รุ่นพี่ไป๋อิ่งยิ้มพร้อมพยักหน้าน้อยๆแต่กลับมีความกังวลฉายชัดออกมาจากดวงตาอบอุ่นคู่นั้น เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย "ฉันได้ยินมาว่าเธอกับเซวียนหยวนมีเื่ผิดใจกันเหรอ..."
"เอ๊ะ?" แบบนั้นถือว่าฉันกับนายเ้าชายเ็านั่นมีเื่ผิดใจกันแล้วเหรอ
เธอยิ้มออกมาเล็กน้อยและมองหน้าฉัน " แต่เธอสบายใจได้เซวียนหยวนเขาเป็คนแยกเื่งานกับเื่ส่วนตัวได้ แค่เธอตั้งใจทำงานเขาก็ไม่บล็อกรายชื่อเธอหรอก แต่ผู้หญิงคนนั้น..." เธอหันไปมองทางห้องแต่งตัวจากนั้นจึงยิ้มออกมา "ฉันรู้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อมาทำงาน ไม่เหมือนกับคนอื่น อย่าไปใส่ใจเลยตั้งใจทำงานก็พอ" พอพูดจบเธอก็เดินจากไป
ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่อยากคุยกับผู้หญิงที่อยู่ในห้องแต่งตัวคนนั้นแล้วละฉันว่าผู้ชายที่อยู่ที่นี่ที่ดูปกตินอกจากรุ่นพี่เฟิงหลิงซ่านแล้วคนอื่นที่เหลือถ้าไม่เป็โรคจิตก็ต้องเป็โรคคุณชายจ๋าแน่ๆ
มีรุ่นพี่ไป๋อิ่งคอยให้กำลังใจแบบนี้แล้วฉันค่อยรู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย รุ่นพี่ไป๋อิ่งนี่ทำให้รู้สึกอบอุ่นมากจริงๆ ณวินาทีนี้ฉันมีแรงสู้ขึ้นมาแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลัน จุดไฟให้ตัวเองหน่อยฉันจะเอาเงินหนึ่งพันหยวนนี่กลับไปเลี้ยงข้าวทุกคนให้ได้เลย
ฉันเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวอีกห้องหนึ่งในห้องแต่งตัวนั้นมีชุดทำความสะอาดแขวนเอาไว้ เอ่อ...ช่วยอธิบายให้ฉันเข้าใจหน่อย ผู้ชายพวกนี้ไม่ได้ตั้งใจกันจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย
กระโปรงของชุดทำความสะอาดมันบานมากไม่สะดวกต่อการทำงานเลยสักนิดเดียว
ฉันหาดูในตู้เสื้อผ้าอยู่นาน ในที่สุดก็เจอชุดผ้ากันเปื้อนและปลอกแขนเหมือนกับชุดที่คุณป้าแม่บ้านใส่เวลาทำงานฉันสวมผ้ากันเปื้อนลงบนร่างกาย ด้านหน้ามีระบายใหญ่ๆ สีขาวรู้สึกว่าตัวเองน่ารักขึ้นมาหน่อย จากนั้นก็สวมปลอกแขนลายลูกไม้เล็กสะดวกและคล่องแคล่วต่อการทำงาน
จากนั้นฉันก็ผูกผ้าโพกหัวเล็กๆ ไว้บนหัวเป็อันเรียบร้อย ฉันเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเบื้องหน้าฉันคือแม่สาวสุนัขจิ้งจอกคนนั้นและวินาทีนั้นคอเสื้อที่เปิดกว้างนั้นก็ดึงดูดสายตาของฉันทันที
