“เหล่าเจี่ยหลานแกรู้จักกับเด็กที่ขายเหล้านั่นแกเคยกินเหล้าดีแบบนี้มาก่อนแล้วใช่รึเปล่า แกนี่มันรอบคอบจริงๆ เลยนะไม่เรียกพวกเราไปด้วยเนี่ยแกทำเื่อย่างนี้เหรอเจี่ยกูอวิ๋น” ผู้าุโที่อยู่ข้างๆ เจี่ยกูอวิ๋นเลียเหล้าที่หยดลงบนฝ่ามือแล้วพูดเสียงดัง
“แกเห็นฉันเป็คนยังไง ฉันจะบอกแกให้นะวันนี้ฉันเพิ่งเคยกินเหล้านี่ครั้งแรกแล้วก็แค่หยดเดียวด้วย” เจี่ยกูอวิ๋นตะคอกเสียงดังด้วยใบหน้าสีแดงก่ำ“หยวน เจี่ยหยวน ไสหัวไปเลย”
“เรียกเย่าเอ๋อร์มา เมื่อกี้ฉันเพิ่งเห็นว่าเขาอยู่ด้านหลัง” หลี่โต้วเทียนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ของหายาก มีของหายากปรากฏขึ้นในการประมูลอีกแล้วหลานชายเอ๋ย” แม้หวังหย่งจิ้นปู่ของหวังเซิงจะไม่ได้ชิมเหล้าแต่เมื่อเห็นท่าทางของคนที่อยู่เบื้องหน้าเหล่านี้ก็พลันเข้าใจโดยทันทีว่า เหล้านี่เป็เหล้าที่หลานชายตนเองนำมาให้หวังหย่งจิ้นที่เดิมควรจะยินดีกลับไม่อาจยินดีออกมาได้
“ยายหนูหลินเริ่มเถอะเหล้านี่ราคาเท่าไหร่ เธอเปิดราคามาเลย” ท่ามกลางฝูงชนมีคนะโเสียงดัง
“ปู่หกบอกแล้วนี่ เหล้านี่ปริมาณสองชั่งสองตำลึงราคาอย่างต่ำสุดคือหนึ่งพันทุกครั้งเพิ่มราคาได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยหยวนเริ่มเลยค่ะ” หลินซวงพูดเสียงดัง
“ห้าสิบล้าน ไม่พูดเยอะแล้วเหล้านี่ฉันให้ราคาห้าสิบล้าน” ชายแก่หัวหงอกพูดเสียงดังเขาคืออู่เชียนเศรษฐีเมืองอู่เฉิงผู้บุกเบิกอสังหาริมทรัพย์เมืองอู่เฉิง
“หลิวกังเห็นแล้วหรือยัง แกยังว่าฉันแกล้งแสดงว่าอร่อยอีกหรือเปล่าเหล้าเนี่ยพี่เคยกินมาก่อนแล้ว เคยกินหลายแก้วด้วย รู้รึเปล่าว่าเป็เงินเท่าไหร่เอาทองทั้งหมดมาแลกยังไม่พอเลยเ้าโง่เอ๊ย” เฉียนตัวตัวตะคอกเสียงดังลั่นกับนักเรียนชายที่วันนั้นที่หน้าห้องเรียนบอกว่าตัวเองแกล้งแสดง
“ห้าสิบล้าน อู่เชียนแกไม่ให้โอกาสให้พวกเราได้มีส่วนร่วมเลย” ผู้าุโที่นั่งแถวหน้าพูดเสียงดัง
“ห้าสิบห้าล้านลุงเชียนขอโทษด้วยนะครับไม่ทราบว่าน้องผมยังมีอีกหรือเปล่า เหล้านี่ผมเลยต้องประมูลไปให้นายท่านให้ได้”เจี่ยหยวนพูดยิ้มๆ เจี่ยกูอวิ๋นมองเจี่ยหยวนแวบหนึ่งแล้วหัวเราะด้วยความพออกพอใจ
“หกสิบล้าน เสี่ยวหยวนแกเคลียร์กับตาแก่เจี่ยแล้วนี่คราวก่อนเงินกู้แกฉันก็เป็คนช่วยแก คราวนี้ยังจะมีหน้ามาแย่งฉันอีกเหรอ” อู่เชียนพูดยิ้มๆ
