หลิงเฉินลุกขึ้นจากพื้นด้วยความเร็วสูงสุด จากนั้นจึงใช้พลังทั้งหมดของเขารักษาการทรงตัวและต่อสู้กับความรู้สึกอ่อนล้าภายในร่างกายเพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าคางคกั์ มันอันตรายมากๆ หากร่างกายไม่มั่นคง
อ๊บ!
อ๊บ!!
อ๊บ!!!!
ทว่าวินาทีต่อมากลับไม่มีการโจมตีครั้งถัดไปมาถึงคางคกั์ยกหัวของมันขึ้นก่อนส่งเสียงร้อง “อ๊บ” ออกมา มันส่งเสียงร้องดังขึ้นๆและท้ายที่สุดก็ดังจนแสบแก้วหู
ท่านี้...
‘คลื่นเสียงแห่งความโลภ’ ?ไม่! นี่ไม่ใช่เสียงของท่า ‘คลื่นเสียงแห่งความโลภ’ ท่านี้คือสกิลอะไร?นอกจากท่า ‘ผ่าผสุธา’ที่มันจะเปิดใช้งานได้ก็ต่อเมื่อพลังชีวิตน้อยกว่า 10% แล้วเขาคุ้นเคยกับท่าโจมตีที่เหลือทั้งหมดของคางคกั์ แต่ท่าทางและน้ำเสียงนี้ไม่เหมือนกับท่าโจมตีที่เขารู้จัก...
เดี๋ยวก่อน!!
มันอาจจะเป็...สกิลลับ!?
บอสระดับลอร์ดและระดับที่เหนือกว่านี้มักจะมีสกิลลับหนึ่งสกิลหรือแม้แต่หลายสกิลการเปิดใช้งานสกิลลับเหล่านี้ต้องผ่านเงื่อนไขพิเศษและไม่สามารถมองเห็นได้จากการตรวจสอบโดยวิธีปกติรวมทั้งการใช้ม้วนสกิลตรวจสอบ
ตอนที่หลิงเฉินตระหนักได้ถึงเื่นี้เสียงของระบบก็ดังขึ้นข้างๆ หูของเขา...
“ดริ๊งคำเตือน!คางคกั์แห่งความละโมบเปิดใช้งานสกิลอัญเชิญลับซึ่งไม่รู้จัก โดยสกิลอัญเชิญจะเปิดใช้งานทุกๆครึ่งชั่วโมง เมื่อพลังชีวิตของมันต่ำกว่า 50% โปรดเผชิญหน้ากับมันด้วยความระมัดระวัง”
สกิลอัญเชิญ!?
ภายใต้ความประหลาดใจของหลิงเฉิน ลำแสงสีดำและสีเขียว5 ลำก็ทอดลงมาจากท้องฟ้าในฉับพลัน มันทอดลงมารอบๆ ตัวของคางคกั์สะท้อนเป็ภาพร่างสีดำแกมเขียวจำนวน 5 ร่าง
พวกมันคือคางคกร่างใหญ่ 5 ตัวที่ถึงแม้ว่าขนาดของพวกมันจะเทียบไม่ได้กับคางคกั์แห่งความละโมบ แต่ขนาดตัวของพวกมันก็ยังใหญ่กว่ามนุษย์อยู่ดี
[คางคกกินคนร่างใหญ่]: ประเภท:อสูร เลเวล: 10 ระดับ: หัวหน้า 2 ดาว HP:1,600 หน่วย คางคกร่างใหญ่ซึ่งถูกอัญเชิญมาโดยคางคกั์แห่งความละโมบมันมีความสามารถในการโจมตีที่น่ากลัว และยังมีปากขนาดใหญ่ซึ่งสามารถกลืนมนุษย์ผู้ใหญ่หนึ่งคนได้สบายๆคุณควรระวังอุ้งเท้าและลิ้นสากๆ ของมัน
คางคกกินคน 5 ตัว มอนสเตอร์ระดับหัวหน้า 2 ดาว เลเวล 10 จำนวน 5 ตัว!
