“ยอดเยี่ยม สกิล‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ! ”
หลิงเฉินะโออกไปเบาๆและใช้สกิลใหม่ที่เพิ่งปลดล็อคเสริมพลังให้กับตัวเอง ทันใดนั้นชั้นของแสงสีแดงอ่อนๆปรากฏขึ้นบนร่างของเขา ส่งผลให้พลังชีวิตและพลังป้องกันลดลงไป ในขณะที่พลังโจมตีนั้นเพิ่มขึ้น10 แต้ม ในเวลาเดียวกับที่แสงสีแดงเปล่งออกมารางๆเขาก็หันกลับไปหาคางคกกินคนสองตัวสุดท้าย
-123, -125, -124!
เนื่องจากผลของสกิล ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ ทำให้หลิงเฉินสร้างความเสียหายให้กับคางคกกินคนได้มากขึ้นอย่างชัดเจนพร้อมกับการโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อนด้วยสกิล ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ ในที่สุดคางคกกินคนสองตัวสุดท้ายก็ตาย
“ดริ๊งคุณฆ่า ‘คางคกกินคนร่างใหญ่’ระดับหัวหน้า 2 ดาว สำเร็จ ชื่อเสียง +40 แต้มสกิล +40 แต้มสกิลคงเหลือ: 40 แต้ม”
แต้มสกิล 40 แต้ม เพียงพอที่จะอัพสกิล ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ เป็LV2 หลิงเฉินใส่แต้มสกิลทั้งหมดลงไปที่สกิลนี้และทำให้มันอัพเวลจากLV1 เป็ LV2
[เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ]:เลเวลปัจจุบัน: LV2 เลเวลสูงสุด: LV5 แต้มสกิลสำหรับใช้อัพเป็LV3: 90 แต้ม สกิลฝึกหัดขั้นสูงของนักรบฝึกหัดที่จะปลดล็อคเมื่อสกิลฝึกหัดสำหรับผู้เริ่มต้นทั้งหมดถึงระดับสูงสุดหลังจากเปิดใช้งาน พลังโจมตีทางกายภาพจะสูงขึ้นจากการเผาไหม้พลังชีวิตและการสังเวยพลังป้องกันผล: HP -20 พลังป้องกัน -20 พลังโจมตีทางกายภาพ+20 ระยะเวลาแสดงผล: 20 วินาทีการใช้มานา 10หน่วย เวลาคลูดาวน์ 1 นาที
หลังจากสกิล ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ อัพเลเวลความสามารถของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยที่พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 20 แต้ม รวมถึงระยะแสดงผลที่นานถึง 20 วินาที แต่มันก็ต้องแลกกับพลังชีวิตพลังป้องกันและมานาเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
หลังจากกำจัดคางคกกินคนทั้งหมดแล้ว จิตใจของหลิงเฉินก็เหนื่อยล้าจนเขาแทบจะทรุดตัวลงไปกับพื้นเขากัดลิ้นตัวเองอย่างแรงเพื่อปลุกตัวเองให้ตื่น และเดินเข้าไปหาคางคกั์แห่งความละโมบซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าเขาห่างออกไป10 เมตร ดวงตาของเขาเบิกกว้างเขาฝืนทั้งกายและใจ เขาอดทนมาได้จนถึงตอนนี้เขาจะตายได้อย่างไร!!!
ฟู่ว!!
นับเป็โชคดีอีกครั้งที่คางคกั์แห่งความละโมบแลบลิ้นของมันออกมาหลิงเฉินที่ร่างกายเหนื่อยล้าทลายขีดจำกัดของร่างกายและขึ้นไปอยู่บนลิ้นของคางคกั์ได้สำเร็จซึ่งแม้จะเป็คนธรรมดาที่อยู่ในสภาพพร้อมที่สุดก็ยังยากที่จะหลบหลีกการโจมตีนี้ ในขณะเดียวกันเขาก็ใช้สกิล‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ เพราะลิ้นซึ่งมีขนาดใหญ่ของคางคกั์ จึงทำให้เขาสามารถะโขึ้นไปที่หัวของมันพร้อมกับโจมตีด้วยสกิลอันทรงพลัง 3 ครั้ง
-83, MISS, -81!
