บทที่ 47 เ้าอารมณ์กันทั้งนั้น
ท่าทางของชายชราทำให้เย่จื่อเฉินตะลึงงัน มองดูกลุ่มคนที่อยู่รอบตัวเขา
กองกำลังรักษาการณ์!
หรือว่าคุณซูจะเป็นายทหาร?
ถ้าอย่างนั้นซูเหยียนก็คือยุวชนเรดการ์ด[1] น่ะสิ?
ตำรวจที่มาจับเย่จื่อเฉินก็หยุดนิ่งเช่นกัน ทหารกับตำรวจแยกออกเป็สองหน่วยงาน แต่แค่อีกฝ่ายมีกองกำลังรักษาการณ์มาเพิ่มเต็มไปหมด ที่สำคัญกว่านั้นก็คือคนก็เยอะกว่าด้วย
"หัวหน้าครับ เราจะจับหรือเปล่าครับ?"
"จับ"
ตำรวจหลินยกคิ้วขึ้น มิน่าล่ะเ้าเด็กนี่ถึงได้อวดดีขนาดนี้ ที่แท้ก็มีเส้นสายในหน่วยงานทหารนี่เอง
ถ้าครั้งนี้เป็คนอื่นที่ออกปฏิบัติหน้าที่ บางทีก็อาจจะปล่อยให้เขาหนีไปจริงๆ
แต่เขาโชคไม่ดี ที่มาเจอเธอตอนกำลังออกปฏิบัติหน้าที่
"กองกำลังรักษาการณ์!"
"ครับ!"
กองกำลังรักษาการณ์ย่ำเท้ายืนตรงพร้อมกัน ชายชราหรี่ตาลงพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะในลำคอแล้วพูด
"พ่อหนุ่มที่อยู่ตรงนั้นทำเพื่อช่วยคนแก่อย่างฉัน พวกคุณที่เหลืออยู่เข้าใจหรือยัง?"
สิ้นคำพูด ชายชราก็เอามือไพล่หลังเดินไปหยุดอยู่ทางด้านข้าง
"กองกำลังรักษาการณ์ อยู่กันครบทีมแล้ว เริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้!"
กองกำลังรักษาการณ์หลายนายเข้าล้อมทีมตำรวจของตำรวจหลินไว้ทั้งหมด พร้อมด้วยผู้ชายติดอาวุธทางการทหารสองนายยืนขวางอยู่ข้างหน้าเย่จื่อเฉินในเวลาเดียวกัน
"หัวหน้าครับ..."
"หัวหน้าอะไรเล่า ไปจับมา"
ตำรวจหลินโมโหขึ้นมาแล้วเหมือนกัน เยี่ยมเลย จะขู่ฉันเหรอ?
เธอไม่ใช่คนที่จะยอมอ่อนข้อให้กับการกระทำที่ไม่ถูกต้อง พวกคุณอยากจะวัดกันไม่ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นเราก็มาลองสู้กันสักตั้ง
"ฉันอนุญาตให้พวกนายลั่นปืนใส่ผู้ที่กระทำการขัดขวางได้ ถ้ามีปัญหาฉันรับผิดชอบเอง!"
ทันใดนั้น ทั้งสองฝ่ายก็ประจันหน้ากัน กลิ่นเขม่าดินปืนคละคลุ้ง
เย่จื่อเฉินที่ยืนอยู่ข้างหลังได้ยินบทสนทนานี้ ดูท่าจะเป็คนเ้าอารมณ์กันทั้งนั้น ปลายกระบอกปืนสีดำชี้เข้าหากันและกัน นี่จะลั่นไกกันแล้วใช่ไหม...
เขาไม่รับผิดชอบไม่ได้!
ทำไมเื่ราวถึงได้บานปลายใหญ่โตขนาดนี้ล่ะ?
เย่จื่อเฉินเกาหัวและตบบ่าสมาชิกของกองกำลังรักษาการณ์ที่ยืนขวางอยู่ข้างหน้าเขาเล็กน้อยแล้วพูด
"ถอยหน่อย ผม...ผมขอพูดหน่อย...ผมขอพูดอะไรหน่อย"
นายทหารหันไปมองทางชายชราเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคุณซูพยักหน้าเขาจึงเบี่ยงตัวให้เย่จื่อเฉินได้เดินออกมา
"จับเขา..."
แก๊ก!
ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังเย่จื่อเฉินยกปืนขึ้นทันที เย่จื่อเฉินที่ยืนอยู่ตรงกลางนั้นหนังหัวแทบจะะเิแล้ว
บัดซบเอ๊ย!
พวกนายจะยิงกันก็ยิงไปสิ แต่ฉันยืนอยู่ตรงกลางพวกนายจะยกปืนขึ้นมาทำบ้าอะไร
ถึงฉันจะหนังเหนียวฟันแทงไม่เข้า แต่ก็ต้านอาวุธที่เป็ความร้อนไม่ได้หรอกนะ!
