เสียงร้องใดังจากชั้นสองของบ้านทำให้หัวหน้าอย่างเหลยิวิ่งขึ้นไปชั้นบนในทันที
“เตรียมพร้อมรบ!” เขาะโก้องพลางตรวจสอบยุทโธปกรณ์ของตัวเอง ทหารสามสี่นายมาถึงชั้นสองในเวลาเดียวกัน
หมู่บ้านเยี่ยนซีค่อนข้างหรูหรา บริเวณชั้นสองมีห้องขนาดใหญ่หลายห้อง แต่ทุกคนต่างมุ่งหน้าไปห้องที่ได้ยินเสียงคนกรีดร้องโหยหวน เมื่อมาถึงกลับพบสมาชิกในทีมนายหนึ่งนอนแน่นิ่งพร้อมเืสีแดงสดไหลนองเต็มพื้น
เหลยิใจนผงะก่อนวิ่งไปดูชายคนนั้น แม้คนอื่นยังอยู่ในอาการใ แต่ก็ถือปืนในมือแน่นและเดินตรวจค้นทั่วห้อง ทหารที่เหลือตื่นตัวตลอดเวลาเพราะพวกเขาอาจถูกจู่โจมได้ทุกเมื่อ
สมาชิกในทีมล้วนมีประสบการณ์การต่อสู้และบุกจู่โจมมานับร้อยครั้งโดยเฉพาะเมื่อมีอาวุธครบมือเช่นนี้ ถึงจะมีชายฉกรรจ์สิบคน พวกเขาคนเดียวก็จัดการได้สบาย ด้วยความสามารถเช่นนี้ พวกเขาจึงได้รับภารกิจเสี่ยงตายมากมาย าเ็ระหว่างปฏิบัติภารกิจเป็เื่ปกติ ไม่เคยมีครั้งใดร้ายแรงถึงชีวิตเลย
แต่ตอนนี้กลับตายไปแล้วหนึ่งคน!
เหลยิรุดเข้าไปตรวจสอบผู้ตายตรงหน้าแล้วได้ข้อสรุปว่า สมาชิกในทีมเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีคมบริเวณลำคอ โดยปกติสมาชิกทุกคนในทีมจะมียุทโธปกรณ์ครบถ้วนสมบูรณ์ และทุกนายจะมีกล้องบันทึกวีดีโอแบบเรียลไทม์ขนาดเล็กติดตัวไว้ เหลยิจึงเปิดคอเสื้อของผู้ตายอย่างรวดเร็วเพื่อเปิดกล้องบันทึกวีดีโอ แต่กลับพบว่ากล้องขนาดเล็กที่ควรติดกับปกเสื้อแตกกระจายเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เืสีแดงสดยังคงไหลออกจากลำคอของผู้ตาย แต่เขากลับไม่พบอาวุธสังหาร รู้เพียงว่าเป็อาวุธมีคมแน่นอน
ดาบ? กริช? หรืออาวุธลับ?
เหลยิมีสีหน้าเรียบเฉยแต่ในใจพยายามครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน ฝ่ายตรงข้ามฆ่าทหารนายนี้ได้ในชั่วพริบตา ต้องเป็ผู้ฝึกวรยุทธ์แน่นอน เมื่อพิจารณาจากฝีมือแล้ว แสดงให้เห็นว่าระดับวรยุทธ์ของผู้โจมตีค่อนข้างสูง และดูเหมือนคุ้นเคยกับยุทโธปกรณ์ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ อย่างน้อยก็รู้ว่าหน่วยของเขามีกล้องบันทึกวีดีโอขนาดเล็กติดอยู่ จึงทำลายเครื่องจนไม่ทิ้งร่องรอยหลักฐานใด
ปัญหาคือคนที่บุกเข้ามาสังหารสมาชิกในทีมเขาคือใคร? ้าอะไรกันแน่?
“แย่แล้ว รีบลงไปชั้นล่าง!” สีหน้าของเหลยิพลันเปลี่ยนไป เขารีบลงไปข้างล่างโดยไม่สนใจสมาชิกในทีมที่เสียชีวิตอีก คนตายก็ตายไปแล้ว ตนไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ในห้องใต้ดินยังมีหลักฐานและข้อมูลอีกมากที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้และเขาต้องรักษามันไว้
เมื่อวิ่งลงมาถึงประตูทางเข้าห้องใต้ดิน พวกเขาก็ััถึงคลื่นความร้อนจากระยะไกลห้องใต้ดินถูกเปลวเพลิงสีแดงเผาไหม้ทั่วทั้งห้อง!
