หานไท่ฟู่โมโหเจียนคลั่ง เืในกายเดือดพล่านตีขึ้นมาบนใบหน้า หน้าของเขาแดงก่ำราวกับกำลังจะะเิโทสะออกมา
ช่างน่าโมโหนัก!
นางเด็กคนนี้คำหนึ่งก็แก่ สองคำก็แก่ ช่างทำให้คนโมโหเหลือเกิน!
เขาถูกทำให้มีโทสะจนปากสั่นทว่าไม่อาจเอ่ยวาจาใดๆ ออกมาได้
กระทั่งมู่ชิงเซียวก็ยังบังเกิดความเห็นอกเห็นใจหานไท่ฟู่ เขาก้มหน้าลงมองเฟิ่งเฉี่ยนและบังเอิญทันได้เห็นแววตาเ้าเล่ห์ของนาง รู้ว่านางกำลังก่อกวน เขาลอบปาดเหงื่อแทนหานไท่ฟู่ ทว่าแววตาที่มองนางเปี่ยมไปด้วยความเอ็นดู
เขาพบว่าไม่ว่านางจะใช้วิธีการเ้าเล่ห์หรือมีท่าทางจริงจัง เขาล้วนถูกนางดึงดูดความสนใจ เขาไม่อาจละเลื่อนสายตาไปจากนางได้เลย!
ั์ตาของเฟิ่งเฉี่ยนกลอกไปมา เมื่อนั่งลงตรงข้ามหานไท่ฟู่ นางยื่นมือออกไปหยิบหมากดำหนึ่งตัวแล้วพูดว่า “ข้านั้นให้ความเคารพผู้าุโเสมอมา! ท่านเป็ผู้าุโ ข้าย่อมไม่อาจเอาเปรียบท่าน ดังนั้น ข้าตัดสินใจ...ต่อให้ท่านสองก้าว!”
ตูมมมม!
คำพูดของนางเหมือนหินก้อนใหญ่ที่ถูกทิ้งลงไปในทะเลสาบอันสงบนิ่ง พลันก่อให้เกิดระลอกคลื่นน้ำเป็ชั้นๆ!
เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างอื้ออึง!
“อวดดีเกินไปแล้ว!”
“ข้าทนดูไม่ได้อีกต่อไป!”
“หานไท่ฟู่ เดินหมากกับนาง บีบนางให้ตายคามือ!”
“บีบนางให้ตาย!”
คิ้วยาวของหานไท่ฟู่กระตุกจนแทบจะได้ยินเสียงทีเดียว ดวงตาทั้งคู่นั้นแลบเปลวไฟราวกับจะกินคนได้ “ตาแก่เช่นข้าต้องให้เ้าอ่อนข้อให้สองก้าวหรือ ต้องเป็ตาแก่เช่นข้าอ่อนข้อให้เ้าสองก้าวจึงจะถูก! ต่อให้อ่อนข้อให้เ้าสองก้าว ข้าก็ทำให้เ้าพ่ายแพ้กระทั่งต้องร่ำไห้จนต้องเรียกหาบิดามารดาได้!”
ดวงตาเฟิ่งเฉี่ยนทอประกายวาบ นางรับปากทันที “ได้! ท่านพูดเองนะ ว่าจะอ่อนข้อให้ข้าสองก้าว! หากข้าชนะแล้ว ท่านต้องรับปากข้าเื่หนึ่ง!”
นางรอเพียงประโยคนี้ของเขา!
ในเมื่อใช้ไม้อ่อนไม่ได้ ก็ต้องใช้ไม้แข็ง!
ได้แต่ใช้วิธียั่วโทสะเขา ั้แ่หลอกล่อให้เขารับปากเดินหมากด้วย แต่นางเองก็กังวลใจเช่นกันด้วยฝีมือการเดินหมากของฝ่ายตรงข้ามอยู่ในระดับยอดฝีมือ ตนเองสู้ศัตรูไม่ได้ ดังนั้นจึงคิดแผนการหลอกล่อให้อีกฝ่ายอ่อนข้อให้ตนสองก้าว
เมื่อเป็เช่นนี้ความเป็ไปได้ที่นางจะเป็ฝ่ายชนะย่อมมากขึ้นสองส่วน ฉวยโอกาสยื่นเงื่อนไขออกไปในตอนนี้ ลำบากเพียงครั้งเดียวแต่สบายไปตลอด!