ฉันจำได้ชัดเลยนะว่าชุดทำความสะอาดมันไม่ได้โป๊ขนาดนั้นแล้วไหนจะคอเสื้อที่ยกสูงนั่นอีก
เธอยกนิ้วเกี่ยวผมยาวของเธอด้วยท่าทางยั่วยวนนิ้วเรียวนั้นยังลากผ่านลงตรงหน้าอกคัพจีนั่น แสดงสีหน้าท่าทางที่ดูเสียใจ " เฮ้อ~~~ ใหญ่เกินไปนะเนี่ย~~~ เดินไปแค่สองสามก้าวก็หอบขึ้นแล้วเป็ภาระมากเลยเวลาที่จะทำงาน อิจฉาเธอจังเลยที่ไม่มี~~~"
หน้าฉันเปลี่ยนสีในทันที มองดูก็รู้แล้วว่าเธอจงใจตัดกระโปรงให้มันสั้นขึ้น " นี่นี่ชื่อเสียงของสุนัขจิ้งจอกอย่างพวกเธอบนโลกมนุษย์นี่แย่มากเลยนะ"
"หึ" เธอแสยะยิ้มขึ้นมาพร้อมกับใช้มือจัดทรงผมของตัวเอง
ฉันมองหน้าเธออย่างจริงจัง " ทำตัวให้มันมีศักดิ์ศรีสักนิดนึงได้หรือเปล่า"
เธอดูมีอาการลังเล ฉันมองหน้าเธอถอนหายใจและหยิบผ้าขี้ริ้วขึ้นมาก่อนจะเดินจากไป
ในเมื่อที่นี่มันคือมหาลัยเทพและปีศาจผู้หญิงพวกนี้ก็น่าจะเป็ลูกหลานของเทพสุนัขจิ้งจอกด้วย ทำไมถึงได้ทำตัวแบบนี้นะ
ฉันเริ่มทำความสะอาดที่โถงกลางชั้นหนึ่งก่อนฉันไม่อยากขึ้นไปชั้นสอง แม้แต่เฉียดเข้าใกล้ฉันก็ยังไม่อยากจะเข้าใกล้เลย
หญิงสาวที่เป็สุนัขจิ้งจอกคนนั้นเดินผ่านฉันไปด้วยท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่อง "ชั้นสองเป็ของฉัน อย่ามาแย่งฉันเด็ดขาด"
"ตามสบายเลย"
เธอเดินสะบัดก้นขึ้นบันไดไปหางของเธอส่ายไปส่ายมาอยู่ข้างหลัง และในตอนที่เธอมาหยุดยืนอยู่ข้างหน้าฉันเธอก็หมุนตัวขึ้นไปปีนขอบบันไดที่อยู่ตรงหน้าฉัน หน้าอกนั้นล้นทะลักออกมาและตอนที่เธอยกก้นขึ้นนั้นทำกระโปรงสั้นที่สวมใส่อยู่ร่นขึ้นไปด้วยทำให้เห็นกางเกงในที่เธอใส่อยู่ข้างใน
"คิดไม่ถึงเลยนะว่าเธอจะเป็คนตรงขนาดนี้" ในจังหวะที่เธอพูดพร้อมกับมองหน้าฉันนั้นฉันก็รีบเดินออกไปทันที เธอยกมือขึ้นมาปิดปากและหัวเราะออกมา "ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่า~~~" จากนั้นเธอก็บิดสะโพกไต่ขึ้นไปชั้นบน
ยัยคนนี้ควรจะกินยาได้แล้วนะ
อืม ไม่ต้องไปสนใจเธอเดี๋ยวจะติดเชื้อไปด้วย
ั้แ่ที่ฉันมาถึงที่นี่ฉันก็แยกไม่ออกแล้วว่าพวกเขาไม่ปกติหรือว่าฉันเองที่ไม่ปกติแต่ในเมื่อทุกคนเป็แบบนี้กันหมด ถ้าอย่างนั้นก็คงจะเป็ฉันเองนี่แหละที่ผิดปกติ...