ทันใดนั้นคางคกกินคนซึ่งถูกอัญเชิญมาะโเข้าหาหลิงเฉินจากทั้งสองฝั่งเพราะพวกมันมีความสามารถในการะโที่สูงจึงทำให้การะโหนึ่งครั้งได้ระยะทาง 4-5 เมตรพวกมันะโสองถึงสามครั้งก็เข้าใกล้เขาจากทางด้านซ้ายและขวา ในเวลาเดียวกันนี้มือของคางคกั์ก็ขว้างก้อนหินขนาดใหญ่มาทางเขา
ตูม!!
หลิงเฉินม้วนหลังสองตลบ หลบก้อนหินั์และเศษหินที่กระเด็นออกมาแต่หลังจากที่เขาทรงตัวได้ เงาสีดำและสีเขียวทั้งสามร่างก็กระโจนเข้าใส่เขา เนื่องจากจิตใจของเขาเหนื่อยล้าสุดขีดจึงทำให้หลบการโจมตีนี้ไม่พ้นและโดนการโจมตีจากคางคกร่างใหญ่ทั้งสามตัว
-78, -76, -80!
พลังชีวิตทั้งหมด 270 หน่วยของหลิงเฉินลดลงอย่างรวดเร็วจนเข้าสู่สภาวะวิกฤติหากเขาไม่ได้กินผลโลหิตสีชาดเข้าไปก่อนหน้านี้ ในเวลานี้เขาคงตายไปแล้ว ภายหลังจากการโจมตีทั้งสามครั้งหลิงเฉินเดินโซซัดโซเซไปด้านหลังสองสามก้าว และชนเข้ากับผนังที่อยู่ด้านหลัง โชคดีที่เขาเกาะผนังด้านหลังไว้แน่นจึงทำให้เขาแค่เกือบจะล้มลงบนพื้นหากเขาหกล้มและได้รับาเ็จากการจู่โจมของคางคกกินคนอีกรอบเขาคงไม่รอดแน่นอน
หลิงเฉินหมุนตัวหลบการโจมตีของคางคกั์ที่เหลือ2 ตัวและหนีออกห่างจากพวกมันอย่างไวด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่ 120 รวมทั้งรีบกลืนยาส้มซึ่งเป็หนึ่งในยาเพิ่มพลังชีวิตสูตรพิเศษของหวังจี๋
“ดริ๊ง คุณใช้‘ยาเพิ่มพลังชีวิตสูตรพิเศษของหวังจี๋’ HP +200 ระยะเวลาแสดงผล1 ชั่วโมง”
ยาเพิ่มพลังชีวิตสูตรพิเศษซึ่งเขาคิดว่าไม่จำเป็ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากใช้มัน ก่อนหน้านี้แค่การเผชิญหน้ากับคางคกั์แห่งความละโมบก็ยากสุดขีดแล้วแต่ยังดีที่เขามีมันเป็คู่ต่อสู้เพียงแค่ตัวเดียว อีกทั้งไม่มีสิ่งอื่นใดรบกวนทว่าตอนนี้ความไม่สงบได้เข้ามาหาเขาแล้ว และพวกมันยังมาพร้อมกันถึง 5 ตัวในครั้งเดียว
เขาต้องจัดการกับคางคกตัวเล็กๆ พวกนี้ก่อนไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะทำอย่างอื่นต่อไม่ได้
ตูม!!
คางคกั์กระโจนเข้าใส่เขา หลิงเฉินหลบหลีกได้อย่างหวุดหวิดแต่ทว่าการตอบสนองของเขาช้าลงอย่างเห็นได้ชัดจึงทำให้เขาเกือบหกล้มจากการสั่นะเืของพื้นดินสายตาของเขาเปลี่ยนเป็เฉยเมย ก่อนพุ่งเข้าหาคางคกร่างใหญ่ พร้อมกับใช้สกิล‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ กวาดโจมตีพวกมันทั้ง 5 ตัว ซึ่งรวมกลุ่มกันเพื่อจะะโเข้ามาจู่โจมเขาในระหว่างช่องว่างที่เกิดขึ้นภายหลังการโจมตีของคางคกั์
ฟู่ว ฟู่ว ฟู่ว ฟู่ว ฟู่ว!