หานไท่ฟู่ชะงักงัน เขาพ่นลมใส่เคราของตนและพูดว่า “อาศัยอะไรให้ข้าต้องยอมรับเงื่อนไขของเ้า”
เฟิ่งเฉี่ยนยักไหล่ “ไม่กล้าเดิมพันหรือ พูดให้ถึงที่สุดแล้ว ท่านยังคงกลัวแพ้อยู่นั่นเอง!”
“ใครกลัวแพ้กัน” หานไท่ฟู่ตะเบ็งเสียงใส่จนหน้าแดงก่ำ เขาตบโต๊ะด้วยโทสะ “ได้ ข้าจะเดิมพันกับเ้า! หากเ้าแพ้ เ้าจะต้องขอขมาข้าต่อหน้าธารกำนัล และจะต้องไสหัวออกไปจากชุมนุมเดินหมาก ห้ามปรากฏตัวต่อหน้าข้าตลอดกาล!”
เฟิ่งเฉี่ยนลุกขึ้นตบโต๊ะเช่นกัน “ได้ ตกลงตามนี้!”
หานไท่ฟู่มีสีหน้าดำทะมึน “เ้าใช้หมากดำหรือหมากขาว”
เฟิ่งเฉี่ยนยื่นมือไปหยิบหมากดำออกมาสองตัวแล้วกล่าวว่า “ท่านมิใช่กล่าวว่าจะต่อให้ข้าสองก้าวหรอกหรือ ข้าย่อมต้องเลือกหมากดำ!”
พูดแล้วนางก็หยิบหมากดำสองตัววางลงบนกระดานหมากอย่างมิเกรงอกเกรงใจ หนึ่งในหมากตัวนั้นถึงกับวางลงบนตำแหน่งเทียนหยวน!
หานไท่ฟู่หน้าเขียวทันที!
เขามีชื่อเสียงมาจากการ “เดินหมากเทียนหยวน” การเดินหมากดำก้าวแรกต้องเดินตำแหน่งเทียนหยวน นี่เป็ทฤษฎีที่เขาสรุปออกมาด้วยตนเอง เวลานี้นางถึงกับใช้หลักทฤษฎีของเขามาเดินหมากกับเขา ใช้วิธีการเช่นนี้มิใช่้าทำให้เขาโมโหตายหรือไร
เฟิ่งเฉี่ยนคลี่ยิ้มบางๆ ให้เขา “ขออภัยหานไท่ฟู่ด้วยที่ยึดตำแหน่งเทียนหยวนของท่านเสียแล้ว!”
เ้ายึดไปแล้วก็ยึดไปแล้วเถิด ไฉนจึงยังจงใจพูดออกมาเพื่อทิ่มแทงจิตใจฝ่ายตรงข้ามด้วย!
เ้าเจตนากระมัง!
ถูกต้อง นางเจตนา!
ใครใช้ให้ชื่อเสียงของหานไท่ฟู่เลื่องลือเช่นนี้ ส่วนนางเป็แค่มือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มต้นหัดเดินเท่านั้น
คิดจะเอาชนะยอดฝีมือระดับเจ็ดด้วยฐานะของผู้ไร้ประสบการณ์ เป็เื่การเอาไข่ไก่ไปกระทบกับก้อนหินโดยแท้ ไม่รู้จักประมาณตน!
แต่นางไม่มีทางเลือก นี่เป็วิธีการเพียงวิธีเดียวที่นางคิดออก
คิดจะตอบโต้ นางจำเป็ต้องชนะเท่านั้น!
ต่อให้ต้องกล้าได้กล้าเสีย นางก็ต้องลองดู
ดังนั้น นางได้แต่รู้สึกผิดในใจ นางไม่ได้เจตนาที่จะยั่วโทสะหานไท่ฟู่จริงๆ ล้วนเป็กลยุทธ์ที่นางต้องทำเพื่อต่อกรกับฝ่ายตรงข้ามทั้งสิ้น!