ปราสาททั้งหลังสะอาดมากที่จริงฉันก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจว่าทำไมต้องหาคนมาทำความสะอาดพวกเทพสามารถทำได้ทุกอย่างไม่ใช่เหรอ แค่ใช้นิ้วชี้สั่งเอา พวกฝุ่นพวกขยะต่างๆ ก็กลิ้งออกไปเองกันหมดแล้วทำไมจะต้องเสียเงินให้คนมาทำความสะอาดด้วย
หรือว่าการใช้พลังเทพในการทำความสะอาดมันจะเสียค่าใช้จ่ายเยอะเกินไป
แต่ว่า...ที่นี่ก็อย่างกับบ้านผุๆ พังๆ หลังนั้นของฉันที่ไม่เคยถูกทำความสะอาดเลย
ฉันเช็ดราวบันไดชั้นหนึ่งจนสะอาดหลังจากนั้นก็มาถูพื้นกลับไปกลับมาจนพื้นสะอาดเงาวับแทบจะสะท้อนเห็นเงาคนจากนั้นฉันก็ทำความสะอาดโต๊ะรับแขกและโต๊ะรับประทานอาหารชั้นล่างนี้มีห้องสมุดอยู่ด้วย มีหนังสือจำนวนหนึ่งวางกองอยู่บนโต๊ะฉันจึงทำการเก็บหนังสือพวกนั้นเข้าที่ให้เรียบร้อย
เพราะพ่อของฉัน ท่านเป็ชาวราศีกันย์
เอ่อ...ทุกคนเข้าใจนิสัยชาวราศีกันย์กันใช่ไหมล่ะ
ดังนั้นฉันจึงถูกท่านสอนพร้อมกับถูกย้ำคิดย้ำทำอยู่บ่อยๆในการจัดหนังสือ จะต้องเรียงหนังสือจากเล่มเล็กไปเล่มใหญ่และเรียงจากเล่มบางไปเล่มหนา และยังต้องเรียงเป็แถวตามลำดับตัวพยัญชนะอีกด้วย
หลังจากที่จัดห้องสมุดเรียบร้อยเหงื่อก็ไหลท่วมตัวเลยทีเดียว
หลังจากนั้นฉันก็เตรียมจะเช็ดหน้าต่าง
ฉันเดินออกไปที่ประตูใหญ่เพื่อเตรียมตัวจะเช็ดกระจกแต่พอเงยหน้าขึ้นไปเท่านั้นแหละให้ตายเถอะ! กางเกงในลูกไม้สีชมพู ผู้หญิงคนนั้นกำลังเช็ดกระจกอยู่ข้างบน!
"เห็นหมดแล้วววววว" ฉันอดไม่ได้ที่จะะโขึ้นไป
เธอไม่สนใจฉันเลยเธอยังยืนติดอยู่กับกระจกอย่างกับจะใช้ร่างกายตัวเองเช็ดกระจกอย่างนั้นแหละ
ฉันทนดูต่อไปไม่ได้จริงๆในห้องนั้นมันมีผู้ชายอยู่นะ
ฉันวิ่งกลับเข้าไปข้างในปราสาทก่อนหน้านี้ที่ฉันเข้าไปทำความสะอาดห้องสมุดฉันเห็นว่ามันมีผ้าคลุมขนสัตว์อยู่ด้วย ฉันเข้าไปหยิบเอาผ้าคลุมผืนนั้นออกมา และออกมายืนอยู่ใต้ร่างของผู้หญิงคนนั้นอีกครั้งฉันะโแล้วะโอีกก็ยังไม่ถึงตัวเธอแต่จู่ๆ พื้นที่อยู่ใต้เท้าที่ฉันยืนเหยียบอยู่ก็ขยับฉันใและจากนั้นจึงเห็นว่าพื้นหญ้านั้นมันค่อยๆยกสูงขึ้นมาเหมือนกับบันได
และฉันถึงได้เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นก็ยืนอยู่บนผืนหญ้าเหมือนกัน
ในที่สุดฉันก็ขึ้นมายืนอยู่ด้านข้างตัวเธอเธอะโขึ้นไปเกาะอยู่บนกระจกและแลบลิ้นออกไปเลียที่กระจกบานนั้นฉันมองเธอด้วยความขยะแขยง
เธอเลียกระจกไปได้สักพักจากนั้นก็เหลือบตามามองฉัน ฉันเอาผ้าคลุมคลุมร่างของเธอั้แ่หัวจรดเท้าทันทีฉันยืนเท้าเอวด้วยความโมโห "เห็นกางเกงในเธอหมดแล้ว"
"เธอโรคจิตรึไงเนี่ย!" เธอดึงกระชากผ้าคลุมออกและถลึงตาใส่ฉัน "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ"
