“ปู่เจี่ยเขาคือน้องสี่ของผมถ้าเงินของเขาไม่พอผมจะให้เอง” หลี่เย่ามองเจี่ยกูอวิ๋นแล้วพูดยิ้มๆ
“เด็กบ้าทำไมไม่บอกฉันก่อนสักคำ คนกันเองจะมาแย่งอะไรกัน ฉันไม่เอาแล้ว”เจี่ยกูอวิ๋นมองเจี่ยหยวนแวบหนึ่งก่อนจะก่นด่าเสียงดัง
“คุณปู่ถ้าอยากได้ก็เอาเ้าสี่มันไม่รู้เื่คุณปู่อย่าไปว่ามันเลยพวกเราให้ราคายี่สิบล้านยี่สิบล้าน เดี๋ยวผมประมูลภาพนั้นมาให้คุณปู่เอง”เจี่ยหยวนลุกขึ้นะโเสียงดัง
“ให้ตายสิพี่สอง พี่ทำอะไรเนี่ย” กัวไฮว่ลอบคิดในใจแล้วใช้วิชาอ่านจิตกับเจี่ยหยวน
“น้องสี่ที่แสนดีของพี่ให้ภาพตาแก่นี่ก่อนเถอะถ้าตาแก่เอากลับบ้านไปแล้วเดี๋ยวฉันขโมยออกมาเองฉันต้องซื้อของให้ตาแก่นี่ชิ้นนึงก่อนเหล้านั่นจะได้เกินร้อยล้านคงจะไม่ให้พี่ประมูลเหล้านั่นให้ตาแก่หรอกนะ”สิ่งที่เจี่ยหยวนคิดภายในใจก็ปรากฏอยู่ในสมองของกัวไฮว่
“ยายหนูเวยเวยสุดท้ายแล้วรูปนี้ก็เป็ของเราอยู่ดีให้ตาแก่ได้ไปก่อนแล้วกันนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“พี่ไฮว่ตัดสินใจแล้วก็ดี ถ้าไม่ได้ฉันก็วาดให้พี่สักสองสามรูปถ้ามีเวลาเดี๋ยวฉันพาพี่ไปพบท่านปรมาจารย์ ฉันเชื่อว่าท่านปรมาจารย์ต้องใแน่”มู่หรงเวยเวยพูดขำๆ
กัวไฮว่พยักหน้าแล้วลุกขึ้นมาพูดว่า “คุณปู่ผมไม่ทราบว่าคุณปู่ชอบรูปนี้ผมให้คุณปู่แล้วกันคุณปู่ไม่ต้องออกเงินนี่หรอกให้พี่สองผมออกถ้าคุณปู่อยากได้ตัวอักษรอื่นๆ อีก เดี๋ยวผมหาเวลาลอกแบบอักษรไปให้”
สองประโยคแรกก็ดีอยู่หรอกจะให้ภาพแก่คุณปู่ให้เจี่ยหยวนออกเงินแต่คำหลังๆ คุณปู่ฟังแล้วนั่นมันด่าตัวเองชัดๆเ้าเด็กที่ไม่รู้วิชาการต่อสู้ที่สุดในสี่ตัวอันตรายจะลอกแบบอักษรมาให้ฉันแกคิดว่าฉันไม่รู้ตัวหนังสือหรือไงแน่นอนกัวไฮว่ไม่รู้ว่าคุณปู่คิดแบบนั้น
“ใช่ ใช่ ใช่ เราประมูลรูปนี้มาผมจ่ายเงินเอง ต้องเป็ผมจ่ายเงินผมเคยรับปากคุณปู่แล้ว พวกเราพูดคำไหนคำนั้นบอกว่าจะทำก็ต้องทำ” เจี่ยหยวนรีบเร่งพูด
“ยี่สิบล้านมีราคาที่สูงกว่านี้อีกไหมคะ”หลินซวงเห็นว่านายท่านตระกูลเจี่ยไม่ได้จะยินดีสักเท่าไหร่จึงรีบคลี่คลายสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะพูด“ยี่สิบล้าน ภาพนี้เป็ของคุณปู่เจี่ยแล้วค่ะขอบคุณคุณปู่ที่ร่วมสมทบทุนในงานประมูลครั้งนี้ด้วยนะคะ”เมื่อหลินซวงพูดจบเสียงปรบมือใต้เวทีก็ดังสนั่นเศรษฐีเมืองอู่เฉิงก็ต้องไว้หน้ากันหน่อยยิ่งไปกว่านั้นยังเป็เงินการกุศลหน่วยงานรัฐบาลได้ประโยชน์ไปไม่น้อยปรบมือหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร
“ต่อไปเป็ของประมูลลำดับที่สองก่อนสุดท้าย เชิญทุกคนชมได้เลยค่ะ” หลินซวงพูดพลางดึงผ้าแดงออกก็มีน้ำเต้าอันประณีตอันหนึ่งวางไว้กลางเครื่องเคลือบ
