เข้าสู่่ต้นฤดูหนาวแล้ว ทุกบ้านไม่มีการเกษตรต้องทำอีก ก่อนปีใหม่จึงมีคนออกมาหางานทำจำนวนมาก
และเนื่องจากเจียงหงหย่วนยอมใช้จ่ายเงิน ให้ค่าแรงมากกว่าบ้านอื่นเล็กน้อย คนที่หวางทงเป่าหามาครั้งนี้จึงค่อนข้างเป็งาน เพียงไม่กี่วันก็ขึ้นฐานบ้านเสร็จแล้ว
“ดูจากความเร็วนี้ พวกเ้าน่าจะได้อยู่บ้านใหม่ก่อนปีใหม่เป็แน่” หวางทงเป่าดีใจมากเช่นกัน งานออกมาดี เขาจะได้ไม่รู้สึกผิดต่อเงินจำนานมากที่เจียงหงหย่วนมอบให้เขา
“ข้าอยากจ้างช่างไม้เพิ่มสองคน บ้านเ้าหลังใหญ่ ลำพังแค่พวกข้ากับเหล่าซานทำไม่ทันเป็แน่ ข้าคิดว่าอย่างไรเสียก็จ่ายค่าแรงตามระยะเวลาที่สร้างอยู่แล้ว จ้างเพิ่มสองคนก็ไม่ได้เสียเงินมากนัก”
“ได้ ท่านลุงจัดการได้เลย!” เจียงหงหย่วนพูด มอบเื่บ้านให้หวางทงเป่ารับผิดชอบ เขาค่อนข้างวางใจ
ตอนนี้เขายืมมือสวีฝูกำราบสวีเทา ไม่มีผู้ใดสร้างปัญหากระไรอีก ภายใต้สถานการณ์ที่มีกำลังคนและวัสดุเพียงพอ บ้านหลังนี้น่าจะสร้างเสร็จด้วยความเร็วที่เขาคาดการณ์ไว้
“คนไม่พอก็จ้างเพิ่ม ขอแค่ดีและไวเป็พอ ไม่เช่นนั้นหากหิมะตกคงยิ่งล่าช้าเป็แน่” เจียงหงหย่วนเสริมอีกประโยค “จริงสิ เงินพอใช้หรือไม่?” เจียงหงหย่วนถาม
“พอสิ!” หวางทงเป่าตอบ “ถ้าไม่พอข้าจะบอกเอง”
“อืม เช่นนั้นคงต้องรบกวนท่านลุงด้วยแล้ว จริงสิ กุ้ยเซียงพอจะว่างหรือไม่ หากว่างก็เข้าอำเภอด้วยกันกับข้าเลย” ภรรยาตัวน้อยบ่นเื่นี้กับเขาั้แ่ตอนออกมาแล้ว
“ว่างๆ เ้าแวะเรียกนางที่หน้าบ้านตอนกลับก็พอ” หวางทงเป่ารีบตอบ
เจียงหงหย่วนไปรับหวางกุ้ยเซียงที่บ้านตระกูลหวางแล้วขี่รถล่อไปที่บ้านตระกูลจ้าวต่อ จ้าวสุ่ยเซิงพาเขาออกมาคุยด้านข้าง รายงานความเคลื่อนไหวของตระกูลสวีกับตระกูลหลิน บอกผลสำเร็จใน่สองสามวันมานี้ให้ฟัง “…ข้าเริ่มสนิทกับพวกขอทานในตำบลแล้ว ดูแล้วขอทานสองสามคนนี้ฉลาดและเป็งานมาก ไว้อีกสองสามวันข้าจะไปสืบข่าวจากพวกเขา”