เมื่อเหลยิเห็นเช่นนั้นก็คำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว เขารีบะโสั่งให้สมาชิกในทีมสองคนนำอุปกรณ์ดับเพลิงรุดเข้าไปในห้องใต้ดินเพื่อดับไฟพวกนี้ให้เร็วที่สุด ที่ร้ายแรงกว่านั้นคือมีสมาชิกในทีมคนหนึ่งเฝ้าห้องใต้ดินแห่งนี้!
“จริงสิ! รถเราที่อยู่ข้างนอกนั่น!” ทันใดนั้นเหลยิก็นึกขึ้นได้ แม้จะเสียดายหลักฐานอย่างร่างตัวประหลาดทั้งห้า ศพของไช่เฉ่าหง รีโมตควบคุม และหลักฐานอย่างอื่นที่ยังอยู่ในห้องใต้ดิน แต่พวกเขาขนกล่องเหล็กทั้งห้ากล่องไปยังรถบรรทุกที่อยู่นอกบ้านพักแล้ว
“ครึ่งหนึ่งตามฉันมา ส่วนคนอื่นดับไฟและเฝ้าห้องใต้ดินเพื่อระวังการลอบโจมตี หากเกิดเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลให้รีบส่งสัญญาณมาทันที!” เหลยิออกคำสั่งก่อนวิ่งไปนอกบ้านพักพร้อมสมาชิกในทีมอีกสามคน
เมื่อพวกเขาวิ่งมาถึงรถบรรทุกก็เห็นเงาดำทะมึนร่างหนึ่งนำกล่องเหล็กลงจากรถ ทันใดนั้นร่างนั้นก็วิ่งไปทางป่าจำลองด้วยความเร็วจนเห็นแค่เงาเลือนราง ด้วยความเร็วระดับนั้น ชั่วพริบตาก็ห่างไปไกลแล้ว
“ยิง!” เหลยิยกมือออกคำสั่งโดยไม่ลังเล สมาชิกในทีมทั้งสามคนรับคำสั่งและยกอาวุธปืนขึ้นยิงทันที
ปัง! ปัง! ปัง!
หลังจากเสียงปืนแสบแก้วหูดังขึ้นสามนัด ภายใต้แสงจันทร์ ลูกะุทั้งสามนัดออกจากปลายกระบอกปืนราวฟ้าแลบ พุ่งใส่เงาดำทะมึน แต่ร่างนั้นเร็วยิ่งกว่าะุปืนเสียอีก!
“อ่อนหัด” น้ำเสียงถมึงทึงน่าขนลุกลอยจากเงาดำทะมึนอย่างแ่เบาราวเสียงิญญาร่ำไห้
พวกเขาเห็นเพียงเงาดำทะมึนเลือนรางกระทืบเท้าเบาๆ สามครั้ง ก่อนถือกล่องเหล็กหายเข้าไปในป่าอย่างว่องไว พริบตาเดียวก็ไม่เห็นร่างนั้นแม้แต่เงา ยิ่งกว่านั้นลูกะุสามนัดยังตกทะลุพื้นดิน
อาวุธปืนส่วนใหญ่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเป็อาวุธพิเศษที่ใช้จัดการผู้มีวรยุทธ์และสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติโดยเฉพาะ พลังการทำลายล้างและพลังทะลุทะลวงมหาศาล นอกจากนี้ยังสามารถทำลายการทำงานของเส้นลมปราณได้อีกด้ว ถึงคุณสมบัติจะทรงพลังแค่ไหนแต่ถ้าโจมตีพลาดเป้าก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี
“บ้าเอ๊ย!” เมื่อเหลยิเห็นอีกฝ่ายหนีไปได้อย่างง่ายดาย ก็หัวเสียจนอดสบถออกมาไม่ได้ พลางคิดในใจว่าท่าร่างของไอ้หมอนั่นช่างน่ากลัว เขาทำงานมามากกว่าสิบปียังไม่เคยเจอท่าร่างของผู้ฝึกวรยุทธ์คนไหนรวดเร็วขนาดนั้นเลย
จากการมองผ่านกล้องล้ำสมัยที่ครอบดวงตา ก่อนเงาดำนั้นจะหายไป เขาทันเห็นว่าเงาร่างนั้นหันกลับมาเย้ยหยันจากที่ไกลๆ และทัเห็นว่ามันสวมหน้ากากผีสีขาว
“เป็ชายสวมหน้ากากจริงๆ ด้วย” เหลยิเกลียดมันสุดขั้วหัวใจ เขารีบวิ่งไปที่รถบรรทุก เมื่อมาถึงกลับพบว่าทหารที่เฝ้ารถบรรทุกคันนี้ถูกอาวุธมีคมแทงลำคอจนเสียชีวิตอยู่บนที่นั่ง ในขณะที่กล่องเหล็กทั้งหมดหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เพียงไม่นานสมาชิกในห้องใต้ดินก็ติดต่อมาว่าเหตุการณ์ไฟไหม้น่าจะเกิดจากฝีมือของใครบางคน เพราะทั้งห้องใต้ดินเต็มไปด้วยน้ำมันเบนซิน แม้แต่อุปกรณ์ล้ำสมัยของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติยังยากยับยั้งเปลวเพลิง คาดว่าหลักฐานทั้งหมดในห้องใต้ดิน ไม่ว่าจะเป็ตัวประหลาดทั้งห้า ศพของไช่เฉ่าหง หรือรีโมตควบคุมที่ใช้การไม่ได้ คงหายไปในกองเพลิงแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นสมาชิกในทีมที่เฝ้าห้องใต้ดินที่ติดต่อไม่ได้ก็คงถูกสังหารไปแล้วเช่นกัน
เงาทะมึนร่างนั้นทำให้พวกเขาสูญเสียครั้งใหญ่ นอกจากจะไม่ได้เบาะแสแล้วทหารสามนายยังถูกฆ่าตายอีก!
