“ห้าล้านห้า ฉันว่าครั้งนี้นายพลหลี่ระดมเงินทุนได้เยอะเลย” ในขณะที่หลินซวงกำลังประกาศให้น้ำเต้าเป็ของโหยวโยวโยวฝรั่งผมสีทองั์ตาสีฟ้าก็ลุกขึ้นมาพร้อมกับพูดขึ้น
“คนคนนี้คือชาลีเป็ชาวอังกฤษที่ทำธุรกิจขนส่งทางทะเลเป็หลักบรรพบุรุษเป็เ้าของเกาะ ชอบสะสมของโบราณหายาก” ชายหนุ่มวัยกลางคนผู้หนึ่งพูดขึ้นเบาๆข้างหูหลี่โต้วเทียน
“ฉันไม่อยากให้น้ำเต้านี่ตกไปอยู่ในมือของชาวต่างชาติแกไปบอกอาเย่าให้หน่อยสิ” พูดจบหลี่โต้วเทียนก็หลับตา
“ห้าล้านห้าเอาไปซื้อน้ำเต้าที่ไม่รู้ไว้ใช้ทำอะไร ฝรั่งคนนี้น่าสนใจดีนี่” เมื่อฝูงชนได้ยินชาลีะโบอกราคาห้าล้านห้าต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา
“แปดล้านของสิ่งนี้ควรจะเก็บไว้ที่จีน” โหยวโยวโยวขบฟันพูดขึ้นเงินแปดล้านเป็เงินทุนสูงสุดที่เธอจะให้ได้ตระกูลโหยวมีอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่งอยู่ในเมืองอู่เฉิง ทว่าอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ของตระกูลอยู่ในแถบชายฝั่งทะเล
เมื่อนายท่านหลี่ได้ฟังคำพูดของโหยวโยวโยวก็พยักหน้าเบาๆ
“หนูน้อยปู่ของฉันชอบของหายากมากๆ เลยอีกไม่กี่วันจะถึงวันเกิดปู่ฉันแล้วฉันจะเอาน้ำเต้านี่ไปเป็ของขวัญวันเกิดให้เขาน่ะสิบล้าน” ชาลีะโเสียงดัง
“เ้าคนอังกฤษขอดูหน่อยสิว่าเ้าคิดอะไรอยู่” เมื่อพูดเสร็จกัวไฮว่ก็ใช้วิชาอ่านจิตกับชาลี
“เ้าพวกคนจีนนี่นะ น้ำเต้านี่นายพลอีวานอฟเคยพูดถึงตอนที่อยู่บ้านฉันน้ำเต้านี่คือของขวัญที่มนุษย์ต่างดาวมอบให้มนุษย์โลกของสิ่งนี้ต้องนำคืนประเทศอังกฤษให้ได้ถ้าเป็ไปตามที่ฉันคาดเดาละก็เศรษฐกิจประเทศอังกฤษจะต้องพัฒนาอย่างมากแน่”
“ยี่สิบล้านปู่แกเอาของหายากไปจากประเทศจีนนี่ก็มากพอแล้วฉันว่าเก็บของนี่ไว้กับพวกเราที่นี่จะดีกว่า” กัวไฮว่พูดอย่างไม่เกรงใจ
“ประเทศจีนมีน้ำเต้าแบบนี้เยอะแล้ว ฉันว่าเธอถอยสักก้าวจะดีกว่านะเอาน้ำเต้ามาให้ฉัน สามสิบล้าน” ชาลีลุกขึ้นมามองไปยังกัวไฮว่แล้วพูดขึ้น
“เพื่อความปรารถนาของคุณปู่ฉันจะเพิ่มเงินอีกเป็สี่สิบล้าน” ชาลีขบฟังพูดราคาของสิ่งนี้เกินกว่าที่เขาคิดไว้ในใจนักเพราะเขาไม่แน่ใจว่าน้ำเต้านี่เป็ของมนุษย์ต่างดาวหรือไม่ถ้าหากไม่ใช่เงินสี่สิบล้านไม่รู้ว่าจะกระทบต่อการงานของตัวเองบ้างหรือเปล่าแต่ใครมันจะไปสนเื่เงินนักเล่า