หานไท่ฟู่ ขอโทษด้วย!
ไว้รอให้เื่ทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้วจะมาขอยอมรับผิดกับท่าน!
หลังจากบันดาลโทสะแล้วหานไท่ฟู่สงบสติอารมณ์ลงในที่สุด แม้ในยามปกติเขาจะเป็คนมีนิสัยมุทะลุดุดัน แต่เขาหลงใหลคลั่งไคล้การเดินหมากอย่างจริงจัง ทันทีที่เริ่มเดินหมาก คนทั้งคนจะเปลี่ยนไปทันที สิงโตที่กำลังโกรธแค้นกลายเป็นักเดินหมากที่สุขุมใจเย็นคนหนึ่ง!
แม้ต้องสูญเสียความได้เปรียบั้แ่เริ่มการเดินหมาก อีกทั้งยังถูกยึดครองตำแหน่งที่ดีที่สุดไปถึงสองตำแหน่ง ทว่าสำหรับเขาแล้วนั่นเป็เพียงแค่การเริ่มต้น
เขาแค่นหัวเราะเสียงเย็น “อย่าได้ดีใจเร็วเกินไปนัก! การเดินหมากล้อมเป็การต่อสู้ที่ยาวนานและต่อเนื่อง สถานการณ์พลิกผันได้ตลอดเวลา มิใช่ว่าใครเลือกตำแหน่งที่กำชัยชนะได้ก่อนจะเป็ผู้ชนะเสมอไป! ตอนนี้เ้าดีใจไม่แน่ว่าจะเป็การดีใจเร็วเกินไปสักหน่อย!”
แปะ!
หมากขาวตัวหนึ่งวางลงไป
สีหน้าท่าทางของเฟิ่งเฉี่ยนยังคงสงบนิ่งดังเดิม ทว่าในใจกลับระแวดระวังมากขึ้น ทุกๆ ย่างก้าวของการเดินหมากล้วนรับมืออย่างรอบคอบ
แปะ!
หมากดำตัวหนึ่งวางลงไป
หมากขาวเริ่มโจมตีอย่างรวดเร็ว!
เมื่อเดินหมากไปได้ราวๆ สิบกว่าก้าว หมากขาวเริ่มก่อตัวเป็รูป “ปากกว้าง” เมื่อหันกลับไปดูหมากดำ เป็การเดินหมากแบบไร้กลยุทธ์ ดูวุ่นวายไม่เป็ระเบียบแบบแผน
ผู้ที่ล้อมเข้ามาดูการเดินหมากมองปราดเดียวก็แจ่มแจ้ง
“หมากดำเดินหมากส่งเดชหรือ ดูแล้วเป็การเดินหมากส่งๆ!”
“ความได้เปรียบจากแต้มต่อสองก้าวของหมากดำไม่มีอีกแล้ว น่าเสียดาย น่าเสียดาย!”
“คนนอกก็คือคนนอก!”
“หมากกระดานนี้ท่านาุโหานใช้กลยุทธ์ปากกว้าง ต่อสู้อย่างมั่นคง ก้าวใดคว้าได้ก็คว้าไว้ก่อน นี่แหละคือการเดินหมากของนักเดินหมากที่เปี่ยมประสบการณ์ ไม่ได้รับผลกระทบจากการท้าทายของฝ่ายตรงข้ามแม้แต่น้อย วิธีการเดินหมากยังคงเก่งกาจเหมือนเดิม!”
“แม้ท่านาุโหานจะถูกแย่งความได้เปรียบจากตำแหน่งเทียนหยวน แต่เมื่อเริ่มใช้กลยุทธ์ปากกว้าง หมากกระดานนี้ย่อมต้องชนะแน่นอนแล้ว”
มู่ชิงเซียวเองแตกฉานในการเดินหมากล้อมเช่นกัน เขาเห็นวิธีการเดินหมากของเฟิ่งเฉี่ยนแล้วได้แต่ส่ายหน้ายิ้มเฝื่อน ดูท่าแล้วนางเดินหมากล้อมไม่เป็จริงๆ รู้แต่แรกว่าเป็เช่นนี้ควรเปลี่ยนให้เขาไปเดินหมากแทน
“เฉียนเฉี่ยน เ้าไหวหรือไม่” เขาถามเสียงเบา
เฟิ่งเฉี่ยนตอบอย่างสงบ “วางใจ ทุกอย่างล้วนอยู่ในการควบคุม!”
