมุมหนึ่งพร้อมแอบฟังอย่างตั้งใจดูเหมือนว่าเสียงนี้ไม่ได้กำลังด่าทอนาง
กงอี่โม่ปีนต้นไม้มองเข้าไปในเรือนอีกฟากหนึ่งของกำแพง นางเลิกคิ้วเล็กน้อยคาดไม่ถึงว่านอกจากนางแล้ว นางยังมีพี่น้องคนอื่นที่อยู่ในตำหนักเย็นเหมือนกับนางใช่แล้ว ฮ่องเต้พระองค์นี้มีโอรสธิดามากมาย ไม่รู้ว่าใครกันที่โชคร้ายถูกส่งตัวมาที่นี่
“เ้าคิดว่าเ้ายังเป็องค์ชายสูงศักดิ์อยู่อีกหรือ? ถุย!ข้าขอบอกเ้าว่า ในพื้นที่แห่งนี้ ข้าก็คือกฎ! ข้าบอกให้เ้าดื่ม เ้าก็ต้องดื่ม!”
เสียงแหลมสูงเสียงหนึ่งดังลอยมา กงอี่โม่เห็นขันทีเฒ่าในชุดขันทีระดับล่างกำลังกระชากคอเสื้อเด็กน้อยผู้หนึ่งแม้ว่าท่าทางของเขาจะโเี้อำมหิต ทว่าสีหน้าเขากลับดูเคร่งเครียดกดดันอย่างเห็นได้ชัดมือที่จับชามกุมไว้อย่างแ่า จนยาที่อยู่ในชามกระฉอกออกมาอยู่ไม่น้อย
เด็กชายรูปงามในชุดผ้าแพรที่เล็กกว่าขนาดตัวถูกอีกฝ่ายจับโยนลงบนพื้นั์ตาโตของเด็กชายสะท้อนประกายดื้อรั้น ทว่าเนื่องจากร่างกายขาดสารอาหาร ใบหน้าซูบผอมจึงซีดขาวอย่างเห็นได้ชัดดังนั้น แม้เด็กน้อยจะพยายามถลึงตามากเพียงใด อีกฝ่ายก็ไม่ได้รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย
“ไอ้สุนัขถูกตอน***!”น้ำเสียงแหบแห้งไร้เดียงสาของเด็กน้อยเอ่ยคำที่ทำให้ผู้ฟังต้องโกรธจนตัวสั่น
* ราชวงศ์ถังอยู่ระหว่าง ค.ศ. 618 – 907 ส่วนราชวงศ์ฮั่นอยู่ระหว่าง202 ปีก่อนคริสต์ศักราช - ค.ศ. 220
**相濡以沫 (xiāng rú yǐ mò เซียง หรู อี่โม่) (濡 หรู ทำให้เปียกชื้น / 沫 โม่ น้ำลาย) เดิมหมายถึงในสถานการณ์น้ำแห้งขอด ปลาสองตัวที่กำลังใกล้ตาย ต่างฝ่ายต่างหันปากเข้าหากันใช้น้ำลายสร้างความชุ่มชื้นให้อีกฝ่ายเพื่อให้มีชีวิตรอดต่อไป หรือต่างฝ่ายต่างใช้น้ำลายในปากทำให้ลำตัวของอีกฝ่ายเปียกชื้นภายหลังคำนี้ใช้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาหรือมิตรสหาย ขณะที่เผชิญหน้ากับสถานการณ์ลำบากต่างคนต่างใช้พลังอันน้อยนิดของตนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
***阉狗 (yān gǒu เอียน โก่ว) (阉 เอียน ตัดอวัยวะสืบพันธุ์ทิ้ง / 狗 โก่ว สุนัข) เป็คำใช้ดูิ่ขันที