“มาอยู่นี่ได้ไง เป็ไปได้ยังไงนอกจากข้าแล้วยังมีผู้ถูกเนรเทศมาแดนมนุษย์อีกหรือ” ในขณะที่ผ้าแดงถูกดึงออกมานั่นเองกัวไฮว่ก็ลุกพรวดขึ้นมาดวงตาจับจ้องไปยังน้ำเต้าใบนั้น
“เป็น้ำเต้าที่สวยจริงๆ เหมือนกับของหมอนั่นเลย”ซูเยี่ยพูดเสียงเบา “ตาบ้า เดี๋ยวงานประมูลจะจบแล้วนายยังไม่ได้ซื้ออะไรสักอย่างประมูลน้ำเต้านั่นมาหน่อยสิฉันอยากได้มากเลย” เสียงพูดของซูเยี่ยเบาลงเรื่อยๆความคิดแปลกๆ บางอย่างปรากฏขึ้นในสมองของเธอตัวเองเป็แค่เมียเก็บจะขอของเขาคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง
“น้ำเต้านี่เป็ของฉันไม่ให้ใครทั้งนั้น น้ำเต้านี่เป็ของฉันเป็ของฉัน” กัวไฮว่ไม่ได้ยินที่ซูเยี่ยพูดสักนิด เขาพูดพึมพำกับตัวเองเขาใช้พลังเวทที่ตัวเองมีอันน้อยนิดกับน้ำเต้าไม่คาดคิดว่าค่ายกลนอกรอบน้ำเต้านั่นยังครบสมบูรณ์นั่นก็หมายความว่าน้ำเต้านี่ยังไม่มีใครเปิดมาก่อนมีโอกาสเป็ไปได้สูงว่าข้างในจะเป็ของดี
“อะแฮ่มนายท่านทำอะไรเนี่ย ทำไมเอาของรักตัวเองออกมาล่ะ” หลี่เย่าเห็นน้ำเต้าบนเวทีก็พลันเบิกตาโพล่ง “เป็ของดีแน่ๆ”หลี่เย่าหันศีรษะกลับไปเห็นท่าทางของกัวไฮว่ก็แอบพูดขึ้นในใจว่า “นายท่าน ท่านอย่าเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”
“ของชิ้นนี้ฉันแนะนำไม่ได้จริงๆ ขอให้ทุกคนปรบมือให้กับนายพลหลี่หลี่โต้วเทียน เพื่อมาแนะนำของประมูลชิ้นนี้หน่อยค่ะ”หลินซวงพูดยิ้มๆ
หลี่โต้วเทียนคุณปู่ของหลี่เย่าเป็นายพลที่ยังมีชีวิตจนปัจจุบันของจีนที่เคยเข้าร่วมาต่อต้านญี่ปุ่นแม้จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพแล้วแต่เมื่อพูดถึงผู้าุโท่านนี้อย่าว่าแต่เมืองอู่เฉิงเลยทั่วทั้งประเทศจีนก็ไม่มีใครไม่ยกนิ้วให้
“าาทหารยุคใหม่” “เทพทหาร” “เทพาเมืองจีน”ไม่ว่าจะใช้กี่คำดีๆสักเพียงไหนมาบรรยายผู้าุโท่านนี้ก็มักจะมีพูดคำเหล่านี้อยู่เสมอ
“ทำความเคารพ!”ในเวลาเดียวกับที่ผู้าุโยืนขึ้นหลายสิบคนที่อยู่รอบด้านก็ยืนขึ้นมาด้วย มีทั้งคนทุกวัยและใส่เสื้อผ้าต่างกันในขณะเดียวกันก็ยกมือขวาขึ้นทำท่าเคารพแบบทหารกับผู้าุโอย่างนอบน้อม
“นั่งลงเถอะนี่มันงานประมูล อย่าทำให้นักเรียนใสิ”หลี่โต้วเทียนพูดขำๆ “ฉันขอพูดเกี่ยวกับน้ำเต้านี่ก่อนนะนี่เป็น้ำเต้าที่ฉันบังเอิญเจอระหว่างาในปี 1951 จนถึงตอนนี้น่าจะอายุประมาณเจ็ดสิบปี”
“น้ำเต้านี่ได้มาจากูเาฉางไป๋ซาน ส่วนทำมาจากอะไรฉันไม่แน่ใจหลายปีมานี้ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญมาดูแต่ว่าแยกแยะไม่ออกกันสักคนและไม่อาจดูยุคสมัยด้วย” หลี่โต้วเทียนพูดยิ้มๆ