หลิงเฉินหลบการโจมตีของคางคกทั้ง 5 ตัวด้วยการบิดตัวเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็พุ่งตัวไปข้างหน้า ก่อนจะใช้ท่า‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ โจมตีเข้าใส่คางคก 3 ตัว ที่อยู่ใกล้กับเขามากที่สุด
-110, -108, -111!
เป็เื่ธรรมดาที่พลังป้องกันและอัตราการหลบหลีกของคางคกกินคนไม่สามารถเทียบได้กับคางคกั์แห่งความละโมบอีกทั้งภายใต้ผลของยาเพิ่มพลังชีวิตและยาเพิ่มค่า STR จึงทำให้การโจมตีทั้งหมดของหลิงเฉินเข้าเป้าทุกครั้งและสร้างความเสียหายได้มากกว่า100 หน่วย จากนั้นหลิงเฉินพุ่งไปทางด้านหลังของคางคกกินคนก่อนหันกลับไปโจมตีด้วยท่า ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’เข้าทางด้านหน้า...
-204, -100, -101!
นับเป็อีกครั้งหนึ่งที่การโจมตีของหลิงเฉินทั้งหมดเข้าเป้าและในเวลาเดียวกันนี้การโจมตีของคางคกั์ก็ได้มาถึง ลิ้นสากๆ อันน่าสยดสยองพลันจู่โจมเข้ามาจากทางด้านหลัง
อันตรายที่จู่ๆ ก็พุ่งเข้ามาใกล้เขาไม่ได้ทำให้หลิงเฉินหมุนตัวกลับไปแต่เขากลับะโถอยหลังด้วยระยะห่างแค่ปลายเส้นผม ก่อนจะม้วนตัวหลายตลบ หลบหลีกลิ้นของคางคกั์ได้อย่างเฉียดฉิวและขึ้นไปอยู่บนลิ้นของมันจากนั้นเขาะโขึ้นไปบนหัวของคางคกั์ พร้อมกับที่มันม้วนลิ้นกลับไป เขาก็ใช้ท่า‘จู่โจมเต็มกำลัง’ โจมตีออกไปอย่างไร้ความปราณี
-50, MISS ,-51!
จิตใจของหลิงเฉินเกินขีดจำกัดของมันไปแล้ว ร่างกายของเขาแทบจะยืนได้ไม่มั่นคงแต่เมื่อความตายใกล้เข้ามาจิตใจของเขาก็ยังคงตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ร่างกายของเขายังคงะเิการเคลื่อนไหวอันน่าหวาดกลัวออกมาได้อย่างต่อเนื่องไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ว่าแท้จริงแล้วอะไรเป็สิ่งที่ทำให้ร่างกายและจิตใจของเขาอดทนมาได้จนถึงตอนนี้และไม่พังทลายลง
ขีดจำกัดที่แท้จริงของเขา แท้จริงแล้วมันอยู่ตรงไหนหรือบางทีเขาอาจจะไม่มีขีดจำกัด!?
อ๊บ!!
หลังจากการโจมตีทั้ง 3 ครั้งหลิงเฉินก็ถูกเหวี่ยงออกมาเหมือนกับทุกครั้ง แต่ทิศทางที่เขาถูกเหวี่ยงออกไปนั้นกลับเป็ตำแหน่งของคางคกร่างใหญ่ทั้ง5 ตัว เมื่อพวกมันเห็นเขาตกลงมา คางคกกินคนทั้ง 5 ตัว ก็อ้าปากขนาดใหญ่ของพวกมัน และแลบลิ้นสากๆ ซึ่งมีความยาว 1 เมตร มาทางเขาพร้อมกัน
รูม่านตาของหลิงเฉินหดตัวอย่างรุนแรงเขากัดฟันแน่นก่อนจะกลืนยาส้มซึ่งเพิ่งจะหมดเวลาคลูดาวน์อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้พลังชีวิตของเขาพุ่งขึ้นไปที่436 หน่วย จากนั้นจึงหันไปเผชิญหน้ากับการโจมตีของคางคกกินคนและโจมตีด้วยท่า‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ กวาดลงข้างล่าง
-76, -80, -82, -77, -79
-110, -141, -108!