เนื่องจากผลของสกิล ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ ทำให้คางคกั์แห่งความละโมบได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็อย่างมากถ้าเขาสามารถคงอัตราความเสียหายนี้ไว้ได้ เวลาที่เขาต้องใช้ในการกำจัดคางคกั์จะลดลงอย่างมากแต่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาจะสามารถหลบการโจมตีครั้งต่อไปของคางคกั์ได้หรือไม่?ถึงแม้ว่าเขาจะหลบการโจมตีได้ แต่เขาจะยังโจมตีได้มีประสิทธิภาพเหมือนเดิมหรือเปล่า?
เขามียาสูตรพิเศษเหลือทั้งหมด 5 ขวดเท่านั้น และอีกไม่กี่นาทีผลของมันก็จะหมดลงซึ่งจะทำให้เขามียาเหลือแค่4 ขวด ถึงแม้เขาจะมียาสูตรพิเศษเพียงพอและยามานาของเขาก็ถูกใช้ไปอย่างช้าๆ แต่ด้วยสกิล ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ก็ส่งผลให้อัตราการใช้มานาเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยาแดงและยาส้มแบบปกติก็ยังถูกนำไปใช้กับการโจมตีของคางคกั์และการใช้งานสกิล‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ ดังนั้นแล้ว เมื่อใดก็ตามที่ยาฟื้นฟูพลังชีวิตและยาฟื้นฟูมานาของหลิงเฉินหมดลงมันก็หมายถึงเขาขึ้นไปเหยียบประตูแห่งความตาย
--------------------------------
หลิงสุ่ยรั่วลืมตาขึ้นในแสงสลัวๆ เธอมองเห็นนาฬิกาที่ผนังบอกเวลา6 โมงเช้าหลังหน้าต่างมีแสงสีขาวเลือนๆ บอกถึงเช้าวันใหม่ที่มาเยือนเมื่อก่อนในเวลานี้เธอมักจะหลับสนิท เพราะเธอต้องนอนพักผ่อนมากๆ แต่ในคืนนี้เธอกลับสะดุ้งตื่นขึ้นมาถึงสามครั้งติดๆกัน เนื่องจากเธอมีความวิตกกังวลบางอย่างในใจ
เธอหันไปทางหลิงเฉินพร้อมด้วยแสงจันทร์ในยามพลบค่ำเธอมองเห็นคิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย อีกทั้งใบหน้าที่บิดเบี้ยวและฟันของเขาที่ขบเข้าหากัน
เธอหันไปมองหลิงเฉิน คิ้วของเขาขมวดแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิมนอกจากนั้นริมฝีปากของเขาก็ปิดแน่นสนิท สีหน้าของเขาก็บูดบึ้ง รวมถึงหน้าผากของเขาที่มีเหงื่อผุดขึ้นมาสีหน้าของเขาเหมือนกับพยายามที่จะอดทนและกำลังต่อสู้ดิ้นรนอยู่กับบางสิ่งบางอย่าง
“พี่คะ...” หลิงสุ่ยรั่วกระซิบอย่างแ่เบาเธอยื่นมือออกไปเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของหลิงเฉินเบาๆ ท้ายที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงสะดุ้งตื่นบ่อยครั้งในค่ำคืนนี้ก็เพราะเขากำลังประสบกับความเ็ปและกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายอันยิ่งใหญ่ เธอไม่อาจสงบใจได้เนื่องจากความเ็ปของเขาเพราะสำหรับเธอแล้วเขาเป็ทุกสิ่งทุกอย่างและเขายังเป็สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าตัวเธอเอง...
“พี่คะ สู้ต่อไป ไม่มีอะไรที่สามารถเอาชนะพี่ได้”
----------------------
เวลาหกโมงเช้านับั้แ่หลิงเฉินเข้าสู่พื้นที่ชั้น 5 จนถึงตอนนี้ เวลาผ่านไปแล้ว 9 ชั่วโมง
“หึ”
ปัง! ปัง! ปัง!
