บทที่ 46 เื่ใหญ่
ความขัดแย้งคลี่คลายลงได้สักที
เย่จื่อเฉินและซูเหยียนพากันกลับมาที่ร้านบาร์บีคิว ชายชรายังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ แววตาขี้เล่นกวาดมองพวกเขาทั้งสองคน
"หนุ่มสาวคืนดีกันแล้ว?"
ถึงจะรู้ว่าชายชราตั้งใจจับคู่ให้เขากับซูเหยียน แต่ก็ไม่คิดว่าจะพูดออกมาโต้งๆ แบบนี้
ที่สำคัญก็คือทำไมชายชราถึงจับคู่ให้พวกเขาสองคน?
เพื่อเหล้าขวดนั้นเหรอ?
ถ้าเป็แบบนั้นจริงๆ ซูเหยียนจะดูไร้ค่าเกินไปหรือเปล่า
โชคดีที่คนที่เอาเหล้าออกมาเป็เขา ถ้าเป็คนอื่นเขาได้ร้องไห้จนเป็ลมอยู่ในห้องน้ำแน่นอน
ผิดกับซูเหยียนที่แก้มสวยแดงระเรื่อไปหมด เธอขบกัดปากแล้วตบโต๊ะเหมือนกลบเกลื่อนแล้วพูด
"ถ้าปู่ยังพูดมั่วๆ ทีหลังหนูจะไม่แอบพาปู่ออกมากินอีกแล้วนะ"
"อุ้ย! ปู่พูดมากเอง"
ชายชราหัวเราะร่วน
ดื่มกินไปได้อีกครึ่งชั่วโมง ชายชราก็พอใจ ทั้งสามคนจึงเตรียมตัวกลับ
"พี่ใหญ่ เ้านั่นดูเหมือนจะเป็เย่จื่อเฉินที่คุณชายฟู่พูดถึงเลย"
วัยรุ่นหัวแดงคนหนึ่งยกมือขึ้นชี้ไปทางเย่จื่อเฉิน วัยรุ่นห้าหกคนที่อยู่รอบตัวจึงเข้ามามุงดูทันที
"เฮ้ย ใช่จริงๆ ด้วย"
ผู้ชายหัวโล้นลูบหัวที่เปล่งประกาย รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าแล้วพูด
"โชคดีจริงๆ เพิ่งรับงานมาเมื่อกี้ก็เจอตัวเลย"
"นี่ นายลามก พวกเขาเรียกนายน่ะ" หลิวฉิงที่ลอยอยู่กลางอากาศะโ
"เสี่ยวเย่ คนกลุ่มนี้มาหานายหรือเปล่า?" ชายชราเองก็ขมวดคิ้ว
ถึงแม้ว่าซูเหยียนจะไม่ได้ปริปากพูด แต่ความเครียดในดวงตาที่มีแทนเย่จื่อเฉินกลับมีมากกว่าใคร
"ไอ้น้อง นายชื่อเย่จื่อเฉินใช่ไหม"
ชายหัวโล้นลูบทองเส้นใหญ่บนคอ ฉีกยิ้มเห็นฟันเหลืองซี่ใหญ่พร้อมกับเดินเข้าไปหาเย่จื่อเฉิน
เย่จื่อเฉินยืนนิ่งไม่ขยับ ดูท่าว่าคนกลุ่มนี้คงจะเป็คนที่ฟู่เฉิงิส่งมาจัดการเขา
คิดไม่ถึงเลยว่าฟู่เฉิงิจะทำอะไรเร็วขนาดนี้
"ใช่ ฉันเอง"
เย่จื่อเฉินตอบโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยน
"ดี กล้ายอมรับ ไม่เลว" ชายหัวโล้นลูบหัวโล้นเล็กน้อยแล้วพูด "คุณชายฟู่ให้พวกฉันมาหักขาแกข้างหนึ่ง แกดูสิ..."
"พ่อหนุ่ม ตอนนี้สังคมมีกฎหมายนะ เธอไม่กลัวว่าจะโดนลงโทษตามกฎหมายเลยเหรอ?"
ชายชราเริ่มทนดูต่อไปไม่ได้จนต้องเดินเข้าไปพูดแทรก แต่ใครจะรู้ว่าพอชายหัวโล้นได้ยินคำนี้ เขากลับหัวเราะขึ้นมาเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง
"ตาแก่ แกกล้ามาพูดเื่กฎหมายกับฉันเหรอ? จะบอกอะไรแกให้นะ ฉันนี่แหละกฎหมาย สิ่งที่ฉันพูดถือเป็ประกาศิต จับไอ้เด็กนั่นไว้!"
