“ฉินเฟิง...แก รีบปล่อยสิวะ” ฮ่าวหยุนคือนายน้อยเ้าสำราญที่นิสัยเสียมีหรือที่จะทนความเจ็บระดับนี้ได้ เขาจึงจ้องฉินเฟิงราวกับจะฆ่าเขา
“ฮ่าๆ นี่เป็ครั้งแรกเลยที่นายน้อยผู้นี้เห็นคนขอร้องหยิ่งยโสขนาดนี้”ฉินเฟิงยิ้มเย้ยอย่างเ็า และเพิ่มแรงขึ้นไปอีกจนได้ยินเสียงกระดูกของฮ่าวหยุน“อ้อนวอนฉันสิ ถ้าฉันพอใจเดี๋ยวจะปล่อยให้”
ฮ่าวหยุนโกรธมากจนเกือบจะกระอักเืใครจะคิดว่าผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ฉินเฟิงจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้เขาไม่ยอมอ้อนวอนฉินเฟิงให้ปล่อยต่อหน้าผู้คนมากมายแน่นอน
แต่ไหล่ของเขารู้สึกเหมือนกำลังจะถูกฉินเฟิงหักความเจ็บเสียดแทงใจจนทนไม่ไหว
“คุณชายฉิน ฮ่าวหยุนไม่ได้ตั้งใจพูด คุณคงไม่ไร้เหตุผลหรอกใช่ไหม?” เมื่อเห็นว่าฮ่าวหยุนเกือบจะทนไม่ไหวอีกต่อไปโจวข่ายก็เดินมาหาพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าๆ คุณชายโจว” ฉินเฟิงยิ้มให้โจวข่ายแม้จะเห็นว่าโจวข่ายและซือหม่าถูยืนอยู่ฝั่งฮ่าวหยุนอย่างชัดเจนคุณชายทั้งสามเผชิญหน้ากับนายน้อยฉิน แต่ฉินเฟิงก็ไม่กังวลเลยสักนิด
หลังจากกระแอมเขาก็ทำเป็อธิบายสัจธรรมกับทุกคน “หากฆาตกรฆ่าคนแล้วบอกว่าไม่ได้ตั้งใจทำตำรวจต้องปล่อยเขาหรือเปล่า? ถ้ามีคนข่มขืนสาวสวยแต่บอกว่าไม่ได้ตั้งใจเธอต้องทำใจว่าเธอโชคร้ายเองอย่างนั้นหรือ? แล้วถ้ามีหมาบ้ามากัดนายน้อยผู้นี้พวกนายคิดว่าฉันควรจะยกโทษให้หรือเปล่า? ถ้าเป็อย่างนี้แล้วนายน้อยผู้นี้จะเอาเกียรติไปไว้ที่ไหนในเมืองเว่ยเฉิง?”
ทันทีที่สิ้นเสียงของฉินเฟิงเขาก็ใส่แรงมากขึ้นไปอีกจนเกือบจะทำให้ไหล่และแขนของฮ่าวหยุนบิดผิดรูปเสียงกระดูกปริดังราวกับเสียงดอกไม้ไฟ
ฮ่าวหยุนทนไม่ไหวอีกต่อไปน้ำตาแห่งความเ็ปเริ่มไหลออกมา เขาจับต้นขาของฉินเฟิงและอ้อนวอน “นายน้อยฉินได้โปรดปล่อยเถิด ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรกล่าวไร้สาระเลยครั้งนี้ได้โปรดละเว้นผมด้วย”
ฮือฮา!
เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงราวกับถูกฟ้าผ่า
สี่คุณชายแห่งเมืองเว่ยเฉิงต่างเป็คนที่ไม่สามารถหาเื่ได้ไม่ว่าจะด้วยความรวยหรือมีอิทธิพลก็ตามแต่ตอนนี้คุณชายหยุนนั่งบนพื้นเหมือนหมาขี้เรื้อนกำลังอ้อนวอนขอเ้านายให้ยกโทษให้
ทุกคนเกือบจะตาบอดเพราะเหตุการณ์นี้
“ฮะๆ รู้ว่าผิดและกลับตัวก็ถือว่าเป็เื่ดี เด็กดี ไปเล่นต่อได้แล้ว”ฉินเฟิงมีความสามารถให้หยิ่ง แต่เขาก็รู้ว่าเมื่อไรควรจะหยุดมันไม่ดีนักที่จะต้อนคนให้จนมุม
เขาลูบหัวของฮ่าวหยุนเหมือนกำลังชมเชยลูกสุนัขที่เชื่อฟังฉากนี้เป็ฉากที่สวยงามจนบางคนก็หลับตาทนดูไม่ได้
“ฉินเฟิง...แล้วแกจะต้องเสียใจ!” หลังจากหนีจากฉินเฟิงท่าทีของฮ่าวหยุนก็กลับมาจองหองเหมือนเดิม แต่เมื่อนึกถึงแรงบีบอันน่าสะพรึงของฉินเฟิงเขาก็ทำได้เพียงบ่นพึมพำไม่กี่คำ และเดินจากไปด้วยความเดือดดาล
หลังจากยิ้มแปลกๆให้กับฉินเฟิง ซือหม่าถูและโจวข่ายก็เดินออกไปพร้อมกับฮ่าวหยุน
หลังจากที่ทั้งสามคนออกไปทุกคนในงานเลี้ยงดูเหมือนจะโล่งอก ทุกคนสงสัยว่าฮ่าวหยุนจะแก้แค้นฉินเฟิงอย่างไรทว่าฉินเฟิงก็ไม่ได้สนใจ และหันยิ้มไปเย้าหยอกกับจ้าวหลิงเซียนต่อ
ถ้ามันอยากแก้แค้นจริงๆฉินเฟิงก็ยินดีรับไว้อย่างเต็มใจ
ฉินเฟิงพยายามพูดดีที่สุดเพื่อทำให้จ้าวหลิงเซียนมีความสุขทว่าเทคนิคจีบสาวแบบนี้ใช้ไม่ได้ผลกับเ้าหญิงจอมอวดดีคนนี้อย่างสิ้นเชิงฉินเฟิงมองไปที่เปียโนริมหน้าต่างอย่างจนใจ แต่แล้วั์ตาของเขาก็เป็ประกายและเดินปรี่เข้าไปหาเปียโนทันที
เดิมทีเขาก็เป็จุดสนใจของทุกคนอยู่แล้วทุกการกระทำของเขาย่อมดึงดูดทุกคน แต่เมื่อเห็นฉินเฟิงเดินไปที่เปียโนและนั่งลงทุกคนก็อ้าปากค้าง
ฉินเฟิงเล่นเปียโนเป็ด้วยเหรอ?
ไม่มีใครเชื่อเื่แบบนี้แน่ทุกคนคิดว่าเขาทำอะไรไม่เป็นอกจากหลับนอนกับผู้หญิง
แล้วก็ไม่ใช่ว่าเขาเป็คนยกเลิกหมั้นกับจ้าวหลิงเซียนเองเหรอแต่ทำไมวันนี้กลับพยายามเอาใจเธอ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
อย่าว่าแต่คนอื่นขนาดฉินเฟิงเองก็เกือบจะคิดเช่นนั้น นอกจากหลับนอนกับผู้หญิงแล้วเขาไม่มีดีอะไรเลย แต่ตอนนี้เพราะภารกิจ เขาจึงไม่ได้หลับนอนกับผู้หญิงมาหลายวันและได้เรียนรู้ทักษะที่เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดเรียนมาก่อน
ทำให้ฉินเฟิงนึกถึงประโยคคลาสสิกขึ้นมาทันทีชีวิตผ่านไปเร็วมาก หากไม่รู้จักหยุดมองไปรอบๆ บ้าง คุณอาจจะพลาดบางอย่างไป
“ต่อไป เสียงกระซิบของฤดูใบไม้ร่วง (A Comme Amour) ผมจะเล่นเพลงนี้ต่อหน้าทุกคนแด่องค์หญิงผู้เลอโฉมจ้าวหลินเซียน!”
จู่ๆฉินเฟิงก็พูดออกมา เสื้อสูทสีขาวส่องประกายใต้แสงไฟ ใบหน้าหล่อเหลา ไหล่กว้างและรอยยิ้มที่ทำให้ดูราวกับเ้าชายในนิทาน
เพลงโด่งดังระดับโลกมากมายเข้ามาในหัวของเขาจนในที่สุดเขาก็เลือกเพลงที่เหมาะกับบรรยากาศตอนนี้
นิ้วทั้งสิบที่แม้แต่ผู้หญิงยังต้องอิจฉาเริ่มบรรเลงคีย์สีขาวและดำราวกับแมลงปอแตะผิวน้ำ
ดื๊อดื๊อดือดือ...
ทำนองเพลงอันไพเราะดังกังวานออกมา
ฉินเฟิงเหมือนกับมีิญญาของนักเปียโนสิงสถิตอยู่เขาหลับตาและเงยหน้าขึ้น ราวกับกำลังดื่มด่ำกับเสียงดนตรี ร่างกายแสดงออกถึงอารมณ์ปลายนิ้วร่ายรำบนคีย์เปียโนราวกับสายน้ำ เขาอินกับเพลงจนหยุดไม่อยู่
ในเวลาต่อมา...