“คนที่แข็งแกร่งขนาดนี้คงอยู่อันดับต้นๆ ของยุทธจักรแน่” แม้เหลยิจะเป็คนหนักแน่นจริงจังจนหาที่เปรียบไม่ได้ แต่เมื่อเกิดเื่ใหญ่แบบนี้หัวหน้าหน่วยอย่างเขาก็ไม่มีความสามารถพอจะจัดการ จึงรีบหยิบอุปกรณ์สื่อสารขนาดเท่าหัวแม่มือออกมา แล้วกดปุ่มเพื่อโทรหาหลินเต๋อเทียน
……......
อีกด้านหนึ่งในเวลาเดียวกัน หลินเต๋อเทียนพาสมาชิกในทีมหกคนขึ้นรถบรรทุกทหาร จากนั้นไม่นานก็มาถึงวิลล่าชิงเฟิง แต่เ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวิ่งมาขวาง หลังจากคนขับรถแสดงสัญลักษณ์หน่วยงานของเขา เ้าหน้าที่หนุ่มก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ก่อนรีบวิ่งกลับห้องทำงานของตัวเอง
รถบรรทุกทหารเข้าวิลล่าชิงเฟิง และหยุดอยู่หน้าบ้านเย่เฟิง
“ว่าไงนะ ชายสวมหน้ากากอีกแล้ว?” หลินเต๋อเทียนรับสายจากเหลยิขณะก้าวลงจากรถ สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก เมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากปลายสาย
หลักฐานทั้งหมดที่หมู่บ้านเยี่ยนซีถูกชายสวมหน้ากากทำลายไปทั้งหมด! ยิ่งกว่านั้นสมาชิกสามคนยังถูกสังหาร ไม่ว่าใครก็ทราบดีว่าคนที่ได้เป็สมาชิกของหน่วยนี้ต่างถูกคัดเลือกมาอย่างดี อีกทั้งต้องผ่านการฝึกฝนที่เข้มงวดเป็เวลาห้าปีและยังมีค่าใช้จ่ายตลอดการอบรมนับล้าน!
มากเกินไป... มันจะมากเกินไปแล้ว!
หลินเต๋อเทียนโกรธจนตัวสั่น หากเขาไม่สามารถจับชายสวมหน้ากากได้ จะมีหน้าอยู่ในตำแหน่งระดับประเทศต่อไปได้อย่างไร? เพื่อหาตัวชายสวมหน้ากากให้พบ ขั้นแรกเขาต้องอาศัย ‘ความสัมพันธ์อันดี’ ระหว่างชายสวมหน้ากากกับเย่เฟิงเสียก่อน
เข้าไปตรวจค้น!” หลินเต๋อเทียนโบกมือ สมาชิกทั้งสี่คนรับคำสั่ง จากนั้นะโลงจากรถบรรทุกเพื่อตรวจสอบภายในบ้านพัก
“นี่พวกคุณจะทำอะไร?” ร่างบางเปิดประตูบ้านออกมา เป็ซูเมิ่งหานที่ก่อนหน้านี้พลิกตัวกระสับกระส่ายบนเตียงเพราะนอนไม่หลับ
เธอเห็นทหารสี่นายพร้อมอาวุธครบมือบุกรุกเข้ามาก็คิดว่าไม่ดีแน่ เพราะบ้านหลังนี้มีคัมภีร์ล้ำค่าซึ่งบันทึกเคล็ดวิชาที่สืบทอดจากบรรพบุรุษตระกูลเย่ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ปล่อยให้พวกเขาเข้ามาตรวจค้นไม่ได้เด็ดขาด!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้