"พวกนายทำแบบนี้ไม่ได้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ"
ซูเหยียนะโออกมาด้วยกลัวว่าเย่จื่อเฉินจะได้รับอันตราย ชายหัวโล้นพอเห็นซูเหยียน ดวงตาคู่นั้นก็ชะงักนิ่งไป
"คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีสาวน้อยอยู่ด้วย ทำไม ไอ้หน้าอ่อนนี่เป็แฟนเธอเหรอ เป็ห่วงมันเหรอ?"
ชายหัวโล้นยื่นมือไปลูบใบหน้าของซูเหยียน เย่จื่อเฉินที่เอาแต่ยืนนิ่งไม่ขยับคว้าเอาขวดเบียร์บนโต๊ะขึ้นมา
เพล้ง!
ฟาดขวดลงบนหัวของเขาทันที
"ถ้าแกกล้าแตะต้องเธอฉันหักแขนขาแกแน่!"
"ไอ้เปี๊ยก แกรนหาที่ตายเองนะ!"
"ดูท่าแกจะไม่เชื่อสินะ"
เย่จื่อเฉินยิ้มละมุน แต่ครู่เดียวใบหน้านั้นก็เปลี่ยนเป็โเี้
ยกเท้าขึ้นกระทืบท้องชายหัวโล้น บัดซบ เ้าบ้านี่คิดจะแตะต้องซูเหยียนอย่างนั้นเหรอ
ซูเหยียนเป็ผู้หญิงของเขา ใครกล้าแตะต้อง เขาจะจัดการมันให้หมด
"มัวยืนบื้ออะไรอยู่ว่ะ จัดการมันสิ"
ชายหัวโล้นเดินชนเสาไฟข้างถนนพร้อมกับด่าลูกน้อง แสงสีทองฉายปรากฏออกจากดวงตา เย่จื่อหยิบเศษของขวดเบียร์ที่แตกกระจายเมื่อครู่นี้ขึ้น แล้วจึงหันไปพูดเสียงเหี้ยมกับลูกน้องของชายหัวโล้น
"ถ้าไม่อยากตายก็อยู่นิ่งๆ"
พอได้เห็นดวงตาสีทองอ่อนๆ ของเย่จื่อเฉิน ลูกน้องของชายหัวโล้นกลุ่มนั้นก็หยุดยืนนิ่งกันทันที
"สิ่งที่แกไม่ควรทำที่สุดก็คือแตะต้องเธอ เข้าใจไหม?"
เศษขวดเบียร์ปักลงตรงตำแหน่งไหปลาร้าของชายหัวโล้น
"ความจริงฉันไม่อยากทำอะไรป่าเถื่อนต่อหน้าคุณซูกับซูเหยียน แต่แกก็ดันไปแตะต้องเธอ..."
ผัวะ!
กำปั้นหนึ่งพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของชายหัวโล้น ใบหน้าซีกขวาบิดผิดรูปทันที
"จริงสิ ฉันบอกแล้วว่าจะหักแขนหักขาแก..."
กร๊อบ
เท้าซ้ายเหยียบลงบนแขนของชายหัวโล้นเต็มแรง เสียงกระดูกแตกดังเข้าหูชัดเจน
เสียงร้องน่าสังเวชทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆ เบิกตาโตแตกตื่น
"รีบแจ้งตำรวจเร็ว เดี๋ยวก็มีคนตายหรอก"
ลูกค้าในร้านบาร์บีคิวเริ่มกดโทรศัพท์โทรหาตำรวจ
ซึ่งเป็จังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์ของชายชราดังขึ้น
"พ่อ นี่พ่อแอบออกไปข้างนอกอีกทำไม แล้วยังมาไล่รปภ.ออกอีก ตอนนี้พ่ออยู่ไหนผมจะไปรับ"
"หึ ฉันอยู่ที่ไหนเหรอ? ตอนนี้ฉันกำลังโดนกลุ่มเด็กอันธพาลรุมอยู่ เมื่อกี้หลานสาวสุดที่รักของฉันก็เกือบจะโดนพวกเด็กอันธพาลนั่นลวนลาม ซูฉีหู่ แกจะทำยังไง"
ติ๊ด
หลังจากที่ตัดสายโทรศัพท์ไปอย่างขุ่นเคืองก็นั่งลงบนเก้าอี้ มองไปทางตำแหน่งของเย่จื่อเฉิน
จู่ๆ ในใจก็รู้สึกชอบเย่จื่อเฉินมากขึ้นกว่าเดิม
ลงมือโเี้ ดุดัน เป็คนมีพร์!