ภารกิจที่เจียงหงหย่วนมอบให้เขาไม่ได้มีเพียงตีสนิทกับคนว่างงานในหมู่บ้านเท่านั้น แต่ยังให้ตีสนิทกับขอทานในตำบลด้วย
อย่าดูถูกคนพวกนี้เด็ดขาด คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในจุดต่ำสุดของสังคมพวกนี้ที่ไม่มีกระไรทำมักเห็นสิ่งที่พบเห็นยากได้ง่ายกว่าผู้อื่น และได้ยินสิ่งที่ได้ยินยากง่ายกว่าเสมอ
“อืม เ้าระวังด้วย อย่าให้ผู้ใดเห็นพิรุธ” เจียงหงหย่วนกำชับ เขาใช้คนพวกนี้มาจับตาดูสวีเทา
“วางใจเถิด ปกติขอทานพวกนี้ถูกสวีเทาทุบตีบ่อยๆ ข้าเลือกตีสนิทกับคนที่เกลียดสวีเทามากเป็พิเศษ” คำว่าตีสนิทในที่นี้ก็คือแบ่งหมั่นโถวของตัวเองให้พวกเขากินตอนออกมาขอทาน ทั้งยังย่อตัวนั่งกินด้วยกันกับพวกเขาอีกด้วย
นี่คือสิ่งที่เจียงหงหย่วนสอนเขาเช่นกัน อย่าให้เงินั้แ่แรกพบ มิเช่นนั้นคงไม่ดีนักหากโดนมองเป็คนโง่สามารถหลอกเอาเงินได้ง่าย
(ตู้ซิวจู๋จามเต็มแรง ผู้ใด…ผู้ใดกำลังนินทาข้า?)
อีกอย่าง ขอทานมักถูกผู้คนดูถูกเสมอ แม้แต่คนที่ทำทานให้พวกเขายังถอยห่างไกลๆ สีหน้าที่มีความรังเกียจเป็กระไรที่น่าเสียใจยิ่งนัก
มีคนไม่รังเกียจพวกเขาเช่นนี้ ทั้งยังยินดีย่อตัวนั่งลงแบ่งหมั่นโถวกินด้วยกัน นี่ถือว่าเป็การสร้างความสัมพันธ์ที่ง่ายกว่าการให้เงิน
หลังคุยธุระเสร็จ เจียงหงหย่วนก็ไล่จ้าวสุ่ยเซิง “ไปถามน้องสาวเ้าว่าอยากไปที่อำเภอหรือไม่ กุ้ยเซียงกำลังจะไป หากนางอยากไปอยู่ที่นั่นสักสองวันก็ไปด้วยกัน”
“นางอยากไปตั้งนานแล้ว เกอรอประเดี๋ยว ข้าจะไปถามนางให้”
ตอนนี้จ้าวหงฮวากำลังคุยกับหวางกุ้ยเซียงอยู่ข้างรถล่อ เห็นเจียงหงหย่วนกับจ้าวสุ่ยเซิงเดินมาหา นางแอบมองเจียงหงหย่วนเล็กน้อย ก้มหน้าลงด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
“หงฮวา เ้าจะไปหาพี่สะใภ้ในอำเภอกับกุ้ยเซียงหรือไม่ ถ้าจะไปก็รีบกลับห้องไปเก็บของ”
นางต้องอยากไปอยู่แล้ว!