"ทุกคนอย่าขยับ"
เย่จื่อเฉินะโขึ้นมาแล้วก็วิ่งไปหยุดอยู่ตรงหน้าชายชรา ก่อนจะพูดพึมพำอะไรสักอย่างก็ไม่รู้
"เสี่ยวเย่ เื่นี้..."
"คุณตาครับ ผมรู้ว่าคุณตาหวังดีกับผม แต่ทุกประเทศสำนักงานตำรวจและพลเรือนล้วนมีความร่วมมือกัน พวกเราจะทำให้คนอื่นลำบากกันหมดไม่ได้ อีกอย่างคุณก็เป็หัวหน้าใหญ่ด้วย "
"ก็ได้ แต่ถ้าพวกเขาทำให้เธอลำบาก ให้มาหาฉัน..."
"ครับผม"
เมื่อเจรจาไกล่เกลี่ยเื่ราวเรียบร้อยแล้ว กองกำลังรักษาการณ์ก็กลับมาอยู่ข้างกายชายชราตามสัญญาณของเขา
จากนั้นเย่จื่อเฉินก็วิ่งไปหาตำรวจหลิน
"เราไปกันเถอะ"
"จับตัวไป"
ถึงเย่จื่อเฉินจะแก้ไขปัญหาใหญ่ขนาดนี้ลงได้ แต่ตำรวจหลินก็ยังไม่ใจดีกับเขาอยู่ดี
นายตำรวจที่อยู่รอบๆ เข้ามาล้อมเย่จื่อเฉินทันที ก่อนจะเข้ามาจับพร้อมกับใส่กุญแจมือเขา
"อะไรกันเนี่ย ไม่ต้องใส่กุญแจมือก็ได้มั้งครับ ยังไงผมก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่ดี"
เย่จื่อเฉินพูดพร้อมกับหันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้กับตำรวจหลินที่มองชายชราอยู่ หลังจากที่ตำรวจหลินมีท่าทีลังเลอยู่นานก็ได้เอ่ยปากพูดขึ้น
"ช่างเถอะ"
"ฉันจะไปกับพวกคุณด้วย เื่นี้เกิดขึ้นเพราะฉัน"
เมื่อเห็นว่าเย่จื่อเฉินกำลังจะโดนพาตัวขึ้นรถตำรวจ ซูเหยียนที่เป็ห่วงก็วิ่งเข้าไป
ตำรวจหลินมองเธอเล็กน้อย แล้วก็มองสีหน้าของชายชราอีกครั้งก่อนจะเลิกคิ้วพูด
"พาตัวไปด้วย"
หลังจากที่รถตำรวจขับออกไปแล้ว ก็พบว่ามีโต๊ะตัวหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากร้านบาร์บีคิว
"คุณชายครับ มันโดนพาตัวไปแล้ว พวกเรา..."
"กลับไปบอกฟู่เฉิงิ ว่าภารกิจนี้พวกเราไม่ทำแล้ว"
ชายหนุ่มหรี่ตาลงและกระดกเบียร์ในขวดดื่มรวดเดียวหมด ชายชราที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็ยิ้มอยู่ในใจแล้วพูด
"นั่นสิครับ เห็นชัดเลยว่าซูเหยียนเป็ห่วงผู้ชายคนนั้นมาก พวกเราไม่มีความจำเป็ต้องผิดใจกับตระกูลซูเพื่อตระกูลฟู่"
ชายหนุ่มพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร แต่ในหัวกลับมีคำพูดเมื่อครู่นี้ของเย่จื่อเฉินปรากฏขึ้นมา
บอกจะหักแขนหักขาก็ทำจริงๆ เป็คนมันต้องถือสัจจะในคำพูด!
"เป็คนที่น่าสนใจดี"
เมื่อได้เห็นห้องสอบสวนที่คุ้นเคย เย่จื่อเฉินก็อดส่ายหน้าขำไม่ได้
ไม่รู้ว่าั้แ่เมื่อไรที่เขาได้ค่อยๆ กลายมาเป็ขาประจำของทางสถานีตำรวจ
ปึง!
ตำรวจหลินเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเ็า พร้อมกับโยนสมุดบันทึกประจำวันลงบนโต๊ะเต็มแรง
"เดี๋ยวนะ คุณตำรวจหลิน ทำไมคุณต้องโมโหขนาดนี้ด้วย"
ตำรวจหลินนั่งลงบนเก้าอี้โดยไม่พูดอะไร จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้น ดวงตาสองข้างเหลือบมองเย่จื่อเฉินด้วยสายตาคาดโทษ
"ชื่อนามสกุล"
เย่จื่อเฉินได้ยินก็ส่ายหน้าขำ
"คุณไม่รู้เหรอว่าผมชื่ออะไร? เมื่อกี้ตอนอยู่ที่ร้านบาร์บีคิวคุณยังะโเรียกชื่อผมอยู่เลย"
"อย่ามาเล่นลิ้นกับฉัน นายทำผิดเข้าใจไหม?"