ดูท่าว่าจะต้องหาวิธีเอาเขามาอยู่กับตัวเองเสียแล้ว คนแบบนี้ต้องมาอยู่กับเขาถึงจะมีอนาคต
แล้วชายชราก็ชำเลืองมองไปทางหลานสาวของตน
เมื่อเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดของซูเหยียน...
ชายชราก็ตัดสินใจทันที
จับหมูจับหมูจับหมู...
เสียงไซเรนรถตำรวจดังขึ้น
"อย่าขยับ ยกมือขึ้น"
เสียงหวานใสดังขึ้นข้างหลังเย่จื่อเฉิน ยกมือจับชายหัวโล้นที่กึ่งเป็กึ่งตายโยนลงไปบนพื้น
เย่จื่อเฉินหันกลับมา หลังจากที่ได้เห็นตำรวจหญิงที่ถือปืนอยู่ก็อดส่ายหน้าหัวเราะไม่ได้
"คุณตำรวจหลินนี่เอง เราสองคนนี้มีวาสนาต่อกันจริงๆ นะ"
เมื่อนับดูรถตำรวจที่ขับมาก็เห็นว่ามีทั้งหมดแปดคัน...
ช่างให้ความสำคัญกับเขาจริงๆ
"นายอีกแล้วเหรอ ฉันว่าแล้วว่าเราต้องได้เจอกันอีก" ตำรวจหลินยกยิ้มเยือกเย็นที่มุมปาก แล้วกวักมือเรียกทีมตำรวจที่อยู่ข้างหลังเป็เชิงว่าให้ดักเย่จื่อเฉินเอาไว้
"เดี๋ยวก่อนครับ"
เย่จื่อเฉินแสยะยิ้ม ส่งสัญญาณบอกให้พวกเขารอเดี๋ยว
คิ้วโก่งสวยของตำรวจหลินขมวดมุ่น แล้วจึงตะคอก
"นายจะมาเล่นลูกไม้อะไรอีก"
ก้าวถอยหลังไปสองก้าวพร้อมกับยิ้ม จนมาหยุดอยู่ข้างชายหัวโล้น
ชายหัวโล้นเมื่อเห็นว่าเย่จื่อเฉินย้อนกลับมาอีกครั้ง ในดวงตาจึงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
"ยังเหลือขาอีกข้างหนึ่งที่ยังไม่หักใช่ไหม ไม่ต้องห่วง ฉันจะหักให้นายเดี๋ยวนี้แหละ!"
กร๊อบ
"เย่จื่อเฉิน ยกมือขึ้น ไม่งั้นฉันจะยิง!"
ตำรวจหลินตะคอก
"ไม่ต้องกลัว ไม่ตายหรอก"
"นายกล้าเข้าจู่โจมเหยื่อต่อหน้าฉันเลยเหรอ นายไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาเลยใช่ไหม"
"อย่าทำเื่เล็กให้เป็เื่ใหญ่ไปหน่อยเลยน่า มันทำร้ายความรู้สึกกันนะ จริงไหม" เย่จื่อเฉินแสยะยิ้มมุมปาก แล้วชี้ชายหัวโล้นที่อยู่บนพื้น "ผมอยากหักแขนขาเขาั้แ่ทีแรกแล้ว บอกว่าหักก็คือหัก ถ้าเหลือไว้ข้างหนึ่งแล้วต่อไปนี้ผมจะรับมือกับพวกมาเฟียยังไง?"
"จะกล้าเกินไปแล้วนะ รีบจับเขาไว้เดี๋ยวนี้!"
ตำรวจหลินตะคอก ชายชราที่เอาแต่นั่งอยู่บนเก้าอี้ลุกขึ้นยืนทันที แล้วพูดเสียงเย็น
"ดูสิว่าใครจะกล้า"
และทันใดนั้นเอง
รถออฟโรดที่ทหารใช้สิบกว่าคันก็ขับเข้ามาจอดอยู่นอกร้านบาร์บีคิว ผู้ชายที่สวมชุดทหารหลายคนก็ลงจากรถมาด้วยใบหน้าแน่วแน่ และวิ่งเรียงแถวเป็ระเบียบมาหยุดอยู่ตรงหน้าชายชรา
"รายงานตัว ตอนนี้กองกำลังรักษาการณ์รวมพลครบแล้วครับ!"