ลำพังแค่คิดว่าจะได้พักห้องในอำเภอก็ตื่นเต้นเสียแล้ว
จ้าวหงฮวาแต่งตัวด้วยความตั้งใจ แต่เพราะครอบครัวยากจน ต่อให้ตั้งใจเพียงใดก็ทำได้แค่สวมกระโปรงที่มีรอยปะน้อยกว่าปกติ บนผมประดับได้แค่ดอกไม้สีแดงที่ไม่สดใสนัก
ฐานะของตระกูลจ้าวห่างไกลจากตระกูลหวางมาก ตระกูลหวางมีช่างฝีมือสามคน ที่บ้านมีเกวียนวัวที่ใช้ส่งคนเข้าตำบลหรือหมู่บ้านช่วยหาเงิน ดังนั้น หวางกุ้ยเซียงจึงไม่ต้องไปทำงานในไร่นา แค่ช่วยหลิวซื่อผู้เป็มารดากับพี่สะใภ้ใหญ่หวงซื่อดูแลบ้านก็พอ เวลาที่เหลือจึงนำมาปักผ้าหาเงินเล็กๆ น้อยๆ
อีกทั้งเงินที่หวางกุ้ยเซียงได้จากการปักผ้า นางก็เก็บไว้เอง ไม่ต้องมอบให้ที่บ้าน
ต่างจากจ้าวหงฮวา นางต้องแบกตะกร้าออกไปเก็บหญ้าจู่เฉ่าั้แ่เด็กเช่นเดียวกับหลินหวั่นชิว หากเมื่อไรงานในไร่ยุ่งก็ต้องไปช่วย
แต่จุดที่นางโชคดีกว่าหลินหวั่นชิวคือ นางยังพอได้กินอิ่ม งานที่ทำในแต่ละวันก็ไม่ได้มากเท่าหลินหวั่นชิว
ทั้งคู่พูดคุยกัน กว่าจะถึงอำเภอก็เที่ยงแล้ว
“บ้านนี้สวยมากเลย!” หวางกุ้ยเซียงอุทานทันทีที่ลงจากรถ “เช่าบ้านอยู่คงเสียเงินไม่น้อยกระมัง”หวางกุ้ยเซียงเดินเข้ามาเห็นกำแพงภาพแกะสลัก อ้อมด้านหลังกำแพงไปเห็นเรือนหลังใหญ่ที่ทำจากอิฐทั้งหมดก็หันไปพึมพำกับจ้าวหงฮวาที่อยู่ด้านข้าง
“ยังต้องพูดอีกหรือ…” ใบหน้าอิจฉาของจ้าวหงฮวาแดงก่ำ หย่วนเกอมีความสามารถมากจริงๆ เช่าบ้านที่ดีขนาดนี้ได้ สตรีที่ไม่รักษาจรรยาบรรณของสตรีแบบหลินหวั่นชิวมีสิทธิ์กระไรมาโชคดีถึงเพียงนี้!
หวางกุ้ยเซียงที่เดินอยู่ด้านข้างคิดว่านางทำตัวไม่ถูกเพราะเพิ่งมาครั้งแรก จึงไม่ได้คิดกระไรมากกับการแสดงออกของนาง
“กุ้ยเซียง หงฮวา พวกเ้ามาแล้วหรือ? รีบเข้ามานั่งพักที่ห้องโถงก่อนเถิด อาหารใกล้เสร็จแล้ว” หลินหวั่นชิวเดินออกจากห้องครัวมาทักทายพวกนางด้วยความดีใจ ขณะเดียวกันก็สั่งยายสวี “ยายสวี ท่านพาแม่นางทั้งสองไปที่ห้องด้านหลัง ให้พักห้องที่ท่านเก็บกวาดเมื่อเช้า”
“สวัสดีเ้าค่ะยายสวี!” หวางกุ้ยเซียงรีบทักทาย “สวัสดีเ้าค่ะแม่นาง! เชิญแม่นางทั้งสองตามข้ามา หากขาดเหลือสิ่งใดก็เรียกใช้บ่าวได้เลยเ้าค่ะ”
มีบ่าวใช้แล้วด้วย!
ความอิจฉาในใจจ้าวหงฮวาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับ!
ทั้งคู่เก็บของเสร็จก็ไปช่วยงานที่ห้องครัว แต่หลินหวั่นชิวทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“พวกเรากินในห้องครัวนี่แหละ” หวางกุ้ยเซียงพูด เจียงหงหย่วนกับเจียงหงป๋ออยู่บ้าน แม้คนในชนบทจะไม่ได้มีกฎเกณฑ์เยอะเหมือนคนในเมือง แต่สตรีสาวไม่ควรนั่งทานข้าวโต๊ะเดียวกับบุรุษ กระไรที่เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง
จ้าวหงฮวาจะโมโหตายอยู่แล้ว หวางกุ้ยเซียงนี่ คนชนบทจะมีกฎเกณฑ์กระไรนัก!
ทำมาบอกว่าเลี่ยง ตอนเข้ามาไม่เห็นเ้าเลี่ยงบ้างล่ะ มาเลี่ยงกระไรตอนกินข้าว คิดว่าตัวเองเป็คุณหนูตระกูลใหญ่หรือ?