หลิงเฉินกวาดโจมตีคางคกทั้ง 5 ตัวและในเวลาเดียวกันนี้ลิ้นสากๆ ของพวกมันก็เข้าปะทะกับร่างของเขาจนทำให้พลังชีวิตของหลิงเฉินที่เพิ่งพื้นขึ้นมาเกือบหมดหลังจากโจมตีเสร็จ หลิงเฉินเหลือพลังชีวิตแค่เพียงไม่กี่สิบหน่วยเท่านั้น เขาไม่แม้แต่จะคิดรีบใช้ความเร็วสูงสุดวิ่งไปข้างหน้า เนื่องจากเวลาคลูดาวน์ของยาอยู่ที่ 5 วินาที อีกทั้งใน่เวลาคลูดาวน์นั้นยาประเภทเดียวกันจะไม่สามารถใช้งานได้และเขาซึ่งตอนนี้อยู่ในสภาวะวิกฤติไม่สามารถทนการโจมตีของคางคกกินคนได้อีกแม้แต่เพียงหนึ่งตัวฉะนั้นแล้วในตอนนี้เขาต้องเลิกโจมตีและทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปกับการพื้นฟูพลังชีวิตในขณะเดียวกันหลิงเฉินก็ตระหนักได้ว่า ก่อนที่เขาจะกำจัดคางคกกินคนทั้ง 5 ตัวได้ ไม่ว่าเขาจะมีโอกาสดีสักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถโจมตีคางคกั์แห่งความละโมบได้และยิ่งคางคกกินคนมีชีวิตอยู่นานเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้อันตรายมากขึ้นเท่านั้น
20 วินาทีต่อมา ภายใต้การวิ่งและหลบหลีกเพียงอย่างเดียวในที่สุดหลิงเฉินก็สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้โดยใช้ยาแดงซึ่งช่วยฟื้นพลังชีวิต100 หน่วย เขามียาส้มซึ่งสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้ 200 หน่วย แค่สิบกว่าขวดเท่านั้นเช่นนั้นแล้วเขาต้องใช้มันใน่เวลาวิกฤติเท่านั้น เขาจะใช้พวกมันอย่างเปล่าประโยชน์ไม่ได้
เมื่อฟื้นฟูพลังชีวิตจนเต็ม ดวงตาของหลิงเฉินก็เปล่งแสงอันเย็นเยียบออกมาจากนั้นเขาก็พุ่งตรงเข้าไปหาคางคกกินคน พร้อมกับความเสี่ยงที่เขาอาจจะได้รับาเ็จากการโจมตีร่วมกันของคางคกกินคนและคางคกั์แห่งความละโมบ
-106, -112, -117!
-110, -141, -108!
-111, -103, -220
…….
เพียงแค่การโจมตีของคางคกั์แห่งความละโมบก็น่ากลัวพอแล้วแต่ตอนนี้มีคางคกกินคนเพิ่มมาอีก 5 ตัว ส่งผลให้ความกดดันของหลิงเฉินเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว เขาสามารถมุ่งความสนใจไปได้แค่การหลบการโจมตีของคางคกั์แห่งความละโมบซึ่งสามารถฆ่าเขาได้ในครั้งเดียวเท่านั้นจึงทำให้ร่างกายที่เหนื่อยล้าของเขาถูกคางคกกินคนโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างไรก็ตามการโจมตีของเขาก็ยังคงกวาดผ่านคางคกกินคนในระหว่างที่หลบหลีกด้วย
-109, -112, -100
อ๊บ!!