เขาโจมตีครั้งสุดท้ายด้วยสกิล ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ส่งผลให้พลังชีวิตของคางคกกินคนทั้ง 4 ตัว หมดลงและตายลงตรงหน้าเขาอย่างไรก็ตามเขาถูกการโจมตีจากลิ้นของคางคกสองตัวจึงล้มไปข้างหลัง
“ดริ๊งคุณฆ่า‘คางคกกินคนร่างใหญ่’ มอนสเตอร์ระดับหัวหน้า 2 ดาว เลเวล 10จำนวน 4 ตัว สำเร็จ ชื่อเสียง +80 แต้มสกิล +80 แต้มสกิลคงเหลือ: 300 แต้ม”
ในเวลา 4 ชั่วโมง หลิงเฉินต่อสู้กับคางคกกินคน 9 ระลอก ระลอกละ 5 ตัว คางคกทุกตัวที่ปรากฏในแต่ละระลอกล้วนตกตายทั้งหมดมันนับเป็่เวลาที่ยากลำบากและยาวนานกว่าที่เขาจะผ่านมันไปได้ อย่างไรก็ตามเขาสามารถรับรู้ได้เพียงแค่อันตรายและความน่ากลัวเท่านั้น เขาไม่เคยรับรู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่เขาเหยียบย่ำไปบนประตูแห่งความตายทว่าเขาก็ไม่เคยตายและคางคกกินคนร่างใหญ่ทั้ง 45 ตัว ต่างก็ตกตายภายใต้คมดาบของเขา
คางคกกินคนร่างใหญ่ 45 ตัว ให้ค่าประสบการณ์กับเขาเป็จำนวนมากและเกือบทำให้เขาอัพเลเวลในขณะเดียวกันเขาก็ได้รับแต้มสกิลมากถึง 900 แต้ม
มันเป็กองทัพมอนสเตอร์ระดับหัวหน้า 2 ดาว เลเวล 10 จำนวน 45 ตัว ซึ่งไม่สามารถพบได้ที่ไหนอีกแล้ว
แต้มสกิลพวกนี้ทำให้หลิงเฉินสามารถอัพสกิลขั้นสูง ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’เป็เลเวล 5 และในตอนนี้สกิลสำหรับอาชีพนักรบฝึกหัดระดับผู้เริ่มต้นของเขาก็อยู่ในระดับสูงสุดแล้วทั้งหมดหากเขาบอกเื่นี้กับใครสักคนคงจะไม่มีใครเชื่อเขา
คางคกั์แห่งความละโมบ HP: 10,897/80,000
หลังจากอัพสกิล ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ หลิงเฉินสามารถสร้างความเสียหายให้กับคางคกั์ได้เพิ่มมากขึ้นจากที่ก่อนหน้านี้เขาต้องใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมง เพื่อลดพลังชีวิตของคางคกั์ลง40,000 หน่วย ทว่าด้วยผลของสกิล ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ภายในเวลาแค่ 4 ชั่วโมง เขาก็สามารถลดพลังชีวิตของมันไปได้เกือบ30,000 หน่วย ถึงแม้เขาจะสร้างความเสียหายได้เพิ่มมากขึ้น แต่สภาพจิตใจของเขากลับอ่อนล้ายิ่งกว่าและ่เวลาที่เขาต้องหลบหลีกลิ้นของมันก็ลำบากมากยิ่งขึ้นแค่การหลบลิ้นของมันก็นับเป็เื่ยากแล้ว สำหรับการคว้าโอกาสในการโจมตีหลังจากการหลบหลีกนั้นยิ่งน้อยลงไปอีกเขาสามารถโจมตีได้เพียงหนึ่งครั้งในทุกๆ หนึ่งหรือสองนาที บางครั้งโอกาสในการโจมตีก็นานยิ่งกว่านั้นอีก
หลิงเฉินดูเหมือนจะเป็คนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจสุดๆจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่หยุดต่อสู้และยังคงมีชีวิตอยู่ภายใต้การโจมตีที่ไม่มีที่สิ้นสุดของคางคกั์ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถลดพลังชีวิตของมันให้ต่ำกว่า 20%
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เขาจะมีความมุ่งมั่นตั้งใจแข็งแกร่งยิ่งกว่าคนทั่วไปแต่เขาก็ยังคงมีขีดจำกัด