ฉันยังคงใช้ผ้าคลุมคลุมร่างของเธอเอาไว้ "ยังไงซะเธอก็เป็ถึงเทพนะยังไงก็เคารพตัวเองหน่อยดีไหม พวกเธอทำตัวแบบนี้กันหมดมันทำให้มนุษย์ธรรมดาแบบฉันรับไม่ได้เลยจริงๆ"
"เสียงดังชะมัด" จู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงของนายเ้าชายเ็านั่นดังขึ้นมา ตัวฉันแข็งทื่อไปในทันทีผู้หญิงคนนั้นยิ้ม แต่รอยยิ้มของเธอในตอนนี้กลับเป็รอยยิ้มที่ดูจริงใจเธอช้อนสายตาขึ้นและส่งสายตาให้ฉันหันไปมองที่หน้าต่างฉันหันกลับมองด้วยอาการเกร็งๆ และในตอนนั้นฉันก็เห็นใบหน้าที่เยือกเย็นสุดๆ ของเซวียนหยวนเฉินเลนส์แว่นของเขาสะท้อนความเ็าท่ามกลางแสงแดดที่สาดส่อง
"ไสหัวไป" เขาพ่นคำหยาบออกมาจากปากพร้อมกับมองแม่สาวสุนัขจิ้งจอกนั่นด้วยสายตาเ็า
เธอยกนิ้วขึ้นมาม้วนเส้นผมโดยไม่แคร์ต่อคำพูดนั้น "ไปก็ได้ยังไงฉันก็จะกลับมาที่นี่อีกอยู่ดี" เธอหันกลับมากะพริบตาให้ฉันและะโลงไปด้านล่างพร้อมกับผ้าคลุมผืนนั้น
และฉันเองก็เตรียมที่จะลงไปเหมือนกันแต่หูฉันกลับได้ยินคำสั่งที่ดังขึ้นมา"เช็ดกระจกให้สะอาด"
"เอ๊ะ?" ฉันหันกลับมามองเขาแต่เขาก็หันหลังเดินกลับไปนั่งอยู่ข้างหลังหน้าต่างแล้วที่แท้เขาก็ไม่ได้บอกให้ฉันไสหัวไป เฮ้ย! งั้นเงินเดือนฉันก็ยังอยู่นะสิฉันจะเช็ดให้สะอาดเอี่ยมเลย
ฉันรีบหยิบผ้าขี้ริ้วขึ้นมาเช็ดกระจกตรงที่ผู้หญิงคนนั้นเลียไปเมื่อก่อนหน้านี้ที่แท้ห้องนี้เป็ห้องทำงานของนายเซวียนหยวนเฉินนี่เอง มิน่าล่ะแม่สาวสุนัขจิ้งจอกนั้นถึงได้มายืนโป๊เปลือยอยู่ที่นี่
จู่ๆ เซวียนหยวนเฉินก็ยกมือขวาขึ้นมาทำมือเหมือนกับว่าจะดึงผ้าม่าน " ครืดดดด" และผ้าม่านที่อยู่ตรงหน้าฉันก็ถูกดึงลงมาปิดทันทีแฮะๆ เขาเกลียดที่จะเห็นหน้าฉันจริงๆ ด้วยสินะ
ฉันไหวไหล่โดยที่ไม่ได้สนใจแต่ในตอนที่ฉันกำลังจะลงมือเช็ดกระจกนั้น ฉันกลับได้ยินเสียงผู้หญิงที่ฟังดูคุ้นหูดังออกมาจากข้างใน "ตอนนี้อากาศในแดนเทพแห่งนี้นับวันจะยิ่งแย่ลงเรื่อยๆแล้วนะ"
อ๋า! น้ำเสียงคุ้นหูมากเป็เสียงของผู้หญิงที่ใส่ชุดจีนโบราณที่ฉันเห็นตอนอยู่ที่ห้องพักผู้โดยสารและตอนที่อยู่บนเครื่องฉันมองลอดเข้าไประหว่างช่องผ้าม่านเล็กๆ นั้น ใช่เธอจริงๆ ด้วย
วันนี้เธอก็ยังอยู่ในชุดกระโปรงยาวสีขาวสวยงามเหมือนเดิมสวยอย่างกับแม่นางฉางเอ๋อร์เลย
ทุกคนที่อยู่ในปราสาทหลังนี้ฉันเคยเห็นมาหมดแล้วเหลือแค่เสวียนเย่ที่มาจากระกูลเสวียนหนี่คนนั้นแต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ และหลังจากที่ฉันมาถึงที่นี่ก็ไม่มีใครมาที่ปราสาทอีกแล้วถ้าอย่างนั้น ผู้หญิงคนนี้ก็คือเสวียนเย่น่ะสิ!