ฉินเฟิงเล่นเปียโนเสร็จแล้วแต่ทุกคนยังติดอยู่ในภวังค์เสียงบรรเลงอันไพเราะยังคงเล่นต่อเนื่องอยู่ภายในหัวของพวกเขาราวกับเสียงของธรรมชาติพวกเขาอดไม่ได้นอกจากชื่นชมจากก้นบึ้งของหัวใจ
หากไม่ได้เห็นด้วยตาและไม่ได้ยินด้วยหูของตัวเองก็คงไม่เชื่อเื่แบบนี้แน่ๆ
ฉินเฟิงสามารถเล่นเปียโนได้อย่างกับปรมาจารย์และสมบูรณ์แบบ!
“องค์หญิงจ้าวหลิงเซียน เพลงนี้ทำให้พอใจหรือไม่?” เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจ้องอย่างตะลึงงันฉินเฟิงจึงถาม
จ้าวหลิงเซียนสะดุ้งและหลุดออกจากความงุนงงแม้ว่าเธอจะเรียนเปียโนที่มหาวิทยาลัย แต่เธอก็ยังติดใจในเสียงเพลงอยู่
เธอมองฉินเฟิงด้วยความแปลกใจและพูดไม่ออกเธอทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับว่าทักษะของฉินเฟิงนั้นเหนือกว่าเธอมากโข
“ฉันเหนื่อยแล้ว ขอตัวกลับก่อน!”
คืนนี้ฉินเฟิงทำตัวแปลกมากจู่ๆ เธอก็พบว่าตัวเองไม่เข้าใจนายน้อยเ้าสำราญคนนี้ดีพอและไม่รู้จะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไร
จ้าวหลิงเซียนออกจากโถงงานเลี้ยงด้วยความรู้สึกสับสน
หลังจากที่เธอจากไปใบหน้าของผู้ชายกว่าครึ่งก็แสดงความขมขื่นดูเหมือนแผนเอาชนะใจเธอจะไหลออกทางประตูไปเสียแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงออกไปบ้างส่วนที่เหลือยังคงชายตามองไปที่หานอิ๋งอิ๋งอยู่
ฉินเฟิงนั่งรอการประกาศของระบบอยู่หน้าเปียโนแต่หลังจากเงียบไปสักพักเขาก็ถอนหายใจกะแล้วว่าได้รับความประทับใจจากจ้าวหลิงเซียนต้องไม่ง่าย
“นายน้อยฉิน คืนนี้คุณว่างหรือเปล่าคะ? พวกเราไปหาที่เงียบๆคุยแก้เหงากันเถอะ!”
รูปร่างของหานอิ๋งอิ๋งปรากฏขึ้นต่อหน้าฉินเฟิงอีกครั้งแต่เธอตั้งใจก้มลงต่ำเพื่อเปิดเผยทัศนียภาพฤดูใบไม้ผลิเมื่อฉินเฟิงเหลือบมองก็ถอนใจอย่างใจหาย!
“ติ๊ง...ระบบราชันเ้าสำราญมีภารกิจบังคับ : พิชิตหานอิ๋งอิ๋ง!”
“ระยะเวลาภารกิจ 3 เดือน”
“เมื่อภารกิจลุล่วงจะได้รับแต้มสำราญ 500 แต้มเป็รางวัลหากล้มเหลวโฮสต์จะเสื่อมสมรรถภาพเป็เวลา 3 ปี!”
...
ปู่เอ็งเถอะ!
ขนาดนายน้อยฉินผู้มีใจกว้างดุจแม่น้ำก็ยังอดด่าสาปแช่งออกมาเมื่อได้ยินบทลงโทษและที่สำคัญที่สุดคือภารกิจนี้เป็ภารกิจบังคับ
“เ้าหมูน้อย อะไรคือภารกิจบังคับ?” ฉินเฟิงถามอย่างรวดเร็ว
“นายท่าน ภารกิจบังคับนี้ออกโดยระบบ นายท่านต้องยอมรับแม้แต่หมูน้อยไร้เทียมทานผู้นี้ก็ไม่สามารถช่วยนายท่านได้!”