หลิงเฉินซึ่งถูกคางคกั์แห่งความละโมบโจมตีนอนราบอยู่บนพื้นการมองเห็นทั้งหมดของเขาเลือนลาง สำหรับครั้งนี้มันเป็เวลาถึง 3 วินาทีแล้วที่เขาไม่ลุกขึ้นยืน ไม่ว่าจะเป็ร่างกายหรือเปลือกตาของเขาล้วนหนักอึ้งจนไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวในโลกเกมร่างกายจะไม่เหนื่อยล้า เพราะร่างกายของมนุษย์ไม่ได้เข้ามาอยู่ในโลกของเกมจริงๆแต่ความเหนื่อยล้าทางด้านจิตใจนั้นเป็ของจริง เพราะสิ่งที่เข้าสู่โลกเกมก็คือจิตใจของผู้เล่นซึ่งต้องเผชิญกับทุกสิ่งทุกอย่างภายในเกมรวมทั้งการควบคุมการเคลื่อนไหวทั้งหมดของร่างกายในเกมด้วย
ความเหนื่อยล้าทางด้านจิตใจที่มากเกินไปของเขานั้นทำให้หลิงเฉินแทบจะไม่สามารถความคุมร่างกายของเขาได้อีกต่อไป หลิงเฉินพยายามที่จะไม่ให้ดวงตาของเขาปิดลงเพราะเขากลัวว่าเมื่อดวงตาของเขาปิดลงไปครั้งหนึ่งเขาอาจจะหลับลึกไปนาน
พลังชีวิตของเขาเหลืออยู่ 96 หน่วยส่วนพลังเวทมนตร์เหลืออยู่ 25 หน่วย
สำหรับยาสูตรพิเศษทั้งหมดนั้นยาพื้นฟูพลังชีวิตและยาฟื้นฟูมานาถูกใช้ไปหมดแล้ว
ตอนนี้หลิงเฉินไม่คำนึงถึงสภาพจิตใจและพละกำลังของตัวเองอีกต่อไปเนื่องจากพวกมันมอดไหม้ไปจนหมดสิ้นแล้ว
ก็แค่ปิดตาของคุณและนอนหลับ การทำให้จิตใจเหนื่อยล้าถึงเพียงนี้เพื่อบอสตัวกระจ้อยในโลกเกมมันไม่คุ้มค่าเอาซะเลย หากเป็เช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ คุณจะต้องป่วยหนักอย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้นการได้ดาบระดับเงินที่เบื้องล่างของหุบเหวลึก และการได้รับแต้มสกิลจำนวนมากมายรวมทั้งทุกสกิลอัพเกรดจนถึงระดับสูงสุด นับว่าคุณได้กำไรมหาศาลซึ่งผู้เล่นทั่วไปไม่อาจแม้แต่จะคิดฝันมันเพียงพอแล้ว
น้ำเสียงอันแ่เบาดังขึ้นภายในจิตใจของเขา แต่ทันใดนั้นมันก็โดนสอดแทรกจากเสียงที่คมชัดยิ่งกว่า“คุณยังตายไม่ได้!! คุณอดทนมาได้จนถึงขนาดนี้แล้ว คุณยินดีที่จะตายได้อย่างไร! มีผู้คนมากมายเท่าไหร่กันที่้าเอาชีวิตของคุณไปแต่พวกเขาก็ทำไม่ได้ไม่ว่าคุณจะได้รับความทุกข์ทรมานมากแค่ไหน มันก็ไม่อาจทำลายความตั้งใจของคุณ แม้กระทั่งคนที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดก็ตายด้วยมือของคุณในโลกเกมก่อนหน้านี้ คุณก็ยังไม่เคยตายแม้แต่เพียงครั้งเดียว คุณกำลังยินดีที่จะตายภายใต้น้ำมือของมอนสเตอร์ที่มีเลเวลแค่10 ได้อย่างไร!”
เขาได้ยินเสียงกระแสลมผิดปกติจากทางด้านหลังอย่างเลือนรางทันใดนั้นเขากัดฟันแน่น ก่อนจะถ่ายเทพลังซึ่งรวบรวมมาจากความเชื่อมั่นของเขาไปที่เท้าขวาและพยายามก้าวไปที่ผนังหินข้างตัวเขา
ตาย~
ในจังหวะนี้ ร่างกายของหลิงเฉินพลันเคลื่อนไปด้านข้างในขณะเดียวกันลิ้นยาวสากๆ ก็โจมตีลงตรงตำแหน่งที่เขาอยู่เมื่อครู่
นับเป็อีกครั้งที่เขารอดตายถึงแม้เขาจะอยู่ในสภาพเช่นนี้เขาก็ยังดิ้นรนอย่างต่อเนื่องและไม่ยินดีที่จะตาย
พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์เฮือกสุดท้าย กับสภาพจิตใจที่อีกแค่ปลายเส้นผมก็จะทรุดลงไปอย่างสิ้นเชิงหลิงเฉินในตอนนี้ไม่เหลือพลังสำหรับการโจมตีอีกแล้ว แม้แต่พลังเฮือกสุดท้ายของเขาก็อ่อนแอจนเกินไปเขากำลังตกลงสู่สถานการณ์ที่สิ้นหวังโดยสมบูรณ์แบบ
สิ่งที่เขาต้องเผชิญหน้าคือพลังชีวิตที่เหลืออยู่10,000 หน่วยของคางคกั์แห่งความละโมบ