“ไม่ว่านายท่านจะทำยังไง สุดท้ายแล้วก็เป็ของปู่ผมอยู่ดีไม่มีปู่ผมก็คงไม่มีพ่อผมไม่มีพ่อผมก็คงไม่มีผม และถ้าไม่มีผมก็ไม่มีอะไรแล้วเจ็ดสิบล้าน” เจี่ยหยวนพูดขำๆ
“พวกแกสองคนเข้ากันเป็ปี่เป็ขลุ่ยเลยนะทำอย่างกับเหล้าเป็ของพวกแก แปดสิบล้าน เหล้าดีก็ต้องแบ่งกัน” ผู้าุโอีกท่านหนึ่งลุกขึ้นมาพูดเสียงดังเื้ัมีสิบกว่าคนตื่นเต้นกันใหญ่
“คุณปู่ท่านก็เห็นนี่ ผมไม่กล้าบอกราคาอีกแล้วนายท่านคนเป็สิบได้ตามเก็บผมแน่ เหล้านี่ผมไม่ประมูลแล้วนะอยากกินคุณปู่ก็เอาเองสิ” เจี่ยหยวนพูดเสียงดังกับเจี่ยกูอวิ๋น
“หลายคนร่วมมือกันขนาดนี้ทำเอาเด็กๆ ใหมดเลยแต่ไม่มีผลอะไรกับพวกเราหรอกขอบอกไว้ก่อนเื่ในงานประมูลครั้งนี้ใครก็ห้ามคิดบัญชี” เจี่ยหยวนค่อยๆ ลุกขึ้นมา“ร้อยล้าน ฉันให้ร้อยล้านได้กินเหล้าดีฉันก็ตายตาหลับแล้ว”
“พี่ใหญ่เหล้าสามชั่งขายได้ร้อยล้านงั้นเหล้าของเ้าสี่กับพวกเราจะราคาเท่าไหร่กันเหล้านี่เนี่ยเ้าสี่เอามาจากไหนกันแน่” หวังเซิงไม่รู้ว่าตนเองเดินมาข้างหลี่เย่าั้แ่เมื่อไหร่เขาพูดขึ้นเบาๆ
“คราวก่อนฉันบอกแล้วไงตอนนี้เ้าสี่นี่ไม่ธรรมดาเลย” หลี่เย่าพูดยิ้มๆ“ตอนนี้ฉันอารมณ์ดีจังเลย ฮ่าๆ เหล้านี่ใครก็ห้ามดื่มฮ่าๆ”
“เงินมันเป็สิ่งไม่ดีจ่ายหมดยังหาใหม่มาได้ หนึ่งร้อยสิบล้านเ้าเจี่ยยอมให้คนแก่อย่างฉันหน่อยเถอะ เหล้านี่ฉันก็ซื้อไปให้พ่อของฉันเห็นแก่มิตรภาพปู่แกกับพ่อฉันยอมให้ฉันเถอะนะ” อู่เชียนพูดเสียงดัง
“ฮ่าๆเสี่ยวเชียนถ้าเกิดน้องเต๋อจื้อมาฉันจะไว้หน้าแกนะแต่ว่าคราวนี้ไม่ได้จริงๆ ได้ลิ้มลองเหล้านี่แล้วฉันควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆหนึ่งร้อยสิบห้าล้าน” เจี่ยกูอวิ๋นะโด้วยความบ้าคลั่ง
“พี่ใหญ่เจี่ยที่พี่พูดเมื่อกี้จริงเหรอ” เมื่อเจี่ยกูหยวนพูดจบประตูใหญ่หอประชุมก็ถูกเปิดออกผู้าุโนั่งบนรถเข็นรายหนึ่งถูกเข็นเข้ามา
“เต๋อจื้อแก...แกมาได้ยังไง” เจี่ยกูอวิ๋นพูดเสียงเบาด้วยความสับสนเล่นใหญ่กันเกินไปแล้ว
“เสี่ยวเชียนบอกว่าวันนี้มีเหล้าดีฉันต้องมาดูให้ได้ดูท่าจะจริง พี่จะช่วยผมประมูลหรือจะให้ผมทำเองล่ะ”อู่เต๋อจื้อถามขึ้นยิ้มๆ
“แก แกฟื้นมาั้แ่เมื่อไหร่ จะมาทำให้วุ่นวายอะไรอีก” เจี่ยกูอวิ๋นพูดเสียงดัง“ฉันไม่แย่งแกหรอก แต่แกจะแย่งมาได้ไหมนั้นก็อยู่ที่แกแล้วแหละ”
“ร้อยยี่สิบล้าน คงไม่มีใครมาแย่งกับคนห่วยๆ อย่างฉันใช่ไหม” อู่เต๋อจื้อพูดยิ้มๆด้วยน้ำเสียงไม่ดังนัก ทว่าทั้งโถงประชุมกลับไม่มีใครเพิ่มราคาอีก