ฉินเฟิงหมดแรงทันทีพิชิตหานอิ๋งอิ๋ง? ยากกว่าได้รับความประทับใจจากจ้าวหลิงเซียนเสียอีก
หานอิ๋งอิ๋งเป็บุคคลที่มีชื่อเสียงเป็ผู้หญิงแกร่งและมีความสามารถ เธอเป็คนรักอิสระ เข้มงวด และมีความมุ่งมั่นเธอดูแลรับผิดชอบบริษัทที่จดทะเบียนทั้งสามแห่งและคนงานอีกหลายพันคนเธอจัดการทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวและประสบผลสำเร็จอย่างมาก
้าจะพิชิตราชินีคนนี้? ฉินเฟิงรู้สึกว่าตัวเองถึงคราวเคราะห์แล้ว
แม้ว่าเธอจะคอยเกาะติดและพูดจาเชิญชวนกับเขาแต่ฉินเฟิงรู้ว่ามันเป็วิธีปกติที่เธอใช้เชื่อมความสัมพันธ์ทางธุรกิจใครจะรู้ว่ามีกี่คนที่ตกเป็เหยื่อภายใต้เทคนิคนี้
“นายน้อยฉิน คุณว่างหรือเปล่า? ผมอยากจะชวนกันไปสนุกกันที่ต้าฟู่กุ้ย!”หลังจากมีเื่กับฉินเฟิง เฝิงเทียนหัวก็นั่งในมุมมืดและตรวจสอบทุกการกระทำของเขา
เขารู้สึกดีใจอย่างมากเมื่อเห็นฉินเฟิงสร้างศัตรูกับคุณชายอีกสามคน
ตอนนี้เมื่อเห็นว่ามีอะไรดีๆเกิดขึ้นระหว่างฉินเฟิงและหานอิ๋งอิ๋ง เขาจึงรีบมาขัดขวางทันที...ฮึ่ม!บังอาจขวางฉันไม่ให้จีบจ้าวหลิงเซียน ฉันก็จะขวางแกจากหานอิ๋งอิ๋งเหมือนกัน
ถ้าฉินเฟิงรู้ว่าเฝิงเทียนหัวคิดอะไรอยู่เขาคงจะขอบคุณเฝิงเทียนหัวที่ช่วยเขาออกมา
เมื่อเห็นว่าเฝิงเทียนหัวมาทางนี้หานอิ๋งอิ๋งก็เลิกคิ้วและรีบหยุดการกระทำพร้อมกับกล่าว“ในเมื่อคืนนี้นายน้อยฉินไม่ว่าง งั้นก็เลื่อนนัดของเราไว้ทีหลังแล้วกันนะคะ”
เมื่อจ้องมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของหานอิ๋งอิ๋งเฝิงเทียนหัวก็โกรธในใจ เขาไม่พอใจอย่างมากที่สาวงามสองคนเมินเขาและเข้าไปเจ๊าะแจ๊ะกับฉินเฟิงแทน
แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีบางคนกำลังจะสอนบทเรียนฉินเฟิงเขาก็รู้สึกดีขึ้นมาอีกครั้ง
...
ต้าฟู่กุ้ยอยู่บนชั้นสามของโรงแรมหวงเจียและเป็นวดฟองสบู่ที่มีชื่อเสียง มันเป็การบริการที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดในเมืองเว่ยเฉิง
ฉินเฟิงไม่รู้ว่าทำไมเฝิงเทียนหัวถึงชวนเขามาที่นี่แต่ไหนๆ ก็มาแล้วเขาเองก็อยากเห็นว่าเฝิงเทียนหัวคิดจะทำอะไร
“อุ๊ย! นายน้อยฉินและนายน้อยเฝิงมาเยือน รู้สึกเป็เกียรติจริงๆ เชิญเลยค่ะดิฉันจะเรียกเด็กๆ ของเราออกมา ดิฉันมั่นใจว่าพวกคุณจะต้องชอบอย่างแน่นอน!”
เมื่อทั้งสองเข้ามาในห้องคุณนายที่แต่งหน้าหนาเตอะก็รีบออกมารับเธอทักทายฉินเฟิงก่อนเพราะรู้ว่าฉินเฟิงมีสถานะสูงกว่า
ฉินเฟิงไม่ได้สนใจเื่นี้แต่เฝิงเทียนหัวโกรธมากจนกัดฟันกรอดแต่เมื่อนึกถึงความจริงที่ฉินเฟิงกำลังจะโดนเล่นงาน เขาก็ยิ้มและพูดว่า“นายน้อยฉิน คุณต้องเป็ขาประจำที่นี่แน่เลย ถ้าคุณมีใครที่ใช้บริการบ่อยๆก็เรียกออกมาเลย ไม่ว่าจะหนึ่งหรือสิบ สหายเฝิงจะเลี้ยงเองทั้งหมดนี้ผมแค่้าให้คุณมีความสุข และได้เป็เพื่อนกับคุณเท่านั้น”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้