“ฉันว่าที่แฟนฉันพูดตอนแรกก็ถูกนะ เก็บของนี่ไว้ที่จีนจะดีกว่าเพราะของนี่เดิมทีก็เป็ของของประเทศจีน ห้าสิบล้าน” พูดจบกัวไฮว่ก็ค่อยๆนั่งลงมองไปยังดวงตาที่แดงระเรื่อของโหยวโยวโยวที่ปรากฏสายตาแห่งความชื่นชมอยู่
“ห้าสิบล้านยินดีด้วยดูท่าเธอน่าจะชอบแฟนของเธอมากน้ำเต้านี่เป็ของเธอแล้วล่ะ” ชาลีพูดด้วยท่าทางสุภาพแล้วก็พูดขึ้นยิ้มๆ
“เสียของที่ปู่คุณชอบไปเพราะเงินห้าสิบล้าน กลัวว่าปู่ของคุณจะโกรธนะฮ่าๆ” กัวไฮว่ยังคงพูดอย่างไม่แยแสเพราะกัวไฮว่ค้นพบอีกเื่นึงก็คือปู่ของเ้าชาลีนี่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน
“ห้าสิบล้าน ขอบคุณกัวไฮว่นักเรียนมอสี่ที่การสนับสนุนการประมูลนี้ด้วย” หลินซวงรออยู่สามวินาทีเมื่อไม่เห็นมีใครเพิ่มราคาเลยพูดด้วยเสียงดังนักเรียนในห้องของเธอคนนี้ออกจะแย่ไปสักหน่อย แต่ว่าวันนี้ทำได้สุดยอดไปเลย
“หวังว่านักเรียนท่านนี้จะจ่ายเงินห้าสิบล้านไหวนะ” ชาลีส่ายศีรษะอย่างรุนแรงแล้วพูดขึ้น
“ลำดับต่อไปคือของชิ้นสุดท้ายในงานประมูลวันนี้” หลินซวงพูดพลางดึงผ้าสีแดงออกมาน้ำเต้าที่ดูเหมือนกับอันเมื่อสักครู่ปรากฏสู่สายตาสาธารณชน
“เหล้าดีหนึ่งกา” หลินซวงพูดยิ้มๆ
“ครูหลินขอผมขัดสักแป๊บนึง” ในขณะที่หลินซวงจะอธิบายต่อนั่นเองกัวไฮว่ก็ลุกขึ้นมาอีกครั้ง“ของที่ผมนำมาประมูลให้ทุกท่านคือเหล้าในน้ำเต้าไม่ว่าใครประมูลได้เหล้าในน้ำเต้านี่ไปต้องเทเหล้าข้างในออกมาในเวลาหนึ่งชั่วโมงเพราะน้ำเต้านี่เป็ของผม”
“ไม่เคยเห็นใครขายเหล้าแบบนี้มาก่อนเลยให้เหล้าคนอื่นแต่ตัวเองเก็บขวดเอาไว้” ชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกลจากกัวไฮว่พูดขึ้นเสียงดัง
“ช่วยไม่ได้เหล้าของฉันก็ขายแบบนี้มาตลอดก็เหมือนเวลาแกไปหาสาวสวยนั่นแหละไอ้นั่นเอาเข้าไปได้หรือว่าแกไม่เอามันกลับมาด้วย” กัวไฮว่มองชายหนุ่มที่มองยังไงก็ไม่เจริญตาจากนั้นก็พูดเสียงดัง
“ฮ่าๆ พี่ไฮว่เจ๋งเป้ง” เฉียนตัวตัวหัวเราะลั่นผู้ชายในโถงประชุมก็พลันหัวเราะตามด้วย
“ทุกคนโปรดเงียบเสียงหน่อยนะคะ ทุกคนคงเหนื่อยกันมากแล้วเรามารีบประมูลของชิ้นสุดท้ายให้เสร็จสิ้นสุดการประมูลครั้งนี้กันดีกว่า” หลินซวงพูดขึ้นด้วยใบหน้าสีแดงก่ำ