“อู่เต๋อจื้อนี่ใครกัน” กัวไฮว่มองไปทางสาวๆ ทั้งสามคนที่มองอู่เต๋อจื้อด้วยท่าทางเคารพนับถือแล้วถามขึ้นด้วยเสียงเบาๆ
“ขาสองข้างของเขาถูกตัดไปเพราะช่วยคนทั้งเมืองอู่เฉิงเอาไว้ที่เมืองอู่เฉิงของเรามีพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งที่นั่นบันทึกเื่ราวของเขาไว้ด้วยเขาเป็ฮีโร่ของจริงเลยล่ะ” มู่หรงเวยเวยพูดเสียงเบา
“อ้อ ถ้ามีคนแบบนี้อยู่จริงๆ ฉันก็อยากจะสนทนากับเขาสักหน่อยแล้ว” เมื่อกัวไฮว่พูดจบก็ใช้วิชาอ่านจิตกับอู่เต๋อจื่อ
“เหล้าน่ะอย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะฉันเหลือเวลาไม่มากแล้วดื่มวันนี้เมาวันนี้ดีกว่า” ความคิดในใจของอู่เต๋อจื้อปรากฏขึ้นในสมองของกัวไฮว่ประโยคต่อมาทำให้กัวไฮว่ทนไม่ไหวจนลุกขึ้นมา “เหล้าดีแน่ๆเ้าหกไม่เคยโกหกอีกอย่างน้ำเต้านี่ไม่ใช่ของธรรมดาแน่ๆ ร้อยยี่สิบล้านไม่คิดเลยว่าใกล้ตายแล้วยังจะเอาเปรียบกันอีก”
“นายท่าน ท่านเพิ่งจะเข้ามาบางอย่างท่านอาจจะไม่รู้ผมต้องบอกสักหน่อย” เมื่อเห็นชายหนุ่มที่อยู่ข้างนายท่านเดินขึ้นไปหยิบเหล้ากัวไฮว่ก็ะโเสียงดังขึ้นมา
“อืม พ่อหนุ่มมีอะไรอีกหรือว่าเธอจะเพิ่มราคาอีก” อู่เต๋อจื้อชะงักไปครู่หนึ่งและไม่ได้มีท่าทีไม่พึงพอใจเขามองกัวไฮว่แล้วถามขึ้นยิ้มๆ
“นายท่านเหล้านี่ผมไม่เอาหรอก เพราะเป็เหล้าที่ผมเอามาประมูล” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“แต่ผมพูดไว้ั้แ่ตอนเริ่มแล้วว่าผมขายแต่เหล้าไม่ขายน้ำเต้า ท่านต้องคืนน้ำเต้านี่ให้ผมภายในหนึ่งชั่วโมง”
“ตาบ้านั่งลงเลยนะนายประมูลน้ำเต้าไปแล้วก็ให้น้ำเต้านี่กับนายท่านไปเถอะ”ถังซีดึงกัวไฮว่เอาไว้แล้วพูดเสียงเบานายท่านตระกูลอู่ผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะโดยปกติแล้วจะไม่คบค้าคนรุ่นหลังหรอก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆ ในตระกูลอู่จะไม่ทำอย่างนั้นทั้งในแวดวงทหาร การเมือง การค้า ไม่มีที่ไหนที่ไม่มีคนของตระกูลอู่จะมาผิดใจกับตระกูลอู่เพราะน้ำเต้าอันเดียวไม่คุ้มเสียเลย
“ยายหนูน้ำเต้าเป็ของเราก็คือเป็ของเรานายท่านอู่ไม่โทษเด็กอายุน้อยกว่าเพียงเพราะน้ำเต้าหรอก” กัวไฮว่มองถังซีแล้วพูดยิ้มๆด้วยน้ำเสียงไม่ดังมากนักแต่ก็ทำให้อู่เต๋อจื้อบังเอิญได้ยิน
“ฮ่าๆ เพราะตาแก่อย่างฉันแหกกฎเองภายในหนึ่งชั่วโมงฉันคืนน้ำเต้านี่ให้เธอแน่”อู่เต๋อจื้อพูดยิ้มๆ