ดูจากท่าทางแล้วก็คงใช่แหละ
สีหน้าของเสวียนเย่นิ่งขรึมเธอยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานของเซวียนหยวนเฉิน" ประธานคะ เราจำเป็ที่จะต้องปรับปรุงอากาศของแดนเทพแห่งนี้อากาศพวกนี้ล้วนแต่เป็ฝีมือของพวกมนุษย์ที่ก่อให้เกิดมลพิษขึ้นมา..."
นี่ นี่ นี่ ประโยคนี้ฉันไม่โอเคเลยนะอากาศไม่ดีก็อย่าเอาแต่โทษว่าเป็เพราะฝีมืุ์สิ มองให้เป็กลางหน่อยดีไหมพิษอะไรนั่นมันไม่สามารถทำอะไรเราได้หรอก
เซวียนหยวนเฉินไม่พูดอะไรเขายังคงนั่งอ่านหนังสืออยู่อย่างนั้น
เสวียนเย่ยังคงพูดต่อ " เซวียนหยวนพวกเรามาตัดสินใจกันหน่อยดีไหมว่าจะจับคู่แต่งงานยังไงตัดปัญหาความคิดของผู้หญิงพวกนั้นออกไปด้วยก็ดีั้แ่มีการประกาศถึงการเลือกคู่แต่งงานออกไป ปราสาทนี้ก็ไม่เคยสงบสุขอีกเลยมีแต่คนมาสร้างความวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวันทำไมนายจะต้องหาคนมาทำความสะอาดปราสาทด้วย"
"สะอาด" จู่ๆ เซวียนหยวนเฉินก็พูดขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือในมือ"แล้ววัตถุประสงค์ของเธอล่ะ" จากมุมที่ฉันมองอยู่ตรงนี้ทำให้ฉันมองไม่เห็นสีหน้าของเซวียนหยวนเฉินแต่น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด
เสวียนเย่สูดลมหายใจพร้อมมองเข้าด้วยโกรธ " ฉันจะมีวัตถุประสงค์อะไรล่ะฉันก็อยากจะหาวิธีแก้ไขปัญหาให้ได้เร็วที่สุดไง"
"เพราะอย่างนั้นเธอเลยอยากที่จะเป็คู่หมั้นของฉันหรือว่าฝูซูล่ะ" เซวียนหยวนเฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่เ็าผิดปกติ
สีหน้าของเสวียนเย่เปลี่ยนไปทันที " ฉันไม่อยากพูดกับนายแล้วเชิญนายคิดเองเออเองต่อไปเถอะ" เสวียนเย่พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องด้วยความกรุ่นโกรธ
"ครืดดดดดด" เซวียนหยวนเฉินยกมือขึ้นมาพร้อมสั่งให้ผ้าม่านเปิดออกอีกครั้งฉันทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที จึงรีบเช็ดกระจกต่อ
ฉันออกแรงเช็ดกระจกจนเกิดเสียง
"ไปดู" เซวียนหยวนเฉินหยิบหนังสือขึ้นมาและจู่ๆ ก็พูดขึ้นมา ฉันถึงกับงงฉันรู้ว่าเขากำลังพูดกับฉัน แต่ฉันยังไม่เข้าใจ เลยถามเขาออกไปด้วยความระมัดระวัง"ดูอะไร"
ทันใดนั้นเขาก็โบกมือลงไปที่พื้นด้านล่างเท้าของฉันที่เหยีบอยู่บนแผ่นหญ้าก็ลอยขึ้นมาทันทีและเพียงแค่แปบเดียวฉันก็ลอยไปทางห้องทางฝั่งทางทิศตะวันออกทันทีอย่างกับนั่งพรมลอยได้เลย
หลังจากนั้นตัวฉันก็มาหยุดอยู่ตรงมุมบนสุดทางทิศตะวันออกของห้องและฉันก็เห็นแม่สาวสุนัขจิ้งจอกคนนั้น
ฉันกลั้นหายใจด้วยความใทันทีเพราะในตอนนี้ ฉันเห็นเสวียนเย่โผล่ออกมา!