“ขอฉันแนะนำเหล้านี่หน่อยดีกว่า” เริ่นเสวียนเช่อลุกขึ้นมาจากเก้าอี้แล้วเดินก้าวใหญ่ไปข้างหน้า“เริ่นเสวียนเช่อ คนล่างเวทีที่รู้จักผมมีไม่น้อยนายท่านเริ่นคิดว่าคนน่าจะรู้จักชื่อนี้มากกว่าก็คือฉันนี่แหละ”
“ฮ่าๆ เ้าหกหลายปีมานี่ฉันหาแกไม่เจอว่ากันว่าแกแอบมาเปิดร้านอาหารอยู่ในโรงเรียนฟู่จงหรือตาแก่หลี่ก็ไม่ยอมให้พวกเราเข้ามา วันนี้แกหนีไม่รอดแน่” ผู้าุโท่านหนึ่งพูดยิ้มๆ
“วันนี้หลังจากการประมูลสิ้นสุดลงฉันจะให้กินข้าวฟรีแต่ฉันหวังว่าทุกคนจะได้เหล้าในน้ำเต้านี่ไป” เริ่นเสวียนเช่อพูดยิ้มๆ“เหล้านี่ฉันเคยกินมาสองครั้ง ครั้งแรกหน้าด้านไปขอครั้งที่สองหน้าด้านแอบกินก็คือเหล้าในน้ำเต้านี่แหละแน่นอนหลังจากการประมูลสิ้นสุดฉันจะให้เงินแก่โรงเรียนฟู่จงตามราคาประมูลได้”
เมื่อเริ่นเสวียนเช่อพูดจบทั้งโถงห้องประชุมก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
“ฉันเคยชิมเหล้ามานับครั้งไม่ถ้วน แต่เหล้าของกัวไฮว่เป็ที่หนึ่ง” พูดจบเริ่นเสวียนเช่อก็เดินลงมา
“พูดตามตรงฉันก็หน้าด้านแอบจิบไปคำนึงถึงฉันจะไม่ค่อยกินเหล้าแต่รสชาติเหล้านี่ทำให้ทั้งชีวิตของฉันไม่อาจลืมได้ฉันก็เหมือนกับคุณปู่หกหลังจากประมูลเหล้านี้เสร็จแล้วฉันจะโปะเงินค่าเหล้านี่ด้วย”หลินซวงพูดเสียงเบา “หวังว่าราคาประมูลเหล้านี่จะไม่สูงเกินไปนะคะ”
“พูดเฉยๆ แต่ไม่ได้ชิมก็ััถึงความอร่อยของเหล้านี่ไม่ได้น่ะสิ” ผู้าุโท่านหนึ่งมองไปยังคนทั้งสองบนเวทีที่เข้ากันเป็ปี่เป็ขลุ่ยแล้วพูดขึ้นด้วยความอิจฉา
“ให้พวกคุณชิมมันจะไปยากอะไร” กัวไฮว่ลุกขึ้นมาช้าๆ อย่างเกียจคร้านในมือถือน้ำเต้าอีกมือถือแก้วใบเล็กๆ ที่มีเหล้าอยู่เต็มจากนั้นกัวไฮว่ก็โยนแก้วเหล้าไปในอากาศเหล้าในแก้วจึงสาดไปทั่งสารทิศ “คนมีวาสนาได้กินหนึ่งหยดคนไร้วาสนาก็ช่างมัน” พูดจบกัวไฮว่ก็นั่งตรงที่นั่งอีกครั้ง
“ทำเป็ดีที่แท้ก็เลว ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเหล้านี่จะดีนักหนา” ผู้าุโท่านหนึ่งพูดพลางเลียเหล้าที่หยดบนหลังมือของตน
“เหล้า เอาเหล้ามาให้ฉันขอร้องเธอล่ะเธออยากได้เงินเท่าไหร่ฉันให้เธอหมดเลย” ผู้าุโะโเสียงดังลั่นมุ่งไปยังทางกัวไฮว่
“ล้านนึง ไม่สิสิบล้าน ให้ฉันกินคำนึงแค่คำเดียว” เมื่อคนที่อยู่ด้านข้างเห็นปฏิกิริยาบ้าคลั่งของผู้าุโตนเองก็อดไม่ได้ที่จะเลียเหล้าที่หยดลงบนหลังมือของตนไม่นานก็ะโเสียงดังลั่นออกมา