“วันนี้ที่เอาน้ำเต้านี่มาประมูลหนึ่งเลยก็เพื่อหาคนที่มีวาสนากับมันหวังว่าจะเผยความลับของน้ำเต้านี่ได้ สองก็เพื่อหาเงินสมทบทุนยังไงซะคนแก่อย่างฉันก็สู้กับคนหนุ่มสาวแบบพวกเธอไม่ได้ เอะอะก็ให้ราคาสิบล้าน” หลี่โต้วเทียนพูดพลางมองไปที่เจี่ยหยวนแวบหนึ่ง
“ฉันขอพูดประโยคสุดท้ายจนถึงทุกวันนี้การประมูลครั้งนี้ประสบความสำเร็จมากได้เงินสมทบทุนมาไม่น้อยหวังว่าเงินทั้งหมดจะนำไปใช้ในที่ที่ควรจะใช้ถ้าหากใครกล้าขัดจุดประสงค์เงินสมทบทุนในครั้งนี้เกรงว่าจะต้องลั่นปืนในบ้านฉันซะแล้ว”นายท่านหลี่พูดพลางพาสายตาตกไปอยู่บนร่างของข้าราชการเมืองอู่เฉิงที่มาในครั้งนี้ด้วย
“คุณปู่วางใจได้เลยเงินที่ได้จากการประมูลทั้งหมดพวกเราจะเปิดเผยให้สาธารณชนตรวจสอบแน่นอนถ้าใช้จ่ายเงินไม่ถูกต้องสักแดงเดียวผมจะแบกหัวไปหาท่านเอง”ภายใต้สายตาของนายท่านหลี่ไม่มีใครยืนขึ้นมาสักคน เวลานี้หวังเซิงจึงยืดตัวไปข้างหน้าพูดด้วยเสียงดัง
“ฮ่าๆ เ้าเด็กตระกูลหวังไม่เลวเลยไม่เลวเป็ข้าราชการที่ดีเหมือนกับหวังหย่งจิ้นเลย” หลี่โต้วเทียนพูดพลางนั่งไปบนที่นั่งของตนหันไปมองหลินซวงแล้วพยักหน้าให้เล็กน้อย
“ราคาต่ำสุดของน้ำเต้านายพลหลี่คือหนึ่งหยวน ทุกครั้งเพิ่มเงินได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งหยวนใคร้าเชิญเริ่มได้เลยค่ะ” หลินซวงพูดจบก็แลบลิ้นพูดขำๆ
“ล้านนึง เมื่อก่อนพ่อผมเป็ทหารติดตามนายพลหลี่ผมหวังว่าผมจะนำน้ำเต้านี่ไปให้เขาได้” ชายคนหนึ่งลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเบา
“พี่จ้านขอโทษด้วยนะผมก็ชอบของนี่ หนึ่งล้านห้าแสน” ชายวัยกลางคนที่ดูอายุมากกว่าหน่อยหนึ่งพูดยิ้มๆ
“สามล้าน คุณลุงคะหนูชอบน้ำเต้านี่มากเลยให้หนูเถอะ” กัวไฮว่ยังไม่ทันได้ะโบอกราคาโหยวโยวโยวที่อยู่ด้านข้างก็ลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเบา
“โยวโยวเธอดูออกเหรอว่าน้ำเต้านี่คืออะไร”กัวไฮว่ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้นอย่างขำๆ
“เปล่าหรอก แต่คิดว่าน้ำเต้านี่คล้ายกับน้ำเต้าใส่เหล้าของนายมากเลย คิดๆดูแล้วคงไม่เลวเลยใช่ไหมตาบ้า” โหยวโยวโยวพูดยิ้มๆ
“อะแฮ่ม ยายหนูจริงๆ แล้วน้ำเต้านั่นเธอประมูลมาก็ใส่อะไรไม่ได้หรอกเพราะเธอเปิดไม่ออกอยู่แล้ว” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “อย่าเปลืองเงินเลยของนี่ให้ฉันจัดการเองดีกว่า”
“ตาบ้าอยากได้ก็บอกมา ไม่ต้องมาบอกว่าฉันเปิดไม่ออกหรอก” โหยวโยวโยวส่งเสียงฮึแล้วมองน้ำเต้าที่อยู่บนเวทีแวบหนึ่งจ่ายเงินสามล้านเพื่อซื้อน้ำเต้าที่ไม่รู้ทำมาจากอะไรแต่ก็ดูท่าทางหลายคนก็ไม่ได้จะแย่งแล้ว