"แต่เมื่อกี้ผมช่วยคุณ คุณเข้าใจไหมครับ?" เย่จื่อเฉินลุกขึ้นยืน เดินมาหยุดหน้าโต๊ะหน้าสอบสวนแล้วโน้มตัวลงบนโต๊ะ
"คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณตาคนเมื่อกี้เป็ใคร ตำรวจตัวเล็กๆ อย่างคุณน่ะเหรอจะไปต่อกรกับเขา ถ้าไม่ใช่เพราะผมคุณได้ขึ้นศาลทหารไปแล้ว"
"นายถอยไปห่างๆ ฉันเลยนะ"
ตำรวจหลินยกมือขึ้นผลักเย่จื่อเฉินออกไป
เมื่อครู่นี้ระยะห่างของทั้งสองคนมันแค่ประมาณสองเิเเท่านั้น จมูกแทบจะชนกันอยู่แล้ว
สายตาของเย่จื่อเฉินมองเลยลงไปในคอเสื้อ่หน้าอกของเธอโดยอัตโนมัติ รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปาก
"ตำรวจหลินนี่หุ่นดีจริงๆ"
ปัง!
ฝ่ามือหนึ่งตบลงบนโต๊ะ เสียงดังลั่นนั้นทำเอาเย่จื่อเฉินใจนสะดุ้ง
"คุณนี่มันผู้หญิงแบบไหนกัน เอะอะก็โวยวาย"
ดวงตาสองข้างของตำรวจหลินเต็มไปด้วยความเยือกเย็น แล้วจึงตะคอกใส่เย่จื่อเฉิน
"กลับไปนั่งที่ของนาย!"
เย่จื่อเฉินถอนหายใจเบาๆ แล้วจึงกลับมานั่งที่เก้าอี้ของเขา ทันทีที่เขานั่งลงตำรวจหลินก็เปิดปากพูดขึ้นอีกครั้ง
"บอกมาว่า ทำไมถึงต้องจงใจทำร้ายผู้อื่น"
"แบบนี้เรียกจงใจทำร้ายแล้วเหรอ" เย่จื่อเฉินเบิกตากว้างอย่างหวาดกลัว แล้วะโด้วยท่าทางโอเวอร์ "ผู้ชายคนนั้นพูดจาหยาบคายใส่เพื่อนผมก่อนนะ แถมมือปลาหมึกอีก ผมสั่งสอนเขาไปนิดหน่อยมันก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอ?"
"เหอะ นั่นนายเรียกว่านิดหน่อยเหรอ นายหักแขนขาเขาเลยนะ" ตำรวจหลินเหยียดยิ้ม
"คุณไม่รู้ใช่ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นเป็ใคร นั่นหลานสาวแท้ๆ ของคุณซูเลยนะ ยุวชนเรดการ์ดรุ่นสาม คุณไม่เห็นกองกำลังรักษาการณ์ของเขาหรือไง? ที่ผมทำแบบนั้นก็เพื่อช่วยผู้ชายคนนั้น ไม่อย่างนั้นเขาไม่มีชีวิตเหลือรอดไปหรอก"
เย่จื่อเฉินทำทีเหมือนว่ากำลังช่วยผู้ชายหัวโล้นอยู่ ตำรวจหลินแสยะยิ้มมุมปากแล้วจึงตบโต๊ะอีกครั้ง
"นายอย่ามาแก้ตัวหน่อยเลย จะบอกอะไรนายให้นะ ไม่ว่านายจะพูดยังไงนายก็จงใจทำร้ายคนไปแล้ว โดยเฉพาะการที่กล้าทำร้ายคนต่อหน้าฉัน เื่นี้ไม่สามารถปล่อยไปได้ แล้วอีกอย่างถือว่าคนอย่างนายมันดวงซวยที่ตกมาอยู่ในกำมือของฉัน!"
ดูเหมือนว่าเย่จื่อเฉินจะทำให้ตำรวจหลินโกรธอยู่ไม่น้อยเลย หน้าอกใหญ่ล้นพลันขยับขึ้นลงไปด้วย
"คุณตำรวจหลินครับ คุณพูดแบบนี้มันค่อนข้างที่จะดูหาเื่ผมไปหน่อยนะ" เย่จื่อเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้ มุมปากยิ้มร้ายและโน้มตัวลงไปบนโต๊ะสอบสวนของตำรวจหลินอีกครั้ง
"หรือว่าคุณคิดอะไรกับผม?"
___________________________________________________
[1] ยุวชนเรดการ์ด หรือยุวชนแดง เป็ขบวนการทางสังคมกึ่งทหารของนักศึกษาเยาวชนซึ่งถูกเรียกระดมโดยเหมา เจ๋อตุง ในปี พ.ศ. 2509 และ พ.ศ. 2510 ใน่ระหว่างการปฏิวัติทางวัฒนธรรมของประเทศจีน