แม้เสียงที่ทั้งสองคนคุยกันจะเบามาก แต่คนที่ล้อมอยู่รอบๆ ยังคงได้ยินจึงอดที่จะเหลือกตาขาวมองบนไม่ได้
เดินหมากไม่เป็กระบวนท่า เ้ายังพูดว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุม โอ้อวดไปเถิด เชิญโอ้อวดต่อไป!
หานไท่ฟู่ตวัดสายตามองเฟิ่งเฉี่ยนปราดหนึ่งแล้วเยาะเย้ยถากถาง “แม่นาง มองสถานการณ์ในตอนนี้ชัดเจนแล้วหรือไม่ อย่าได้กล่าวโทษว่าข้าไม่ตักเตือนเ้า ตอนนี้ข้าใช้กลยุทธ์ปากกว้างแล้ว เป็วิธีการเดินหมากที่บรรพบุรุษของพวกเราคิดค้นสร้างสรรค์จากประสบการณ์การเดินหมากนับร้อยปี เป็ความรู้และสติปัญญาที่บรรพบุรุษของพวกเราสั่งสมมา ดังนั้น ศาสตร์การเดินหมาก เป็ศาสตร์ที่กว้างขวางและลึกซึ้ง มิใช่ว่าใครก็ได้ที่เรียนรู้การเดินหมากเพียงไม่กี่วันจะกระจ่างแจ้งได้”
หมากขาวยังคงเดินต่อไป
เฟิ่งเฉี่ยนมีสีหน้าท่าทางราวกับได้คำชี้แนะแล้ว “ที่แท้นี่เรียกว่ากลยุทธ์ ปากกว้าง หรอกหรือ ข้าจดจำไว้แล้ว”
ตำราทักษะการเดินหมากที่นางเรียนรู้มาไม่มีสูตรนี้จริงๆ ดังนั้นนางรับคำชี้แนะแล้วจริงๆ
หมากดำต้าน!
หานไท่ฟู่แค่นหัวเราะเสียงเย็นอย่างดูแคลน ในสายตาของเขาแล้วนางเดินหมากส่งเดช เพราะเขาไม่เคยพบการเดินหมากเช่นนี้มาก่อน
หมากขาวตอบโต้!
หมากดำหลบ!
หมากขาวพุ่งชน!
....
เมื่อหมากขาวเดินไปราวๆ ถึงก้าวที่สามสิบหก มือที่หยิบหมากดำของหานไท่ฟู่ชะงักกึก สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไป!
เห็นเพียงหมากดำที่เดิมอยู่บนกระดานหมากอย่างสะเปะสะปะนั้น ไม่รู้ว่าได้กลายเป็ปากกระเป๋าขนาดใหญ่อย่างเป็ระเบียบั้แ่เมื่อใด มันรอเพียงแค่กลืนกินหมากขาวทั้งหมดลงไปในกระเป๋าเท่านั้น...
หานไท่ฟู่ถึงกับทึ่มทื่อไปในทันที เขาใจนหลั่งเหงื่อเย็นท่วมตัว!
“เป็ เป็ไปได้อย่างไรกัน”
คนที่ล้อมรอบดูการเดินหมากต่างมองออกเช่นกัน
“ให้ตายเถอะ! นี่มันกลยุทธ์ปากกระเป๋าหรือ”
“เริ่มวางกลยุทธ์ั้แ่เมื่อใดกัน เหตุใดข้ามองไม่ออกแม้แต่น้อย!”
“หรือนางไม่ได้เดินหมากส่งเดช แต่นางเดินหมากเป็จริงๆ”
“คมในฝักนี่นา!”
“ครานี้ท่านาุโหานอันตรายแล้ว”