ในที่สุดหลังจากการโจมตีด้วยท่า ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’หลายสิบครั้ง พลังชีวิตของคางคกกินคนทั้ง 3 ตัว ก็หมดลงในคราเดียวกันและตกตายภายใต้ดาบแห่งจิตของหลิงเฉิน
“ดริ๊งคุณฆ่า ‘คางคกั์กินคน’ระดับหัวหน้า 2 ดาว จำนวน 3 ตัว สำเร็จชื่อเสียง +60 แต้มสกิล +60 แต้มสกิลปัจจุบัน:150 แต้ม”
เมื่อกำจัดคางคกกินคน 3 ตัวลงได้ความกดดันของหลิงเฉินก็ลดลงทันที แต่เขายังไม่เริ่มโจมตีต่อ เขาเพียงแค่หลบลิ้นสากๆของคางคกั์แห่งความละโมบ ก่อนจะวิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็วและเปิดหน้าต่างสกิลของเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากนั้นจึงเพิ่มแต้มสกิล 150 แต้ม ลงไปที่สกิล‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’
การอัพสกิล ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ ้าแต้มสกิล 150 แต้ม ภายใต้แสงวูบวาบสว่างไสว สกิล ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ ได้รับการอัพเกรดอีกครั้ง
[ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา]: เลเวลปัจจุบัน:LV5 ระดับ: สูงสุด สกิลเริ่มต้นสำหรับอาชีพนักรบฝึกหัด ใช้อาวุธในมือวาดดาบโค้งขนาดเล็กตัดไขว้ไปข้างหน้าสร้างความเสียหาย 120% ของค่าพลังโจมตีพื้นฐานให้กับเป้าหมาย5 ตัว ที่อยู่ข้างหน้าในระยะ 4 เมตร และมีโอกาส20% ที่จะทำให้เป้าหมายกระเด็นถอยหลัง การใช้มานา: 7 หน่วย เวลาคลูดาวน์: 0 วินาที
“ดริ๊งสกิลผู้เริ่มต้นของคุณ‘จู่โจมเต็มกำลัง’ และ ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ ได้อัพเกรดจนถึงระดับสูงสุดแล้วสกิลขั้นสูงของอาชีพนักรบฝึกหัด ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ปลดล็อค”
หลิงเฉินจ้องมองด้วยความมึนงงก่อนจะมองไปที่สกิลใหม่ซึ่งเพิ่งถูกปลดล็อคเมื่อครู่อย่างรวดเร็ว
[เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ]: เลเวลปัจจุบัน:LV1 เลเวลสูงสุด: LV5 แต้มสกิลสำหรับใช้อัพเกรดเป็LV2: 40 แต้ม สกิลฝึกหัดขั้นสูงของนักรบฝึกหัดที่จะปลดล็อคเมื่อสกิลฝึกหัดสำหรับผู้เริ่มต้นทั้งหมดถึงระดับสูงสุดหลังจากเปิดใช้งาน พลังโจมตีทางกายภาพจะสูงขึ้นจากการเผาไหม้พลังชีวิตและการสังเวยพลังป้องกันผล: HP -10 พลังป้องกัน -10 พลังโจมตีทางกายภาพ+10 ระยะเวลาแสดงผล: 10 วินาทีการใช้มานา 5 หน่วย เวลาคลูดาวน์ 1 นาที
สกิลสุดท้ายของอาชีพนักรบฝึกหัดเป็ท่าเบอร์เซิร์กซึ่งเพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพ แต่ในความเป็จริงที่ว่าเงื่อนไขในการปลดล็อคนั้นยากเกินไปจึงทำให้มีนักรบฝึกหัดแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถปลดล็อคสกิลนี้ได้ การสังเวยพลังชีวิตและพลังป้องกันเพื่อแลกกับพลังโจมตีที่สูงขึ้น10 หน่วย สำหรับหลิงเฉินในตอนนี้นับว่าเป็การต่อรองที่คุ้มค่าเพียงแต่ว่าระยะเวลาแสดงผลของมันสั้นเกินไปอีกทั้งเวลาคลูดาวน์ที่นานมากและที่น่าประหลาดใจมากที่สุดก็คือแต้มสกิลที่ใช้สำหรับการอัพเกรดหากเป็สกิล ‘จู่โจมเต็มกำลัง’ จาก LV1 ไป LV2 จะใช้แต้มสกิลแค่ 1 แต้ม ขณะที่สกิล‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ จาก LV1 ไป LV2 ใช้แต้มสกิล5 แต้ม ทว่าสกิล ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ จาก LV1 ไป LV2 ใช้แต้มสกิลถึง 40 แต้ม!